Ep.715 - แผนสมคบคิด
5/5
Ep.715 - แผนสมคบคิด
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ภายนอก คือฮอลศึกศัตรู!
หวือออ!
ขีปนาวุธถูกทิ้งลงมา
บรึ้มม!
บังเกิดเสียงระเบิดกึกก้อง
แต่สำหรับพลเมืองในเขตสงคราม พวกเขาคุ้นชินกับเสียงนี้ตั้งนานแล้ว
ตัวแทนคนอื่นๆจากพันธมิตรมนุษย์ประเทศใกล้เคียง ล้วนไม่มีใครคาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ฝั่งเนโบที่เดิมเมามาย บัดนี้สีหน้าหม่นทะมึน อ้าปากสบถด่าทันควัน
แม้ว่าฉินเฟิงจะไม่สามารถเข้าใจคำพูดของอีกฝ่าย แต่เขารู้ว่าเนโบน่าจะสั่งการให้เริ่มตอบโต้กลับด้วยอาวุธ
คนในเมืองกรีนไลท์เริ่มเปิดฉากระดมยิงด้วยปืนใหญ่ เพื่อต้านทานอำนาจการยิงของผู้มาเยือน ในวิลล่าเริ่มระดมยิงขึ้นฟ้า ส่วนสถานที่อื่นๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ซากปรักหักพังถูกระเบิดทำลาย ย่อยยับยิ่งกว่าเดิม
“ท่านผู้ใหญ่เนโบ พวกเราเองก็ออกไปดูกันเถอะ”
คนจากพันธมิตรฟิลิปปินส์เอ่ยปาก พลังสมาธิสื่อความหมายออกไป
คนอื่นๆต่างหันมามองเนโบ เฝ้ารอคำตอบเช่นกัน
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ศัตรูเรียกได้ว่าบุกมาเคาะถึงประตูบ้าน
“ดีล่ะ! ในเมื่อมีทุกท่านอยู่ที่นี่ ฉันเชื่อว่าพวกมันจะถูกขับไล่ออกไปโดยเร็ว!” เนโบกล่าวขึ้น พร้อมทำท่าทีเป็นการเชิญฝูงชน อนุญาตให้พวกเขาออกไปลุยได้เต็มที่ ส่วนตนเองเผยรอยยิ้มแย้มและเฝ้ารออยู่ด้านหลัง
ฉินเฟิงไม่มีเวลาสนใจความคิดของอีกฝ่าย เขาก้าวออกไป เมื่อต้องเผชิญกับการถูกโจมตีถึงสามครั้งในวันเดียว เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ชวนให้รู้สึกรำคาญมาก
หลังก้าวออกจากวิลล่า ฉินเฟิงก็พบว่าเวลานี้ มีฮอลศึกอย่างน้อย 50 ลำบุกเข้ามา ไม่เพียงแค่นั้น เบื้องหลังยังตามมาด้วยเครื่องบินโดยสารลำใหญ่ ที่สามารถจุคนได้อย่างน้อยสามถึงสี่ร้อยคน
เพียงแต่ว่า การต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่าย มันทำให้ฉินเฟิงอดรู้สึกขบขันไม่ได้
--เทคโนโลยีล้าหลัง ปืนใหญ่ต่อต้านง่อยๆ นี่มันการต่อสู้ของเด็กชัดๆ
สีหน้าของเนโบเปลี่ยนเป็นจริงจัง ส่งพลังสมาธิกระจายออกไปหลายร้อยเมตร ถ่ายทอดคำพูดไปถึงเครื่องบินโดยสารที่อยู่ไกลออกไป
“ไอ้หน้าไหนกันที่รับผิดชอบการบุกในครั้งนี้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม? กล้าส่งคนมากมายมาที่นี่ได้อย่างไร? คิดหาเรื่องกันรึ?”
อีกฝ่ายเมื่อได้ฟังก็ไม่พอใจ ถ่ายทอดเสียงส่งกลับมา
“พูดว่าหาเรื่องงั้นหรือ? เป็นฝ่ายแกที่ทำลายฮอลศึกของพวกฉันไปมากกว่า 22 ลำ ถ้าไม่ยอมควักเงินออกมา วันนี้ฉันจะทำลายเมืองกรีนไลท์ให้ราบเป็นหน้ากลอง!”
เนโบปฏิเสธทันที “นี่มันเสียงม็อก? ฮึ่ม! เป็นแกนี่เองไอนักขูดรีดจอมเจ้าเล่ห์ ฉันไปทำลายฮอลศึก 22 ลำของแกตั้งแต่เมื่อไหร่? อย่าพยายามยัดข้อหาให้ฉันจ่ายเงินกับแกดีกว่า เพราะฉันไม่มีจ่าย ไสหัวไปซะ!”
ผู้คนจากพันธมิตรอื่นๆที่ยืนอยู่ด้านข้าง ทุกคนต่างหันมามองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตา และรู้สึกว่าฉากนี้มันน่าตลกเกินไป
กระทั่งคนจากพันธมิตรญี่ปุ่น ยังมองมายังเนโบด้วยความดูถูก
ฮอลศึก 22 ลำไม่นับเป็นสิ่งใด นั่นมันจะราคาสักเท่าไหร่กันเชียว? อย่างมากแค่ไม่กี่หมื่นล้าน แต่ประเด็นก็คือ สิ่งที่เนโบพูด เหมือนไม่มีความคิดสังหารอีกฝ่าย เพียงขับไล่ออกไป
“ฮึ่ม! ก็แค่เครื่องจักรกระจอก กล้าดียังไงถึงใช้มันมาหาเรื่องพวกเรา?” ชายคนหนึ่งจากพันธมิตรฟิลิปปินส์กล่าวด้วยความไม่พอใจ
และชายคนนี้ คือผู้ใช้อบิลิตี้
ช่วงเวลานี้ พลังสมาธิของเขาเริ่มขับเคลื่อน ลูกปืนใหญ่หลายสิบลูกที่เกลื่อนอยู่บนท้องฟ้า ทั้งหมดหยุดนิ่งกลางอากาศ ก่อนสะท้อนกลับไปยังเบื้องหลังที่จากมา
ฮอลศึกเปิดโล่พลังงานทันที เพื่อต้านทานการโจมตีนี้
คนที่เพิ่งถ่ายทอดพลังสมาธิคุยกับเนโบ ตะโกนด้วยความโกรธ “เป็นแกเองสินะที่ก่อนหน้านี้โจมตีพวกเรา?”
เห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงจบการต่อสู้เร็วเกินไป พวกคนจากกองกำลังมืดเลยไม่ทันรู้ตัวว่าใครเป็นคนฆ่าพวกเขา ช่วงเวลานี้เมื่อพันธมิตรฟิลิปปินส์ลงมือ เลยเป็นธรรมดาที่จะถูกคาดเดาว่าเป็นคนลงมือ
ภายในห้องโดยสาร ร่างๆหนึ่งก้าวออกมา นั่นสมควรจะเป็นม็อก เพียงแต่ว่า ข้างกายม็อก เหมือนจะยังมีคนอยู่อีกคนหนึ่ง
คนที่ว่าเป็นชายร่างกายกำยำ มีความสูงเต็มที่ถึงสองเมตร หากให้อธิบายถึงกล้ามเนื้อ ต้องขอบอกว่ามันดูราวกับป้อมปราการเคลื่อนที่ได้ ใบหน้าของเขาเยือกเย็น ดวงตาเป็นสีทอง
สีหน้าของฉินเฟิง แปรเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
“เป็นเลเวล A ! นั่นมันยักษ์เหล็กซาบาห์!”
เขาคือคนจากองค์กรมืดระดับ S เป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของกลุ่มเนตรมารสวรรค์ ครอบครองความแข็งแกร่งในเลเวล A1 เป็นผู้ใช้อบิลิตี้โลหะ ถือเป็นคนแข็งแกร่งคนหนึ่ง
ฝูงชนไม่คาดคิดเลย ว่าฝ่ายตรงข้ามจะส่งเลเวล A มา!
เห็นได้ชัดว่าภารกิจที่พวกเขาได้รับ มันคือการปิดล้อมปราบปราม แต่ทำไมจู่ๆถึงปรากฏเลเวล A ขึ้นมาได้?
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกศัตรูถึงได้ห้าวหาญนัก
“ฉันได้ยินมาว่า เมื่อไม่นานมานี้มีพวกลูกเจี๊ยบหลายตัวเข้ามาเป็นกำลังเสริม ช่างมาได้ถูกเวลานัก! นี่มันนานมากแล้วที่ฉันไม่ได้กินพายเนื้อมนุษย์!” ซาบาห์อ้าปากกว้าง โชว์ฟันแหลมที่ไม่ต่างจากสัตว์ร้าย ทั้งยังส่องประกายวาววับด้วยโลหะ
คนแคระจากพันธมิตรญี่ปุ่นที่เคยมั่นใจหนักหนาก่อนหน้านี้ ปัจจุบันเริ่มสั่นเทิ้มด้วยความตื่นตระหนก
ในความเป็นจริง ไม่ใช่แค่เขา แต่คนอื่นๆล้วนบังเกิดความกลัวขึ้นจับใจ
“กับดัก … นี่มันกับดักชัดๆ! หน่วยข่าวกรองของแกไม่ได้รายงานเลยหรือ ว่าอีกฝ่ายมีเลเวล A ประจำการอยู่ด้วย?”
เนโบรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า “ไม่ ไม่ ไม่ พวกเราได้ข่าวแค่ว่าไม่มีเลเวล S แต่ในส่วนของผู้ใช้พลังเลเวล A พวกเรายังไม่ได้ทำการตรวจสอบ!”
“ไอ้บ้านี่! แกกล้าโกหกพวกเรา?”
“นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น บางทีพวกเราอาจทำลายฮอลศึกของอีกฝ่ายจริงๆ นั่นเป็นเหตุผลให้เกิดความขัดแย้งกัน เอาอย่างงี้เป็นไง ทุกคนยอมเจียดเงินคนละเล็กละน้อยเพื่อชดใช้ ก็น่าจะจบปัญหาได้!”
บนท้องฟ้า ชายซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่างบนเครื่องบินโดยสารพยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นกวาดพลังสมาธิถ่ายทอดคำพูดออกมา
“ตกลง งั้นจงจ่ายเงินชดใช้มา 10 ล้านล้าน แล้วเลิกรากันไป!”
คนอื่นๆเมื่อได้ยินสิ่งนี้ พลันเกิดอาการวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม
ให้จ่ายเงิน 10 ล้านล้าน เพื่อชดใช้ให้กับฮอลศึกราคาแค่ลำละ 1,000 ล้านเนี่ยนะ? มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
เพียงแต่ว่า ซาบาห์เหมือนจะไม่ได้ล้อเล่น นี่คือรูปแบบการลงมือของพวกเขา เป็นการขูดรีด นี่เองคือสาเหตุให้เนโบกลายเป็นคนยากจน
เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ซื่อฉิงยังต้องขมวดคิ้ว ถ่ายทอดเสียงแก่ฉินเฟิง
“ฉินเฟิง พวกเราจะเอายังไงกันดี? นี่ต้องเป็นแผนสมคบคิดแน่ๆ อีกฝ่ายรู้ว่าพวกเรากำลังจะมา น่าจะมีคนปล่อยข่าวออกไปตั้งนานแล้ว”
การเยือนในครั้งนี้ พวกฉินเฟิงไม่ได้มาอย่างเอิกเกริก แม้ออกสู่ภายนอก แต่ฉินเฟิงกับซื่อฉิงมิได้สวมตราเลเวล B ติดไว้ด้วย ฉะนั้นต่อให้พวกเขาทำลายฮอลศึกของศัตรูจริง แต่นั่นก็ใช้แค่ความสามารถของเลเวล B ทั่วๆไป ไม่น่าจะสืบสาวมาถึงที่นี่ได้
ยังไงก็ตาม จากคำพูดของอีกฝ่าย ฟังยังไงก็รู้อยู่แล้วชัดๆว่าพวกเขากำลังจะมา!
“มีคนทรยศอยู่ในกลุ่มพันธมิตรวู้ดแลนด์ นั่นถือเป็นเรื่องปกติ แต่คิดพยายามวางกับดักพวกเราแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาประเมินเราต่ำไป”
ขณะนี้ เนโบกำลังแสดงสีหน้าตื่นตระหนก ส่งพลังสมาธิไปยังสมองของคนอื่นๆ
“ทุกท่าน ซาบาห์แข็งแกร่งมาก ฉันคิดว่า … พวกเราควรยอมรับคำขอของเขาจะดีกว่า!”
ซื่อฉิงส่งเสียงแสยะเย็นชา “คุณพอใจที่จะทำแบบนั้นหรือ น่าจะรู้นะว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวพันธ์กับพันธมิตรวู้ดแลนด์ของคุณด้วย!”
“ใช่ ใช่!”
“เหอะ! งั้นก็บอกมาสิว่าพวกเราควรทำยังไง ถ้าคุณต้องการให้อีกฝ่ายระงับความโกรธ ก็ต้องตอบรับคำขอที่ไม่เท่าเทียมนั่นซะ!”
ช่วงเวลานี้ วัยรุ่นที่ยืนอยู่ข้างกายเนโบ ทั้งยังเป็นวัยรุ่นคนเดียวกับที่ไปรับฉินเฟิง จู่ๆเขาก็ชี้มาทางฉินเฟิงและกล่าวว่า “คนๆนี้ร่ำรวยมาก และยังเป็นคนๆเดียวกันกับที่ทำลายฮอลศึกของกลุ่มเนตรมารสวรรค์!”
สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดความแตกแยก ทั้งยังทำให้ทุกคนหันมาสนใจฉินเฟิงได้สำเร็จ
ปัจจุบัน ไม่มีใครอยากสู้กับซาบาห์ และขณะเดียวกัน ก็ไม่มีใครต้องการจ่ายค่าชดใช้
“ใครที่ก่อเรื่อง ก็สมควรเป็นคนรับผิดชอบ!”
“ถูกต้อง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา”
เกิดการเปลี่ยนแปลงจุดยืนอย่างรวดเร็ว และปล่อยให้ฉินเฟิงรับเคราะห์คนเดียว
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง มุมปากของฉินเฟิงพลันยกยิ้มเย็นชา
“บางที พวกเราอาจยังพอมีวิธีแก้ปัญหานี้!”
