ตอนที่ 290 เราค่อยคุยกันอีกครั้ง หลังจากที่เธอเรียนจบ
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป
ความคิดของคนที่รอเขาอยู่บ้านก็เพียงพอแล้ว ที่เขาจะอยากออกจากบริษัทก่อนเวลาเลิกงาน และอยากกลับไปหาเธอ
สิ่งที่สำคัญพอ ๆ กับงาน สำหรับเขาไม่สามารถมีอะไรอยู่เหนือเธอได้
เขารู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
ท่านผู้หญิงเหมาอาวุโสจับมือเฉียวเมียนเมียนและไม่ค่อยเต็มใจที่จะปล่อยเธอไป
“เมียนเมียน อาซื่อเป็นคนที่บางครั้งก็ทำงานหนักเกินไป และไม่สนใจเรื่องเวลา ตอนที่เขาทำงาน เธอต้องคอยเฝ้าดูแลเขาล่ะ อย่าปล่อยให้เขาทำงานหนักจนเกินไป”
“ก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย ดังนั้นงานจึงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขามี แต่ตอนนี้ย่าไม่ต้องกังวลอะไรมากเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปแล้ว”
“ตอนนี้ เธอกับอาซื่อ แต่งงานกันอย่างเป็นทางการแล้ว และเธอก็กลับบ้านมาพบกับพวกเรา เธอตัดสินใจแล้วหรือยังว่าจะจัดงานแต่งงานเมื่อไหร่? ถ้าเธอตั้งใจจะจัดในเร็ว ๆ นี้ ย่าจะขอให้ซินแสเขาหาฤกษ์หายามที่ดีให้กับเธอ”
ท่านผู้หญิงเหมาอาวุโสพูดขึ้นอย่างกะทันหัน เฉียวเมียนเมียนไม่แน่ใจว่าจะตอบสนองอย่างไร
เธออึ้งไปสองสามวินาที ก่อนจะพูดว่า “เอ่อ คุณย่าคะ เรา...”
“คุณย่าครับ เราไม่รีบจัดงานแต่งงาน”
เหมาเยซื่อบีบมืออีกข้างของเฉียวเมียนเมียน
“ตอนนี้เมียนเมียนยังเรียนอยู่ ดังนั้นเราจึงไม่คิดว่าจะจัดงานแต่งงานในเร็ว ๆ นี้ เราค่อยคุยกันอีกครั้ง หลังจากที่เธอเรียนจบนะครับ”
เฉียวเมียนเมียน มองเขาอย่างซาบซึ้ง
หากเขาไม่เข้ามาและเสนอความคิดเห็นแทน เธอก็คงไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร
จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับงานแต่งงาน
เธออายุยังไม่ถึง 20ปี และไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เร็วเกินไปว่าเธอแต่งงานแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่เธอจะเรียนจบ
แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะแต่งงานกับเหมาเยซื่อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีผู้หญิงหลายคนยอมตาย เพื่อให้ได้แต่งงานกับเขา สำหรับเธอแล้ว เธอยังคงรู้สึกว่ามันไม่ดี หากคนอื่นรู้ว่าเธอแต่งงานเร็วเกินไป
แม้แต่เพื่อนสนิทที่สุดของเธอ อย่างเจียงหลัวลี่ ก็ยังไม่รู้เรื่องการแต่งงานของพวกเขา
ท้ายที่สุดเธอเคยประกาศว่าเธอเป็นผู้หญิงทำงานที่ไม่คิดจะแต่งงานก่อนที่เธอจะทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้
แต่ตอนนี้...เธอกลืนน้ำลายตัวเองไปเสียแล้ว
เธอไม่ได้บอกเหมาเยซื่อ ว่าทำไมเธอถึงไม่อยากจัดงานแต่งงานในตอนนี้
แต่ใครจะรู้ว่า ...เขาเดาถูก
ท่านผู้หญิงเหมาอาวุโสถามอย่างไม่เป็นทางการ และพยักหน้าเมื่อเธอได้ยินคำตอบของเขา
“นั่นก็จริง เธอยังเด็กมาก เรื่องแต่งงานรอก่อนก็ได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องระหว่างเธอทั้งคู่ ยังไงก็คุยกันเอาเองละกัน”
“ฉันแค่กังวลว่าเมียนเมียนจะเสียเปรียบ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า หนูไม่เป็นไร”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกประทับใจในความเมตตาและความอบอุ่นของท่านผู้หญิงเหมาอาวุโส เธอรู้สึกราวกับว่าเธอเป็นย่าผู้ให้กำเนิดของเธอ
“หนูรู้สึกขอบคุณที่ทุกคนดีกับหนูมาก หนูไม่เสียเปรียบอะไรเลยค่ะ”
“ดีแล้ว.” ท่านผู้หญิงเหมาอาวุโสลูบศีรษะเธอ และปฏิบัติต่อเธอเหมือนหลานสาวของเธอเอง
“แต่ตอนนี้ เธอเป็นคุณผู้หญิงของนายน้อยคนที่สองของตระกูลเหมาอย่างเป็นทางการแล้ว ถึงแม้จะไม่มีงานแต่งงาน เราก็ควรจะจัดงานเลี้ยงสักหน่อย”
“เราเชิญคนที่สนิทกันจริง ๆ เท่านั้นมาร่วมงาน เป็นไงล่ะ? ฉันมีหลายสะใภ้ที่ดีแบบนี้ คงจะทรมานแย่ถ้าฉันต้องซ่อนเธอจากทุกคน”
“นอกจากนี้ เธอถามครอบครัวเธอหน่อยไหมว่าพวกเขามีเวลาทานข้าวร่วมกับเราบ้างไหม”
คำขอของท่านผู้หญิงเหมาอาวุโสไม่ได้ลดลงเลย
แม้ว่าเฉียวเมียนเมียนไม่เคยคิดว่าจะให้ครอบครัวเฉียวได้พบกับครอบครัวเหมา แต่เธอก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาปฏิเสธได้เลย