Ep.714 - เมืองที่ถูกควันหลงจากสงคราม

4/4

Ep.714 - เมืองที่ถูกควันหลงจากสงคราม

ฉินเฟิงเฝ้ามองฉากล่มสลายเบื้องหน้า ก่อนค่อยๆหักเลี้ยวยานรบของเขา มุ่งหน้าเข้าสู่เมือง และในครั้งนี้ ฉินเฟิงยังสแกนผ่านอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อยืนยันว่าตัวเขาอยู่ในสถานที่ไหน

เป็นเมืองกรีนไลท์!

ฉินเฟิงถึงกับพูดไม่ออกจริงๆ สภาพแบบนี้เรียกว่าเมืองได้อย่างไร? นี่มันหมู่บ้านชัดๆ!

ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงพอจะรู้มาบ้างถึงความยากลำบากของสถานที่อื่นๆ ดังนั้นไม่คิดเอ่ยคำใด

แต่วัยรุ่นที่นั่งเบาะหลัง กลับดูตื่นเต้นมาก และเริ่มตั้งคำถามไม่หยุด

“ท่านผู้ใหญ่ รถศึกของคุณทรงพลังจริงๆ แถมมันยังบินได้สูงเหมือนฮอลศึก!”

“อืม ฉันเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่ายานรบ และความสามารถในการบินของมันไม่ด้อยไปกว่าฮอลศึกเลย” แต่อีกอย่างที่ฉินเฟิงไม่ได้พูดก็คือ ยานรบของเขา มันเร็วยิ่งกว่าฮอลศึกถึงสองเท่า!

ซื่อฉิงเห็นได้ชัดว่ารู้สึกสนใจเช่นกัน เอ่ยปากถาม “นายขายยานรบลำนี้เท่าไหร่?”

ฉินเฟิงกล่าว “50,000 ล้านต่อคัน แต่ถ้านายพลซื่อต้องการ ผมสามารถยกให้คุณได้ฟรีๆ!”

“แบบนั้นไม่ได้ ต่อให้เป็นพี่น้อง ก็ต้องจ่ายเงินให้มันชัดเจน ฉันจะไปสั่งซื้อมันจากกลุ่มเฟิงหลีของนายโดยตรง ฮะฮ่า! แต่ในเมื่อฉันเป็นพี่นายแล้ว งั้นก็เท่ากับว่าฉันเป็นสมาชิกอาวุโสของกลุ่มเฟิงหลีด้วยแล้วสิ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในเมื่อเป็นแบบนั้น ผมขอมอบส่วนลดให้คุณอีก 20% ก็แล้วกัน!”

“ถ้าแค่ส่วนลด ฉันยังพอรับน้ำใจนี้ไว้ได้!”

ทั้งสองสนทนากันอย่างครึกครื้น วัยรุ่นที่อยู่เบาะหลัง ได้แต่หุบปากลง บ่นอย่างแผ่วเบาว่า

“… แพงมาก!”

สำหรับฮอลศึกธรรมดา ถ้ารวมติดตั้งอุปกรณ์พื้นฐาน จ่ายแค่ 1,000 ล้านก็ซื้อได้แล้ว อย่างฮอลศึกเมฆครามที่ฉินเฟิงซื้อในปราการชาตง ยังขายแค่ 6,000 ล้านเท่านั้นเอง แต่ราคาแค่นั้นคนที่ซื้อมันก็ถูกเรียกว่าคนรวยแล้ว

ทว่ายานรบลำนี้ มูลค่าของมันกลับมากถึง 50,000 ล้านเหรียญ ดังนั้นจึงมีราคาแพงมาก แพงจนน่าหวาดกลัว

“แพงหรอ ราคานี้ไม่แพงเลย! เจ้าหนู นายก็เห็นเจ้าพวกนั้นถูกระเบิดเป็นผ้าขี้ริ้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยานรบของฉินเฟิง ไม่ว่าใครก็ยากจะเอาชนะ!” ซื่อฉิงกล่าว “อีกอย่าง ฉันแนะนำให้นายลองไปคุยกับท่านผู้ใหญ่ของตัวเองดู ถ้าคิดว่าเครื่องจักรของศัตรูมีประสิทธิภาพ งั้นลองมาซื้อเครื่องจักรของกลุ่มเฟิงหลี นายจะสามารถโค่นอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย แบบนี้คุ้มจะตายเห็นไหม?”

ซื่อฉิงไม่วายช่วยโปรโมตจักรกลรบให้ฉินเฟิง

ฉินเฟิงหัวเราะ แต่ไม่ได้ขัดขวางอะไร เพราะถือว่าซื่อฉิงมีเจตนาดี

แต่ก็นั่นล่ะนะ ถ้าคนที่นี่เอาใจใส่เรื่องจักรกลรบจริงๆ เกรงว่าตัวเมืองคงไม่ทรุดโทรมถึงขนาดนี้

เป็นไปตามที่ฉินเฟิงคาด วัยรุ่นส่ายหัวอย่างรวดเร็วและกล่าว “การเงินของเมืองเราอยู่ในช่วงตกต่ำ พวกเราจะสามารถหาเงินมากขนาดนั้นได้อย่างไร? พวกเรายากจน แต่ละครั้งล้วนมีตัวตนทรงพลังคอยบริจาคเงิน จริงสิ ทำไมพวกคุณไม่ …”

ฉินเฟิงส่งเสียงเย็นชาผ่านลำคอ กล่าวว่า “ที่นี่ไม่ใช่พันธมิตรของฉัน แล้วทำไมฉันต้องบริจาคด้วย?”

วัยรุ่นหุบปากลง ไม่กล้าพูดอะไรอีกเลยคราวนี้

ยานรบค่อยๆขับเข้าสู่เมืองกรีนไลท์ ครั้งนี้ไม่มีคนจากกองกำลังมืดไล่ตามอีกต่อไป ฉินเฟิงกับซื่อฉิง ในที่สุดก็สามารถเข้าเมือง

ทันทีที่ยานรบเข้าเมือง มันได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย บางคนถึงขั้นน้ำตาไหล เพราะเห็นได้ชัดว่ามีคนสำคัญปรากฏตัวขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีเด็กหลายคนปรากฏตัวขึ้นจากซากปรักหักพังที่ถูกทำลายจากสงคราม มองยานรบที่ขับตรงเข้ามา

เด็กๆเหล่านี้ล้วนมีผิวซีดเหลือง ร่างกายผอมแห้ง สกปรกและเปรอะเปื้อน แทบดูไม่ต่างจากเพิ่งคลานออกมาจากท่อระบายน้ำ ทว่ากลับมีดวงตาสีเขียวแวววาวดั่งหมาป่า เด็กๆกำลังคิดเดินไปขอทานจากรถหรู

แม้พบเจอกับฉากนี้ แต่สีหน้าของฉินเฟิงยังคงสงบไร้อารมณ์ เขาเร่งเครื่องยานรบของตน มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายให้เร็วขึ้น

ยานรบกระพริบผ่านไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเด็กๆดูว่างเปล่า จากนั้นพวกเขาก็มุดกลับไปยังซากปรักหักพังอีกครั้ง คล้ายกับว่ากำลังเตรียมตัว พร้อมรับมือกับการถูกยิงถล่มได้ตลอดเวลา

ซื่อฉิงไม่สามารถอยู่ในอารมณ์ขบขันอีกต่อไป ใบหน้าของเขากลายเป็นหนักอึ้ง

เขาเฝ้าปกป้องภูมิภาคและประเทศชาติของตนมาช้านาน แต่ซื่อฉิงไม่เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นเด็กพลัดถิ่น หรือผู้ใหญ่ที่ดูไร้ชีวิตชีวา คล้ายกับว่าเมืองๆนี้ได้ตายไปแล้ว

แน่นอน ซื่อฉิงไม่ได้ตำหนิการกระทำของฉินเฟิง เพราะนั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น เวลาของพวกเขามีค่ามาก

“มาถึงแล้ว ที่นี่แหละครับ”

วัยรุ่นชายร้องเตือน ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นอาคารหลายหลังที่มีสภาพเหมือนที่อยู่อาศัยตามปกติสักที นี่คือพื้นที่ย่านวิลล่า คุณสามารถมองเห็นการก่อตัวของโล่พลังงานได้จากรั้วป้องกันภายในเขตที่พัก ทั้งยังมีกลุ่มมือปืนคอยคุ้มกัน ทำให้คนยากคนจนไม่กล้าโผล่หน้ามาที่นี่

ฉินเฟิงลงจากยานรบ เก็บมันกลับเข้าในแหวนมิติ ขณะเดียวกันก็กวาดมอง สำรวจทหารเหล่านั้น และพบว่าอาวุธปืนของพวกเขาล้าหลังมาก ชุดรบก็ขาดรุ่งรุิ่ง ที่นี่มีสภาพน่าสังเวชจริงๆ

วัยรุ่นก้าวไปข้างหน้า เอ่ยปากสื่อสารด้วยภาษาถิ่น จากนั้นก็นำฉินเฟิงตรงไปยังวิลล่าหลังหนึ่งด้วยความนอบน้อม

ภายในวิลล่ามีชีวิตชีวามาก กลิ่นหอมสดชื่นของไวน์และเนื้อสัตว์ตลบอบอวลไปทั่ว

วัยรุ่นที่นำทางฉินเฟิงกับซื่อฉิง เดินไปโค้งคำนับให้ผู้ใช้พลังคนหนึ่ง อีกฝ่ายกำลังสนทนากับอีกคนด้วยความสุข เมื่อเห็นฉินเฟิง เขาจบการสนทนากับอีกฝ่ายทันที

“ท่านเจ้าเมือง ชายสองคนนี้คือตัวแทนจากพันธมิตรหัวเซี่ย! ท่านผู้ใหญ่ซื่อฉิง และท่านผู้ใหญ่ฉินเฟิง” วัยรุ่นแนะนำตัวพวกเขา และหันมากล่าวกับฉินเฟิงว่า “ทางนี้คือเจ้าเมืองกรีนไลท์ของเรา ท่านผู้ใหญ่เนโบ!”

“สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จัก นายพลซื่อฉิง ฉันได้ยินเรื่องราวของคุณมานานแล้ว พอรู้ว่าคุณถูกส่งมาที่นี่ ฉันมีความสุขมาก!” เนโบยื่นมือออกไปอย่างกระตือรือร้น เชคแฮนด์กับซื่อฉิง

“ยินดีที่ได้รู้จัก” ซื่อฉิงจับมือกับเขาอย่างสุภาพ

“และนี่คงเป็นเด็กอัจฉริยะ นายพลฉินเฟิงใช่หรือไม่? ฉันหวังว่าจากนี้ไป พวกเราจะได้เห็นถึงความกล้าหาญของคุณ!”

“ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน”

ทั้งสองเชคแฮนด์กัน

“ขอบคุณจริงๆที่มา ตอนนี้เชิญสนุกให้เต็มที่ เพราะจากนี้ ไอ้สารเลวพวกนั้นอาจมาบุกโจมตีพวกเราได้ทุกเมื่อ!” เนโบหัวเราะ

ฉินเฟิงไม่รู้จริงๆว่าอีกฝ่ายหัวเราะเพราะอะไร ได้แต่พยักหน้าตอบรับ สื่อสารว่าเขากำลังฟังอยู่ ทั้งๆที่ในความเป็นจริง สายตาของเขากำลังกวาดมองคนอื่นๆ

ภายในที่แห่งนี้ มีเลเวล B ทั้งสิ้น 13 คน เสื้อผ้าสวมใส่ไม่เหมือนกัน รูปแบบตราบนอกก็มีลักษณะแตกต่างกัน แต่คุณสามารถระบุได้ ว่าคนของทั้งห้าพันธมิตรได้มาถึงแล้ว และอีกสามคน เป็นสมาชิกจากพันธมิตรวู้ดแลนด์

บางทีคนอื่นๆจากวู้ดแลนด์อาจมีเรื่องบางอย่างต้องทำ พวกเขาเลยไม่มา ด้วยเหตุนี้เอง จึงร้องขอกำลังเสริมจากพันธมิตรทั้งห้า อย่างไรก็ตาม ตามหลักแล้ว ถ้าเรียกพันธมิตร 10 คน ฝั่งวู้ดแลนด์เองก็ต้องส่งมา 10 คนเช่นกัน

มิฉะนั้น ฝั่งห้าพันธมิตรจะเข้าใจผิด คิดไปว่าพันธมิตรวู้ดแลนด์ต้องการใช้พวกตนเป็นตัวรับกระสุน หากเป็นเช่นนั้น ย่อมตามมาซึ่งเหตุการณ์ไม่ลงรอย

ในเวลานั้นเอง คนที่มีกลิ่นไวน์คละคลุ้ง ชายร่างเตี้ยได้เดินเข้ามา ดูเหมือนว่าจะได้ยินคำพูดของเนโบ เขาเอ่ยเสียงดังทันที “ฮี่ ฮี่ พวกกองกำลังมืดนั่นจะแน่สักแค่ไหนเชียว? เจ้าเมืองเนโบไม่ต้องกังวลไป ขอให้มั่นใจว่าฉันนี่แหละจะทุบตีพวกมันเอง และจะแสดงให้ทุกคนได้เห็น ว่าทักษะดาบของผู้ใช้วรยุทธโบราณแห่งแดนอาทิตย์อุทัยทรงพลังขนาดไหน!”

ชายคนนี้ช่างหยิ่งผยองและอวดดี

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง ปรากฏเสียงคำรามของเครื่องจักร แว่วเข้ามาจากที่ห่างไกล

เมื่อถูกไล่ล่าถึงสองครั้งติดต่อกัน ไม่ต้องกล่าวถึงคนที่เกิดใหม่อย่างฉินเฟิง กระทั่งซื่อฉิง ก็ตระหนักได้ทันทีว่ามันคืออะไร

เป็นเสียงฮอลศึกของศัตรู!

หึ่ง หึ่ง หึ่ง

ใบพัดส่งเสียงกระหึ่ม รอบกายฉินเฟิง เสียงไซเรนเตือนภัยดังขึ้น

ภายในเมืองกรีนไลท์ เด็กและผู้ใหญ่นับไม่ถ้วน ต่างมุดเข้าที่กำบังเพื่อหลบภัยทางอากาศ กระทั่งในท่อระบายน้ำ ผู้คนยังเข้าไปกระจุกตัวกันจนเต็ม