Chapter 10: เจ้าชายเป็นนักล่าแม่มด -1 (ส่วนที่ 2)
-เจ้า....ชาย
-ช่วย..เจ้า......
ชาวบ้านไม่มีเวลาคิดเลยสักนิด
เสียงของพวกเขาเริ่มที่จะห่างไกลออกไป
วิสัยทัศน์ของฉันมืดบอด หมาป่าตัวใหญ่ยักษ์กัดที่ไหล่ของฉัน มันจ้องเขม็งมองมา พร้อมกับกลิ่นเหม็นเน่าของศพและพลังมารที่น่ารังเกียจ
...แม่งเอ้ย มันเป็นหมาป่าซอมบี้
“ปล่อยนะ!”
ฉันจับพลั่วแน่นและแทงไปที่คอของมัน
เนื่องจากว่าท่าทางของฉันมันผิดปกติ รวมทั้งมันกัดเข้าที่ไหล่ มันทำให้ฉันไม่สามารถปลดปล่อยพลังได้เต็มร้อย การโจมตีของฉันมันไม่ได้ส่งผลกระทบกับหนังหนาตรงต้นคอของมันด้วยซ้ำ
ถ้ามันกัดลึกลงไปกว่านี้มันคงจะอันตรายขึ้นสำหรับเขา
การอยู่ตัวคนเดียวภายในถ้ำ นั้นหมายความว่าฉันจะถูกล้อมรอบโดยซอมบี้และถูกพวกมันรุมกินอย่างแน่นอน
“เวรเอ้ย…!”
ฉันปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ลงบนฝ่ามือและใช้สกิล [คำสาปชั่วร้าย] ทำให้ฉันรู้สึกได้ทันทีว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ไหลออกไปจากร่างกาย
เมื่อความมึนงงเข้ามาในหัวของฉัน ฉันก็ได้ยินเสียงรางๆ
[คุณได้รับการอวยพร]
ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจสภาพร่างกายของฉันหรืออะไรก็ตาม คมพลั่วส่องประกายออกมาเบาบาง อุปกรณ์ไว้ขุดดินของฉันนั้นต่างมีผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจาก [คำสาปชั่วร้าย] มันกลับกลายเป็นเหมือนสกิลอย่าง [อวยพร] แทนเสียมากกว่า
“ไอ้พวกเหม็นสาป”
พลั่วที่มีออร่าศักดิ์สิทธิ์แทงลงไปที่คอของหมาป่าซอมบี้
ปึ้ก...
ไม่ต้องพูดถึงกลิ่นเนื้อที่กำลังไหม้เลย มันละลายหายไปเลยในทันที
ความรู้สึกของพลั่วโลหะที่แทงลงไปบนพลาสติกนั้นส่งกลับมายังปลายนิ้วของฉัน พลั่วแทงลึกลงขึ้นไปยิ่งกว่าเดิม ยังไงก็ตาม หมาป่าซอมบี้มันยังคงไม่ปล่อยฉันไป
“ไอ้เวรนี่มัน...!”
ฉันดึงพลั่วออกและแทงมันลงใส่หมาเวรนี่ไปอีกครั้งหนึ่ง
จนกระทั่ง
บึ้ม...!
ฉันก็สามารถที่จะเอาตัวเองหลุดพ้นจากปากของไอ้เวรนั่นได้ หลังจากที่คอของมันถูกหลอมไปหมด และเหลือทิ้งไว้แต่ร่างกายที่ไร้หัว
ฉันกลิ้งไปบนพื้นหลายต่อหลายตลบ โครงกระดูกและศพที่เน่าเปื่อยต่างเป็นที่รองรับให้กับฉัน
ในขณะที่ฉันหน้าจมดินอยู่นั้นเอง ฉันก็ร้องออกมา “แม่งเอ้ยยยยย!! เจ็บชิบหายเลย!! ไอ้เวรนั่นมัน!”
แม่งเอ้ย ความเจ็บปวดนี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลย
มือที่สั่นเครือของฉันจับไปที่แผลบนไหลข่องฉัน ฉันสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อนิ้วของฉันจับลงไปบนเนื้อ มันเหมือนกับว่าฉันถูกอะไรบางอย่างเผามา มันมีความร้อนสูงปล่อยออกมาจากแผล
ฉันไม่รู้ว่าฉันร้องออกมาหรืออะไร ฉันพึมพำออกมา “ทำไมฉันต้องมาพบเจอเรื่องบัดซบนี้ด้วยวะ?!”
ฉันกุมไหล่ตัวเองและใส่พลังศักดิ์สิทธิ์ลงไปในแผล
นี่คือวิชารักษาพื้นฐานทั่วไปที่นักบวชส่วนใหญ่มี ฉันยังใช้สกิล [คำสาปชั่วร้าย] ลงไปด้วย ไม่สิ บางที ฉันควรเปลี่ยนชื่อมันไปเป็น [อวยพร] แทน
ฉันรู้สึกได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลออกมา และแผลของฉันก็ถูกรักษาขึ้นด้วยความเร็วที่ตามองเห็น
พลังมารที่แฝงอยู่ในกล้ามเนื้อของฉันมันทำให้ผิวของฉันและทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาเชิงลบ แต่มันก็อยู่เพียงไม่นาน กระดูกที่หักก็สมานตัว เนื้อที่หายไปก็มีเนื้อหนังใหม่มาแทนที่อันเก่า
“เจ็บชะมัด”
นี่คือปฏิกิริยาระหว่างพลังศักดิ์สิทธิ์และพลังมาร – การรักษาบาดแผลของการโดนอันเดทกัดจะมีความเจ็บปวดที่มากมายแฝงอยู่ด้วยเสมอ
มีเพียงแค่ตอนที่แผลของฉันถูกรักษาจนไม่มีรอยแผลเป็นแล้วนั้นเอง ฉันถึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ไม่สิ ฉันยังไม่ควรผ่อนคลายแบบนี้”
บางทีฉันควรที่จะโทษความกลัวของฉันเอง ซึ่งมันทำให้ฉันพูดกับตัวเองแบบนี้ ฉันสแกนไปรอบๆ แต่ก็มองไม่ค่อยเห็นทางสักเท่าไหร่
แต่มันก็ไม่นานด้วยเช่นกัน ฉันรีบยืนยันตำแหน่งของสิ่งมีชีวิตผ่านการใช้ [เนตรจิต]
-คุ...โอววววว..
อื้ม มันเป็นฝูงซอมบี้จริงด้วย
ซอมบี้พวกนี้ มันเกือบจะกลายเป็นพวกโคงกระดูกแทนแล้ว หลังจากที่เนื้อส่วนใหญ่ของพวกมันเน่าเปื่อยไปหมด พวกมันเดินอย่างโซซัดโซเซมาหาฉัน ปากของมันอ้ากว้างออกมา เหมือนกับพวกมันค้นพบอาหารแสนอร่อยที่อยู่ด้านหน้าของพวกมัน
“..แย่ละ”
ฉันโคตรเหนื่อยแล้วแท้ๆ แต่ฉันยังต้องสู้กับพวกมันอีกงั้นเหรอ?
อ๊า เทพีแห่งความรักและเมตตา ไกอา!
“…ได้โปรดละ ปล่อยฉันให้พักสักครั้งได้ไหม?”
ฉันอ้อนวอนต่อเทพีอย่างเงียบงัน ในขณะที่จับพลั่วในมือไว้แน่น
**
ทั่วทั้งถ้ำต่างเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น
ศพเน่าและโครงกระดูกต่างกองอยู่บนพื้น รวมทั้งบางครั้งบางคราฉันยังเห็นอาหารของพวกเจ้าศพเดินได้นี้ด้วย
พวกมันต่างกำลังยุ่งกับการเฉลิมฉลองโดยการกินเนื้อและกระดูกที่กองอยู่บนพื้น และพวกมันก็ลุกขึ้นยืนเมื่อพวกมันเห็นฉัน พวกมันต่างเดินเข้ามาใกล้
โชคดีที่มันไม่มีซอมบี้สัตว์ป่าอีกแล้ว เหมือนกับก่อนหน้านี้
“ฉันว่า ฉันจะต้องกลายเป็นบ้าๆแน่เลย”
มันกลับกลายเป็นว่าฉันถูกลากเข้ามาภายในส่วนลึกของถ้ำ นั่นหมายความว่าฉันไม่สามารถที่จะรอให้ชาวบ้านมาช่วยเหลือฉันได้อีก
ฉันยกพลั่วขึ้นก่อนที่จะแทงลงไปบนพื้นดิน
[บ่อศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกอัญเชิญ]
ด้วยการใช้พลั่วเป็นศูนย์กลาง บ่อน้ำศํกดิ์สิทธิ์ก็พวยพุ่งขึ้นมาจากผืนดิน มันแพร่กระจายไปรอบตัวฉันในระยะห้าเมตร
ซอมบี้ที่เดินเข้ามาเหยียบบ่อน้ำเดินสะดุด ก่อนที่จะล้มลงกับพื้น หลังจากนั้นพวกมันก็หลอมละลายไปอย่างเชื่องช้า
โชคร้ายที่ซอมบี้อีกตัวเหยียบไปบนหลังของซอมบี้ที่ล้มลง และมันก็เดินเข้ามากใกล้ พวกมันต่างใช้ ‘สหาย’ ของมันเป็นทางเดิน ไอ้พวกเวรนี่ค่อยๆเดินมาหาอย่างช้าๆ
มันเป็นปีศาจชั่วร้ายที่ทนทานเหลือเกิน มันเป็นแค่ทาสของความหิวโหยเท่านั้น ซึ่งมันมีเพียงเป้าหมายเดียวคือการกลืนกินสิ่งมีชีวิต แม้ว่าพวกมันจะตายไปด้วยกัน นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันรู้สึกหงุดหงิดมาก
ฉันเหวี่ยงพลั่วในมือใส่ตัวที่เดินมาใกล้ฉัน
พร้อมกับเสียงกระดูกแตก หัวของซอมบี้แหลกเละ สมองเน่าของมันก็สาดกระจายไปทั่ว
ฉันรู้ดีว่านี่เป็นแค่การซื้อเวลาเท่านั้นและไม่ได้มีอะไรอย่างอื่น ฉันจำเป็นต้องกำจัดมันอย่างสมบูรณ์ และจะต้องทำมันในระยะกว้างด้วย
“[กาฬโรค]”
ฉันหายใจเข้าลึกก่อนที่จะพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา หลังจากที่ฉันยกพลั่วขึ้น ฉันก็แทงมันกลับลงไปบนพื้นอีกครั้งหนึ่งและปิดตาลง อักขระใหญ่ยักษ์ปรากฏขึ้นบนผืนดินด้านใต้ซอมบี้ และพวกมันก็ส่องประกายแสงสว่างออกมา ก่อนที่จะระเบิดออก
[คุณได้ใช้การอวยพรไปเป็นวงกว้าง]
แสงสว่างบนพื้นสัมผัสเข้ากับซอมบี้ และทำให้เนื้อเน่าของมันไหม้ทันที พวกมันต่างกลายเป็นผุยผงกันทีละตัว
หนึ่ง สอง เจ็ด สิบ..
เยี่ยม! มันสำเร็จ! ถ้าแบบนี้แล้วละก็..!
แต่เพียงแค่ฉันกำลังจะเริ่มมีหวังแค่นั้นเอง...
บึ้ม!!
…สีหน้าของฉันหม่นหมองในทันที
ฉันเงยหน้าขึ้น
-คุ โอววววว...
เจ้าสิ่งนี้มันสูงถึงสามเมตร
มันปกคลุมไปด้วยขนหนา รวมทั้งแขนยาวใหญ่และแผงคอยักษ์ แถมมันยังมีคมเขี้ยวที่แหลมคมมากอีก
ฉันตกใจจนพึมพำออกมา “….ถามจริง ซอมบี้หมีเนี่ยนะ?”
แน่นอนละว่ามันคือซอมบี้หมี
ฉันไม่รู้ว่ามันพันธุ์อะไร แต่ว่า...
[ชื่อ : ราชาแห่งความตะกละ
อายุ : ….
ความสามารถพิเศษ : กัด บดขยี้ ทุบ ลากอวัยวะภายในออกมา
+ อยู่ในสถานะเสริมแกร่งจากเนโครแมนเซอร์]
...เจ้าตัวนี้ไม่ใช่ตัวที่ฉันจัดการได้แน่นอน
สิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายอย่างมันยังถูกเปลี่ยนไปเป็นซอมบี้
“อื้ม ฉันจะกลายเป็นบ้าแล้ว”
ทุกครั้งที่ซอมบี้หมีก้าวเดินมาที่ด้านหน้า ฉันก็ก้าวถอยหลังไป แม้แต่แสงสว่างของการอวยพรวงกว้างสัมผัสกับมัน เจ้าสัตว์ประหลาดนี่ก็ไม่มีปัญหาเลยสักนิด
มันบดขยี้ซอมบี้ที่กำลังหลอมเหลวบนพื้นและใช้พวกมันเป็นทางเดินผ่านบ่อน้ำ ขนของมันอาจจะหลอมไปบ้าง แต่ด้วยหนังที่หนาของมัน มันก็ส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย
เจ้าสิ่งนี้มันอยู่คนละระดับกับเจ้าซอมบี้ตัวอื่นที่ฉันจัดการมาก่อนหน้านี้
วิ่งหนีดีไหม? แต่ว่า ถ้าฉันหันหลังให้กลับมัน ฉันรู้สึกว่ามันจะพุ่งเข้าใส่ฉันด้วยความเร็วสูงแทนเสียนี่
เจ้าสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวนี้เป็นดั่งกับนักล่าอันเดท ทำไมละ? เพราะว่ามันเร็วกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไปยังไงละ
ถ้าฉันวิ่งหนีไปทางออกของถ้ำที่ลื่นชันแบบนั้น หลังของฉันคงถูกฉีกกระชากออกในชั่วพริบตา และก็คงจะตายในทันที
ฉันกัดฟันและกำพลั่วในมือแน่นกว่าเดิม
“คนเราเกิดมาตายได้ครั้งเดียว แต่ครั้งที่สองนี่มัน!”
การตายครั้งหนึ่งจากการถูกไฟช็อตก็มากพอแล้วสำหรับชีวิตหนึ่ง ฉันไม่ต้องการที่จะตายอีกรอบ โดยการโดนซอมบี้บดขยี้อย่างแน่นอน
ฉันยื่นมือออกไปรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์
“[ปลุกชีพคนตาย]”
เพียงเวลาไม่นานที่คำพูดของเขาจบลง พลังศักดิ์สิทธิ์แพร่กระจายไปทั่วถ้ำและปกคลุมศพทั้งหลาย
ซอมบี้อันเดทเริ่มที่จะลุกขึ้นยืน ในขณะที่ปล่อยแสงสีขาวออกมา ลมหายใจของพวกมันต่างเต็มไปด้วยออร่าศักดิ์สิทธิ์
-โอ โอวววว!!
และถ้ำก็ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมากอีกครั้งหนึ่ง แต่มันเป็นเสียงที่ใสสะอาดแทน
[10. เจ้าชายเป็นนักล่าแม่มด -1 (ส่วนที่ 1 และ 2 ) จบ]