ตอนที่แล้วตอนที่ 16 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของโรงแรมห้าดาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 ค่าเช่า 840,000 หยวน ทุกคนตกตะลึง

ตอนที่ 17 หนึ่งในผู้ถือหุ้น เรดิสัน โฮเทล นิวเซนจูรีส์


     ตอนที่ 17 หนึ่งในผู้ถือหุ้น เรดิสัน โฮเทล นิวเซนจูรีส์

มีข่าวที่น่าตกใจในโรงแรม เรดิสัน โฮเทล นิวเซนจูรีส์  มีการโอนหุ้น 20%

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือใครบางคนกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของโรงแรมเรดิสัน นิวเซนจูรีส์  และคน ๆ นั้นชื่อ คุณหลินฟ่าน

ในสำนักงานมีความเคร่งขรึมและเรียบร้อยมีคอมพิวเตอร์และโต๊ะทำงาน

ที่ห้องทำงานของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ เรดิสัน นิวเซนจูรีส์

ตรงเก้าอี้มีผู้หญิงที่มีรูปร่างดีมากชื่อ หยานซิ่ว นั่งอยู่และเลขาสาวสวยยืนอยู่ข้างๆเธอ

โรงแรมห้าดาวเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่แล้วเรื่องแบบนี้จะไม่เป็นที่สนใจอันดับต้น ๆของผู้คน ได้อย่างไร

"ช่วยติดต่อคุณหลินด้วย" หยานซิ่ว พูดในขณะที่พลิกดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องของ หลินฟ่าน อย่างรอบคอบ

การที่มีเงินซื้อหุ้น 20% ของโรงแรมหมายความว่า หลินฟ่าน ต้องมีตำแหน่งสำคัญใน บริษัทอยู่แล้ว

ดังนั้นการตัดสินใจของ หลินฟ่าน สามารถส่งผลต่อโชคชะตาของ บริษัท ได้ทุกเมื่อ

หยานเฉ่ว ยังไม่ทราบรายละเอียดของ หลินฟ่าน ที่เป็นถึงผู้ถือหุ้นอันดับที่2เธอจึงต้องรีบสืบข้อมูล  ถ้าหากวันหนึ่ง หลินฟ่าน ต้องการให้คำแนะนำหรือตัดสินใจอะไรเกี่ยวกับการพัฒนาของ บริษัท แม้กระทั่งเธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้

"ได้ค่ะ" เลขาสาวรับคำสั่งและกดเบอร์โทรศัพท์ของ หลินฟ่าน ทันที

“สวัสดีค่ะ..ไม่ทราบว่าคุณคือประธานหลิน หรือเปล่าคะ ฉันเป็นเลขาของประธานหยาน” เสียงของเลขาในสาย

"ประธานหยานคือใครครับ" หลินฟ่านถาม

"สวัสดีคุณเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ เรดิสัน โฮเทลเซนจูรีส์ และ คุณหยาน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท เช่นเดียวกันกับคุณค่ะ" เลขา อธิบาย

“เอ่อ..แล้วมีอะไรเหรอครับ?” หลินฟ่าน ถามอย่างไม่คาดคิด เมื่อเขารู้เรื่องหุ้นของ บริษัท เรดิสันโฮเทล และอยู่ดีๆอีกฝ่ายก็โทรมาทันที

“คือว่าประธานหยาน อยากพบคุณเพื่อรับฟังความคิดเห็นและแผนการพัฒนาบริษัทของคุณค่ะ” เลขานุการตอบ

“ผมค่อนข้างยุ่งและไม่ค่อยมีเวลา”

เขาแค่พูดตรงๆ "และช่วยบอกคุณหยาน ว่าผมไม่มีข้อเสนอแนะใดๆสำหรับการพัฒนาและการวางแผนของบริษัท และผมก็ไม่มีความสนใจที่จะเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของ บริษัทสำหรับเรื่องการประชุมผมว่าไม่จำเป็นเลยครับ" หลังจาก หลินฟ่านพูดจบเขาก็วางสายทันที

เมื่ออยู่ในฐานะบุคคลหลักของ บริษัท เขาต้องประชุมทุกวันและงานยุ่งตลอด หลินฟ่าน ไม่ชอบชีวิตแบบนี้

ความหมายของประโยคนี้คือ บอกประธานหยาน ว่าเขาจะไม่ก้าวก่ายตำแหน่งของ ประธานหยาน ในบริษัท ไม่ใช่แค่การแนะนำ  การบริหารใด ๆ ของ บริษัท เขาก็จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น ตราบใดที่เขาได้รับเงินปันผล ได้อยู่อย่างเงียบ ๆก็พอใจแล้ว

สำหรับ  การบริหาร หลินฟ่าน ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาแค่อยากทำในสิ่งที่ตัวเขาชอบเท่านั้น

"ประธานหยานคะ" เลขามองไปที่ หยานซิ่ว

"อืม  ฉันได้ยินทั้งหมดแล้ว"

"ฉันกลัวว่า หลินฟ่าน เขาจะไม่ใช่คนธรรมดาเขาเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศใจกลางทะเลสาบในชุมชน ลานโบ๋หว่าน และรถสปอร์ตรุ่น ลิมิเต็ด ระดับโลกที่มูลค่าหลายร้อยล้าน แต่เขามักจะขี่แค่รถสามล้อ  คนแบบนี้เป็นเจ้าของหุ้น 20% ของบริษัทเรา แต่ไม่ยอมมีส่วนได้ส่วนเสียในการบริหารของบริษัทเลย มันน่าแปลก"

" และข้อมูลอื่น ๆ ของ หลินฟ่าน เป็นความลับและค้นหาไม่พบ นั่นคือ คุณหลิน ต้องการปกปิดและไม่อาจมีใครรู้ได้ "หยานซิ่ว กล่าวอย่างครุ่นคิด

"หลินฟ่าน  คนนี้เขาอาจจะไม่สนใจว่าเขามีหุ้นในโรงแรมนี้มากแค่ไหน  แต่คนที่สามารถซื้อคฤหาสน์หลายร้อยล้านและขับรถสปอร์ตหลายร้อยล้านได้ จะต้องมีทรัพย์สินมากเกินกว่าเราจะคาดเดาได้  แบบนี้ฉันยิ่งอยากเจอประธานหลิน มากขึ้นอีก "

"พูดง่าย ๆ ว่าโรงแรมทุกโรงแรมภายใต้บริษัท จะต้องถือว่า คุณหลิน เป็นแขกวีไอพี  ที่จะทำอะไรผิดพลาดด้วยไม่ได้เลย"

"ถ้าหากคุณทำให้ คุณหลิน ไม่พอใจ  คุณอาจจะลำบากได้  "หยานซิ่ว กล่าว

เธอเข้าใจว่า หลินฟ่าน กำลังแสดงความมีน้ำใจต่อเธอ โดยไม่ได้ต่อสู้เพื่อชิงอำนาจกับเธอในบริษัทนี้ และเธอควรจะให้ความเคารพและปฏิบัติต่อ หลินฟ่าน อย่างดีที่สุด

แม้ หลินฟ่าน จะไม่ได้แสดงตัวตนในบริษัท ก็เป็นที่สนใจของเธอแล้ว และในตอนนี้ หลินฟ่าน ก็กลายเป็นคนทำมีอำนาจในบริษัท แม้จะไม่มีใครเคยเจอเขาเลย    …

"โรงแรมเรดิสัน นิวเซนจูรีส์   เคยได้ยินที่ไหนกันนะ คุ้นๆ"

"ได้เงินปันผลหลายหมื่นล้านทุกปี ก็ไม่เลวนะเป็นรายได้ที่ดีมาก" หลินฟ่าน ยิ้มเล็กน้อยและกลับไปที่ร้านอาหาร เก็บครัวปิดร้าน  เตรียมพร้อมที่จะไปงานเลี้ยงรุ่น

หลินฟ่าน  ดีใจที่จะได้พบกับเพื่อนเก่าในชั้น เขาไม่มีความคิดที่จะเอาเรื่องหุ้นโรงแรมไปโอ้อวด หรือคุยทับใคร

ทั้งหมดนั้นเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมา ที่สำคัญครั้งนี้ หลินฟ่าน ที่เขาไป เป็นเพราะเขาต้องการเจอเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายเพื่อระลึกถึงวันเก่าๆเท่านั้น

"เฮ้ หลินฟ่าน ฉันมารับนายไปงานเลี้ยงพร้อมกันไปกันเถอะ"  เกาลี่ฉง ขับบีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรี่ส์ 5 ไปที่ร้านอาหารของ หลินฟ่าน มีจ้าวลี่ลี่ อยู่ในรถด้วย

"ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอ..เดี๋ยวฉันจะไปเอง นายไปก่อนเลย" หลินฟ่าน ปฏิเสธ เพราะร้านอาหารยังไม่ได้ทำความสะอาด และคืนนี้ เซี่ยหว่านชิว จะมาที่ร้านเขา

" เอางั้นก็ได้  ถ้าอย่างนั้นฉันออกไปก่อนนะ เกาลี่ฉง บอกและขับรถออกไปจาก หลินฟ่าน

ระหว่างทาง จ้าวลี่ลี่ ก็ถอนหายใจ

"หลินฟ่าน  นี่ชอบความลำบากหรือไงกันนะ เขาอวดดีจริงๆคงอายที่จะนั่งรถเธอ" "จ้าวลี่ลี่ กล่าว

เกาลี่ฉง ส่ายหัว "  หลินฟ่าน มันแปลกก็เห็นอยู่ว่านั่งรถของฉันไปด้วยกันก็ได้ เขาเป็นเพื่อนที่ดี ฉันไม่อยากให้เขาขี่รถสามล้อไปที่โรงแรม ถ้าหากคนอื่นเห็น เขาอาจพูดดูถูกให้หลินฟ่าน อายก็ได้  เฮ้อ...ฉันก็ไม่รู้จะช่วยเขายังไงแล้ว "

"มันใช้ไม่ได้จริงๆ หลังงานเลี้ยงรุ่นนี้จบแล้ว ฉันจะหางานที่ดีๆและน่าเชื่อถือให้ หลินฟ่าน  หรือว่าฉันอาจจะให้เขายืมเงินเพื่อลงทุนเปิดร้านอาหารใหม่ ที่ดูน่าเชื่อถือกว่านี้ "

"ลี่ฉง เธอคิดดีแล้วเหรอ ที่จะให้เขายืมเงินเปิดร้าน   อาจเสียเงินหลายแสนไปเปล่าๆหากเขาทำได้ไม่ดี" จ้าวลี่ลี่  ถามอย่างสงสัย

เกาลี่ฉง โบกมือ“ไม่เป็นไร ฉันควรต้องช่วยเขา ถึงหมดหลายแสน คนอย่างฉันก็หาใหม่ได้”

จ้าวลี่ลี่  ได้ยินแบบนี้และมองไปที่ เกาลี่ฉง และแน่ใจอะไรบางอย่างทันที

เกาลี่ฉง นอกจากร่ำรวยแล้วยังมีนิสัยที่ดีด้วย เธอมองเขาดีขึ้นเรื่อย ๆ

"ถ้าฉันอยากแต่งงานฉันต้องแต่งงานกับคนแบบนี้แหละ"  จ้าวลี่ลี่ คิดในใจ

แต่ถ้าเธออยู่กับ เกาลี่ฉง จริงๆเธอจะกีดกัน ไม่ให้หลินฟ่าน ยืมเงินเขาอย่างแน่นอน

"ถ้าถามว่าตอนนี้ใครรวยที่สุดในรุ่นนั่นก็คือ เซี่ยหว่านชิว  จริงๆแล้วหาก หลินฟ่าน  ต้องการเปิดร้านอาหารใหญ่ ทำไมไม่ขอให้ เซี่ยหว่านชิว ช่วยเหลือ"

ในมุมมองของ จ้าวลี่ลี่    เซี่ยหว่านชิว  อาจไม่ได้ติดต่อกับ หลินฟ่าน นานมาแล้ว แม้แต่ เซี่ยหว่านชิว  ก็ไม่ได้ช่วยหลินฟ่าน ทำไมเกาลี่ฉงถึงไม่คิดช่วยเขา?

อีกไม่นานจะถึงเวลานัดแล้ว

เนื่องจากโรงแรม เรดิสัน อยู่ไม่ไกลมาก หลินฟ่าน จึงไม่ต้องการขับรถบูกัทติไป

การขี่สามล้อถือว่าได้ออกกำลังกายได้ เขาจึงตั้งใจว่าจะขี่สามล้อไปที่โรงแรม

หลินฟ่านเปิดวีแชท และคลิกที่รูปโปรไฟล์ของ เซี่ยหว่านชิว

[หลินฟ่าน "ฉันจะไปแล้วนะ"]

[หลินฟ่าน: "เมื่อกี้ฉันเห็น จ้าวลี่ลี่ ด้วย"]

[เซี่ยหว่านชิว: "อิโมจิ  ดุร้าย"]

[เซี่ยหว่านชิว : "ถ้าไม่มีสลัดผักของฉันคืนนี้      นายตายแน่! หลินฟ่าน "]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด