EP 200 ภูมิหลังของดงซูบิน?
EP 200 ภูมิหลังของดงซูบิน?
By loop
นอกห้องผ่าตัด.
10 นาที… 30 นาที… 1 ชั่วโมง…เหลียงเฉิงเผิง ภรรยาของเหลียงเฉินเผิง และดงซูบินรออย่างใจจดใจจ่อให้การผ่าตัดสิ้นสุดลง
ทันใดนั้นประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออกและเหลียงเฉิงเผิงและภรรยาของเขาก็ลุกขึ้นยืนทันที เหลียงเฉิงเผิงมองไปที่รองผู้อำนวยการฉินอย่างไม่สบายใจ “ผู้อำนวยการฉินแม่ของผมเป็นอย่างไรบ้าง? แล้วการผ่าตัดล่ะ…” ดงซูบินก็เดินเข้าไปใกล้
รองผู้อำนวยการฉิน มองพวกเขาอย่างมั่นใจ “ไม่ต้องกังวล การรักษาประสบความสำเร็จเป็นไปด้วยดี”
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงทรุดตัวลงบนเก้าอี้และร้องไห้อย่างมีความสุข
เหลียงเฉิงเผิงโล่งใจและจับมือผู้อำนวยการฉิน "ขอบคุณ! ขอบคุณมากๆ!"
รองผู้อำนวยการฉินหันไปหาหัวหน้าแผนกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆเขา “อย่าขอให้พยาบาลห้องไอซียูดันคนไข้กลับ จัดหอผู้ป่วยเดี่ยวพิเศษที่ชั้นบนสุดสำหรับหญิงชรา ผมจะเป็นแพทย์ประจำไข้ให้เธอเอง แต่เธอยังคงอยู่ในอาการวิกฤตในช่วงสองวันนี้ หากคุณสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติช่วยโทรหาผมทันที” ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับปฏิบัติเช่นนี้ เฉพาะระดับนายพลหรือผู้อำนวยการสำนักขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถอยู่ที่นั่นได้ แต่มาดามหานได้ขอให้ความช่วยเหลือและรองผู้อำนวยการฉินจะต้องทำให้ดีที่สุด
ดงซูบินตอบ "ขอโทษที่ต้องให้คุณน้าเป็นธุระ."
รองผู้อำนวยการฉิน ตบไหล่ดงซูบิน "ไม่เป็นไร. ตรวจร่างกายชั้นบนยังไม่เสร็จ ขึ้นมาชั้นบนภายในหนึ่งชั่วโมง”
ดงซูบินรู้ว่ารองผู้อำนวยการฉิน กำลังพูดถึงการตรวจร่างกายของมาดามหานแล้วเขาก็พยักหน้า
แม่ของเหลียงเฉิงเผิงตื่นขึ้นเมื่อพยาบาลกำลังผลักเธอไปที่หอผู้ป่วย เธอเองก็ดูสบายดีและยังยิ้มให้เขาได้ การผ่าตัดประเภทนี้ไม่ใช่การผ่าตัดแบบทั่วไปและไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ
ชั้นบนสุดหอผู้ป่วยเดี่ยว
"แม่!" ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงถาม “แม่เป็นยังไงบ้าง”
หญิงชรายิ้ม "แม่สบายดี. หน้าอกของแม่ไม่เจ็บแล้วและหายใจได้ดีขึ้น ฮ่าฮ่า…แม่ทำให้พวกลูกๆต้องเป็ฯห่วง ต้าเผิงกลับไปทำงานเถอะลูก ตอนนี้แม่สบายดีแล้ว”
เหลียงเฉิงเผิงส่ายหัว “ผมจะรอยู่นี้จนกว่าอาการของแม่จะคงที่”
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงเริ่มเช็ดน้ำตาของเธอ “เราต้องขอบคุณหัวหน้าซูบิน ตอนแรกหมอหนุ่มบอกเราว่าอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 40% เท่านั้นและอัตรานี้จะเกิดขึ้นกับพวกวัยรุ่นเท่านั้น แต่แม่อายุ 80 แล้วและน่าจะอันตรายมากกว่า แต่หัวหน้าซูบินได้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฉิน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ดำเนินการผ่าตัดทำให้แม่ฟื้นกลับมาได้”
หญิงชรามองไปที่ดงซูบินเธอเคยพบเขามาก่อนขณะที่ดงซูบินเคยไปเยี่ยมเธอตอนที่เธอพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประชาชนของเคาน์ตี้ “ขอบคุณมากเลยนะหัวหน้าซูบิน”
ดงซูบินตอบ “หัวหน้าสำนักเหลียงดูแลผมเป็นอย่างดี เรื่องเท่านี้ไม่เป็นปัญหาครับ”
หลังจากนั้นไม่นานหญิงชราก็หลับไปพร้อมกับภรรยาของเหลียงเฉินเผิงที่อยู่ข้างเตียง ดงซูบินและ เหลียงเฉินเผิงเดินออกจากหหอพักผู้ป่วยในทันที
ในทางเดินดงซูบินกล่าว “หัวหน้าเหลียงพอดีผมมีธุระที่จะต้องไปทำ เดียวผมจะกลับมาเยี่ยมแม่ของคุณภายหลังนะครับ”
เหลียงเฉินเผิงถอนหายใจและตบไหล่ดงซูบิน “ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไง ฉันเป็นหนี้คุณแล้วตอนนี้” เขารู้ว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณดงซูบินและเขาก็เดินกลับเข้าไปที่หอพักผู้ป่วยหลังจากที่ดงซูบินเดินจากไป
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงมองมาที่เขา “ซูบินไปแล้วเหรอ?”
เหลียงเฉิงเผิงพยักหน้า "ใช่.เหมือนเขามาที่นี้เพื่อพาใครสักคนมาพบแพทย์เช่นกัน”
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงถอนหายใจ “หลังจากคุณแม่ฟื้นแล้วเราควรขอบคุณเขาอีกครั้ง ซูบินคนนี้เป็นคนที่มีความสามารถมาก”
“มีความสามารถ?” เหลียงเฉิงเผิงลูบกึ่งกลางคิ้วของเขาและนั่งลงบนเก้าอี้ เขาเห็นภรรยาของเขามีท่าทางงงงวยและเขาก็ยิ้ม “เธอคิดว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะทำการผ่าตัดให้เป็นการพิเศษเพียงเพราะ ดงซูบินรู้จักเขาหรือป่าว? เธอไม่เห็นหัวหน้าแผนกโรคหัวใจทั้งสองคนมาเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการอย่างงั้นหรอ? นี่ไม่ใช่ปัญหาว่าเธอรู้จักผู้อำนวยการและเขาจะรักษาให้ทันที นอกจากนี้แม่ของเราเป็นเพียงผู้ป่วยคนเดียวที่ได้รับการผ่าตัดพิเศษเช่นนี้?”
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงตะลึง "แล้ว?"
ชายชราในชุดคนไข้เดินผ่านเตียงผู้ป่วย
เหลียงเฉิงเผิงยืนให้ความสนใจทันที หลังจากที่ชายชราเดินจากไปเขาก็กระซิบ “นั่นคืออดีตรองนายกเทศมนตรีของเมืองปักกิ่ง จากตระกูลหลี่ แต่ฉันลืมชื่อเต็มของเธอไปแล้ว เธอเคยป็นผู้การตำรวจมาก่อน”
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงพูดติดอ่าง “คุณกำลังบอกว่า…หัวหน้าซูบินมีภูมิหลังที่ทรงอิทธิพลมากๆเลยอย่างงั้นหรอ?”
"ใช่. แต่อาจเป็นได้ว่าเขามีญาติอยู่ในโรงพยาบาล 305”
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงรับทราบ “ใครจะสนใจว่าภูมิหลังของเขาเป็นอย่างไร ครั้งนี้เขาได้ช่วยพวกเราไว้ให้กับพวกเราอย่างมากและคุณต้องจำไว้ว่าต้องดูแลเขาในสำนัก” ภรรยาของหัวหน้าเหลียงไม่รู้เรื่องในรัฐบาลและเธอรู้สึกขอบคุณดงซูบิน ถ้าดงซูบินไม่อยู่แถวนั้นแม่ของพวกเขาอาจจะตายแล้วก็ได้
ในอีกด้านหนึ่ง
หานจิงตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้วและดงซูบินงกำลังส่งเธอกลับ
“คุณน้าผลเช็คของคุณน้าเป็นอย่างไรบ้าง” ดงซูบินมองไปที่หานจิง ผ่านกระจกมองหลัง
หานจิงลืมตาและยิ้ม "ไม่เป็นไร. ผู้อำนวยการฉิน แค่ขอให้ฉันได้รับโสมป่ามาก็ทำให้ร่างกายของฉันแข็งแรงขึ้นมากแล้ว”
ดงซูบินตอบ “โอ้ถ้าอย่างนั้นคุณน่าควรทานมันเยอะนะครับ คุณน้าสามารถบอกผมได้เลยผมจะนำโสมป่าเหล่านั้นมาให้ คุณน้าเอง”
"ไม่เป็นไร. การทานโสมป่ามากเกินไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน ฮ่าฮ่า…โอ้แม่ของเพื่อนเธอเป็นยังไงบ้างล่ะซูบิน”
“ขอบคุณ คุณน้ามากๆเลยครับ ตอนนี้เธอพ้นขีดอันตรายแล้ว”
"น่ายินดีจริงๆ. ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรสุขภาพก็สำคัญที่สุด“หานจิงมองไปที่ดงซูบิน” เธอต้องอย่าลืมเตือนเสี่ยวหลานด้วยนะ เธอมักจะลืมทานข้าวในช่วงที่เธอทำงาน อีกไม่นานร่างกายของเธอจะแสดงการต่อต้านออกมา อีกทั้งเธอเองไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อและแม่สักเท่าไร เธอต้องทำให้เสี่ยวหลานเข้าใจถึงเรื่องนี้ด้วยนะ”
ฮะ? พี่เสี่ยว ขนาดพี่เสี่ยวเองยังไม่ฟังคุณน้าเลยพี่เสี่ยวจะฟังผมอย่างงั้นหรอ? คุณน้าคาดหวังในตัวผมมากเกินไปแล้ว…
ดงซูบินพยังหน้าตอบรับคำแนะนำของหานจิง
หลังจากส่งหานจิงกลับไปที่วิลลาหมายเลข 1 แล้วเธอก็เชิญดงซูบินด้วยถ้อยคำอย่างสุภาพให้มาทานอาหารกลางวันด้วยกัน แต่ ดงซูบินรู้ว่านี้เป็นแค่การรักษาน้ำใจและเขาควรปฏิเสธเธอ เขาขับรถออกไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวและทานก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามก่อนที่จะกลับไปที่โรงพยาบาล 305 เหลียงเฉินเผิงเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของดงซูบินและก่อนหน้านี้ดงซูบินเองก็ไม่มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเลย นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากและพลาดไม่ได้
ชั้นบนสุด, หอผู้ป่วยเดี่ยว.
ดงซูบินนำผลไม้และอาหารเสริมสุขภาพติดตัวมาด้วย
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงยืนขึ้นเพื่อรับเขา “คุณไม่จำเป็นจะต้องเอาของมาเยี่ยมพวกเราก็ได้ ขอบคุณ. เชิญนั่งก่อน.”
ดงซูบินดึงเก้าอี้ขึ้นมาและถาม “แม่ของหัวหน้าเหลียงป็นอย่างไรบ้างครับ”
เหลียงเฉิงเผิงตอบ “ผู้อำนวยการ ฉินมาเยี่ยมก่อนหน้านี้และบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี หลังจากบาดแผลหายแล้วเธอสามารถกลับบ้านได้ทันที”
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงมองมาที่เขา “พี่เหลียงฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลแม่เอง ทำไมคุณไม่กลับไปที่จังหวัดคืนนี้เลยล่ะ”
เหลียงเฉิงเผิงส่ายหัว “ฉันจะอยู่ต่อไปอีกสองสามวัน”
ดงซูบินถามมาทันที “หัวหน้าเหลียงและคุณนายเหลียงพึงมาถึงเมื่อเช้าสินะครับ และเห็นว่ายังไม่ได้จองที่พัก เดียวผมจัดการเรื่องนี้ให้เองนะครับ”
ภรรยาของเหลียงเฉินเผิงตอบอย่างซาบซึ้ง "ไม่เป็นไรขอบคุณมากๆ. เราไม่อยากรบกวนคุณเท่าไร เราจะมองหาที่พักใกล้ๆสำนักงานรัฐบาลมณฑลของปักกิ่งหลังจากนี้เอง“แม้ว่านั้นจะไม่ใช้ชื่อปัจจุบันของสำนักงาน แต่สำนักงานส่วนใหญ่ของมณฑลในปักกิ่งก็ยังคงอยู่ พวกมันถูกเปลี่ยนชื่อเป็น” ศูนย์ประสานงานกลาง” แต่เธอเองก็ยังติดเรียกชื่อเดิมอยู่
“ ฮ่าฮ่า…ปักกิ่งนั้นเป็นเหมือนบ้านเกิดของผม ผมเองจะต้องตอนรับแขกที่มาเยือนให้ดีที่สุด เดียวเรื่องนี้ผมจัดการให้เองดงซูยินต้องการสร้างความประทับใจให้กับหัวหน้าของเขา
เหลียงเฉิงเผิงคิดสักพักแล้วพยักหน้า นอกจากนี้เขายังต้องการเห็นว่าดงซูบิน มีอิทธิพลมากเพียงใด
ในตอนนี้ดงซูบินจำอะไรบางอย่างได้และถาม “หัวหน้าเหลียง หัวหน้าขับรถมาเองหรือเปล่าครับ”
เหลียงเฉิงเผิงตอบ “เมื่อคืนเสี่ยวซันเป็นคนขับรถตำรวจมาส่งเราที่นี่ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะกลับเมื่อไหร่และฉันขอให้เสี่ยวซันกลับไปก่อน”
ดงซูบิน พยักหน้า “โอ้ถ้าไม่มีรถมันไม่สะดวก โอเคผมจะช่วยหัวหน้าหารถก่อนและคุณสามารถใช้รถได้เต็มที่เลย”
ภรรยาของเหลียงเฉินเผิงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “หัวหน้าซูบินไม่เป็นไร คุณลำบากมากพ่อแล้ว”
"ทุกอย่างปกติดี. ทุกอย่างปกติดี. “ดงซูบินเดินออกไปเพื่อโทรหาฉูหยวน
ประมาณ 5 โมงเย็น.
แม่ของเหลียงเฉินเผิงหลับไปอีกครั้งหลังจากทานอาหารเย็น ดงซูบินกลัวว่าพวกเขาจะปลุกหญิงชราและลงไปชั้นล่างพร้อมกับหัวหน้าเหลียงและภรรยาของเขา พวกเขาเดินออกจากอาคารของโรงพยาบาลและโทรศัพท์ของดงซูบิน ก็ดังขึ้น เขาตอบมันและพูดอะไรบางอย่าง
ไม่กี่นาทีต่อมา เมอซิเดส เบนซ์รุ่น S350L ก็หยุดอยู่ในบริเวณโรงพยาบาล
เสี่ยวเตาผู้ช่วยของฉูหยวนลงจากรถและส่งกุญแจให้ ดงซูบินก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่
เหลียงเฉิงเผิงและภรรยาตกใจ พวกเขารู้ว่ารถคันนี้ราคาเท่าไร นี่คือเมอซิเดส เบนซ์ s คลาส ไม่ใช่ C คลาส!
ดงซูบินยิ้มและส่งมอบกุญแจให้กับหัวหน้าเหลี่ยง “กรุณาใช้รถคันนี้ก่อน ผมสั่งให้คนเติมน้ำมันให้เต็มถังแล้วครับ”
เหลียงเฉินเผิงมองไปที่ดงซูบินและหยิบกุญแจมา ในใจของเขาความประทับใจที่มีต่อดงซูบินเพิ่มขึ้น หัวหน้าซูบินดูเหมือนจะมีอิทธิพลมากในปักกิ้ง แต่สิ่งที่ทำให้เหลียงเฉินเผิง และภรรยาของเขาประหลาดใจที่สุดคือเมื่อดงซูบินขับรถเอ็มพีวี ของเขา เพื่อพาพวกเขาออกไปทานอาหารค่ำ เหลียงเฉิงเผิงเห็นใบอนุญาตเข้าวิลล่าวางอยู่บนกระจกหน้าและตกใจ
นั่นคือใบอนุญาตเข้าบ้านของเลขาธิการเมือง ของปักกิ่ง!
ภรรยาของ เหลียงเฉินเผิงก็ตะลึงเช่นกัน เธอไม่รู้ว่าเธอไม่ควรถามเรื่องนี้และเพิ่งพูดไป “ใบอนุญาตเข้าวิลล่านี้คือ…”
ดงซูบินมองไปที่ใบอนุญาต “โอ้ เพื่อนผมช่วยหาใบอนุญาตให้นะครับ”
บ้านพักคณะกรรมการประจำกรุงปักกิ่ง! นั่นไม่ใช่เขตรัฐบาลของเมืองปักกิ่งและไม่ใช่ที่พักสำหรับคนทั่วไป! สถานที่แห่งนี้มีไว้สำหรับเลขาธิการคณะกรรมการพรรคของเมืองซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการกิจการการเมืองนายกเทศมนตรีสมาชิกคณะกรรมการพรรครัฐบาลกลางและรองผู้บริหารของเมืองปักกิ่ง! พวกเขาทั้งหมดเป็นสมาชิกของคณะกรรมการประจำเมือง! นี่คือสถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่! ใบอนุญาตเข้าเมืองนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าใบอนุญาตสำหรับครอบครัว และผู้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล! ด้วยใบอนุญาตเนี้คุณสามารถเข้าสู่หน่วยงานราชการของเมืองใดก็ได้และจะไม่มีใครกล้าห้ามคุณเข้าไป!
ใบอนุญาตนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่หัวหน้าซูบินจะได้รับมาจากเพื่อนของเขา?
เหลียงเฉินเผิงมองไปที่ด้านหลังของดงซูบินในใจของเขาเขาสงสัยว่าภูมิหลังของดงซูบินนั้นเป็นอย่างไรกันแน่
หลังจากนั้นไม่นานดงซูบินก็จอดรถที่ลานจอดรถของร้านอาหารหวังฟู
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงลังเล “เรา…เราจะไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารหวังฟู?” เหลียงเฉิงเผิงและภรรยาของเขาไม่เคยไปร้านอาหารชั้นสูงเช่นนี้มาก่อน ร้านอาหารปักกิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาเคยไปอยู่ในแชงกรีล่า เพื่อนคนหนึ่งของเหลียงเฉิงเผิงพาพวกเขามาที่นั่นในระหว่างการเยี่ยมครั้งหนึ่งในอดีต อาหารธรรมดา แต่บรรยากาศดี ภรรยาของเหลียงเฉินเผิงรู้สึกว่าดงซูบินไม่ควรฟุ่มเฟือยเพราะเขาช่วยพวกเขามามาก
ดงซูบินหยุดชั่วขณะ “หัวหน้าเหลียงไม่ชอบที่นี่เหรอ? แล้วร้านอาหารปักกิ่งล่ะ” ร้านอาหารปังกิ่ง ยังเป็นร้านอาหารระดับ 5 ดาวอีกด้วย
เหลียงเฉินเผิง ยิ้ม “ไม่…ฉันหมายความว่าที่นี่แพงเกินไป”
เหลียงเฉิงเผิงกล่าว "ไปกันเถอะ. เราควรจะเป็นคนที่เลี้ยงหัวหน้าซูบิน เรายังไม่ได้ขอบคุณเขาที่ช่วยเรื่องการผ่าตัดแม่ของฉันเลย”
“ไม่ๆ ผมจะให้หัวหน้าเหลียงจ่ายเงินในปักกิ่งได้อย่างไร? ผมเป็นเจ้าภาพให้”
ทั้ง 3 คนลงจากรถและเดินช้าๆไปที่ร้านอาหาร เมื่อดงซูบินอาหารที่นี่กับเสี่ยวหลานเขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่เมื่อตอนนี้เขารวยขึ้นเขาก็มีความมั่นใจมากขึ้นและไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อรับประทานอาหารที่นี่ เขาเป็นเศรษฐีหลายคนอยู่แล้วและการรับประทานอาหารในร้านอาหารระดับ 5 ดาวก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่เขาต้องกังวล เขายังสามารถทานข้าวที่นั่นได้ทุกวันหรือทั้งปีก็ยังได้
ร้านอาหารหวังฟู.
การตกแต่งของร้านอาหารนั้นโอ่อ่า
ดงซูบินเห็นพนักงานเสิร์ฟและพนักงานเสิร์ฟจำนวนมากยืนอยู่ที่ล็อบบี้เป็นแถวตรง ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังรอแขกคนสำคัญอยู่และ โจวผู้จัดการร้านอาหารก็อยู่ที่นั่นกับชายวัยกลางคนอีกคนดงซูบิน จำผู้จัดการโจว ได้ว่าเคยพบเขาตอนที่มาที่นี่พร้อมกับพี่เสี่ยว แต่ ดงซูบินรู้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อต้อนรับเขา
“หัวหน้าเหลียง หัวหน้าอยากได้ห้องอาหารแบบไหน” ดงซูบินถาม
เหลียงเฉิงเผิงไม่เคยมาที่นี่มาก่อนและไม่รู้เกี่ยวกับห้องอาหารต่างๆที่นี่ “เอาตามที่หัวหน้าซูบินเห็นสมควรเลย”
ดงซูบิน พยักหน้า "ตกลง. เช่นนั้นไปทานอาหารที่สวนไผ่ ห้องอาหารนั้นดีมาก”
ขณะที่พวกเขาคุยกันผู้จัดการโจว สังเกตเห็นดงซูฐิน และจำได้ว่าเขาเป็นใคร เขาเดินไปด้วยรอยยิ้มและจับมือกับดงซูบิน “ยินดีต้อนรับครับ…คุณจองไว้หรือยัง”
ดงซูบินก็ประหลาดใจเช่นกัน แต่เขารู้ว่าผู้จัดการโจว เดินมาเพราะ เสี่ยวหลาน “ผมไม่ได้จองไว้ แต่ตอนนี้สวนไผ่ว่างหรือป่าวครับ?”
ผู้จัดการโจวหัวเราะ “แม้ว่าจะไม่มีโต๊ะว่าง ผมก็จะจัดเตรียมให้คุณได้ครับ”
ดงซูบินตอบกลับอย่างสุภาพ “ขอบคุณครับผู้จัดการ”
ผู้จัดการโจว เรียกบริกรมาและพูดอะไรบางอย่างกับเขาก่อนที่จะพยักหน้าให้ดงซูบิน
ดงซูบินรู้สึกดีที่ผู้จัดการโจวจัดเตรียมการสำหรับเขาเป็นการส่วนตัว
เหลียงเฉิงเผิงและภรรยาของเขามองหน้ากันและเห็นความประหลาดใจในดวงตาของกันและกัน ผู้จัดการโจว? ผู้จัดการร้านอาหารนี้? ลูกค้าของร้านอาหารหวังฟู เป็นคนที่มีฐานะสูงและแม้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าส่วนจะมาที่นี่ แต่ผู้จัดการก็จะไม่สนใจเขาเช่นกัน ทำไมพนักงานในร้านอาหารหวังฟู่ถึงปฏิบัติต่อหัวหน้าซูบินเช่นนี้กัน? ผู้จัดการยังเดินมาต้อนรับเขาและเตรียมการให้เขาเป็นการส่วนตัว?!
ณ สวนไผ่.
ดงซูบิน, เหลียงเฉินเผิง และภรรยาของเขานั่งลงและสั่งอาหาร ซักพักอาหารทั้งหมดก็มาเสิร์ฟ
เหลียงเฉิงเผิงและภรรยาสังเกตเห็นโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา ลูกค้าเหล่านั้นมาเร็วกว่าพวกเขา แต่ยังไม่ได้รับบริการเอาล่ะ! ความแตกต่างในการดูแลนั้นแตกต่างมาก เหลียงเฉินเผิงมีคำถามมากขึ้นในใจของเขาตอนนี้ “หัวหน้าซูบินฉันจัดการเอง”
ดงซูบินยกแก้วขึ้นอย่างรวดเร็ว “ไม่…ไม่…ไม่เป็นไรผมจัดการเรื่องนี้ให้”
ภรรยาของเหลียงเฉินเผิง ก็ยกแก้วขึ้น “เราควรเป็นคนดูแลคุณ เราต้องการขอบคุณเรื่องที่คุณช่วยเหลือเราไว้.”
ดงซูบินหัวเราะ “ถ้าอย่างนั้น…เราควรเฉลิมฉลองให้กับแม่ของหัวหน้าเหลียงกันเถอะ ผมขอให้เธอหายป่วยเร็วๆ”
หลังจากจิบแอลกอฮอล์แล้วเหลียงเฉิงเผิงมองไปที่ดงซูบินและยิ้ม “ซูบินคุณมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในปักกิ่ง แสดงว่าที่สำนักคุณกำลังหลอกเรา ฮ่าฮ่า…”
ดงซูบินโบกมืออย่างรวดเร็ว “มันไม่ถึงขนาดนั้น ผมเองไม่มีภูมิหลังอะไรเลย 3 ชั่วอายุคนของครอบครัวผมเป็นชาวนาทั้งหมด”
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงหัวเราะ ชาวนา 3 รุ่น? คุณสามารถซื้อเมอซิเดส เบนซ์ S คลาสได้ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว?! ชาวนาแบบไหนกันสามารถทำได้
เหลียงเฉิงเผิงเห็นว่าดงซูบินม่เต็มใจที่จะเปิดเผยการสนับสนุนของเขาและเขาก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เขาแค่ยิ้มและเริ่มดื่มกับเขา
ขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอาหารเหลียงเฉิงเผิงเหลือบมองไปที่ทางเดินข้างๆและประหลาดใจ
ภรรยาของเหลียงเฉินเผิงถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้น?”
ดงซินมองไปที่ทางเดินและเห็นใครบางคนที่คุ้นเคย
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงจำได้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร “ โอ้…ฉันเคยเห็นเขาในทีวีมาก่อน เขาเป็นผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเมือง
เหลียงเฉิงเผิงขมวดคิ้ว “เงียบหน่อย!” นั่นคือผู้ช่วยเลขานุการของคณะกรรมการพรรคเมืองและเหลียงเฉิงเผิงสามารถมองเขาจากระยะไกลเท่านั้น ตำแหน่งของเลขานุการเฉิง อยู่เหนือเหลียงเฉิงเผิงเพียงไม่กี่ระดับและเป็นระดับหัวหน้ากองพล ตำแหน่งของเขาเหมือนกับเลขาธิการพรรคของมณฑล อีกไม่กี่ปีเขาควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการสำนัก
เลขาธิการพรรคเสี่ยว? เลขาธิการสูงสุดของปักกิ่ง? ในที่สุดดงซูฐินก็จำได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร เลขาธิการพรรคเสี่ยว ได้พาเลขาธิการเฉิง ไปด้วยในระหว่างที่เขาไปเยือนสาขาความมั่นคงแห่งรัฐเขตตะวันตก และเลขาธิการพรรคเสี่ยว ก็ขอให้เขานำเก้าอี้มาแทน
แต่เช่นเดียวกับที่เหลียงเฉิงเผิงบอกให้ภรรยาของเขาลดเสียงของเธอเลขาธิการเฉิง มองข้ามและบอกแขกของเขาในบางเรื่องก่อนที่จะเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงตกตะลึงและตื่นตระหนก เลขาเฉิง รู้จักพี่เหลียงหรือป่าว? แต่ทำไมเขาไม่บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้?
เลขาเดินไปที่โต๊ะของพวกเขาและยิ้ม “ฮ่าฮ่า…ดงซูบิน”
เหลียงเฉิงเผิงและภรรยาของเขามองไปที่ดงซูบินก่อนจะปิดปาก!
ดงซูบินเองก็ประหลาดใจเช่นกันเพราะเขาไม่คิดว่าเลขาเฉิงจะจำเขาได้ เขายืนขึ้นและทักทายเขา “เลขาเฉิง ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณมาทานอาหารที่นี้ด้วยหรอครับ?”
เลขานุการเฉิง ตอบกลับ "ใช่. เลขาธิการพรรคเสี่ยว สั่งให้ฉันเป็นเจ้าภาพนักธุรกิจฮ่องกงสองสามคน”
ดงซูบินตอบกลับอย่างสุภาพ “ผมเองอยากจะเป็นเจ้ามือในครั้งนี้ แต่ไม่มีโอกาส ถ้าคุณว่างผมอยากจะขอโอกาสดื่มกับคุณสักครั้ง?”
เลขาเฉิงหัวเราะ “ไม่ใช่ว่าผมจะปฏิเสธคำเชิญนั้น แต่วันนี้ผมไม่มีเวลา ถ้ามีโอกาสในภายหลังผมจะเชิญไปดื่มด้วยัน”
ต่อหน้านักธุรกิจหรือบุคคลภายนอกเลขาธิการเฉิง จะต้องออกอากาศในขณะที่เขาต้องแสดงอำนาจของเลขาธิการพรรคเสี่ยว แต่ต่อหน้า ดงซูบินเลขาธิการเฉิง เป็นคนธรรมดาเพราะในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวของเลขาธิการพรรคเสี่ยวเขารู้หลายอย่างเกี่ยวกับ ดงซูบิน ดงซูบินอาจเป็นลูกเขยในอนาคตของครอบครัวเสี่ยว เขาเป็นแฟนของเสี่ยวหลาน และเคยร่วมงานกับมาดามหาน พามาดามหาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพเมื่อเช้านี้ ถ้าเลขานุการเฉิง นั้นแสดงท่าทีที่ให้เกียติดงซูบิน ไม่ว่าเลขาธิการ เฉิงและเลขาธิการพรรคเสี่ยวจะใกล้ชิดแค่ไหนก็ไม่ได้ใกล้ชิดเท่ากับลูกเขยของพรรคเสี่ยว นั่นเป็นเหตุผลที่เลขาเฉิงสุภาพกับเขามาก
ดงซูบินมองไปที่สุดทางเดินและถามเบา ๆ “เอ่อ…เลขาธิการพรรคเสี่ยวจะตามมาใช่ไหมครับ?”
หากเป็นคนอื่นถามคำถามนี้เลขาธิการเฉิงจะเพิกเฉยอย่างแน่นอน แต่ดงซูบินแตกต่างออกไป “ฮ่าฮ่า…เลขาธิการพรรคเสี่ยว ยังอยู่ในการประชุมและผมมาที่นี่เพื่อร่วมเตรียมรับแขกก่อน”
ดงซูบินรู้สึกโล่งใจ ถ้าพ่อของเสี่ยวหลานอยู่ที่นี่เขาจะไม่รู้ว่าควรเข้าใกล้และทักทายเขาหรือไม่ เขายังไม่ยอมรับว่าดงซูบิน เป็นลูกเขยในอนาคตของเขาและมันจะดูหยาบคายเกินไป
เลขานุการ เฉิงมองไปที่เหลียงเฉิงเผิงและภรรยาของเขาและรู้ว่าพวกเขาเป็นข้าราชการเช่นกันและไม่ได้พูดอะไรกับพวกเขา เขาหันไปหาดงซูบิน “เอาล่ะ. ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวก่อน”
ดงซูบินพยักหน้า “ได้เลยครับ ผมจะไม่รบกวนเวลาคุณแล้ว เราจะต้องหาวันมาดื่มกันสักวัน”
เลขาเฉิงตอบ "ตกลง. ถ้าอย่างงั้นต้องหาสักวันแล้วล่ะ”
หลังจากจับมือกันแล้วเลขาเชนก็เดินกลับไปหาแขกและเข้าไปในห้องอาหารอีกแห่ง
หลังจากกลับไปที่ที่นั่งดงซูบินมองไปที่เหลียงเฉินเผิงและภรรยาของเขาดงซูบิน รู้สึกอายเล็กน้อยเพราะเขาเพิ่งบอกว่าเขาไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ มาก่อน หากเหลียงเฉิงเผิงพบความสัมพันธ์ของเขาในวันอื่นเขาจะปฏิบัติต่อสิ่งนี้เหมือนกับที่ดงซูบินเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน แต่คำโกหกของดงซูบินถูกเปิดเผยในจุดนี้ “เอ่อ…หัวหน้าเหลียง มาทานอาหารเย็นกันเถอะ ลองชิมจานนี้ ดูครับ.”
ภรรยาของเหลียงเฉิงเผิงพูดอยู่ในใจ ครอบครัวชาวนา 3 รุ่น? ถ้าครอบครัวของคุณเป็นชาวนา 3 รุ่นครอบครัวของฉันก็จะเป็นชาวนา 10 ชั่วอายุคน!
เหลียงเฉิงเผิงตกใจกับสิ่งที่เห็น!
เลขาธิการเฉิงคือใคร? เขาเป็นเลขาธิการของสมาชิกโปลิตบูโร! แม้ว่าเขาดูยังอายุน้อยอยู่ แต่เขาก็ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักและเขายังได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกโปลิตบูโร! เลขาเฉิง รู้จักหัวหน้าซูบินและน้ำเสียงของเขาสุภาพมาก ความสุภาพนี้แตกต่างอย่างมากกับความสุภาพระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ ด้วยสถานะของเลขานุการเฉิง เขาอาจไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงนี้กับคนที่มีตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก
ทัศนคติของผู้อำนวยการโรงพยาบาล 305 และรถเบนซ์และใบอนุญาตเข้าสู่วิลล่าของคณะกรรมการพรรคของปักกิ่งอาจอธิบายได้ แต่น้ำเสียงและพฤติกรรมของรัฐมนตรีเฉิงแสดงสถานะของดงซูบิน ในปักกิ่ง!
ดงซูบินคือใครกันแน่?
ในที่สุดเหลียงเฉินเผิงก็เข้าใจแล้วว่าดงซูบินมีอิทธิพลแค่ไหนในปักกิ่งและดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพลและน่าจะมีอำนาจมากในปักกิ่ง !!!