ตอนที่แล้วสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 32
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 34

สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 33


ตอนที่ 33 เก็บไปสาม เติมกระสุนแล้วเก็บอีกสี่

ลุคพุ่งเข้าไปข้างหน้าอีกใกล้เป้าหมายขึ้นประมาณสี่ถึงห้าเมตร ก่อนที่เขาจะนอนราบลงกับพื้นเพื่อใช้ผนังบ้านของบิลซ่อนตัว หลังจากสังเกตสถานการณ์การยิงต่อสู้แล้วชั่วขณะหนึ่ง ลุคก็ชักปืนพกขึ้นมาด้วยมือข้างหนึ่งและกระชากปืนลูกซองเตรียมไว้ด้วยมืออีกข้างหนึ่งและวางมันไว้ข้างๆ

และจากนั้นลุคตรวจสอบแมกกาซีนที่เอวของเขา เป็นอย่างสุดท้ายเพื่อให้แน่ใจว่ามีลูกกระสุนเพียงพอและสามารถที่จะต่อสู้โดยที่กระสุนไม่หมดได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นลุคก็สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ แล้วค่อยๆ เคลื่อนไหวจัดร่างกายให้เหมาะต่อการยิงปืน และเล็งไปที่มือปืนซึ่งตอนนี้กำลังหันหลังให้ลุค

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

จากนั้นลุคเริ่มยิงทันทีหลังจากที่เขาเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย ลุคนั้นได้แสดงถึงความคล่องแคล่วและความชำนาญในการยิงปืนซึ่งความคล่องแคล่วของเขาเป็นผลมาจากความคล่องแคล่วที่เพิ่มขึ้นเมื่อเขาเพิ่มค่าสถานะ ซึ่งระหว่างที่ยิงลุคไม่ได้สนใจว่าเขายิงเข้าเป้าหรือไม่ ลุคยิงรัวจดหมดแม็กกาซีนโดยใช้เวลาไม่ถึง 3 วินาทีด้วยซ้ำ

หลังจากยิงจนกรสุนในปืนหมดแล้วเขาก็พุ่งตัวออกจากกำแพงและหมอบไปในสนามหญ้าเพื่อซ่อนตัว

ชั่วขณะนั้นเสียงปืนที่ดังอย่างบ้าคลั่งจากฝั่งแก๊งคาร์ลอสก็หยุดลงไปชั่วเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะเริ่มยิงขึ้นอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้ความรุนแรงดูเหมือนจะน้อยกว่าเดิมมาก

เซลิน่าและเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่กำลังเผชิญหน้ากับเหล่ามือปืน ก็สังเกตุเห็นว่ามือปืนสามคนของแก๊งคาร์ลอสล้มลงกับพื้น

แม้ว่าในตอนนี้จะมีเสียงปืนไรเฟิลอัตโนมัติ ดังว่อนไปหมด แต่ทว่ายังได้ยินเสียงของปืน Glock 17 ปนอยู่ในเสียงเหล่านั้น แม้ว่าเสียงของ Glock 17 จะไม่ได้มีเสียงที่ดังนัก แต่ทว่าคนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ก็สามารถพอจะระบุได้ว่ามีปืน Glock 17 ถูกยิงออกมา

Glock 17 มันเป็นปืนที่ตำรวจในอเมริกาใช้กันมากที่สุด ดังนั้นคนที่จะสามารถยิงปืน Glock 17 ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าใครก็คิดว่าบุคคลนั้นไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอแน่นอนเนื่องจากเอฟบีไอทุกคนตอนนี้ติดอาวุธหนักครบมือและไม่มีทางที่จะใช้ปืนพกในสถานการณ์อย่างนี้อย่างแน่นอน

เซลิน่ารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น จากนั้นเธอก็เล็งปืนไปที่มือปืนที่กำลังยืนทำตัวไม่ถูกอยู่กลางสนามรบและเริ่มยิงอย่างบ้าคลั่ง เธอยิงโดนเข้าที่ไหล่ได้สำเร็จทำให้มีเสียงร้องโหยหวญดังขึ้นก่อนที่มือปืนคนนั้นจะทรุดลงกับพื้น

ในขณะเดียวกันเหล่าเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ตอนนี้ ไม่ได้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่หนักหน่วงเหมือนตอนแรกอีกต่อไปก็สามารถจัดการเหล่ามือปืนที่กำลังถอยหนีด้วยความตื่นตระหนกได้สำเร็จ

เหล่าเจ้าหน้าที่เอฟบีไอรู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน แต่ทว่าก็ยังคงสงสัยด้วยเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสักครู่ พวกคาร์ลอสครึ่งหนึ่งถูกฆ่าลงไปในชั่วพริบตา

อันที่จริงแล้วนับตั้งแต่เริ่มการต่อสู้จนถึงขณะนี้ทั้งสองฝ่ายได้ยิงกระสุนใส่กันมากกว่า 1,000 นัดได้ แต่ยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนักๆ แม้แต่รายเดียว

แต่ทว่าในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาที คนจากแก๊งคาร์ลอสห้าก็ถูกจัดการ

เหล่าอาชญกรเลิกให้ความสนใจ เซลิน่า และ เอฟบีไอ ไปชั่วขณะและพวกเขาก็เริ่มหันไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายพร้อมกับเล็งปืนไปที่ตรอกมืดๆ

แต่ทว่าพวกเขามองไม่เห็นอะไรเลย

ลุคใช้เวลาเพียงสามวินาทีในการยิงปืนจนหมดแม็กกาซีนและรีบหนีไปทันทีหลังจากยิ่งเสร็จ จึงทำให้เหล่ามือปืนไม่มีโอกาสในการตอบโต้เลย

ในขณะที่กำลังวิ่งและพุ่งออกจากกำแพง ลุคก็ถอดแม็กกาซีนที่ว่างเปล่าออกมาและแทนที่ด้วยแม็กกาซีนอันใหม่

จากนั้นลุคก็หยิบปืนลูกซองที่เขากำลังสะพายอยู่ด้านหลังของเขาและถือมันไว้ด้วยมือสองข้าง

จากนั้นลุคก็วิ่งไปที่สนามหน้าบ้านของบิล หมอบลงและมองดูสถานการณ์ปัจจุบัน

‘บิงโก’ ลุคคิดในใจเมื่อพบว่าการใช้ Glock 17 ของเขาก่อนหน้านี้ได้จัดการเหล่ามือปืน พวกคาร์ลอสได้ถึงสามคน

อันที่จริงแล้วลุคแค่หวังไว้ว่าจะสามารถจัดการได้ซักสองคนก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว และลุคยังทำใจเผื่อไว้ว่าในกรณีเลวร้ายสุดคือสามารถจัดการได้แค่คนเดียว แม้ว่าลุคจะมีกระสุนถึง 17 นัด แต่ลุคก็ไม่ค่อยมีความมั่นใจมากนักในการเล็งปืนของเขา

ส่วนมือปืนที่กำลังใช้มือกุมไปที่ไหล่ที่กำลังโชกเลือดอยู่นั้นไม่ใช่ผลงานของลุคอย่างแน่นอน เพราะว่ามือปืนคนนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ไกลเกินกว่าระยะที่ลุคสามารถเล็งได้ 

ส่วนมือปืนอีกคนที่กำลังกุรีกุจอหลบกระสุนอยู่บนพื้นดินเขากำลังเผชิญหน้ากับการยิงกดดันจากเจ้าหน้าที่เอฟบีไออยู่

ซึ่งทั้งสามคนที่ลุคยิงล้มลงไปคือพวกคนที่ยิงใส่เซลิน่า และพวกเขาเป็นกลุ่มเดียวที่หันหลังให้กับลุคอย่างเต็มที่และยังยืนอยู่ใกล้กันจึงทำให้ลุคสามารถยิงพวกมันได้ง่ายขึ้น

และนั่นก็ยังเป็นเหตุผลที่ลุคสามารถกำจัดพวกเขาสามคนด้วย Glock 17 ของเขาได้

ลุคพยายามปรับลมหายใจให้สงบและฟังเสียงของผู้บัญชาการของพวกคาร์ลอส ที่กำลังพูดไม่หยุดที่อีกฝั่งหนึ่งของกำแพง แต่ทว่าลุคเสียใจอย่างยิ่งเมื่อเขาพบว่าเขาไม่เข้าใจคำพูดของคนๆ นั้นเลย

ผู้ชายคนนั้นกำลังพูดภาษาสเปนและลุคเข้าใจคำพูดเหล่านั้นได้เพียงไม่กี่คำ คำพูดที่ลุครู้ส่วนใหญ่ ลุคได้จำมาจากเซลิน่าเมื่อตอนที่พวกเขาคุยเล่นกัน

แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคำหนึ่งที่ลุครู้ความหมายคือคำว่า “ถอย” พวกเขากำลังจะหนี!

ลุคแสยะยิ้มในใจพลางคิดกับตัวเอง “อะไรกันไอ้พวกนี้ พวกแกคิดว่าที่นี่เป็นห้องน้ำตามปั้มรึไง ที่คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไปได้ง่ายๆ งี้หรอ”

จากนั้นมือปืนสองคนรีบปีนขึ้นบันไดที่ด้านของรถบรรทุกเก็บขยะ และคนที่ดูเหมือนจะเป็นคนหัวหน้าก็กระโดดขึ้นที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าขณะที่มือปืนอีกคนหนึ่งยืนอยู่ที่บันไดข้างประตูรถบรรทุกเก็บขยะ

รถเก็บขยะค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากพื้นที่และเลี้ยวขวา เมื่อรถบรรทุกเลี้ยวมือปืนสองคนที่อยู่ด้านหลังก็เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอทั้งสี่

ส่วนลุคนั้นยืนเงียบๆ อยู่หลังประตูบ้านของบิลที่กำลังเปิดอยู่ ลุครออย่างเงียบ ๆ พร้อมกับปืนลูกซองในมือ

ในขณะที่รถบรรทุกกลับรถและเริ่มเร่งความเร็วมากขึ้นด้านหน้าของรถบรรทุกก็ปรากฏขึ้นทางด้านซ้ายของลุค

ลุคพุ่งออกมาด้วยความเร็วที่มากกว่ามนุษย์ทั่วไป ก่อนจะยิงกระสุนนัดแรก

ปัง!!

มือปืนที่ห้อยขาอยู่ด้านข้างของรถบรรทุกขยะล้มลง

แคร่ก! ลุคกระชากปืนลูกซองและยิงอีกครั้งหนี่ง

ปัง!

กระจกหน้ารถบรรทุกเกิดรอยแตกขนาดใหญ่

แคร่ก! ปัง

ลุคยิงซ้ำไปที่กระจกหน้า

ในที่สุดคราวนี้เห็นได้ชัดว่ากระสุนทะลุกระจกหน้ารถไป และถึงแม้ว่าลุคจะยังมองไม่เห็นเป้าหมาย แต่เขาก็ได้ยินเสียงคนขับที่โอดครวญด้วยความเจ็บปวดก่อนที่รถจะหักเลี้ยวไปทางซ้ายอย่างแรง

ลุคยังคงหลบอยู่ที่เดิม

แคร่ก! ปัง

มือปืนที่อยู่ด้านหลังของรถบรรทุกตกลงจากรถในขณะที่รถบรรทุกหักเลี้ยวกะทันหัน และด้วยระยะห่างไม่ถึงห้าเมตรระหว่างลุคและพวกเขา การถูกยิงด้วยปืนลูกซองจังๆ ทำให้ร่างของพวกแก๊งคาร์ลอสหมุนและกระเด็นออกจากรถบรรทุกทันที

แคร่ก! ปัง

มือปืนอีกคนที่อยู่ท้ายรถถูกกระสุนปืนเข้าอีกครั้ง

จากนั้นลุคก็มองรถบรรทุกอย่างเย็นชา ขณะที่รถบรรทุกหักเลี้ยวและพุ่งไปทางสนามที่อยู่อีกฝั่งตรงข้ามกับบ้านบิลก่อนที่มันจะหยุดลงหลังจากที่มันพุ่งเข้าใส่รถของเซลิน่าอีกครั้ง

จากนั้นเขาหยิบกระสุนปืนลูกซองออกมาจากเข็มขัดกระสุนและบรรจุใส่ปืนลูกซองของเขาใหม่อย่างสบายๆ ไม่เร่งรีบ

อันที่จริงลุคแทบไม่เคยใช้ปืนลูกซองเลยและเพิ่งฝึกใช้เพียงครั้งเดียวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ลุคนั้นยังไม่อยู่ในระดับที่สามารถยิงปืนลูกซองสองนัดในหนึ่งวินาที

แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่ได้เร่งรีบขนาดนั้น

ลีกอย่างนี่เป็นช่วงเวลากลางคืน หากเขาแสดงตัวตอนนี้เซลิน่าอาจจำเขาได้ แต่กับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอคงไม่รู้ละคิดว่าลุคอาจจะเป็นศัตรูและอาจจะยิงเขาได้

ดังนั้นลุคจึงไม่ได้รีบที่จะแสดงตัวหรือส่งเสียงใดๆก่อนที่สถานการณ์จะสงบลง

หัวหน้าที่ควบคุมการโจมตีครั้งนี้ของพวกคาร์ลอสน่าจะยังมีชีวิตอยู่ และนั่งบนเบาะผู้โดยสารด้านหน้า

ระหว่างที่ลุคกำลังซุ่มต่อนั้นจู่ๆ ประตูผู้โดยสารก็เปิดออกและมีร่างร่างหนึ่งม้วนตัวออกมา และกลิ้งเข้าไปใต้ท้องรถบรรทุกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะคลานไปอีกด้านหนึ่งโดยไม่ให้โอกาสลุคยิงใส่เขา

“สัสเอ้ย” ลุคสบถ

คนคนนั้นคือหัวหน้าของพวกมือปืน และเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์อย่างมาก

ด้วยเหตุนั้นลุคจำใจต้องเดินไปรอบ ๆ บ้านและขึ้นไปบนกำแพงอีกครั้ง จากนั้นเขาก็มองลงไปที่มือปืนที่ถูกยิงไปก่อนหน้านี้

ดวงตาของลุคเต็มไปด้วยเจตนาในการฆ่าและปราศจากซึ่งความลังเลใด ๆ ลุคเล็งปืนลูกซองไปที่มือปืนที่ถูกเซลิน่ายิงเข้าที่ไหล่

ปัง!

มือปืนที่กำลังเปียกโชกไปด้วยเหงื่อจากความเจ็บปวดเมื่อสังครู่ จู่ๆเลือดก็กระจายออกมาจากหน้าอกของเขา เขาจ้องที่หน้าอกของเขาอย่างไม่เชื่อก่อนที่จะแน่นิ่งไป

ลุคก็กระโดดออกจากกำแพงพร้อมกระชากปืนลูกซองของเขาไปพลางๆ เขายิงมือปืนที่นอนแผ่หราอยู่บนพื้นทุกครั้งที่เขาวิ่งผ่าน และในระยะใกล้เช่นนี้เขาไม่จำเป็นต้องเล็งอีกต่อไป

หลังจากลุคจัดการพวกมืปืนทั้งหมดเขาก็ตะโกนว่า“ผมคือลุค พื้นที่นี้เคลียร์แล้ว อย่ายิง”

ในช่วงที่เสียงปืนของลุคดังเมื่อจัดการพวกมือปืนเจ้าหน้าที่เอฟบีไอตกใจเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเป็นลุคพวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เพราะพวกเขารู้ว่าไม่มีมือปืนคนไหนที่ใช้ปืนลูกซองเลยเมื่อตอนยิงสู้กันเมื่อกี้เลย

และพวกเขาต่างก็ทราบดีว่าลุคนั้นได้หยิบปืนลูกซองออกมาจากกรมด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด