ตอนที่ 113 อสูรปลาผีเสื้อ ระดับ 5
ตอนที่ 113 อสูรปลาผีเสื้อ ระดับ 5
มันก็คือปลาผีเสื้อกลายพันธุ์ตัวไม่ใหญ่มากนัก ราว ๆ 2 เมตรกว่า ๆ เท่านั้น มันว่ายเข้ามาหาไนเรลด้วยความรวดเร็ว แต่แล้วมันก็หยุดต่อหน้าไนเรลและมองที่เขาไม่ละสายตา
ไนเรลเองก็อยู่ในท่าทีระวัง เป็นไปได้เขาก้ไม่อยากจะสู้กับมันในน้ำซักเท่าไหร่
แต่แล้วอยู่ ๆ หัวของปลาผีเสื้อกลายพันธุ์ก็ค่อยค่อย ๆ เปลี่ยนร่างและกลายเป็นเหมือนกับหัวของมนุษย์
“อสูร” ไนเรลพูดออกมาด้วยความตะลึก ในจะไปคิดว่าในทางน้ำใต้ดินจะมีสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์พัฒนาจนเป็นอสูรได้
“กิน...” นั้นเป็นแค่คำพูดเพียงคำเดียวของมันด้วยภาษายักษ์เถื่อน ดูเหมือนอสูรปลาผีเสื้อกลายพันธุ์ตัวนี้จะเคยพบเจอกับยักษ์เถื่อนมาก่อน แต่ก็ไม่แปลกเพราะในเมื่อที่นี่เคยมียักษ์เถื่อนลงมาสำรวจ ไม่รู้ว่ายักษ์เถื่อนพวกนั้นยังอยู่หรือไม่ บางทีหลายตัวอาจจะกลายเป็นอาหารไปแล้ว และก็มีบางตัวที่รอดมาได้ ไม่อย่างนั้นพวกมันจะมีแผนที่เส้นทางออกนี้ได้อย่างไร อีกทั้งยังระบุไว้ว่าอันตราย ดูท่าที่ว่าอันตรายคงมาจากเจ้าตัวนี้
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ไนเรลจะมาสนใจเรื่องนั้นเพราะอสูรปลาผีเสื้อที่มีพลังไม่น้อยกว่าระดับสีน้ำเงินขั้นต้นเลย อีกทั้งยังอยู่ในน้ำและพุ่งตรงมาหมายจะโจมตีเขาแล้ว
ไนเรลเองก็ไม่รอช้ากลายร่างเป็นอมนุษย์กิ้งก่ายักษ์ในทันที ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ร่างที่เหมาะสมนักในการต่อสู้ใต้น้ำ แต่มันก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
เพราะว่าเส้นทางที่เขาอยู่ตอนนี้มันไม่ใหญ่นัก จะใช้ดาบโลหะผสมที่เป็นดาบยาวในสถานที่แคบ ๆ แบบนี้ก็เท่ากับหาเรื่องตายเท่านั้น
ไนเรลเลือกที่จะปิดบัญชรฆ่ามันอย่างรวดเร็วไม่เช่นนั้นเขาจะเสียเปรียบได้ถ้ายื้อเวลานานเกินไป
กรงเล็บที่แหลมยาวของกิ้งก่า ผิวหนังที่เหมือนกับเกล็ดของไนเรลสร้างความแปลกใจให้กับอสูรปลาผีเสื้อพอสมควร
แต่มันก็ไม่คิดจะล่าถอย เขามาโจมตีไนเรลซึ่ง ๆ หน้า
ไนเรลไม่ได้รับการโจมตีโดยตรงเขาหลบไปด้านข้างและโจมตีเขาไปที่กลางลำตัวของอสูรปลา แต่ก่อนที่กรงเล็บที่แหลมคมของเขาจะสัมผัสกับลำตัวของมัน หางของอสูรปลาก็สะบัดผ่านน้ำเข้ามาที่ตัวของไนเรลอย่างรุนแรง
ไนเรลทิ้งตัวลงไปลึกกว่าเดิม 1 เมตรเพื่อหลบไปใต้ลำตัวของมันอย่างฉิวเฉียด พร้อมกันนั้นก็ใช้กรงเล็บข่วนไปที่ตัวปลาช่วงท้องที่เป็นจุดที่อ่อนแอที่สุด
จนเกิดลอยแผลลึกห้ารอยพร้อมเลือดสีแดงของอสูรปลาไหลออกมาเป็นทางยาว ส่งผลให้มันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ไนเรลไม่รอช้าใช้ความสามารถ [เพลิง A] ของตนอาบไร้ไปตามกรงเล็บและหมัดทั้งสองข้างกะซวกเข้าไปที่อสูรปลาอีกครั้ง
ครั้งนี้มันสร้างบาดแผลที่ลึกมากกว่าเก่าพร้อมกับกลิ่นหอมของเนื้อปลาเผาที่ลอยเข้ามาเตะจมูกเขา แต่ตอนนี้มันไม่ใช้เวลาที่ไนเรลจะมาใส่ใจเรื่องนี้
เพราะขณะนี้ฟองอากาศที่ไนเรลสร้างขึ้นอยู่ ๆ ก็เข้าแนบชิดกับฟองอากาศของอสูรปลากลายพันธุ์ และเขากำลังจะสูญเสียการควบคุมฟองอากาศของตนเอง
ไนเรลรู้ได้ทันทีว่าความสามารถ [สนามพลังอากาศ D] ของอสูรปลาผีเสื้อระดับ 5 ตนนี้สูงกว่าเขาแน่นอน
ไนเรลรีบแยกตัวถอยห่างออกไปทันที เพราะถ้าเกิดเขาไม่สามารถควบคุมความสามารถ [สนามพลังอากาศ D] ของตนเองได้แล้วละก็มีแต่ตายเท่านั้นในระดับน้ำลึกขนาดนี้
ไม่ว่าจะเรื่องของการหายใจหรือแรงดันของน้ำ
อสูรปลาผีเสื้อเมื่อรู้ว่าไนเรลถอยไปแล้ว มันก็หันกลับมาและจะโจมตีอีกครั้ง
“เดียว นายเป็นอสูรสามารถฟังที่ฉันพูดเข้าใจหรือไม่ ทำไมเราไม่ต่างคนต่างไป ฉันก็จะไปทางนั้น นายก็ไปทางของนาย” ไนเรลยื่นข้อเสนอไปให้กับมัน
“เจ้าลุกล้ำเขต......ต้องเป็นอาหาร......เหมือนเช่นทุกสิ่ง” ใบหน้าของอสูรปลาที่เหมือนกับมนุษย์กล่าวออกมา จากนั้นมันก็ยิ้มออกมาดังใบหน้าของสัตว์เดรัจฉาน แล้วไม่คิดจะพูดกับไนเรลอีก ฉับพลันนั้นมันก็ลงมือโจมตีไนเรลอีกครั้ง
ครีบทั้งสีที่เป็นเหมือนกับปีกของมันนั้นคมราวกับใบมีดขนาดยักษ์ มันว่ายวนไปตามกระแสน้ำจากนั้นก็เขาไปโจมตีไนเรล
“ในเมื่อแกเลือกอย่างนั้นก็อย่างหาว่าฉันโหดร้ายแล้วกัน”
ไนเรลหยิบโซ่โลหะพิภพออกมาพันไปตามแขนทั้ง 2 ของตัวเองและรับการโจมตีของอสูรปลาผีเสื้อ
โซ่ที่ร้อนแดงฉานสัมผัสเข้ากับครีบใบมีดของอสูรปลาผีเสื้ออย่างรุนแรง เสียงที่ดังเหมือนเหล็กกระทบกันอยู่ใต้น้ำตลอดเวลาดังขึ้นมาเป็นระยะ
ไนเรลและอสูรปลาผีเสื้อสู้กันอย่างดุเดือดบางครั้ง ตัวของอสูรปลาก็โดดลูกเตะของไนเรลจนตัวของมันกระแทกกับผนังทางน้ำใต้ดินจนแตกร้าว
ขณะที่ไนเรลก็ต้องหลบครีบที่เหมือนกับมีของมันอย่างฉิวเฉียดจนไนเรลก็รู้สึกกดดันไม่น้อย
แต่ถึงแบบนั้นอสูรปลาก็ยังคงเป็นแค่อสูรจะมาสู้ไนเรลที่สามารถล้มยักษ์เถื่อในระดับเดียวกันได้อย่างสบายได้อย่างไร
ถ้าไม่ใช้พราะว่าตอนนี้อยู่ใต้น้ำทำให้ความสามารถในการเคลื่อนไหวของเขาจำกัดมันคงถูกฆ่าตายไปนานแล้ว
ไนเรลที่ไม่สนใจเรื่องฟองอากาศที่จะโดนแยกควบคุมหรือไม่ กระโดดขึ้นไปบนตัวของอสูรปลาผีเสื้อจากนั้นก็ใช้โซ่ล๊อคไปที่ใช้ใบหน้าซึ่งเป็นคอของมัน ด้วยความที่ไนเรลนั้นโดดเด่นในเรื่องของพละกำลังอยู่แล้วต่อให้อสูรปลาก็ยังสู้เขาไม่ได้
มันถูกไนเรลดึกโซ่สุดแรง บริเวณที่โซ่รัดอยู่นั้นก็เกิดเสียงเหมือนเนื้อที่โดนบีบอัดด้วยบางสิ่งอย่างแรง เจ้าอสูรปลาผีเสื้อเจ็บปวดเป็นอย่างมาก มันดิ้นไปมาสุดชีวิต
ชนผนังทางน้ำใต้ดินทางนั้นที ทางนี้อยู่ตลอดเวลาจนมันเกิดสัญญาว่าจะถล่มลงมาทุกที
เมื่อมันเห็นว่าตนเองนั้นไม่สามารถสู้กับไนเรลได้จึงคิดจะเรียกพวกมา ปากของมันเปิดออกขณะที่เกิดคลื่นสั่นไปมา
ไนเรลที่ตอนนี้อยู่ในฟองอากาศของอสูรปลาผีเสื้อแล้ว เขาก็ไม่สามารถจะทนได้นานอีกเพราะดูเหมือนเจ้าอสูรตนนี้มันจะดึงออกซิเจนของไนเรลจนเกือบหมด
ไม่รอช้าไนเรลต่อยกระหน่ำไปที่หัวอสูรปลาผีเสื้อราวกับแม้ค้าทุบหัวปลาดุกอย่างไรอย่างนั้น
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
เสียงทุบที่ดังแน่นผ่านน้ำอย่างต่อเนื่องพร้อมกับการกรีดร้องของอสูรปลาผีเสื้อและใบมีดครีบของมันที่ฟันไม่หยุด
ไนเรลไม่รู้ว่าเขาใส่แรงและทุบไปมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่สำคัญเพราะตอนนี้อสูรปลาแน่นิ่งไปแล้ว
ตรงส่วนที่เป็นใบหน้าของมนุษย์นั้นเรียกว่าไม่เหลือชิ้นดี ไนเรลไม่รีรออีกรีบเก็บซากของเจ้าอสูรตนนี้ทันที และต้องออกจากที่นี่ก่อนที่จะมีสัตว์กลายพันธุ์ตัวไหนโผล่มาอีก
ไนเรลใช้ความสามารถ [สนามพลังอากาศ D] ของตนได้อีกครั้ง และกำลังที่จะเก็บซากของเจ้าอสูรปลาผีเสื้อนี่ลงไป แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่ ๆ ผนังทางน้ำใต้ดินเกิดพังถล่มลงมา
“ฉิบ*ายแล้ว” ไนเรลถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เพราะทันทีที่ผนังพังลงมามันก็ตามมาด้วยแรงน้ำมหาศาลยิ่งกว่าสิ่งใดพัดพาตัวเขาไปพร้อมกับร่างของอสูรปลาที่ตาย
ไนเรลที่อยู่ในฟองอากาศรีดเค้นพลังทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ฟองอากาศรอบตัวแตกและในตอนนี้เขาก็พยายามเอื้อมมือไปคว้าร่างของอสูรปลาผีเสื้อระดับ 5 อย่างทุลักทุเล
“มานี่สิวะ ฉันไม่ยอมให้เหยื่อที่ล่ามาด้วยความยากลำบากต้องหลุดมือไปหลอก” ไนเรลเอื้อมไปจนสุดมือแต่มันก็ยังไม่ถึง แต่ความพยายามของไนเรลไม่หยุดแค่นั้น เพราะความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั้น
ไนเรลใช้โซ่โลหะพิภพที่ตนยังไม่ได้เก็บเหวี่ยงไปพันร่างของอสูรปลาที่ตายและดึงเข้าหาตัวในทันที เมื่อทำสำเร็จไนเรลก็ได้แต่ยิ้มออกมาแต่แล้วความโชคร้ายก็มาเยื่อนเขาอีกครั้ง
เพราะดูเหมือนว่ากระแสน้ำจะแรงมากขึ้น และพัดพาตัวของไนเรลไปด้วยความเร็วที่สูงขึ้นอย่างน่ากลัว
ไนเรลได้แต่รักษาระดับพลังงานไว้และพยายามประคองไม่ให้ตัวเองสลบไปจากแรงเหวี่ยงของกระแสน้ำ
เขารู้สึกอยากอ้วกเป็นอย่างมาก แต่ก็ฝืนกลืนมันไว้และแล้วไนเรลที่ตอนนี้ลอยไปกับกระแสน้ำโดยมีฟองอากาศที่เหมือนกับลูกบอลหนูแฮมเตอร์ห่อหุ้มไว้พากันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทางน้ำใต้ดิน
....
ที่ถ้ำแห่งหนึ่งมนุษย์ชั้นสูงระดับสีเทา 2 คนและมนุษย์ธรรมดาอีก 5 คนกำลังช่วยกันฆ่าซอมบี้จำนวน 100-200 ตัวที่ไล่ล่าพวกเขาอยู่
หนึ่งในมนุษย์ชั้นสูงที่มีความสามารถ [กำแพงพลังงาน E] ต้านซอมบี้ไว้ส่วนหนึ่งและอีกส่วนได้มนุษย์ชั้นสูงอีกคนที่สามารถ [ขนหนามแม่น B] ออกมาจากร่างกายได้ใช้หนามที่เห็นเหมือนกับเม้นนั้นฆ่าซอมบี้อยู่เช่นกัน
ในขณะที่คนธรรมดาก็ใช้ปืนยิงซอมบี้จากด้านหลังเช่นกัน
“ซอมบี้เงา แย่แล้วมีซอมบี้เงาถอยหลังชนกำแพงเร็ว” หนึ่งในมนุษย์ธรรมดาที่มีสายตาดีสังเกตเห็นซอมบี้เงาขั้น 2 จำลังผุบ ๆ โผล่ ๆ ไปตามกลุ่มซอมบี้เขาก็ร้องตะโกนบอกและยิงไปที่ซอมบี้เงาด้วยเช่นกัน
ทั้งกลุ่มที่เหลือรอดเมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบถอยหลังและระวังตัวทันที และใช้ไฟฉายสองหาซอมบี้เงา แต่ในถ้ำที่มืด ๆ อย่างนี้แสงจากไฟฉายที่มีอยู่ในกลุ่มไม่กี่กระบอกไม่มีทางส่องสว่างมากพอเพื่อป้องกันซอมบี้เงาลอบโจมีอย่างแน่นอน
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกหันหลังเข้าหากำแพงอย่างน้อยก็ลดโอกาสที่จะโดนลอบโจมตีจากข้างหลังได้บ้าง
“บ้าเอยทำไมกลุ่มของพวกเราซวยมาเจอซอมบี้พวกนี้ด้วย ถ้าขืนเป็นอย่างนี้มีหวังพวกเราตายหมดก่อนที่จะได้ผลยกระดับแน่” มนุษย์ชั้นสูงที่มีความสามารถ [กำแพงพลังงาน E] หรือก็คือ โรวัน ที่กล่าวออกมาด้วยความเหนื่อยล้า
“ฉันบอกแล้วว่าอย่ามานายก็ไม่เชื่อ เพราะถึงเขาไปได้นายคิดว่าพวกนั้นจะยอมให้นายง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องนั้นแล้วเราต้องหาทางรอดไปให้ได้ก่อน” เกล มนุษย์ชั้นสูงอีกคนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตำหนิ
“ฉันรู้แล้วน่าตอนนี้เราต้องพาคนของเราออกไปจากที่นี่ก่อน สมแล้วกับที่เป็นถ้ำลี้ภัยถึงได้มีซอมบี้เยอะขนาดนี้ ดีนะที่ตอนนั้นพวกเราไม่พากันมาหลบที่นี่ไม่งั้นได้ตายเหมือนกับซอมบี้เน่าพวกนี้แน่”
“หนีลงไปอีกฝั่งของทะเลสาบนั้นก่อน อย่างน้อยก็ให้ซอมบี้เงาเคลื่อนไหวไม่สะดวกเพราะน้ำพวกนั้นก็ยังดี” เกลกล่าว พร้อมกับวิ่งนำไปมนุษย์ธรรมดาที่อยู่ในกลุ่มของเขาก็วิ่งตามไปทันที
ดูเหมือนว่ากลุ่มนี้จะมีเกลและโรวันสองคนที่เป็นหัวหน้าละมีมนุษย์ธรรมดาที่ถือปืนคอยติดตาม
หลังจากเกลพาทุกคนไปที่อีกฝั่งโดยการว่ายน้ำข้ามไปมันก็ได้ผลเพราะดูเหมือนวอมบี้ระดับต่ำพวกนี้มันว่ายน้ำไม่เป็น และโดยเฉพาะซอมบี้เงาที่อยู่ในฝูงนั้นมันก็เคลื่อนไหวในน้ำลำบากอีกทั้งกลุ่มของเกลก็คอยยิงปืนใส่พวกมันอยู่ตลอดทำให้ซอมบี้เงาต้องหนีถอยออกมา
แต่กับในซอมบี้ธรรมดาแล้วมันไม่มีสติปัญญาอะไรจึงเดินดุย ๆ ลงน้ำดำผุดดำวายไปซึ่งส่วนใหญ่ก็มาไม่ถึงอีกฝั่งโดนเก็บตายกลางน้ำไปก่อน
แต่แล้วขณะที่กลุ่มของเกลที่ดีใจว่าจัดการกับซอมบี้พวกนี้ได้นั้นก็ต้องตกใจ เพราะอยู่ ๆ กลางของทะเลสาบที่ก็เกิดมีน้ำดันสูงขึ้นมาเหมือนกับระเบิด บูม! ขึ้นมา ทำให้ซากศพและซอมบี้ที่อยู่ในน้ำลอยกระจายออกไปคนละทิศละทางอย่างน่าสังเวช
พร้อมกับที่มีร่างของมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่ในสภาพอ่อนแรงลอยตามออกมาจากใต้น้ำ
โผล่อยู่ด้านหน้าของกลุ่มเกล หลายคนถึงกับมองไปด้วยความงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นทำไมถึงมีมนุษย์โผล่ออกมาจากน้ำได้ หรือว่าก่อนที่พวกมันเข้ามาชายหนุ่มคนนี้จะลงไปดำน้ำเล่น นั้นคือความสิ่งที่พวกเกลและโรวันได้แต่คิด