ตอนที่ 42: ให้ตายเถอะ 2 (อ่านฟรี)
หลังจากนั้นไม่นาน เสี่ยวเฉิงก็พลันเหวี่ยงหมัดไปที่เป้าหมายตรงหน้า
ตัวเลขที่ปรากฎขึ้นมาบนจอแสดงผลคือ 165 กิโลกรัม...
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...” ทั้งนายน้อยโจวและเพื่อนชายอีกสองคนพลันส่งเสียงหัวเราะอย่างดังออกมาทันทีที่เห็นเช่นนั้น
ทั้งนี้ ค่าการออกแรงระหว่าง 130 ถึง 180 นั้นถือเป็นระดับความแข็งแกร่งของคนทั่วไป อีกทั้ง หมัดของเสี่ยวเฉิงก็มีแรงแค่ 165 เท่านั้น อันที่จริง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อีกฝ่ายหัวเราะเยาะเย้ยใส่
ทันทีที่ครูฝึกสาวเห็นว่าชายทั้งสามหันไปสนใจเสี่ยวเฉิงแทน เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ถึงกระนั้น มันก็ถือว่ายังเป็นเรื่องดีที่นายทหารทั้งสองถูกทำให้ขายหน้าในวันนี้ บางที เหตุการณ์นี้อาจจะเป็นตัวผลักดันให้ทั้งสองตั้งใจฝึกฝนตัวเองให้หนักขึ้นในอนาคต ถ้าวันนั้นมาถึง นายทหารทั้งสองก็อาจจะไม่ทำให้ครูฝึกสอนระดับเหรียญทองคนนี้ต้องอับอายแล้วก็ได้
“ไปกันเถอะ” ครูฝึกสาวกล่าวคำพูดกับทหารทั้งสองและเดินไปที่ประตูทางออก
ทว่า ทันที่ที่เธอก้าวเท้าออกไปได้เพียงแค่สามก้าว... เสี่ยวเฉิงก็พลันเหวี่ยงหมัดตรงไปที่เป้าหมายอีกครั้ง
ทันใดนั้น ตัวเลขบนจอแสดงผลก็พุ่งขึ้นเป็น 198 ทันที!
ในตอนนั้นเอง ครูฝึกสาวพลันหรี่ตาลงเล็กน้อย แม้แต่นายน้อยโจวกับเพื่อนชายอีกสองคนข้างกายก็แทบจะสำลักน้ำลายตัวเองออกมาทันทีที่เห็นคะแนนใหม่ นอกจากนั้น ทหารทั้งสองนายที่อยู่หลังครูฝึกสาวก็พลันประหลาดใจด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นไม่นาน เสี่ยวเฉิงก็พลันถอยหลังและซัดหมัดไปที่เป้าหมายอีกครั้ง
ปัง!
228!
ในคราวนี้ ทุกคนต่างก็ตกใจและเริ่มสงสัยแล้วว่าเครื่องไดนาโมมิเตอร์นั้นเสียหรือไม่? เกิดอะไรขึ้นกับคะแนนของเสี่ยวเฉิงกัน?
หลังจากนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลันสะบัดมือและส่งหมัดเข้าไปที่เป้าหมายอีกครั้ง!
288!
ทันใดนั้น รูม่านตาของครูฝึกสาวก็พลันขยายใหญ่ขึ้น เธอพลันจ้องมองไปที่เสี่ยวเฉิงด้วยความตกใจยิ่งกว่าเดิม
ทหารใหม่ทั้งสองก็พลันกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตกใจเช่นกัน พวกเขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น... ทั้งสโมสรนั้นเงียบมาก เงียบเสียจนแทบจะได้ยินเสียงเข็มหล่นเลยด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นไม่นาน เสี่ยวเฉิงก็เดินถอยหลังและเหวี่ยงหมัดไปที่เป้าหมายอีกครั้ง!
368!
เขาก้าวถอย และซัดหมัดไปอีกครั้ง!
455!
และอีกครั้ง!
750!
ในตอนนั้นเอง ทุกคนที่มองดูเสี่ยวเฉิงก็พลันตัวแข็งทื่อ โดยเฉพาะนายน้อยโจวและเพื่อนชายในกลุ่มอีกสองคน ทั้งสามพลันรู้สึกหนาวสั่นและหวาดกลัวไปถึงกระดูกสันหลัง
ทันใดนั้น ทั้งสามก็พลันตระหนักถึงบางสิ่ง... หมัดของเสี่ยวเฉิงนั้นสามารถเปลี่ยนพวกเขาทั้งสามให้กลายเศษผักเศษปลาได้เลยหรือไม่?
อันที่จริง แค่แรงหมัด 450 กิโลกรัมของนักมวยระดับโลกอย่างไทสันเองก็สามารถคว่ำใครสักคนได้แล้ว แต่สำหรับแรงหมัด 750 กิโลกรัมของเสี่ยวเฉิง...
ทว่า เสี่ยวเฉิงเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะหยุดเลยแม้แต่น้อย
แต่คราวนี้ เสี่ยวเฉิงพลันง้างกำปั้นไปข้างหลังราวกับกำลังดึงหนังสติ๊ก ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเป็นการเหวี่ยงหมัดครั้งสุดท้ายของเสี่ยวเฉิงแล้ว ทันใดนั้น ครูฝึกสาวที่กำลังจะเดินจากไปตั้งแต่ตอนแรกก็พลันจ้องมองไปยังเสี่ยวเฉิงอย่างไม่ละสายตา
อันที่จริง ไม่มีใครกล้าที่จะกระพริบตาเลยด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นไม่นาน เสี่ยวเฉิงก็พลันออกแรงเหวี่ยงหมัดลูกสุดท้ายไปยังเป้าหมาย แรงหมัดของเสี่ยวเฉิงนั้นทำให้เครื่องวัดพละกำลังขนาดยักษ์ถึงกับสั่นอย่างรุนแรง
ไม่นานนัก ตัวเลขที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอก็ทำให้ทุกคนตกใจไม่น้อย
1257!
ทั้งสโมสรนั้นเงียบเสียจนเสี่ยวเฉิงได้ยินเสียงของทุกคนกลืนน้ำลาย
เสี่ยวเฉิงมองไปยังกำปั้นของตัวเอง เขาพลันรู้สึกว่าเหมือนจะขาดอะไรไปสักอย่าง... ใช่แล้ว กระโดดไง!
ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงก็ก้าวถอย เขาเดินถอยหลังจนไปชนกับนายน้อยโจวโดยไม่ได้ตั้งใจ "ช่วยหลบออกไปหน่อย"
ก่อนที่เสี่ยวเฉิงจะพูดจบ นายน้อยโจวก็พลันถอยหนีอย่างรวดเร็วราวกับเจอร์รี่ที่กำลังจะหนีทอม... ราวกับเสี่ยวเฉิงนั้นเป็นเครื่องบดเนื้ออันทรงพลัง
หลังจากนั้นไม่นาน เสี่ยวเฉิงที่อยู่ห่างจากเครื่องไดนาโมมิเตอร์ประมาณหนึ่งเมตรก็พุ่งตัวไปด้านหน้าพร้อมกระโดดสูง กำปั้นของเสี่ยวเฉิงที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศพลันกระแทกลงไปที่เป้าหมาย
ตู้ม! ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากตัวเครื่องพร้อมกับเสียงไฟฟ้าที่รัดวงจร ทว่า เครื่องไดนาโมมิเตอร์ก็กลับกลายเป็นเศษเหล็กและถูกไฟคลอกไปแล้ว
ทางด้านหลังของเสี่ยวเฉิง ทุกคนรวมถึงครูฝึกสาวผู้เย็นชาพลันอ้าปากค้างด้วยความตกใจทันทีที่มองไปยังเครื่องไดนาโมมิเตอร์ที่กลายเป็นเศษเหล็ก
เครื่องไดนาโมมิเตอร์ถูกทำลายด้วยหมัดเดียว? ให้ตายเถอะ! หมัดสุดท้ายของเสี่ยวเฉิงเมื่อครู่นั้นทรงพลังขนาดไหนกัน?
ทันทีที่เห็นว่าเครื่องไดนาโมมิเตอร์พังไปแล้ว เสี่ยวเฉิงเองก็พลันเบิกตากว้างออกมาเช่นกัน
"ไม่เอาน่า! แล้วแบบนี้จะรู้ผลของหมัดสุดท้ายได้ยังไงกัน?"
ทว่า ทันทีที่เสี่ยวเฉิงตระหนักได้ว่าตนเองได้ทำลายเครื่องไดนาโมมิเตอร์จนกลายเป็นเศษเหล็ก เขาก็รีบเดินจากไปราวกับไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น... เสี่ยวเฉิงพลันเดินออกไปทางประตูพร้อมกับทิ้งให้คนจำนวนมากต้องจมอยู่กับความรู้สึกทึ่งและตกตะลึง
***
ปล. ผู้แปลเปลี่ยนจากตัวอักษรเป็นตัวเลขให้แล้วนะครับ เวลาอ่านจะได้เห็นภาพและสนุกมากขึ้น