ตอนที่ 110 อูคาสิ้นชีพ
ตอนที่ 110 อูคาสิ้นชีพ
ช่วงเวลาที่ไนเรลและทหารยักษ์เถื่อนเข้าต่อสู้กันนั้นมันรวดเร็วมากผิดกับระยะทางที่ยาวไกล ไนเรลที่หลบลูกศรดำที่ยิงเข้ามาพร้อมกับฟันไปที่ยักษ์เถื่อนอย่างต่อเนื่อง
เลือดเนื้อและแขนขาถูกตัดขาก ดาบที่แตกออกจากการฟันของไนเรลถูกทิ้งไว้อยู่เบื้องหลัง โดยที่ตัวของไนเรลนั้นแทบจะไม่เป็นอะไรเลย
การต่อสู้ระหว่างไนเรลและทหารยักษ์เถื่อนยังคงดำเนินต่อ เสียงร้องตะโกนทั้งโกรธและเจ็บปวดก็ดังขึ้นอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายสิบนาที ไนเรลก็ฝ่ามาถึงบันไดทางขึ้น แต่ตลอดทั้งทางนั้นมันกลับเมไปด้วยร่างของทหารยักษ์เถื่อนที่ถือโล่เกราะหนักปิดไว้
“ปลดปล่อยเพลิงกักขัง” เสียงร้องสั่งการของยักษ์เถื่อนดังขึ้น
พร้อมกันนั้นเหล่าทหารยักษ์เถื่อนก็ปลดปล่อยเปลวเพลิงและโจมตีผสานกันกดดันไปทางไนเรล
ตูม!
เสียงอันดังสนั้นก็ดังขึ้นพร้อมกับที่เพลิงร้อนแรงออกมาจากยักษ์เถื่อนนับพันตรงหน้า สร้างเป็นกำแพงเพลิงทั้งสี่ทิศบีบอัดเข้าหาไนเรล
ไนเรลเมื่อเห็นดังนั้นเขาก็พลันดึงสิ่งของบางอย่างออกมาจากเงานั้นก็คือกางเขนมนุษย์ ขางเขนมนุษย์ที่อยู่ในมือของไนเรลเป็นเหมือนกับฆ้อนทุบตีไปที่กำแพงเพลิงกังขังอย่างรุนแรง
ปัง! ปัง! ปัง!
ทหารยักษ์เถื่อนที่สนับสนุนพลังเข้าไปที่กำแพงเพลิงกักขังอย่างต่อเนื่อง ก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีที่เห็นการกระทำของไนเรล เป็นเหมือนกับสัตว์ประหลาด
ไนเรลผสานความสามารถต่าง ๆ ที่ตนมีอยู่เข้าด้วยกันทั้งความสามารถ [เทพไททัน A] [พละกำลัง 50 เท่า B] [อมนุษย์กิ้งก่า B]
ด้วยความสามารถพวกนี้ทำให้พลังของไนเรลนั้นเพิ่มจนถึงขีดสุด จนเขาสามารถบอกได้ว่ามีพลังใกล้เคียงระดับสีน้ำเงินขั้นกลางเลยทีเดียวในความรู้สึกของไนเรล
ปัง!
เสียงจากการโจมตีของไนเรสุดท้ายนั้นดังสนั่นมาก หลังจากนั้นสักพักกำแพงเพลิงกักขังก็เริ่มปรากฏรอยร้าวขยายออกเหมือนดังใยของแมงมุม
ทหารยักษ์เถื่อนที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงไป แต่มันก็ไม่มีน้ำลายให้กลืน เพราะลำคอของพวกมันนั้นแห่งผากราวกับดินทราย
และแล้วกำแพงเพลิงก็ไม่อาจจะรักษาโครงร่างของมันเอาไว้ได้อีก เพราะทหารยักษ์เถื่อนที่ส่งพลังเข้าไปในกำแพงเพลิงต่างก็หมดสภาพเหนื้อยล้ากการรีดเค้นพลังออกมา อีกทั้งตอนนี้ไนเรลนั้นก็ก้าวเดินออกมาจากด้านใน
ตามตัวของเขาก็มีเปลวเพลิงอาบไร้ไปตามร่าง ๆ ราวกับเทพแห่งเพลิง
ไนเรลมีสีหน้าที่ยิ้มเยาะเย้ยมองไปทางทหารยักษ์เถื่อน ตัวที่มีขนาดเท่ากับยักเถื่อน แขนข้างหนึ่งมีโซ่โลหะพิภพพันอยู่ ในมือมีกางเขนมนุษย์ขนาดใหญ่ ส่วนอีกฝั่งมีดาบยาวที่ใช้ตัดแขนของอูคาอยู่
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาฉับพลันนั้นไนเรลก็เข้าไปฆ่าพวกมันราวกับถางต้นหน้าตามทาง
ไนเรลก้าวเดินไปบนทางพร้อมกับศพที่ทิ้งไว้ที่ด้านหลัง แต่ถึงกระนั้นเขาก็เลือกที่จะเก็บศพของพวกระดับ 4 ไปในเงาถ้าสามารถทำได้
และในตอนนั้นเองที่เขากำลังจะฟันไปที่ทหารยักษ์เถื่อนตนหนึ่ง แต่อยู่ ๆ ก็รับรู้ได้ถึงอันตรายที่แอบลอบโจมตีเข้ามา
ไรเรลรู้ได้ทันทีว่ามันคือใคร แต่ก่อนนั้นเขาต้องหลบการโจมตีนี้ก่อนโดยการเอี้ยงตัวไปด้านข้าง
ถึงอย่างนั้นดาบของคนที่ลอบโจมตีเขาก็ยังคงกวาดตามมาแต่มันก็โดนไนเรลใช้ดาบปัดออกไปอย่างง่ายดาย อูคาที่ตอนนี้เผยตัวเองมาแล้วก็มองไปที่ไนเรลด้วยสายตาอาฆาตมาดแค้น
“มนุษย์!!! คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้าอูคาผู้นี้ มาสู้กัน” อูคากล่าวด้วยเสียงเย็นยะเยือกและตรงเข้าหาไนเรล
“หึ ผู้ที่พ่ายแพ้ไปแล้วอย่างแกยังมีสิทธิ์พูดคำนั้นอีกอย่างนั้นหรือ” ไนเรลกล่าวออกมาด้วยสายตาที่ดูถูกอูคาอย่างไม่ปิดบัง
ตอนนี้อูคาเป็นแค่คนที่แพ้ให้กับเขาแล้ว เมื่อเขาเคยชนะมันมาครั้งหนึ่งแล้วก็จะต้องมีครั้งที่สองอย่างแน่นอน
ไนเรลที่หันกลับไปเผชิญหน้ากับอูคาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ไนเรลไม่คิดจะปล่อยอูคาไปเขาจะจัดการปิดบัญชีอูคาให้เร็วที่สุด
ไนเรลที่ปะทะเขากับอูคาอย่างรุนแรง ส่งผลให้ร่างของอูคานั้นถอยกลับไปหลายก้าว ดูเหมือนว่าพลังต่อสู้ของอูคาจะลดลงเป็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่ได้ผิดจากที่ไนเรลคิดเพราะอูคานั้นสูญเสียแขนไปหนึ่งข้างเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนอีกทั้งก็ยังบาดเจ็บหนักในเวลาที่ผ่านมาอูคาไม่มีทางที่จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วแน่นอน
ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่พลังต่อสู้ของอูคาก็มีมากกว่าระดับ 4 อยู่ขั้นหนึ่ง แต่มันไร้ความหมายสำหรับไนเรล เพราะขนาดอูคาที่มีพลังเต็มร้อยตอนที่ทั้งสิงดวลกันที่ภูผาลาวาอูคายังพ่ายให้กับเขาดังนั้นสภาพอูคาในตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“ย้า!!!” ไนเรลฟันไปที่อูคาด้วยดาบผสมโลหะ อูคาก็ใช้ดาบในมือที่เหลือข้างเดียวของตนรับด้วยใบหน้าที่ซีดเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้มีแค่นั้น เพราะไนเรลใช้กางเขนมนุษย์ทุบไปที่ช่องว่างด้านข้างอย่างรุนแรง
ปัง!
ส่งผลให้อูคาร่างกระเด็นถอยไปตามทางเดิน ไนเรลรีบโจมตีซ้ำไปในทันทีอูคาที่เห็นแบบนั้นก็ใช้ความสามารถถนัดของตนเอง แต่แน่นอนว่าไนเรลนั้นไม่มีทางให้เขาได้ลงมือแน่นอนจึงใช้เพลิงของตนเองเช่นกัน
ความสามารถในการควบคุมเพลิงของอูคาและไนเรลปะทะกันอย่างรุนแรง เนื่องจากระดับความสามารถของทั้งสองที่เท่ากัน แต่เพราะไนเรลตอนนี้มีพลังที่เหลือล้นจึงเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างรวดเร็ว
“ไม่ข้าไม่ยอม” อูคาพยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็โดนเพลิงที่อันแอ่นของไนเรลจนกลายเป็นคลื่นเพลิงยิ่งเข้าไปที่กลางหน้าอกจนร่างของมันกระเด็นลอยไปกลางอุโมงค์หลัก หมายเลข 3
ไนเรลที่เห็นดังนั้นก็กระโดนตัวขึ้นไปอยู่เหนือร่างของอูคาพร้อมกับที่เหยียบอูคาลงไป
ถึงแม้จุดที่ไนเรลและอูคาปะทะกันจะไม่สูงมากนัก แต่เพราะได้แรงส่งจากไนเรลก็ทำให้มันรุนแรงพอสมควร
ไนเรลและอูคาร่วงลงไปยังเบื้องล่างที่มีทหารยักษ์เถื่อนนับร้อยรวมตัวกันอยู่ราวกับมด
ตูม!
เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างของอูคาที่จมลงไปในพื้นดิน เผยให้เห็นหลุมที่ลึกประมาณ 5-6เมตรใต้เท้าไนเรล
ไนเรลมองไปที่อูคาที่สภาพตอนนี้ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้ว ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงรับรู้ด่าอูคายังคงมีลมหายใจอยู่
แต่ก่อนที่ไนเรลจะได้ทำอะไรอยู่ก็มีศรดำยิงเข้ามาถากเข้าไปที่ไหล่ของเขา โชคยังดีที่ไนเรลนั้นหลบได้ ถึงแม้มันจะมีเลือดออกเล็กน้อยพร้อมกับเกล็ดจากความสามารถ [กิ้งก่ายักษ์ B]
ไนเรลที่ตอนนี้เมื่อได้เลือดเล็กน้อยเขาก็ต้องหาที่หลบเพราะตอนนี้ศรดำและหน้าไม้ทุกเครื่องเล็งตรงมาที่เขา
ในขณะเดียวกันทางฝั่งของยักษ์เถื่อนก็ต้องเจอเข้ากับปัญหาเช่นกันเพราะตอนนี้ศรดำกำลังจะหมดลง เพราะถึงแม้ศรดำจะเป็นศรที่ทรงพลังแต่มันก็มีน้อยตอนนี้พวกมันก็ยิงไปเกือบหมดแล้วในเวลาที่สั่น ๆ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะไนเรลมีความสามารถอย่าง [เงา S] ที่เคลื่อนที่หลบได้อย่างรวดเร็วละก็ถ้าเป็นระดับ 5 คนอื่นคงร่างพรุนไปแล้ว
“ศรดำหมดแล้วงั้นก็เปลี่ยนไปใช้ศรเหล็กธรรมดาแทน ส่วนศรดำที่เหลือไม่กี่ด้ามใช้ยิงเฉพาะตอนที่มั่นใจว่าโดนเท่านั้น” เสียงสั่งการที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่องนั้นก็คือที่ปรึกษาเรนที่ตอนนี้เห็นอูคาเพลี่ยงพล้ำไปแล้ว แต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงส่งการอย่างไม่สะทกสะท้าน
สำหรับที่ปรึกษาเรนนั้นมันมีแค่เป้าหมายคือ ฆ่าไนเรลหรือกักขังไว้ให้ได้แล้วให้พวกพิพากษามาจัดการ
ไนเรลเมื่อเห็นว่ามีศรระดมยิ่งเข้าใส่เขาอย่างต่อเนื่องก็รีบหาที่หลบ แต่เขายังคงจับร่างของอูคามาด้วย แต่แน่นอนว่าก้นหลุมอุโมงค์หมายเลข 3 นั้นไม่ได้มีซ่อนตัวมากนัก นอกจากศพที่เกลือนไปหมดของทหารยักษ์เถื่อนนับร้อย ๆ ตน เลือดไหลไปตามทางน้ำใต้ดินผสมจนมันข้นไปหมดไม่ต่างจากประหลอด ไนเรลเห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้าหยิบบางอย่างออกมาและใช้มือประกบมันเข้ากับศพ ๆ หนึ่ง
สิ่งที่อยู่ในมือของไนเรลก็คือเมล็ดของต้นกาบหอยแครงปีศาจนับ 10 ที่ตอนนี้เขากำลังเร่งการเจริญเติบโตอยู่
ต้นกาบหอยแครงปีศาจที่ได้เลือดเนื้อของทหารยักษ์เถื่อนจำนวนมากที่ตายอยู่ก็เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยตาที่สังเกตุเห็นได้
ยักษ์เถื่อนที่กำลังวิ่งเข้ามาห่างจากไนเรลไปม่กี่เมตรก็ต้องหยุดชะงักลง ปากของทหารยักษ์เถื่อนที่อยู่ภายใต้หมวกเกาะต่างก็เปิดอ้าออกกว้างเพราะ ณ ขณะนี้ที่เบื้องหน้าของพวกมันกับมีต้นไม้งอกมาพร้อมกับที่ศพของทหารยักษ์เถื่อนแห้งกังไปเหลือแต่เศษเกราะเหล็กซึ่งเกิดจากความสามารถของไนเรลอย่าง [เร่งการเจริญเติบโตของพืช A]
ต้นกาบหอยแครงปีศาจที่สูงกว่า 5 เมตรทั้ง 10 ต้นซึ่งมีพลังโจมตีไม่น้อยกว่าระดับ 4 ได้รับคำสั่งให้จัดการฆ่าทุกอย่างที่เข้ามาให้หมดไม่มีการระเว้น
ยักษ์เถื่อนที่อยู่โดยรอบไม่รอช้าเข้าไปปะทะกับต้นกาบหอยแครงในทันที ทั้งไฟและอาวุธทุกชนิดที่โจมตีเข้ามาอย่างรุนแรงทำให้กาบหอยแครงเสียเปรียบเล็กน้อย เพราะถึงแม้มันจะต้านทานไฟได้ แต่ก็ไม่ใช่การต้านทานที่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งการโจมตีทางกายภาพนั้นก็ได้เปรียบมันไม่น้อย แต่มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น เพราะยิ่งผ่านไปทหารยักษ์เถื่อนก็ตายมากขึ้นและมากขึ้น ยิ่งเพิ่มอาหารและพลังให้กับต้นกาบหอยแครงปีศาจ
แต่ทั้งหมดนี้ไนเรลที่หลบอยู่ตรงกลางไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเขากำลังจัดการกับอูคาอยู่อูคาที่พึ่งได้สติขึ้นมาก็พยายามขัดขืนไนเรล แต่ก็ไม่เป็นผลไนเรลเหยียบลงไปที่แขนข้างหนึ่งของอูคา
“แกยังจำนี่ได้ไหม” ไนเรลหยิบกางเขนมนุษย์พร้อมกับโซ่โลหะพิภพออกมาให้อูคาได้ดู
“เจ้าต้องการอะไร ถึงอย่างไรเจ้าก็หนีไม่พ้นอย่างแน่นอนยอมแพ้ซะ” อูคายังคงพูดขู่กับไนเรลอยู่เล็กน้อย
“หึ เข็มทิศนี่คืออะไร?” ไนรลไม่สนใจคำพูดของอูคาเขารีบถามในสิ่งที่ตนเองอยากรู้ทันที เพราะไนเรลรู้ว่าเวลาของตนนั้นไม่ได้มีมากนักน่าจะแค่ไม่เกิน 2 นาทีก่อนที่ต้นกาบหอยแครงปีศาจจะต้านไม่ไหว
“เจ้าไม่ได้ยินงั้นหรือว่ายอม....อ๊าก ๆ” อูคาพยายามกล่าวชักจูงวไนเรลอีกครั้ง แต่มันก็ถูกเขาใช้กางเขนมนุษย์ทุบไปที่ข้อมือที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวจนมันแหลกเละผสมไปกับดิน
“บัดซบ ไอ้ลูก...เอ๊ย เจ้าต้องตาย ต้องตายไม่มีหลุดฝั่ง” อูคาดาออกมาราวกับคนเสียสติจากความเจ็บปวด ภาพเหตุการณ์นี้มันดูทับซ้อนกับภาพเวลาช่วงที่ไนเรลนั้นโดนในครั้งแรกที่ถูกจับตัวมาจะต่างกันก็แค่ตอนนั้นอูคาตัดเอ็นของไนเรลและไนเรลก็ไม่ได้ร้องสักคำ
แต่ขณะนี้ทุกอย่างมันสลับกัน อูคาแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวดแทน
“ฉันถามว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร” ไนเรลยืนเข็มทิศชีพไปที่หน้าของอูคา แต่ดูเหมือนอูคาจะไม่จนใจตอบคำถามไนเรลเลยแม้แต่น้อย
ถุย! อีกทั้งยังเลือกที่จะถุยน้ำลายในปากไปที่มือของไนเรลที่ถือมันอยู่อีก ไนเรลที่เห็นดังนั้นก็ถึงกับหน้าบึ้งคิ้วขมวด เขาเก็บเข็มทิศชีพที่ได้มาจากตอนที่ฆ่าไคยักษ์เถื่อนตนนั้น ซึ่งในตอนแรกไนเรลก็ยังแปลกใจว่าทำไมของสิ่งนี้ไปอยู่กับไคยักษ์เถื่อนผู้คุมนั้นได้ แต่เขาก็ไม่สนใจ
อีกอย่างที่เขาถามอูคากับของสิ่งนี้ เพราะแค่อย่างรู้ว่ามันมีความสามารถอย่างที่เขาเดาหรือไม่ก็เท่านั้น แต่ในเมื่ออูคาไม่ยอมตอบเขานั้นก็เท่ากับว่าอูคาหมดประโยชน์ไปแล้ว
“ในเมื่อแกเลือกอย่างนั้นก็ตามใจ” ไนเรลกล่าวออกมาจากนั้นก็ยักกางเขนมนุษย์ที่ใหญ่ยาวกว่า 5 เมตรขึ้นมา จากนั้นก็ทุกเข้าไปที่หัวของอูคาอย่างแรง
“เดียว...” อูคาที่ไม่คิดว่าอยู่ไนเรลก็เลือกที่จะฆ่าตนเองในทันทีเมื่อไม่ได้คำตอบก็ทำให้เขารู้สึกเสียใจกับคำพูดของตนก่อนหน้านั้น
แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะเขาพูดได้คำเดียวก็โดนกางเขนมนุษย์ทุบหัวจนเละคาหมวกเกราะ สมองเลือดและสิ่งต่าง ๆ ไหลออกมา ร่างของอูคากระตุกไปมาไม่กี่ทีก็แน่นิ่งไป
เป็นการปิดฉากหนึ่งในยักษ์เถื่อนระดับ 5 อัศวินอูคาลง ณ ที่ก้นหลุมอุโมงค์หลักหมายเลข 3