Ep.698 - ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป
3/5
Ep.698 - ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป
“ซวยแล้ว!” สีหน้าของตงหยางแปรเปลี่ยนกลับกลาย
“ทำไมหรือ?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
หนานกงชิกับเก๋อหลางเอ่ยถามพร้อมกัน
ท่าทีของตงหยางกลายเป็นจริงจังและกล่าว “มันเป็นเสียงของพรายทารกครวญ!”
ชื่อนี้ สำหรับในทะเลนรกแล้ว มันคืออีกหนึ่งตำนานอันน่าสะพรึงกลัว
แม้มันจะไม่น่ากลัวเท่ากับเขมือบฟ้า อีกทั้งเรือดำน้ำที่จอดอยู่รอบชายฝั่งยังไม่มีปฏิกิริยาใด แต่มันก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำให้หน้าเปลี่ยนสีได้เช่นกัน
ในเวลานี้ ห่างจากเกาะภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปราวๆสองกิโลเมตร บนผิวน้ำทะเล ปรากฏร่างทารกกำลังแหวกว่าย
ผิวของทารกละเอียดอ่อน ขาวราวหิมะ คู่ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล กระทั่งผมเผ้ายังเป็นสีบลอนด์ยาว เชื่อว่าทุกคนที่เห็นทารกนี้ จะเกิดความรู้สึกว่าเธอเป็นเด็กสาวที่น่ารัก น่าถนุถนอมอย่างแน่นอน
แต่กระนั้น ส่วนช่วงล่างของทารก มันกลับปกคลุมไปด้วยหางปลาสีทอง รูปลักษณ์ของเธอเลยดูไม่ต่างจากนางเงือก!
แต่เมื่อเทียบกับร่างกายที่ดูละเอียดละออของเธอ มือของเธอกลับดูน่ากลัวกว่ามาก ปรากฏเล็บสีฟ้าครามในมือ แหลมคมอย่างไม่เชื่อ คล้ายสามารถตัดได้กระทั่งหินผา!
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ แม้ดูเป็นเด็กน้อยน่ารัก แต่มันมีขนาดใหญ่มาก!
แค่ครึ่งบนของร่างบวกกับหาง ก็ยาวกว่า 10 เมตรแล้ว และตามสัดส่วน ช่วงหัวของทารกยังกว้างมากถึง 3 เมตร ส่งผลให้ตัวมันดูน่าหวาดกลัวยิ่งนัก!
นี่แหละคือพรายทารกครวญ!
“ลา ลา ลา ลา ~”
น้ำเสียงที่ฟังดูไพเราะ ขับกล่อมให้เปลือกตาของสัตว์ทะเลรอบกายเธอค่อยๆหุบต่ำลง จมสู่การหลับใหล!
เรื่องนี้ฟังดูไม่ได้น่ากลัวอะไรก็จริง แต่ประเด็นก็คือ เกรงว่าการหลับใหลในครั้งนี้ อาจกินเวลายาวนานนับเดือน นับปี หรือตลอดไป! ซึ่งอ้างอิงตามช่วงเวลาแล้ว หากสัตว์ทะเลเหล่านี้ไม่ถูกกัดกินโดยสัตว์ร้ายตัวอื่น พวกมันคงอดตาย!!
หลังจากว่ายน้ำไปได้สักพัก พรายทารกครวญเหมือนจะเห็นอะไรบางอย่าง มันเริ่มแสดงสีหน้าท่าที แต่เหมือนว่าจะดูไม่ค่อยดีนัก คล้ายได้เห็นปลาหน้าตาน่าเกลียดในสายตา
“แอ๊!!”
พรายทารกครวญขับลมผ่านลำคอสุดเสียง ร้องไห้ออกมา สัตว์ทะเลรอบๆที่อยู่ในรัศมีพันเมตรของเธอ พลันเบิกตาโพลง ตื่นจากการหลับใหล ดวงตากลายเป็นแดงก่ำ และหันมาฆ่ากันเอง
นี่แหละคือวิธีการโจมตีของพรายทารกครวญ!
มันคือจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล A5 ครอบครองพลังสมาธิอันน่าหวาดกลัว ฉกาจในด้านเทคนิคยั่วยวน!
อันที่จริงแล้วอบิลิตี้เช่นนี้ หากเกิดจากสัตว์ร้ายระดับต่ำคงไม่น่ากลัวนัก แต่เมื่อมันเกิดจากฝีมือพรายทารกครวญ เพียงแค่มันเปล่งเสียงออกมา ก็สามารถควบคุมทุกสิ่งมีชีวิตในรัศมีพันเมตร
ยามมันขับขาน ผู้คนพานหลับใหล ยามมันคร่ำครวญ ผู้คนพานตกอยู่ในความบ้าคลั่ง!
เมื่อพบพรายทารกครวญ แทบทุกครั้งผู้ใช้พลังจะเริ่มหันมาฆ่ากันเอง!
การดำรงอยู่ดังกล่าว ท่านลองจินตนาการเอาเถิดว่าน่าหวาดกลัวขนาดไหน
ผู้ใช้พลังเลเวล A แม้สามารถต้านทานอบิลิตี้ของพรายทารกครวญได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะยื้อไปได้นานแค่ไหน!
ฉินเฟิงพอได้ยินคำอธิบายพวกนี้ สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนไปเช่นกัน
นั่นเพราะประวัติศาสตร์ไม่เหมือนเดิม!
ฉินเฟิงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าพรายทารกครวญจะปรากฏตัวขึ้นในอาณาเขตทะเลแห่งนี้ แต่พอลองทบทวนดูดีๆ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร
เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะเขมือบฟ้าตายแล้วนั่นเอง!
เมื่อเขมือบฟ้าตาย อาณาเขตแห่งนี้ก็ไม่มีเจ้าของ ดังนั้นหากมีสัตว์ร้ายทรงพลังตนอื่นรุกรานเข้ามา ถือเป็นเรื่องปกติ
“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกันดี?” เก๋อหลางสลับมองหนานกงชิกับตงหยาง
แต่สองคนที่เหลือ กลับเบนสายตาไปมองกองทรายสีทองมากมายที่ยังเหลืออยู่ ในหัวใจบังเกิดความรู้สึกไม่ยินยอม
“ที่นี่มีเลเวล A ตั้งมากมาย น่าจะพอรับมือพรายทารกครวญได้!” หนานกงชิกล่าว
“แต่ผมกลัวว่าในสถานการณ์นี้ ถ้าดันมีเลเวล A บางคนไม่สามารถต้านทานการควบคุมขึ้นมา มันเท่ากับว่าพวกเราต้องหันมาฆ่ากันเอง มีศัตรูเพิ่มขึ้นหรือ!” ฉินเฟิงกล่าวเสียงเย็น
ในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพรายทารกครวญ เขาก็เตรียมตัวพร้อมสรรพ หากอีกฝ่ายเริ่มลงมือ ฉินเฟิงจะบดขยี้ตัวเชื่อมมิติ กลับไปยังเมืองเฟิงหลีทันที
“เตรียมการอพยพเถอะ” ฉินเฟิงโน้มน้าว
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง ตลอดทั้งภูเขาศักดิ์สิทธิ์เกิดการสั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน
ครืนนนน!
ต้องทราบนะว่า ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เดิมผุดขึ้นมาจากก้นทะเล แม้พื้นดินช่วงบนจะแข็ง สามารถเหยียบย่ำและมีพืชพรรณเติบโตขึ้นได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว โครงสร้างภายในของมันเปราะมาก
ขณะนี้ เมื่อเกิดการสั่นสะเทือน เลยส่งผลให้สถานที่หลายแห่งเริ่มพังทลาย ถล่มลงมา
เพียงแต่ว่า ความสนใจของผู้คน เห็นได้ชัดว่ามิได้มุ่งมายังการสั่นสะเทือนนี้ เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าหวาดกลัวยิ่งกว่า
กำลังภายในของฉินเฟิงอัดฉีดลงบนใต้ฝ่าเท้า ทะยานออกไปยังขอบของหลุมใหญ่
ฉินเฟิงย่ำสองเท้าวิ่งขึ้นไปบนยอดไม้ กวาดมองออกไปในระยะไกล และพบว่ามีเกาะๆหนึ่งกำลังตรงใกล้เข้ามา
“นั่นปีศาจขุนเขา!”
หัวใจของฉินเฟิงต้องสั่นสะท้านอีกครั้ง
ปีศาจขุนเขาไม่เหมือนกับปลาราหูที่ฉินเฟิงเคยเห็นก่อนหน้านี้ ปลาราหูเป็นแค่ชื่อสามัญทั่วไปของสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง ทว่าปีศาจขุนเขามีเพียงหนึ่งเดียว ผู้คนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นสัตว์ทะเลชนิดใด
สมญานี้ เกรงว่าคนจะมีแค่สัตว์ร้ายที่อยู่เบื้องหน้าเท่านั้น จึงจะคู่ควร!
มันคือจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล A4 ทั้งยังเป็นการดำรงอยู่ที่อีกก้าวเดียวก็จะพ้นประตูสู่ขอบเขตระดับเทวะ เป็นอันดับแรกในบรรดาสิบสัตว์ยักษ์แห่งทะเลนรก
ขนาดตัวของปีศาจขุนเขา ใหญ่เป็นสองเท่าของเขมือบฟ้า ท่านสามารถจินตนาการได้ว่าสัตว์ร้ายตัวนี้น่าหวาดกลัวเพียงใด
ตามตัวของมันคล้ายปูไปด้วยหินสีดำ มีรูปลักษณ์ไม่ต่างจากขุนเขา!
ช่วงเวลานี้ มันกำลังขยับกาย ย่างขึ้นสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์
เหล่าเลเวล A ไม่ได้ยินเสียงของพรายทารกครวญ หรือบางทีอาจไม่เคยได้ยินตำนานของทะเลนรก ดังนั้นไม่ค่อยรู้สึกตื่นกลัวเท่าใด
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเผชิญกับรูปลักษณ์และกลิ่นอายของปีศาจขุนเขา พวกเขาบังเกิดความรู้สึกขลาดเขลาขึ้นมาไม่ได้
บนฝั่ง บังเกิดเสียงกรีดร้องตื่นตระหนกของเลเวล B นับไม่ถ้วน พวกเขาพยายามหลบหนี แต่เพียงปีศาจขุนเขาเคลื่อนไหว ทรายก็กระเซ็นลงมาจากฟ้า โถมทับเลเวล B เหล่านี้ และในพริบตาเดียว เลเวล B ที่สัมผัสโดนมันก็แปรสภาพกลายเป็นหินโดยสิ้นเชิง นิ่งงันไม่ไหวติง ปีศาจขุนเขาบดขยี้ลงมา ทับเลเวล B ไว้ใต้ตัวมัน เชื่อว่าคนเหล่านี้ ทั้งหมดคงกลายเป็นสารอาหารไปเป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด
ปรากฏเสียงคำรามที่ดังและฟังชัดอีกระลอก ฉินเฟิงหันศีรษะของเขา และพบว่าอีกในทิศทางหนึ่งของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏสิ่งมีชีวิตน่าขนพองที่มีเนื้อสีชมพูผลุบขึ้นมาจากทะเล
เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ มีจุดสีส้มกระจายตามตัว ดังนั้นโดดเด่นในทะเล หนวดของมันหนาจนมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 5 - 6 เมตร ทั้งยังมีอย่างน้อยก็ร้อยหนวด!
ทว่าตัวของมันกลับค่อนข้างเล็ก มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 100 เมตรเท่านั้น ขนาดพอๆกับสนามเด็กเล่น แต่ประเด็นก็คือ หนวดของมัน สามารถยืดหดได้ไกลเป็นกิโล!
“เป็นร้อยกรงเล็บ!”
ฉินเฟิงย่อมตระหนักได้ในทันทีว่านั่นคือสิ่งใด!
สัตว์ยักษ์ในสิบอันดับของทะเลนรก มาเยือนที่นี่อย่างกะทันหัน!
“ลา ลา ลา ลา ลา ลา!” พรายทารกครวญเริ่มขับขานอีกครั้ง ทั้งยังแหวกว่ายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
พลังงานโปร่งใสชั้นหนึ่งที่สามารถบิดเบือนการมองเห็นลอยขึ้นไปเหนือหัวของผู้คน
“กี๊ซซซซ!” ร้อยกรงเล็บเหมือนจะไม่ยินยอมแสดงความอ่อนแอของตน หนวดนับร้อยตวัดอย่างบ้าคลั่งเมามัน ปลดปล่อยรังสีแสงสีฟ้าน่าหวาดกลัว ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
ตึงงง!
ปีศาจขุนเขาก็เช่นเดียวกัน พายุทรายสีน้ำตาลเข้มถูกปลดปล่อยออกจากตัวมัน ฟุ้งกระจายไปในอากาศ
พริบตานั้นชั้นแสงโปร่งใส , รังสีแสงสีฟ้า และพายุสีน้ำตาลเข้มพลันปะทะกันบนท้องฟ้า
พลังงานจากสามสายต่างยื้อยุทธ คล้ายไม่ยินยอมแสดงว่าตนอ่อนแอและด้อยกว่า
พวกมันกำลังต่อสู้ เพื่อแก่งแย่งกัน
ภายใต้แรงกดดันดังกล่าว ผู้ใช้พลังที่อยู่ใจกลางภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ล้วนได้รับความกดดันอย่างหนัก
“ไม่ดีแล้ว เจ้าพวกนี้มันคือเทคนิคเขตแดน!”
“เป็นสนามพลังเขตแดน!”
สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนไป และเริ่มปลดปล่อยสนามพลังเขตแดนของตนเองออกมา
“เทคนิคเพลิงบรรจบ!” ฉินเฟิงก็ปลดปล่อยอบิลิตี้ของตนเองเช่นกัน แน่นอนว่ารัศมีของมันมีขนาดเล็กมาก ประมาณ 5 เมตรเท่านั้น นี่ถูกใช้เพียงเพื่อต้านทานพลังที่ถาโถมลงมา
เขาเร่งหยิบเขาตัวเชื่อมมิติ กระตุ้นพลังสมาธิส่งสัญญาณออกไป
แต่ช่างน่าเสียดาย ที่แม้ตัวเชื่อมมิติจะถูกบดขยี้จนแหลกเป็นเสี่ยงแล้วก็ตาม แต่กลับไม่มีช่องว่างมิติปรากฏขึ้น--
--มิติถูกปิดกั้นอย่างกระทันหัน เนื่องจากสนามพลังภายนอกรุนแรงเกินไป!