Ep.695 - ทรายธารเวลา
Ep.695 - ทรายธารเวลา
สำหรับเลเวล C พวกเขาครอบครองทรัพย์สินอย่างมากก็แค่ไม่กี่แสนล้าน ซึ่งนั่นอาจเรียกได้ว่าเป็นเงินเก็บทั้งหมดของตระกูล แต่พวกเขากลับยอมทุ่มมันเพื่อแลกกับทรายในขวดเล็กๆแค่ใบเดียว!
ฉินเฟิงในช่วงเวลานั้น มิได้มีความแข็งแกร่งโดดเด่นอะไร ดังนั้นในความคิดของเขา เงินจำนวน 1 ล้านล้าน เกรงว่าคงไม่มีทางหาได้ตราบชั่วชีวิต!
แน่นอน กระทั่งในภายหลัง ทรายธารเวลาก็ยังไม่ใช่ทรัพยากรที่เขาสามารถครอบครอง เจ้าสิ่งนี้ อันที่จริงแล้วมันสูงค่าจนไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ เจ้าสิ่งนี้ สมควรใช้เป็น ‘ทุนสำรองทางยุทธศาสตร์’ จึงจะเหมาะสมกว่า!
เพราะทรายธารเวลา มันสามารถส่งผลต่อองค์ประกอบพลังงานของพื้นดิน สามารถเปลี่ยนแปลงสวรรค์และปฐพีได้
สาเหตุที่เมืองหลวงมังกรกลายเป็นศูนย์บัญชาการที่ทรงอำนาจที่สุดของพันธมิตรหัวเซี่ย นั่นเป็นเพราะการดำรงอยู่ของพลังงานอันอุดมสมบูรณ์บนพื้นดินเช่นกัน!
ดังนั้น หมายความว่าด้วยทรายธารเวลาเหล่านี้ ฉินเฟิงจะสามารถสร้างเมืองหลวงมังกรแห่งที่สองได้!
“ไป๋หลี เร็วเข้า รีบเก็บพวกมัน เก็บมาให้หมดเลย!”
ทว่าไป๋หลีกลับส่ายหัวและกล่าว “ไม่ได้ วัสดุชนิดนี้ ถ้าเก็บแบบเปล่าๆ มันจะบดขยี้พื้นที่มิติของฉัน”
ฉินเฟิงหันขวับไปมองไป๋หลีอย่างคาดไม่ถึง
ไป๋หลีเร่งกล่าว “ถึงแม้พื้นที่มิติของฉันจะทรงประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะสามารถรองรับทุกอย่าง ฉันรู้จักวัสดุประเภทนี้จากในความทรงจำที่ได้รับสืบทอดมา มันบอกว่าฉันสามารถดูดซึมมันอย่างช้าๆได้ แต่ถ้าให้ใส่เข้าไปเป็นจำนวนมาก แบบนั้นไม่สามารถทำได้”
ฉินเฟิงไม่เคยคาดฝันว่าจะมีเรื่องแบบนี้
“แล้วตอนนี้เธอสามารถจุมันได้เท่าไหร่!” ฉินเฟิงถามอย่างร้อนรน
ไป๋หลีตอบ “ฉันยังพูดไม่จบ คุณอาจไม่รู้เจ้าสิ่งนี้น่ะหนักมาก พวกมันต่อต้านวัตถุที่สัมผัส แต่พวกมันมีชั้นสารบางอย่างหุ้มอยู่ภายนอก ยังไงก็ตามพวกเรามีรูบิควิเศษ ฉะนั้นพวกเราสามารถสร้างขวดจากสารที่ว่า เพื่อนำมาบรรจุทรายพวกนี้ได้”
“ยังมีวิธีนั้นอยู่นี่นา!”
ฉินเฟิงมีประสบการณ์มากมาย แต่ในชีวิตก่อน เมื่อไปถึงเลเวล A เขามีเวลาใช้ชีวิตแค่ 1 - 2 ปีเท่านั้น บ้างก็ได้รับโอกาส บ้างก็พลาดพลั้งไป แต่ที่แน่ๆไม่มีใครคอยให้คำแนะนำ ดังนั้นบางเรื่องฉินเฟิงไม่ทราบจริงๆ
ครั้งนี้นับว่าโชคดีที่มีมรดกความทรงจำของไป๋หลี
ฉินเฟิงกวาดพลังสมาธิออกไป เขาพบว่าบริเวณขอบกองทราย มีชั้นสารโปร่งใสอยู่ ปรากฏว่าขวดคริสตัลที่บรรจุมันในงานประมูลของชีวิตก่อน ไม่ใช่คริสตัลจริงๆ แต่คือวัสดุที่สร้างจากสารพิเศษนี้ต่างหาก
ฉินเฟิงหยิบเอามีดกษัตริย์ครามออกมา ตัดชั้นสารโปร่งใสทันที แล้วนำมันไปไว้ในรูบิควิเศษ เปลี่ยนรูปเป็นโอ่งใหญ่
จากนั้น ใช้พลังสมาธิเคลื่อนโอ่งไปในอากาศ พยายามใช้มันขุดทรายขึ้นมา แต่เมื่อทรายเข้าไปในโอ่ง เขากลับพบว่าไม่สามารถยกโอ่งขึ้นได้
“อา!” พลังสมาธิของฉินเฟิง ไม่สามารถยกโอ่งใบเดียวได้อย่างกะทันหัน
“เจ้าวัสดุชิ้นนี้หนักมาก คุณไม่ควรใส่มันลงไปมากขนาดนั้นในทีเดียว!”
ไป๋หลีวาดมือ ตัดชั้นคริสตัลใสด้วยรูนมิติ ใส่ลงไปในรูบิควิเศษ จากนั้นหลอมรวมเป็นขวดใบใหญ่เท่าถัง แต่ไป๋หลีไม่ได้ใช้พลังสมาธิเคลื่อนย้ายมัน เธอก้มตัวลง และค่อยๆช้อนทรายลงอย่างระมัดระวัง แต่ดูจากลักษณะท่าที เหมือนว่าจะสิ้นเปลืองพละกำลังเป็นอย่างมาก
ฉินเฟิงตระหนักดี ว่าแม้ไป๋หลีสามารถควบคุมอบิลิตี้มิติได้ แต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพโดยเนื้อแท้ถือว่าเป็นสัตว์ร้าย ดังนั้นพละกำลังไม่อ่อนแอ แต่กระทั่งเธอยังต้องเค้นแรงอย่างยากลำบาก--
--นั่นหมายความว่าทรายธารเวลาเหล่านี้ มีคุณสมบัติเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ
“ฉันพอเข้าใจแล้ว เธอรับหน้าที่ไปสร้างขวดเก็บมันเถอะ เดี๋ยวฉันเป็นคนเติมมันลงไปเอง แล้วค่อยย้ายพวกมันไปในพื้นที่มิติของเธออีกที” ฉินเฟิงตัดสินใจแบ่งงาน ให้ความร่วมมือ เพราะทำแบบนี้ อย่างน้อยก็สามารถเก็บทรายได้เยอะขึ้น เร็วขึ้น
ถ้ามัวชักช้า รอกระทั่งคนอื่นบุกมาถึงพื้นที่ใจกลาง ฉินเฟิงคงไม่สามารถสวาปามมันคนเดียวได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เขายังต้องการซ่อนความจริงที่ว่า ตนได้รับทรายธารเวลาจากคนอื่นๆ
“เอาล่ะ มาลุยกันเลย!”
ฉินเฟิงเริ่มจัดการขนย้ายทรายอีกครั้ง คราวนี้เขากระจายหุ่นเชิดแห่งความตายทั้งหมดออกไปตามจุดต่างๆ และปลดปล่อยอบิลิตี้มืดอันทรงพลัง ปกคลุมพื้นที่แห่งนี้เอาไว้
ในกรณีที่มีคนมาจริงๆ อย่างน้อยก็สามารถขวางพวกเขา แต่ถ้าหยุดไว้ไม่ได้จริงๆ คงไม่มีทางเลือกนอกจากใช้หุ่นเชิดเข้าละเลงเลือด!
ด้วยเหตุนี้ ฉินเฟิงกับไป๋หลีเลยช่วยกันจัดเก็บทรายธารเวลาอย่างบ้าคลั่ง กวาดมันลงขวดตลอดทั้งวัน จนเวลาล่วงเลยมาถึงสองคืนเต็ม!
“เฮ้อ!”
ถัดจากบ่อทราย ฉินเฟิงพยายามขนย้ายทรายกองใหญ่ ตอนนี้ตามแขนของเขาปูดบวม พองจนเป็นก้อนกลมๆ หลังจากสู้ทนทำงานมาตลอดทั้งสองวัน แม้ความแข็งแกร่งจะยังไม่ถึงขั้นยกระดับ แต่ในส่วนของพละกำลัง ดูเหมือนจะพุ่งทะยานเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
อย่างไรก็ตาม เมื่อหันไปมองกองทรายเบื้องหน้าเขา ฉินเฟิงพบว่าเขายังขนย้ายมันได้ไม่ถึง 1/10 เลย!
แบบนี้ยังถือว่าช้าเกินไป!
ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่นี้ยังไม่สามารถซ่อนจากโลกภายนอกได้อีกต่อไป มีผู้ใช้พลังเลเวล A อย่างน้อยสามคน ค้นพบถึงหมอกสีดำที่อยู่ใจกลางเกาะแล้ว!
แต่พวกเขาถูกขับไล่ออกไปโดยหุ่นเชิดสัตว์ร้ายของฉินเฟิง และมีคนหนึ่งที่ฉินเฟิงใช้เทพนักฆ่า หุ่นเชิดเลเวล S ของคุนซาร์ออกไปขู่ขวัญ จนอีกฝ่ายเตลิดหนีด้วยความหวาดกลัว
แต่เนื่องจากเขาครอบครองสถานที่แห่งนี้มานานแล้ว เกรงว่ามันจะเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้อื่นจนเก็บรั้งความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่อยู่อีกต่อไป
“คุนซาร์ยังไม่ยอมจากไปสักที เขาต้องเจอของดีอะไรเข้าแน่ๆ!”
“นี่คือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นส่วนกลางของมัน จะต้องมีอะไรไม่ธรรมดา!”
“ทุกคน! มารวมพลังกัน! ร่วมมือขับไล่เขาออกไป!”
“เห็นด้วย! ต่อให้มีหุ่นเชิดเลเวล S แล้วมันยังไง? สุดท้ายคุนซาร์ก็เป็นแค่คนอ่อนแอ ตราบใดที่พวกเราเข้าพัวพันกับหุ่นเชิดแห่งความตาย การหาจังหวะฆ่าเขามันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย!
“ถูกต้อง พูดได้ตรงใจนัก!”
เวลานี้ เลเวล A กว่า 5 คนตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อสังหารฉินเฟิง!
หลังจากเททรายลงในขวดใหญ่อีกใบหนึ่งจยเต็ม ฉินเฟิงตระหนักได้อย่างชัดเจน ถึงความรู้สึกอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
กระทั่งไป๋หลีในเวลานี้ ก็เริ่มตื่นตัว
“มีผู้ใช้พลังเลเวล A จำนวน 5 คนกำลังพยายามเข้ามาที่นี่ แถมดูเหมือนว่ากลิ่นอายสังหารของพวกเขาจะหนาแน่นมาก”
“อืม ฉันก็รู้สึกได้ ดูเหมือนว่าพวกเราจะทำได้เท่านี้”
ฉินเฟิงมองไปยังทรายธารเวลาที่อยู่ในหลุม บังเกิดความรู้สึกไม่ยินยอมในใจเขา เกรงว่านี่จะเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่สามารถสวาปปามได้อย่างเต็มปากเต็มคำ นับตั้งแต่ตนถือกำเนิดใหม่!
แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!
ฉินเฟิงไม่ต้องการเปิดเผยตัวเองให้มันมากเกินไป ‘สถานะสามัญคือผู้บริสุทธิ์ สถานะมากพรสวรรค์เป็นที่กระตุ้นความริษยา!’ ฉินเฟิงไม่ต้องการเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ต้องการถูกสอดแนมตลอดเวลา!
คงมีแต่ผู้มั่งคั่งไม่อวดโอ้เท่านั้น ที่พระเจ้าแห่งโชคลาภจักประทานพร!
“ถอนตัว!”
สิ้นเสียงฉินเฟิง หุ่นเชิดแห่งความตายทั้งหมดก้าวกลับมารวมตัวกันเบื้องหน้าเขา จากนั้นก็ทยอยกันระเบิดทีละตัว ทีละตัว
เนื้อหนังของพวกมันเปื่อยยุ่ยหมดแล้ว แต่ทุกตนจะมีการควบรวมแก่นพลังงานไว้ในตัว ดังนั้นหุ่นเชิดแห่งความตายเลยน่าหวาดกลัวมาก ทั้งหมดแค่อาศัยแก่นพลังงานเพื่อรักษาอำนาจในการต่อสู้ของตน
เป็นธรรมดาที่ฉินเฟิงจะไม่ยอมเสียมันไป เขาจัดการนำพวกมันกลับมาทั้งหมด
จากนั้น เขากับไป๋หลีก็ถอดชุดคลุมดำออก และเปลี่ยนกลับมาอยู่ในรูปลักษณ์เดิม
“ไปเถอะ”
อักษรรูนมิติของไป๋หลีห่อหุ้มทั้งสองเอาไว้ จากนั้นพลันสว่างวาบบบบ! ฉินเฟิงปรากฏกายขึ้นในตำแหน่งหนึ่งบริเวณขอบด้านนอกของตัวเกาะ
ไม่นาน ผู้ใช้พลังเลเวล A กว่า 5 คนก็บุกเข้ามาถึงใจกลางเกาะ
รังสีแสงทะมึนได้กระจายออกไป ในที่สุดก็ผู้คนค้นพบการดำรงอยู่ของทรายธารเวลา
คนเหล่านี้ไม่ทราบว่านี่ใช้ทำอะไร แต่ที่พวกเขาทุกคนรู้แน่ๆ มันคือสมบัติ!
“คุนซาร์เล่า? คนไปไหนแล้ว!”
“พวกหุ่นเชิดแห่งความตายระเบิดตัวเอง แถมยังมีเศษรูนมิติหลงเหลืออยู่รอบๆ”
“บ้าเอ๊ย มันหนีไปสินะ แสดงว่าเจ้าสิ่งนี้ต้องเป็นสมบัติล้ำค่าแน่ๆ!”
“มาเถอะ รีบขนพวกมันออกไปเร็วเข้า!”
เหล่าเลเวล A ไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติ พวกเขาพยายามเก็บทรายธารเวลา แต่กลับพบว่าพลังสมาธิไม่สามารถสั่นคลอนมันได้เลย ดังนั้นเลยทำได้แค่ก้มลงกวาดมันด้วยมือเปล่า ถึงเวลนี้พวกเขาค่อยเข้าใจว่ามันหนักแค่ไหน!
ก่อนฉินเฟิงจะเกิดใหม่ แค่ทรายธารเวลาขวดเล็กๆที่เขาเคยเห็น ก็ใช่ว่าจะเก็บกันได้ง่ายๆ อย่างเช่นต่อให้เลเวล A ที่มายังที่นี่เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ แต่พละกำลังของพวกเขาไม่มหาศาลอย่างฉินเฟิง ดังนั้นทรายที่พวกเขายกขึ้นมาได้ แท้จริงแล้วเป็นแค่ขวดปริมาณเล็กๆเท่านั้น