Ep.692 - ปรมาจารย์หุ่นเชิดแห่งความตายตัวจริง
2/4
Ep.692 - ปรมาจารย์หุ่นเชิดแห่งความตายตัวจริง
ที่ฉินเฟิงเอ่ยข้อเสนอดังกล่าวไป ไม่ใช่เพราะเขาเจตนาดี แต่ไม่อยากให้ปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกที่ตนเป็นคนก่อ สร้างผลกระทบต่อประวัติศาสตร์มากเกินไป เพราะสิ่งที่ตามมาในภายหลังอาจต่างไปจากที่ตนเคยล่วงรู้อย่างสิ้นเชิง
ก่อนเกิดใหม่ ตงหยางไม่ได้มาถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ต้นๆดั่งในชีวิตนี้ เขาต้องคอยรับมือกับวิกฤตสึนามิในเมืองตงไห่
ส่วนเรื่องที่ว่าเขาเกิดความขัดแย้งกับโอเบอร์หรือไม่ ฉินเฟิงไม่ทราบ
แต่หากจ้าวพรมแดนเสียชีวิตเพราะการกระทำของฉินเฟิง เรื่องราวคงลุกลามเกินกว่าฉินเฟิงจะควบคุมได้ เพราะอีกฝ่ายยังมีเรื่องราวอีกมากต้องทำ เกรงว่าอนาคตจากนี้คงวุ่นวายไม่น้อย
ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้พอที่สามารถใช้พลังสมาธิสื่อสารกันได้ ฉินเฟิงกระทั่งให้ตงหยางสวมใส่อุปกรณ์สื่อสารขนาดเล็ก นี่เป็นเทคโนโลยีเล็กๆน้อยๆที่ฉินเฟิงได้รับมาจากในดินแดนล่มสลายของเผ่าวิญญาณ หากมีมัน สามารถติดต่อกันได้ในระยะหมื่นเมตร!
หลังจากทั้งสองแยกจากกัน ฉินเฟิงยังคงออกล่าสัตว์ร้าย และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหุ่นเชิด ร่วมมือกับไป๋หลีเริ่มเก็บกวาดสมบัติทั้งหมดที่พวกเขาสามารถรับรู้ถึงมัน
แต่ในเวลานั้นเอง โอเบอร์ที่จากไป เนื่องจากเจ้าตัวหนีด้วยความเร็วเต็มพิกัด ดังนั้นหลุดพ้นจากตำแหน่งที่ฉินเฟิงออกสำรวจ มาโผล่ยังจุดที่สัตว์ร้ายรอบๆไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทำให้เจ้าตัวพบสมบัติมากมาย เริ่มเก็บเกี่ยวมันอย่างบ้างคลั่ง
ผู้ใช้พลังที่อยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้ หากไม่นับการดำรงอยู่ของผู้ที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับเขมือบฟ้า(ในชีวิตก่อน) และคนที่บังเกิดประสบอุบัติเหตุในภายหลังแล้ว ในจำนวนนั้นมีตัวตนที่สามารถก้าวขึ้นสู่เลเวล S ในอนาคตได้เป็นจำนวนมาก
และโอเบอร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
แค่นี้ก็พอจะบอกได้อย่างชัดเจนแล้วว่าพลังที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ปลดปล่อยออกมา มันมีประสิทธิภาพขนาดไหน!
โอเบอร์ไปถึงหนึ่งในสถานที่อุดมไปด้วยพลังงานอย่างรวดเร็วจากการรับรู้ของเขา แต่เมื่อมาถึง จมูกของเขาก็ต้องขยับฟุดฟิดอีกครั้ง นั่นเพราะมันสูดดมได้ถึงกลิ่นอายของความตาย
ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายชนิดนี้ยังเน่าเหม็น ชวนให้คนที่สูดดมเข้าปอดรู้สึกวิงเวียนศีรษะ
เป็นศพพิษ!
ศพพิษชนิดนี้ ไม่สามารถใช้เทคนิคหุ่นเชิดแห่งความตายแบบธรรมดาควบคุมได้อีกต่อไป
โอเบอร์กวาดสายตามอง และพบกับเนื้อเน่าเปื่อยตามพื้นดิน เขาบังเกิดคำถามแปลกๆขึ้นจิตใจ นี่คล้ายเป็นความรู้สึกอันคลุมเครือ แต่เขาก็ได้รับคำตอบนั้นอย่างรวดเร็ว
ห่างออกไปไม่เกิน 500 เมตร ปรากฏร่างของชายคนหนึ่งกำลังยืนมองคนตรงหน้าด้วยความสนใจ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายตระหนักได้ถึงการมาเยือนของโอเบอร์
แน่นอน ว่ากลิ่นอายของชายคนนี้ ตอนแรกโอเบอร์ไม่อาจสัมผัสได้ถึงมัน เพราะอีกฝ่ายคือผู้ใช้อบิลิตี้มืด
“คุนซาร์!” โอเบอร์หันขวับไปมองชายหนุ่มร่างกายผอมแห้งในชุดคลุมดำ อีกฝ่ายไม่ต่างจากหนังหุ้มกระดูก คล้ายเป็นคนที่ไม่ได้รับสารอาหาร
“โอเบอร์!” อีกฝ่ายกล่าวทักทาย ควบคุมหุ่นเชิดแห่งความตายให้ออกมารวมตัวกัน คล้ายเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีของโอเบอร์ตลอดเวลา มีกระทั่งร่องรอยของความละโมบสะท้อนในแววตาของเขา ดูเหมือนกำลังคิดอ่านในใจว่า จะฆ่าโอเบอร์ดีหรือไม่?
คนๆนี้ คือคนที่โอเบอร์เพิ่งกล่าวถึงก่อนจะหลบหนีมา เป็นผู้ใช้อบิลิตี้มืดเลเวล A ชื่อว่าคุนซาร์!
“ถ้านายอยู่ที่นี่ แล้วคนที่ฉันพบก่อนหน้านี้มันเป็นใครกัน?” โอเบอร์มองคุนซาร์ และพบว่าหุ่นเชิดแห่งความตายของอีกฝ่าย มีแค่ 5 ตัวเท่านั้น แต่ข้างกายอีกฝ่ายยังมีคนในชุดคลุมดำอีกหนึ่ง แต่โอเบอร์ทราบดี ว่านั่นไม่ใช่มนุษย์ หากแต่เป็นหุ่นเชิดที่แข็งแกร่งที่สุดของคุนซาร์
นั่นคือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S ที่จบชีวิตลงในพันธมิตรเอเชียตะวันตก หลังจากอีกฝ่ายตกลงสู่ความตาย ศพก็ถูกขโมยและเข้าควบคุมโดยคุนซาร์ เพราะเหตุนี้เอง คุนซาร์เลยถูกออกหมายจับจากฝั่งพันธมิตรเอเชียตะวันตก อีกฝ่ายตัดสินใจเข้าร่วมกับองค์กรมืดทันที เริ่มทำการทดลองอันน่าหวาดกลัว และงานวิจัยอันไร้มนุษยธรรม
โอเบอร์มองไปยังหุ่นเชิดทั้งห้าของคุนซาร์ แต่พบว่ามันเป็นเพียงระดับนายพลเท่านั้น หากไม่นับหุ่นเชิดผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S ที่เขาหวาดกลัวแล้ว ความแข็งแกร่งของคุนซาร์อยู่แค่เลเวล A1 เท่านั้น ร่างกายก็บอบบางอ่อนแอ แค่โอเบอร์โจมตีโดนเพียงครั้งเดียวก็สามารถปลิดชีวิตอีกฝ่ายได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เพียงแต่ โอเบอร์ยังถือว่าปราดเปรื่อง เขาคิดหาวิธีที่ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กันให้ยุ่งยาก
“ฮี่ ฮี่ พูดไปนายอาจจะไม่เชื่อ แต่ในระหว่างที่ฉันกำลังไล่ล่าจ้าวพรมแดนตะวันออกของพันธมิตรหัวเซี่ยเมื่อไม่นานมานี้ จู่ๆก็บังเอิญไปปะทะเข้ากับผู้ใช้อบิลิตี้มืด เขาสามารถควบคุมสัตว์ร้ายได้เป็นฝูง และดูจากจำนวนแล้ว น่าจะมีอย่างน้อยก็สิบตัว!”
ดวงตาของคุนซาร์หรี่แคบลงทันที
“นี่นายพูดจริงเหรอ?”
“ฉันไม่มีความจำเป็นต้องโกหกนาย”
แววตาของคุนซาร์สาดประกายมืดมน
โอเบอร์พอจะรู้เรื่องมาบ้าง ว่าก่อนหน้านี้คุนซาร์เคยออกล่าผู้ใช้อบิลิตี้มืดอยู่หลายคน ด้วยเหตุผลง่ายๆแค่เพราะเรื่องของหุ่นเชิดแห่งความตาย ซึ่งถือเป็นอาวุธของคุนซาร์ คล้ายๆกับอาวุธปืนของพวกมือปืน
ในความเป็นจริงแล้วตราบใดที่ครอบครองอักษรรูนจำนวนมาก และมีพลังสมาธิแข็งแกร่ง คนอื่นๆสามารถแย่งชิงหุ่นเชิดแห่งความตายไปได้เช่นกัน อันที่จริงมันไม่น่าเป็นปัญหาอะไร
แต่บังเอิญว่าคุนซาร์ดันมีหุ่นเชิดเลเวล S อยู่ในครอบครอง
ด้วยเหตุนี้เอง เขาเลยหวาดกลัวว่าจะมีผู้ใช้อบิลิตี้มืดที่แข็งแกร่งกว่ามาแย่งชิงสมบัติของตนไป ด้วยเหตุนี้ คุนซาร์เลยออกสังหารผู้คนบริสุทธิ์มากมาย และโอเบอร์ต้องการใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้
“ฮี่ ฮี่ พวกเขาอยู่ทางนั้น ถือซะว่าเป็นน้ำใจจากฉันที่ช่วยเตือนนาย”
สิ้นเสียง โอเบอร์ดีดผึงจากไปดั่งสายฟ้าฟาด เหลือเฉพาะคุนซาร์ที่สายตาเริ่มเย็นชาลง จากนั้นควบคุมหุ่นเชิดแห่งความตายประกบรอบตัวเขา และนำหุ่นเชิดผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S ข้างกาย ติดตามไปยังทิศทางของฉินเฟิง
เพียงแต่ว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาค่อนข้างไกล ไหนจะความจริงที่ว่าปัจจุบันทุกพื้นที่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ล้วนอันตราย ดังนั้นกว่าคุนซาร์จะสามารถเข้าไปใกล้ตำแหน่งของฉินเฟิง เวลาก็ล่วงเลยไปถึงสามชั่วโมง
กระนั้น แม้ทั้งสองต่างฝ่ายต่างเป็นผู้ใช้อบิลิตี้มืด แต่เป็นฉินเฟิงที่สามารถตระหนักถึงอีกฝ่ายก่อน
เนื่องจากพลังสมาธิของฉินเฟิงทรงพลังมาก ไหนจะเรื่องที่ครอบครองอักษรรูนมืดปริมาณมหาศาลจนน่าหวาดกลัว ดังนั้นการพบคุนซาร์จึงไม่ใช่เรื่องยาก
“ที่แท้ก็เป็นคุนซาร์แห่งพันธมิตรองค์กรมืดแห่งเอเชียตะวันตก!” ฉินเฟิงรับรู้ถึงผู้มาเยือน
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา ฉินเฟิงกลับแสยะยิ้มหยัน
“มาได้จังหวะพอดีเลย! ศัตรูในชีวิตก่อน ในที่สุดก็ถึงเวลาชำระบัญชีแค้นกันในชีวิตนี้ !” ดวงตาของฉินเฟิงสาดประกายสังหาร
ก่อนที่เขาจะเกิดใหม่ ฉินเฟิงมีสถานะเป็นราชาทหารรับจ้าง เขาเหยียบย่ำไปทั่วทุกมุมโลก พันธมิตรเอเชียตะวันตกห่างจากพันธมิตรหัวเซี่ยแค่ฟากชายทะเลเท่านั้น ในทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์ใหญ่ขึ้น ล้วนมีโอกาสที่ผู้ใช้พลังเลเวล A จากทั่วทุกมุมโลกจะมุ่งหน้าไปที่นั่น
และในปรากฏการณ์ใหญ่ที่ว่า ทำให้ฉินเฟิงได้ปะทะกับคุนซาร์อยู่หลายครั้ง หากไม่ใช่เพราะพลังพิเศษดูดกลืนของเขา ที่ลดทอนประสิทธิภาพจนเหลือไม่ถึง 1% ช่วยชีวิตเอาไว้ ฉินเฟิงคงตายไปแล้วไม่น้อยกว่า 800 ครั้ง
และคุนซาร์คนนี้คือหนึ่งในศัตรูจากชีวิตก่อนที่เกือบสังหารเขา
“บังเอิญเจอกันแบบนี้ ดูเหมือนว่าคงต้องมอบของขวัญชิ้นใหญ่ต้อนรับสหายเก่าซะแล้ว!”
ฉินเฟิงกระตุ้นหุ่นเชิดสัตว์ร้ายที่กระจายอยู่รอบเขานับร้อยตัว อักษรรูนมืดปกคลุมกลิ่นอายของพวกมันอีกชั้น ให้เหลือเพียงตัวเขาและสัตว์ร้ายอ่อนแอที่สุดห้าตน ส่วนที่เหลือไม่เปิดเผยร่องรอยใดๆ
ฉินเฟิงเองก็ทราบเช่นกัน ว่าเจ้าคุนซาร์คนนี้ มีเป้าหมายในการกำจัดผู้ใช้อบิลิตี้มืด ดังนั้นหากอีกฝ่ายค้นพบตน มันจะต้องมาอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ฉินเฟิงเลยใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ เพื่อตกปลาที่ชื่อว่าคุนซาร์
จากมุมมองนี้ บ่งบอกได้ชัดว่าโอเบอร์เจ้าเล่ห์แค่ไหน เพราะเมื่อสามชั่วโมงก่อน จำนวนสัตว์ร้ายที่ฉินเฟิงควบคุมน่ะมีมากกว่า 30 ตัว ทว่าโอเบอร์กลับบอกว่ามีแค่ 10 ตัวเท่านั้น คุนซาร์เลยเข้าใจว่าฉินเฟิงแข็งแกร่งมาก ถือเป็นภัยคุกคามต่อเขา แต่ด้วยการดำรงอยู่ของหุ่นเชิดผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S เลยเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่หวาดกลัว!
ปัจจุบัน คุนซาร์ค่อยๆเหยียบย่างเข้ามาใกล้ฉินเฟิงทีละก้าว ทีละก้าว ไม่นานกลิ่นอายจากอบิลิตี้ของฉินเฟิงก็กระทบเข้ากับพลังสมาธิของเขา
“อ๋า? เจอตัวแล้ว?”
“แต่เขาเป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล B มิใช่หรือ? แถมยังมีหุ่นเชิดแห่งความตายแค่ 5 ตัวเท่านั้น ไม่เห็นเหมือนกับที่โอเบอร์พูดเอาไว้เลย แต่ในเมื่อเป็นแค่เลเวล B บางทีหุ่นเชิดตัวอื่นอาจพังทลายลงระหว่างต่อสู้ก็ได้”
“หึ! ดันมาเจอฉัน ถือว่าเป็นโชคร้ายของแก!”
คุนซาร์ไม่ทันสังเกตเห็นถึงความไม่ชอบมาพากล เขากระทั่งให้ยกอ้างเหตุผลให้แก่ตนเอง ไม่ช้าก็เริ่มควบคุมหุ่นเชิดสัตว์ร้ายรอบตัว มุ่งหน้าไปยังทิศทางของฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว