ตอนที่แล้วบทที่ 188 โซ่แห่งการสำนึกผิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 190 ข้าได้ยินมาว่าพลังป้องกันทางกายภาพของเจ้าสูงมาก?

บทที่ 189 ความหวังของทุกคน


เห็นได้ชัดว่าโซ่นั้นทำมาจากแสง แต่ก็ยังจับต้องได้

บรอม•เดย์สตาร์ สัมผัสได้ถึงการผูกมัดของโซ่แห่งการสำนึกผิดที่ขดรอบตัวเขา นอกเหนือจากความรู้สึกขนลุกแล้ว เอลฟ์ป่าก็อดไม่ได้ที่จะกังวล

เมื่อไหร่ที่เวทมนตร์ของมนุษย์ก้าวหน้าถึงระดับนี้? เขาพยายามร่ายเวทมนตร์หลายครั้งเพื่อปลดตัวเอง แต่เขาก็ยังติดอยู่กับโซ่

นี่คือเวทมนตร์จริง ๆ รึ?

คำว่า ‘จับโจรให้จับหัวหน้า’ ไม่ใช่สำนวนของโลกนี้ แต่ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจว่ามันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ดี อย่างน้อยก็สำหรับเอ็ดเวิร์ด แม้ว่ามันจะเรียบง่ายและหยาบคาย แต่มันก็ใช้ได้ผลดีในหลาย ๆ กรณี

ดังนั้นก่อนที่จะโจมตีเอลฟ์ เขาก็ได้วางแผนอย่างรอบคอบกับเอลีน่าและคนอื่น ๆ แล้ว

เขาและโจจะเป็นคนดึงดูดความสนใจของศัตรูและทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อลดจำนวนศัตรู

แม้ว่าเอลฟ์จะไม่มีคุณธรรมอย่างอัศวินที่ไม่ทำร้ายผู้หญิงและเด็ก แต่พวกเขาก็ยังดูถูกเมื่อเห็นผู้หญิงและเด็กเผ่ามนุษย์ และไม่คิดโจมตีทั้งเจสสิก้าและเอลีน่าในทันที

เมื่อเอ็ดเวิร์ดและโจดึงดูดความสนใจของเอลฟ์เอาไว้ พวกเอลฟ์ก็จะไม่ใช้กำลังส่วนใหญ่ไปกับเจสสิก้า แม้ว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นความสามารถในการรักษาของเธอและมีความคิดที่จะกำจัดผู้รักษาก่อน แต่ก็มีความเป็นไปได้มากว่าพวกเอลฟ์จะยึดติดกับความหยิ่งผยองของตน และมีเพียงเอลฟ์ระดับหัวหน้าเท่านั้นที่จะออกมากำจัดเธอเพียงลำพัง หรือนำกองกำลังเอลฟ์กลุ่มเล็ก ๆ ไปกำจัดเธอ

ไม่ว่าเอลฟ์จะทำเช่นนั้นหรือไม่ เอลีน่านักบุญหญิงฝึกหัด ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดและมือลาสประจำปาร์ตี้เอ็ดเวิร์ดก็จะออกมาจัดการ

ท้ายที่สุดแล้วสถานการณ์ในตอนนี้ก็ทำให้เห็นได้ชัดว่าเอลฟ์ป่าไม่คิดว่าตนอยู่ระดับเดียวกับมนุษย์ เช่นเดียวกับที่มนุษย์ไม่คิดที่จะพยายามเข้าใจสิ่งที่หมูพูด

การจับหัวหน้าของเหล่าเอลฟ์ เป็นเพียงวิธีเดียวที่พวกเขาจะสามารถยืนได้อย่างทัดเทียมกับเอลฟ์เพื่อเริ่มต้นการสนทนา

เดิมเอ็ดเวิร์ดยังคิดว่าเอลฟ์ป่าอาจไม่เข้าใจภาษาของมนุษย์ แต่สิ่งต่าง ๆ ก็ได้มาถึงสิ่งขั้นนี้แล้ว ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะต่อสู้กันเพียงเพราะอุปสรรคทางภาษาหรือไม่

ไม่ว่ายังไง การพ่ายแพ้ก็หมายถึงความตาย พวกเขาจะมี EXP หายไปบางส่วน และได้เดินทางกลับไปยังเมืองไร้ชื่อฟรี

แต่เห็นได้ชัดว่าเอลฟ์สามารถเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้

“มนุษย์ปล่อยเขาซะ!”

บรอม•เดย์สตาร์ เห็นรองหัวหน้าตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวใส่เด็กผู้หญิง 2 คนที่อยู่ข้างหลังเขา

“เพียงเพราะเจ้าบอกให้เราปล่อย? เราเลยต้องปล่อยรึ!”

โจและเอ็ดเวิร์ดสบโอกาสฝ่าวงล้อมของเอลฟ์จากอีกด้านหนึ่งไปรวมตัวกับเจสสิก้าและเอลีน่า

เมื่อได้ยินคำพูดของเอลฟ์ โจก็กระดกโคล่าเพื่อดึง HP ที่อันตรายของเขากลับสู่ระดับปลอดภัยก่อนที่จะเยาะเย้ยพวกเอลฟ์ “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นลอร์ดแองโกร่ารึไง”

ในเวลาเดียวกัน แองโกร่าก็จามออกมาขณะดื่มน้ำชากับพ่อของเขาที่ปราสาทอินทรีเงิน

“เจ้า…” เอลฟ์โมโห แต่ไม่รู้จะหักล้างคำพูดของโจยังไง

“แม้คำพูดของโจจะฟังดูหยาบคายไปสักหน่อย แต่เขาก็พูดถูก กลุ่มของเจ้าเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน” เอ็ดเวิร์ดเสริมอย่างเย็นชา “ตอนนี้เมื่อสถานการณ์ไม่ดี เจ้าก็ต้องการยุติการต่อสู้ และบอกให้เราปล่อยเขา เจ้าคิดว่าเป็นไปได้ไหม?”

“ฮึ่ม! ไม่ต้องคุยกับมนุษย์พวกนี้! ยิงเลยไม่ต้องสนใจข้า!” บรอม•เดย์สตาร์ตะโกนคำสั่งออกไป “อย่าลืมหน้าที่ของเจ้า ไม่มีเวลาจะให้เสียแล้ว!”

ในขณะที่คำพูดของเขามีความชัดเจน มีเหตุผล และน่าเชื่อถือ แต่ท่าทางที่ถูกโซ่แห่งการสำนึกผิดรัดนั้นน่าตลกจนทำให้สิ่งที่เขาพูดกลายเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อถือ

เอ็ดเวิร์ดและเอลีน่ามองหน้ากัน ก่อนที่เอลีน่าจะพยักหน้าเล็กน้อยจนผมสีเงินของเธอขยับไหว

ในฐานะที่เป็นทักษะเลเวล 40 อันทรงพลังของคลาสลับอย่างนักบุญหญิงฝึกหัด โซ่แห่งการสำนึกผิดจึงไม่ง่ายอย่างที่เห็นจากภายนอก ความจริงมันคล้ายกับบ่วงแห่งความสัตย์จริงของวันเดอร์วูแมน ที่จะบังคับให้เป้าหมายพูดความจริงโดยไม่มีการหลอกลวง พวกเขาจะสารภาพทุกอย่างเมื่อถูกถาม และหากพวกเขาถูกปิดปากไม่ให้ส่งเสียง พวกเขาก็จะบอกทุกอย่างในหัวของเอลีน่า

ดังนั้นสิ่งที่เอลฟ์ตนนี้ตะโกนออกมาจึงเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เขาให้ความสำคัญกับ 'หน้าที่' ที่อยู่บนไหล่มากกว่าชีวิตของเขาเอง และมันก็เร่งด่วนพอที่จะ 'ไม่มีเวลาให้เสีย'

กล่าวอีกนัยหนึ่ง สิ่งต่าง ๆ ดูซับซ้อนอย่างที่เอ็ดเวิร์ดและพรรคพวกได้จินตนาการไว้

หลังจากคิดสักพัก เอ็ดเวิร์ดก็ถามว่า “หน้าที่ของเจ้าคืออะไร? มีเกิดอะไรขึ้นกับถิ่นที่อยู่อาศัยของเอลฟ์”

“เลิกแส้แสร้งได้แล้วพวกมนุษย์สารเลว เรารู้ว่าเจ้าทำอะไรกับสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา!” บรอม•เดย์สตาร์พูดเย้ยหยันแม้ในขณะที่เขายังคงถูกมัดในท่าทางแปลก ๆ

“สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด?” เอ็ดเวิร์ดถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ใช่ สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ป่าแห่งทริเนีย หอกศักดิ์สิทธิ์เซฟาริม!”

“เซฟาริม? ถ้าข้าจำไม่ผิด มันเป็นหอกเล่มเดียวกับที่ใช้ปีนขึ้นไปบนต้นไม้โลกจันทร์สีเงินในตำนานใช่ไหม”

"เจ้าไม่ได้รู้อะไรเลย! นั่นเป็นเพียงตำนานที่เล่ากันปากต่อปากในหมู่มนุษย์ พวกเราเหล่าเอลฟ์มีชีวิตรอดมาตั้งแต่ยุคแรก เผ่าพันธุ์ที่มีประวัติศาสตร์ยืนยาวก่อนยุคสงครามเทพและปีศาจ! เซฟาริมไม่ใช่แค่ตำนาน เธอมีอยู่จริง และเธอก็เป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ‘ลูน่า’ มอบให้กับเอลฟ์เพื่อให้เรารอดพ้นจากวิกฤตการสูญพันธุ์!”

เอ็ดเวิร์ดนึกขึ้นได้ทันที “พูดอีกอย่างก็คือเจ้าทำมันหาย”

“เธอควรจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยภายในต้นแสงจันทร์ ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้ามนุษย์ ใช้วิธีใดหลอกเธอหลอกล่อเธอออกจากอาณาเขตของเรา!”

"เธอ?"

“เซฟาริมเป็นอาวุธระดับสูงสุดแม้จะอยู่ท่ามกลางอาวุธสวรรค์ ไม่แปลกที่เธอจะมีความตระหนักรู้ในตนเอง!”

ในขณะเดียวกันเอลฟ์ตนอื่น ๆ ก็อ้าปากค้างจ้องหัวหน้าตนที่กำลังถาม-ตอบกับมนุษย์เหมือนคุยกับเพื่อน เขาเผยความลับของเอลฟ์ป่าอย่างไม่ลังเล นั่นทำให้เอลฟ์คนอื่น ๆ รู้สึกไม่สบายใจอย่างสุดแสนจะพรรณนา

หรือ…เขาอาจเป็นสายลับที่มนุษย์ส่งมา?

บรอมเองก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาพูดอะไรออกไป ขณะที่เอลฟ์คนอื่น ๆ เริ่มจ้องมาที่เขาอย่างแปลกประหลาด ทำให้สีหน้าของเขามืดลงทันที “ให้ตายเถอะ เจ้าทำอะไรกับข้า มนุษย์?!”

สิ่งที่เขาพูดเหมาะสมอย่างยิ่งกับท่าทางที่น่าขบขันของเขา

ถึงกระนั้นเอ็ดเวิร์ดก็ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น และไม่สนใจท่าทางแปลก ๆ ของเขา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ใส่ใจเสียงตะโกนของบรอม และรีบแบ่งปันข้อมูลกับโกวต้านผ่านฟอรัม

จากวิธีที่เอลฟ์ทำตัวเป็นปรปักษ์กับพวกเขาพวกเขาและยังคงไม่คิดจากไปไหนเร็ว ๆ นี้ นั่นหมายความว่าโกวต้านเป็นความหวังเดียวของพวกเขาที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ

หลังจากนั้น คำตอบของโกวต้านที่เงียบหายไปนานก็ปรากฏขึ้น

[อ๋อ]

เอ็ดเวิร์ด: ???

‘เจ้าจะไม่บอกหน่อยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น?’

'ไม่ว่าเจ้าจะพบสมบัติของเอลฟ์ป่าหรือไม่ อย่างน้อยเจ้าก็ควรรายงานสถานการณ์ของเจ้า หลังจากที่เจ้าได้รับข้อความจากข้า! อย่างน้อยก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมกับ 600 คำที่ข้าเพิ่งพิมพ์ไป!'

---------------------------------------------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด