Chapter 227 - 228: อุบัติเหตุ, ฆาตกรรม
Chapter 227: อุบัติเหตุ
ซูอันย่ากลับหัวเราะเสียงดัง “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เกาอู๋เซิน นายโง่หรืออะไร? แต่ฉันไม่โง่หรอกนะ! นายทิ้งฉันเพราะฉันมันก็แค่ผู้หญิงธรรมดา ส่วนนังนั่นมาจากครอบครัวคนรวยไม่ใช่เหรอ? ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรปิดบังตัวตนของตัวเองตอนที่เป็นแฟนนาย แต่มันก็ช่วยฉันมองทะลุคนอย่างนาย นายมันเห็นแก่ตัวและเสแสร้ง ตอนนี้ขอร้องโอกาสกับฉันงั้นเหรอ หน้าไม่อาย!”
จากนั้นซูอันย่าก็ไม่สนใจเกาอู๋เซิน ส่วนอู๋ซินหยูเดินเข้าไปหาพวกเขา
แม้ว่าจะโกรธแค้นซูอันย่าแค่ไหน แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะตัวตนที่แท้จริงของเธอ
โดยไม่ลังเล อู๋ซินหยูตบหน้าเกาอู๋เซินเสียงดัง “เกาอู๋เซิน พวกเราเลิกกัน!”
อู๋ซินหยูอยากเป็นแฟนเกาอู๋เซินเพราะครอบครัวของเขาเหมือนกัน แต่ครอบครัวของเธอก็ไม่ได้ธรรมดาๆเหมือนกัน และเธอก็มีหลายตัวเลือก เธอภูมิใจในตนเองและไม่อาจรับการขายหน้านี้ได้
ท้ายที่สุด เกาอู๋เซินเสียผู้หญิงทั้งสองคนไป
ระหว่างทางข้าวเย็น ซูอันย่าบอกเพื่อนใหม่ถึงตัวตนของเธอ ไม่มีใครแปลกใจ เพราะเดาได้อยู่แล้ว อีกอย่างพวกเขาคบเธอเพราะอยากเป็นเพื่อนกับเธอ ไม่ใช่เพราะครอบครัวของเธอ
ซูอันย่าไม่ใช่ผู้หญิงเย่อหยิ่ง และเธอเกลียดพวกคนเจ้าเล่ห์ ในเมื่อตอนนี้พวกเธอเป็นเพื่อนกันแล้วก็ควรปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม
คืนเดียวกันที่เมือง G
ในคลับที่มีเสียงดัง แสงไฟหลากสีส่องสว่าง ชายและหญิงกำลังเต้นอย่างบ้าคลั่งบนฟลอร์เต้นรำ อากาศเต็มไปด้วยความปรารถนาและความหรูหรา
ลี่เจินเจิง ซูจิง หลินเหวินจง และหยวนเสิ่น อยู่ท่ามกลางพวกเขา
หลินเหวินจงและหยวนเสิ่นบังคับให้ลี่เจินเจินและซูจิง มีนอนกับพวกเขาสามครั้งแล้วในสัปดาห์นี้ ลี่เจินเจินและซูจิงถูกทรมานทุกครั้ง แต่ละครั้งที่มีอะไรกัน พวกเขาใช้เวลานานมาก อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเธอหายดี หวินเหวินจงและหยวนเสิ่นก็จะโทรเรียกพวกเธออีกครั้ง และวันนี้เป็นครั้งที่สี่
แผนฆ่าสารเลวหลินเหวินจงและหยวนเสิ่นยังไม่คืบหน้า เพราะไม่มีใครรับงานนี้ อีกอย่างลี่เจินเจินก็ไม่ได้รู้จักคนมากมายที่จะสามารถช่วยเหลือเธอได้
ถึงแม้เธออยากให้พวกมันสองคนตายไปตอนนี้ แต่ไม่กล้าเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นเธอจึงยังทำอะไรไม่ได้ ได้แต่รอโอกาสฆ่าพวกมัน
ลี่เจินเจินและซูจิงเคยพยายามลบวิดีโอในโทรศัพท์ของพวกเขา แต่ถูกจับได้ซะก่อน พวกเขายังบอกว่ามีสำเนาวิดีโอเหล่านั้น ลี่เจินเจินและซูจิงโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
สิ่งที่แย่กว่านั้นคือหลินเหวินจงและหยวนเสิ่นบังคับให้พวกเธอใช้ยาเสพติด และพวกเธอก็ค่อยๆติดมัน ในขณะเดียวกัน ความปรารถนาที่จะแก้แค้นก็เริ่มจางหายไป
ลี่เจินเจินโทรหาฉินอี้ฟานเมื่อวันก่อน เธอถามเขาว่ามีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ แต่ฉินอี้ฟานยังคงปฏิเสธเธอเหมือนเช่นเคย ครั้งนี้เธออกหักอย่างสิ้นเชิง และเริ่มใช้ชีวิตเสเพล ลี่เจินเจินไม่ได้นอนกับหลินเหวินจงและหยวนเสิ่นเท่านั้น แต่ยังมีผู้ชายคนอื่นด้วย
ครอบครัวของเธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับลี่เจินเจิน เพราะที่ผ่านมาเธอมักจะออกไปข้างนอกในช่วงหลายวัน แต่ตอนนี้เธอไม่กลับบ้านจนกว่าจะดึกมาก หรือไม่งั้นเธอจะอยู่ข้างนอกทั้งคืน และไม่เคยกลับมาบ้านโดยไม่เมา
เที่ยงคืนแล้ว ลี่เจินเจินยังคงดื่มเหล้าอยู่ที่บาร์ และไม่รับโทรศัพท์จากพ่อแม่ ซึ่งทำให้ครอบครัวของเธอเป็นห่วงอย่างมาก
พ่อแม่ของลี่เจินเจินและพี่ชายของเธอ ลี่เจินหยู ยังไม่นอน กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น พ่อของลี่เจินเจินดูโมโหขณะที่มือยังถือโทรศัพท์ “เจินหยู เกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของลูก? เธอเปลี่ยนไปมาก”
พวกเขาคิดว่าตอนนี้ลี่เจินเจินโตแล้วและไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเธอ อย่างไรก็ตามช่วงนี้เธอมีพฤติกรรมก้าวร้าวและควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้
“ผมไม่แน่ใจเรื่องนี้ บางทีอาจเป็นเพราะฉินอี้ฟานชอบผู้หญิงคนอื่น เธอเลยไม่มีความสุข” ลี่เจินหยูตอบ
พ่อแม่ของลี่เจินเจินได้แต่ถอนหายใจ
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดอยากให้ลี่เจินเจินแต่งงานกับฉินอี้ฟาน แต่เขาไม่ชอบเธอและไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับเธอ พวกเขาจะทำอะไรได้
ถ้าพวกเขาทำให้ตระกูลฉินรำคาญเพราะเหตุนี้ มันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ตระกูลลี่ต้องการเห็น
กู้หนิงบินไปที่เมือง D เช้าวันเสาร์ ในขณะที่กู้หนิงอยู่เมือง D เลิ่งเชาถิงก็มาถึงเมือง F พอดี เขากะจะเซอร์ไพรส์เธอ แต่เธอปิดเครื่อง เขาจึงคิดว่าบางทีเธอไม่ได้อยู่ที่เมือง F
เธอมีบริษัทในเมือง G และไปที่เมือง G บ่อยครั้ง เลิ่งเชาถิงจึงเดาได้ว่ากู้หนิงน่าจะอยู่ในเมือง G แต่ยังไม่แน่ใจนัก จึงไม่ได้บินไปที่เมือง G ในทันที นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าโทรศัพท์ของกู้หนิงน่าจะดับสนิทไปแล้ว
ราวๆห้าโมงเช้า กู้หนิงก็บินมาถึงเมือง D เธอเปิดโทรศัพท์จึงเห็นสายไม่ได้รับจากเลิ่งเชาถิง
“สวัสดี ตอนนี้เธออยู่ไหน?” เลิ่งเชาถิงเอ่ยปากถามทันทีที่รับสาบ
“ฉันอยู่ที่เมือง D ค่ะ เพิ่งลงจากเครื่อง” กู้หนิงตอบ
“ผมเพิ่งมาถึงเมือง F” เลิ่งเชาถิงตอบ น้ำเสียงดูไม่พอใจเล็กน้อย
“อะไรนะคะ?” กู้หนิงประหลาดใจ “ทำไมคุณไม่บอกฉันเร็วกว่านี้?”
“อยากเซอร์ไพรส์เธอ” เลิ่งเชาถิงพูด รู้สึกผิดหวัง
กู้หนิงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดว่า “รอฉันอยู่ที่เมือง F นะคะ พรุ่งนี้เช้าฉันกลับ”
“ครับ” เลิ่งเชาถิงตอบ
หลังจากวางสายจากเลิ่งเชาถิง กู้หนิงก็โทรหา K เพื่อนัดหมาย
K และกู้หนิงนัดเจอกันที่รีสอร์ทชื่อว่า ฉวนหลินรีสอร์ท แม้ว่ากู้หนิงจะไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินมาบ้างตามข่าวในเน็ต ฉวนหลินรีสอร์ทเป็นรีสอร์ทที่มีวิวสวยงามไม่เหมือนใคร และเป็นสถานที่นัดพบที่ปลอดภัยสำหรับเซเลบริตี้ทั้งหลาย สังสรรค์ หรือหารือทางธุรกิจ มีเพียงคนรวยไม่ก็เจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้นที่มีเงินมาที่รีสอร์ทแห่งนี้ได้
กู้หนิงไม่รู้ว่า K มีเงินมากขนาดไหน แต่ที่แน่ๆคือมากกว่าเธอหลายเท่ามาก
ระหว่างทางไปรีสอร์ท ภาพๆหนึ่งก็แวบเข้ามาในความคิดของกู้หนิง รถบรรทุกขนาดใหญ่สูญเสียการควบคุม พุ่งชนรถปอร์เช่คาเยนน์สีดำอย่างจน ปอร์เช่คาเยนน์สีดำตกลงมาจากถนนสูงสิบเมตร ส่งผลให้ทั้งสามคนในรถเสียชีวิต
หัวใจของกู้หนิงรัดแน่น ตั้งแต่ที่เธอเห็นภาพพวกนั้น ต้องมีอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอ และเธอต้องหยุดไม่ให้มันเกิดขึ้น
Chapter 228: ฆาตกรรม
ไม่นานกู้หนิงก็สังเกตเห็นว่ามีรถบรรทุกขนาดใหญ่สีแดงขับอยู่ข้างหน้าไม่ไกล เธอตรวจดูป้ายทะเบียน และเป็นทะเบียนเดียวกับที่เห็นในภาพนิมิต
ทันใดนั้นเธอก็ใช้ตาทิพย์และเห็นรถปอร์เช่คาเยนน์สีดำขับอยู่ข้างหน้ารถบรรทุก ห่างกันเพียงสิบเมตร และรถบรรทุกก็เร่งความเร็ว
“นี่ ช่วยขับรถให้เร็วกว่านี้ได้ไหมคะ ตามให้ทันรถปอร์เช่ข้างหน้า นั่นเป็นรถของเพื่อนฉันเองค่ะ” กู้หนิงรีบบอกคนขับแท็กซี่
“ได้ครับ” คนขับแท็กซี่เร่งความเร็ว ถึงแม้จะเร่งความเร็วแค่ไหนก็ยังตามไม่ทัน เพราะรถคนนั้นก็ขับเร็วเหมือนกัน
“ทำไมรถบรรทุกคนนี้ถึงขับเร็วจัง? ขับเกินกำหนดแล้วมั้ง ยังขับใกล้รถปอร์เช่อีก ถ้าไม่ลดความเร็วเดี๋ยวได้เกิดเรื่องหรอก” คนขับแท็กซี่บ่น
ได้ยินคนขับแท็กซี่พูดแบบนั้น กู้หนิงก็ขมวดคิ้ว แม้แต่คนขับแท็กซี่ก็ยังรู้ว่ามันอันตรายถ้ารถบรรทุกไม่ลดความเร็วลง แต่ทำไมรถบรรทุกยังคงเร่งความเร็วอยู่อีก? หรือเพราะตั้งใจ? ทำไมล่ะ? ฆาตกรรมหรอ?
กู้หนิงยังไม่แน่ใจ แต่มีความเป็นไปได้ เพราะรถบรรทุกมีพฤติกรรมแปลกๆ
ทางหลวงอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเธอ และกู้หนิงรู้สึกกังวลมาก ตอนนี้เธอควรทำอย่างไร?
“หยุดรถเดี๋ยวนี้!”
เมื่อรถบรรทุกขนาดใหญ่เกือบจะชนรถปอร์เช่ กู้หนิงสั่งให้คนขับแท็กซี่หยุดทันที คนขับแท็กซี่เหยียบเบรกโดยสัญชาตญาณโดยไม่ลังเล
กู้หนิงพุ่งตัวออกจากรถแท็กซี่ ในขณะนั้นเองรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็ชนรถปอร์เช่จนหลุดจากรั้วกั้น
ถ้ารถปอร์เช่คันนั้นถูกชนตรงๆก็คงไม่ตก แต่มันถูกชนจนลอยปลิว และตกลงไป
กู้หนิงวิ่งไปที่รถปอร์เช่ทันที ขณะที่ครึ่งหนึ่งของรถข้ามรั้วไปแล้ว กู้หนิงก็จับล้อของมันซึ่งยังอยู่ที่ด้านที่ปลอดภัยของรั้ว เธอใช้พลังวิเศษเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและทำให้รถเสถียร ล้อหลังทั้งสองของรถถูกบังคับให้ติดอยู่ในราวกั้น อย่างไรก็ตามมันก็ยังอันตรายมาก หากกู้หนิงไม่มีพลังมากพอที่จะยึดมันไว้มัน ก็คงตกลงไป
พลังของกู้หนิงมีจำกัด และกำลังถูกใช้เป็นจำนวนมากภายในช่วงเวลาสั้นๆ หากไม่สามารถช่วยคนในรถได้ในเร็วๆนี้ รถต้องตกลงไปอย่างแน่นอน
ทุกคนรอบตัวตกตะลึงกับภาพที่เห็น
เธอคนนี้มีพลังแค่ไหนกัน!
และเธอต้องกล้าหาญขนาดไหนที่เสี่ยงชีวิตเพื่อจับล้อรถไม่ให้ตก ตัวเธออาจตกไปพร้อมกับรถได้!
มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รถที่ตามมาด้านหลังจึงต้องหยุดรถลงมาดู มีคนใจดีเข้ามาช่วยกู้หนิง แต่เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะช่วยดึงรถขึ้นมา จำเป็นต้องใช้เครน
มีคนโทรเรียกตำรวจและรถพยาบาล ในขณะที่บางคนถ่ายรูปอุบัติเหตุ
ไม่นานก็มีข่าวปรากฏบนอินเทอร์เน็ต อุบัติเหตุทางรถยนต์บนทางหลวงในเมืองD หญิงสาวผู้กล้าหาญและทรงพลังจับโดนล้อ! [รูปภาพที่แนบมา].
ภาพแรกเป็นภาพกู้หนิงจับล้อไว้คนเดียว ภาพที่สองคือคนหลายคนไปช่วยเธอจับล้อและดึงรถกลับมา แต่เห็นหน้าไม่ชัดเพราะอยู่ไกล
“พระเจ้า! เธอทำได้ยังไง!”
“ฉันคิดว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา เธอสามารถจับล้อและทรงตัวรถได้ทันเวลา!”
“ใช่ๆ น่าเหลือเชื่อมาก!”
ข่าวดังกล่าวกลายเป็นไวรัลบนอินเทอร์เน็ต และก่อให้เกิดความฮือฮาภายในเวลาไม่นาน
เมื่อคนของรัฐสังเกตเห็นป้ายทะเบียนรถในภาพ เขาก็ตะลึงและโทรไปที่หมายเลขส่วนตัวของนายกเทศมนตรีทันที
นายกเทศมนตรียังตกใจเมื่อทราบข่าว เขาขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่เกิดเหตุด้วยตนเองทันที
นอกจากนี้เขายังเรียกผู้อำนวยการของแผนกรักษาความปลอดภัยสาธารณะ รวมทั้งหน่วยดับเพลิงและหัวหน้าโรงพยาบาลกลาง
ดูเหมือนว่าคนในรถปอร์เช่คาเยนน์จะสำคัญมาก อย่างไรก็ตามคนมุงดูอุบัติเหตุยังไม่ทราบเรื่องนี้
ราวๆสิบนาทีต่อมา รถดับเพลิงก็มาถึงและเริ่มทำการช่วยเหลืออย่างว่องไว รถพยาบาลก็ตามมาหลังจากนั้น
ทันทีที่รถปอร์เช่คาเยนน์ถูงดึงขึ้นมา ผู้อำนวยการหน่วยรักษาความปลอดภัยพร้อมกับหัวหน้าหน่วยรถดับเพลง และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลางก็มาถึง
ตอนนี้ทุกคนเริ่มสงสัยว่าคนในรเป็นใคร ต้องเป็นคนสำคัญอย่างแน่นอน
กู้หนิงใช้พลังมากเกินไป เธอหมดแรงจนล้มลงไปที่พื้น เธอเองก็แปลกใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่มีแรงคิดอะไร
เธอวางแผนที่จะเดินออกไปอย่างเงียบๆ แต่พยาบาลเห็นเธอเข้าก่อน และพาเธอเข้าไปในรถพยาบาลโดยไม่รอช้า
ตอนนี้กู้หนิงไม่มีแรงต่อต้าน จึงตัดสินใจนอกพักก่อนเป็นอันดับแรก
หลังจากนั้นเธอก็หลับไป และไม่ได้รับสายจาก K
K รอเธออยู่นานมาก และหมดความอดทน เขาโทรหาเธอสองครั้ง และครั้งที่สองเป็นหมอรับสาย
“คุณกู้ ผมรอคุณอยู่นานมาก ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนไม่ทราบ?” น้ำเสียงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“สวัสดีครับ เด็กสาวเจ้าของโทรศัพท์เพิ่งประสบอุบัติเหตุครับ ตอนนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาล ผมขอทราบความสัมพันธ์ของคุณกับเธอได้ไหมครับ?” คุณหมอถามอย่างสุภาพ
“อะไรนะ? เธอประสบอุบัติเหตุ?” K ถามอย่างแปลกใจ
“ใช่ครับ มีอุบัติเหตุทางรถยนต์บนทางหลวง ตอนนี้เธอกำลังหลับสนิทหลังจากที่เธอใช้แรงเต็มที่ดึงล้อรถ” หมอคิดว่า K เป็นเพื่อนของกู้หนิง เขาจึงบอกความจริงกับเขา
"อะไรนะ? เธอเป็นผู้หญิงที่ดึงล้อรถเหรอ” K รู้สึกประหลาดใจ
ในขณะที่เขากำลังรอกู้หนิง เขาท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อฆ่าเวลา และอ่านข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ด้วยความประหลาดใจของเขา หญิงสาวในภาพนั้นคือกู้หนิงนั่นเอง