34 รับมือกับวิกฤต
34 รับมือกับวิกฤต
ในขณะที่ขับรถม้าคนรับใช้ก็แนะนำสิ่งต่างๆที่มีอยู่ในเขตหวงหลงให้กับเอี้ยนลี่เฉียง ในทางกลับกันเอี้ยนลี่เฉียงก็กระตือรือร้นที่จะฟังเขาด้วยความสนใจ
ตลอดการเดินทางเอี้ยนลี่เฉียงไม่พบว่าการสนทนากับคนรับใช้ที่ขับเกวียนเป็นเรื่องน่าเบื่อ ใช้เวลาเพียงสิบนาทีในที่สุดรถม้าที่เขาโดยสารก็เข้าสู่เมืองหวงหลงผ่านประตูทางทิศใต้
ทหารที่ดูแลทางเข้าเมืองดูเหมือนจะรู้ว่ารถม้านี้มาจากไหน พวกเขาลงมาสนทนาเล็กน้อยแต่ไม่ได้พยายามตรวจรถพร้อมกับปล่อยผ่านไปอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเพียงช่วงบ่ายและถนนในเขตเมืองเมืองหวงหลงก็คึกคักไปด้วยกิจกรรม ตามถนนหนทางเต็มไปด้วยรถม้าและผู้คนพลุกพล่าน ทุกสิ่งทุกอย่างมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเหลือบมองไปรอบๆ เอี้ยนลี่เฉียงสังเกตเห็นว่าถนนในเขตเมืองหวงหลงนั้นกว้างขวางและและใหญ่โตกว่ามณฑลชิงเหออย่างแน่นอน
ตามด้านข้างของถนนมีร้านรวงมากมาย เมืองทั้งเมืองมีขนาดใหญ่กว่าเมืองมณฑลชิงเหอสองหรือสามเท่า
กระนั้นความคล้ายคลึงกันเพียงอย่างเดียวที่เมืองมณฑลหวงหลงมีร่วมกับเมืองมณฑลชิงเหอคือเด็กหนุ่มส่วนใหญ่ต่างห้อยอาวุธไว้ที่เอวไม่ว่าจะเป็นดาบกระบี่ ทุกคนดูเหมือนจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้
“อาจารย์เอี้ยนร้านขายเมล็ดพืชอยู่ตรงหัวมุมซ้ายของถนนสายหลัก ไม่ทราบว่าอาจารย์เอี้ยนกำลังวางแผนจะไปที่ไหนข้าจะขับรถไปส่งท่านก่อน…”
“ขอบคุณท่านมาก แต่ไม่จำเป็นถึงขนาดนั้นข้าจะลงตรงนี้แหละ!” เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวพร้อมกับกระโดดลงจากรถม้าอย่างรวดเร็ว
“อาจารย์เอี้ยนจะกลับพร้อมกันหรือไม่ ข้าจะได้แวะไปรับ”
"ไม่เป็นไรข้าจะกลับไปเองเมื่อเดินเล่นเสร็จแล้ว ... " เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวขณะโบกมือให้คนขับรถม้า ในพริบตาเขาก็เดินเข้าไปในกลุ่มคนมากมาย
เมื่อเห็นว่าเขาไปแล้วคนรับใช้ที่ขับรถก็ยิ้มและส่ายหัว เขาขับรถออกไปเพื่อซื้อสินค้าโดยไม่รอช้า
...
เอี้ยนลี่เฉียงเดินเล่นบนถนนสายหลักของเมืองหวงหลงเพื่อค้นหาร้านค้าที่ทำน้ำแข็ง
ภายในมณฑลชิงเหอมีร้านน้ำแข็ง และเนื่องจากมณฑลหวงหลงร่ำรวยกว่ามณฑลชิงเหอในระดับที่น่าเหลือเชื่อ ดังนั้นต้องมีร้านขายน้ำแข็งอยู่หลายร้านอย่างแน่นอน
จากการพูดคุยกับคนขับรถม้าระหว่างทางมาที่นี่ทำให้เขาได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย เขาค้นพบว่าจำนวนร้านน้ำแข็งในเมืองหวงหลงไม่ได้มีเพียงร้านเดียว แต่มีถึงสามแห่ง
หนึ่งในร้านน้ำแข็งเหล่านี้ตั้งอยู่ใกล้กับซอยเฉาหยาง ในขณะที่อีกร้านหนึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการเขต นอกจากสองร้านนี้แล้วยังมีร้านน้ำแข็งแห่งที่สามอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่าบ่อน้ำอมฤตทางตอนเหนือของเมือง
นี่เป็นครั้งแรกของเอี้ยนลี่เฉียงที่มาที่นี่ แม้ว่าเขาจะมีความรู้มาก่อนแล้วว่าร้านน้ำแข็งตั้งอยู่ที่ไหน แต่เขาก็ยังไม่คุ้นเคยกับโครงสร้างของเมืองดังนั้นเขาจึงได้แต่ค่อยๆคลำหาพวกมัน
และสำหรับเหตุผลที่เขาค้นหาร้านน้ำแข็งนั้นโดยธรรมชาติแล้วไม่ได้เพื่อซื้อน้ำแข็ง แต่เพื่อประโยชน์ในการซื้อสิ่งของประเภทอื่นนั่นคือดินประสิว
ครึ่งเดือนก่อนหน้านี้เมื่อเขาเห็นกำมะถันที่ถูกโปรยลงมาในห้องของเขาหลังจากที่เพิ่งมาถึงย่านโรงตีเหล็ก ความคิดบางอย่างก็วนเวียนอยู่ในจิตใจของเขาแล้ว
เหตุผลที่เขามาที่เมืองหวงหลงก็เพื่อหลีกเลี่ยงการลอบโจมตีจากตระกูลหงและครอบครัวของเขาทั้งคู่ก็อยู่ในเมืองหลิวเหอ เขาจึงไม่สามารถซ่อนตัวได้ตลอดไป
เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงวิธีชั่วร้ายที่ตระกูลหงใช้ หัวใจของเอี้ยนลี่เฉียงก็เต็มไปด้วยความรู้สึกวิกฤต
ในฐานะคนผู้หนึ่งเขาจะไม่รอให้ตระกูลหงดำเนินแผนการเพื่อทำลายอนาคตของเขาอย่างแน่นอน หลังจากวันที่เขาพบกำมะถันในย่านโรงตีเหล็ก เอี้ยนลี่เฉียงก็ได้วางแผนสร้างดินปืนขึ้นมาใช้เอง
ตอนนี้ยังไม่มีดินปืนในโลกนี้ แต่ในฐานะเด็กผู้ชายชาวจีนที่เกิดก่อนปี 2000 ใครจะไม่เคยดูหนังคลาสสิคเรื่อง 'Landmine Warfare'
ตั้งแต่ยังเด็กเอี้ยนลี่เฉียงก็คุ้นเคยกับพลังทำลายล้างของดินปืนเป็นอย่างดี หากเพียงเขาสร้างดินปืนได้เขาก็อาจจะใช้มันทำอะไรบางอย่างและได้รับไพ่ตายชิ้นสำคัญที่อาจสามารถช่วยชีวิตเขาได้ด้วยซ้ำ
มีกำมะถันจำนวนมากในย่านโรงตีเหล็กและสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้ขาดแคลนถ่านเช่นกัน แต่ข้อยกเว้นเดียวคือดินประสิว
นี่คือโลกที่แปลกประหลาด สิ่งต่างๆส่วนใหญ่ที่พบในที่นี้ยากที่จะอธิบายด้วยตรรกะของวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเอี้ยนลี่เฉียงจึงไม่มีเงื่อนงำว่าเขาจะสามารถสร้างดินปืนได้จริงหรือไม่
แต่ความคิดนี้และสูตรดินปืนอยู่ในใจของเขามาตลอด ถ้าเขาไม่ได้ลองดูมันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาจะเสียใจตลอดชีวิต
หากศัตรูของเขาเป็นเพียงหงต๋าของตระกูลหง แม้ว่าหงต๋าจะเรียนรู้ฝ่ามือเหล็กจนชำนาญแล้ว แต่เอี้ยนลี่เฉียงก็มั่นใจว่าจะสามารถจัดการเขาได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงเข้าใจดีว่าหากตระกูลหงต้องการป้องกันไม่ให้เขาก้าวไปสู่การเป็นนักรบอย่างแท้จริงแผนของตระกูลหงก็ไม่มีทางหยุดอยู่แค่นี้ ...
ในระหว่างการทดสอบศิลปะการต่อสู้เบื้องต้นตระกูลหงได้ใช้มดน้ำแข็งและยังมีการติดสินบนเพื่อนของเขา
นั่นพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าเพื่อจัดการกับเขาและเพื่อปกป้องตำแหน่งของตระกูลรวมทั้งผลประโยชน์ของพวกเขาในเมือง หลิวเหอพวกเขาก็พร้อมที่จะใช้วิธีการที่จำเป็นทุกอย่าง
แม้ว่าเขาจะผ่านขั้นตอนท่าม้าแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะบรรเทาเขาจากภัยคุกคามของตระกูลหงได้
เด็กหนุ่มที่เพิ่งผ่านขั้นตอนท่าม้าย่อมไม่เพียงพอที่จะสร้างปัญหาให้กับตระกูลหงได้ ในการทดสอบศิลปะการต่อสู้ประจำมณฑลที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกครึ่งเดือนเขาก็รู้สึกถึงวิกฤตการณ์ที่ใกล้เข้ามา
เนื่องจากตระกูลหงได้ทำการเคลื่อนไหวครั้งแรกแล้วพวกเขาจะไม่ยอมให้เอี้ยนลี่เฉียงมีชีวิตรอดจนถึงปีหน้าอย่างแน่นอน ...
นี่คือข้อสรุปพื้นฐานที่เอี้ยนลี่เฉียงมีต่อสถานการณ์ของเขากับตระกูลหง