33 ท่องเที่ยวเมืองหวงหลง
33 ท่องเที่ยวเมืองหวงหลง
ประตูที่นำไปสู่ลานที่เฉียนซูอาศัยอยู่ถูกเปิดทิ้งไว้ ต้องใช้แรงผลักเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ประตูเปิดออก
เอี้ยนลี่เฉียงเดินเข้าไปและเห็นเฉียนซูที่กำลังนอนอยู่และเพลิดเพลินไปกับอากาศเย็นๆของช่วงพักเที่ยง เขาอยู่บนเปลผ้าใบใต้ต้นองุ่นในสวนของตัวเองพลางโยกเปลไปมาอย่างสบายๆ
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเฉียนซูใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตามในวันนี้เขายังคงอยู่ในช่วงพักฟื้นและไม่ได้ออกจากค่ายเลย หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้วเขาก็มักจะนอนพักผ่อนอยู่เสมอ
ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจคาดเดาได้ในขณะที่เขาเห็นเฉียนซูก็ทำให้เอี้ยนลี่เฉียงนึกถึงช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตก่อนหน้าของเขา
ที่ชายสองคนพักผ่อนในพื้นที่พักผ่อนของโรงอาบน้ำและสนทนาเรื่องไร้สาระกันได้หลายชั่วโมง
“แค่ก แค่ก!…” เอี้ยนลี่เฉียงกระแอมในลำคอสองครั้ง
ในที่สุดดวงตาของเฉียนซูก็เปิดขึ้น เมื่อเห็นเอี้ยนลี่เฉียงเขาก็ลุกขึ้นจากเปลผ้าใบและทำท่าให้เอี้ยนลี่เฉียงเข้ามา
“ลุงเฉียน!”
เฉียนซูสังเกตเอี้ยนลี่เฉียงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความรวดเร็วรอยยิ้มล้อเลียนปรากฏบนใบหน้าของเขา “ข้าได้ยินมาว่าโจวหย่งมอบธนูงูหลามเขา ซึ่งเป็นสิ่งของที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขาให้กับเจ้า?”
"ภายใต้สถานการณ์นั้นมันคงไม่ดีเท่าไหร่หากข้าจะปฏิเสธมัน" เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้แปลกใจเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเฉียนซูไม่ได้อยู่ที่ค่ายทหารเมื่อเช้านี้
แต่เรื่องใหญ่หรือเล็กที่เกิดขึ้นในย่านโรงตีเหล็กก็ไม่สามารถหนีรอดจากสายตาของเขาไปได้
"ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าควรยอมรับมันไว้ถึงจะถูกต้อง! ธนูงูหลามเขานั้นมีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งร้อยสามสิบเหรียญทองมันเป็นของที่มีค่ามาก และมันเป็นธนูที่แข็งแกร่งถึงห้าต้าน
โจวหย่งดิ้นรนอย่างหนักเมื่อเขาพยายามที่จะใช้มัน ตั้งแต่ที่เขาได้ครอบครองมันมามันก็ไม่เคยถูกนำมาใช้เลย คงจะดีกว่าหากมันอยู่ในมือของเจ้าผู้ที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้สูงสุด! "
“พี่ใหญ่โจวใจกว้างจริงๆ! สถานะของเขาสูงกว่าข้ามากแต่เขาก็ยังปฏิบัติกับข้าาเหมือนกับเป็นพี่น้อง”
หลังจากได้ยินคำพูดที่มีความหมายและจริงใจของเอี้ยนลี่เฉียงเฉียนซูก็รู้สึกสะท้อนใจ แต่หลังจากนั้นเขาก็จำได้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงมาที่นี่เพื่ออะไรบางอย่าง “โอ้ใช้แล้ว แล้วเจ้ามาหาข้าวันนี้ด้วยเรื่องอะไร”
“อืม…ข้าอยู่ในย่านโรงตีเหล็กนี้มาครึ่งเดือนแล้วข้าอยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกและพักผ่อนสักหน่อย ข้าไม่เคยไปที่เขตหวงหลงมาก่อนดังนั้นจึงอยากเดินเล่นรอบๆเพื่อให้จิตใจได้ผ่อนคลายสักหน่อย!” เอี้ยนลี่เฉียงอธิบายขณะที่เขายิ้มอย่างซุกซน
"เมื่อสองวันก่อนถ้าเจ้าต้องการออกจากย่านโรงตีเหล็กพียงลำพัง ข้าเกรงว่าจะต้องจัดทหารสองคนติดตามคุณเพื่อที่ข้าจะได้สบายใจ
แต่หลังจากได้เห็นการแสดงของเจ้าในวันนี้ข้ารู้ว่าชาวบ้านทั่วไปไม่ใช่คู่ของเจ้าอีกต่อไปดังนั้นการจัดให้ทหารสองคนของข้าติดตามเจ้าไปคงไม่ใช่เรื่องที่เป็นประโยชน์มากนัก! "
เฉียนซูครุ่นคิดสักครู่จากนั้นจึงหยิบเหรียญออกมา "รับสิ่งนี้ไปทุกคนในเมืองหวงหลงล้วนจดจำสิ่งนี้ได้ นี่คือตราประจำตัวของข้าหากเจ้าประสบปัญหาใดๆในเมืองนี้เจ้าเพียงบอกว่าเป็นหลานชายของข้าก็พอ! "
"ขอบคุณมากลุงเฉียน!" เอี้ยนลี่เฉียงหยิบเหรียญตรามาเก็บไว้ในถุงเสื้อของเขา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็บอกลาเฉียนซูออกไป
เขาเพิ่งมาถึงทางเข้าของลานก็ได้ยินเสียงตะโกนของเฉียนซูดังออกมาจากข้างหลังเขาอีกครั้ง“จำไว้! กิจกรรมทางเพศจะนำไปสู่ผลลัพธ์อันขมขื่น เจ้าพึ่งผ่านขั้นตอนท่าม้าอย่าทำลายอนาคตของตัวเองไป!”
เป็นไปได้ไหมที่เฉียนซูคิดว่าเหตุผลที่เขาต้องการไปเที่ยวก็เพราะต้องการใช้ 'ดาบใหญ่'? เอี้ยนลี่เฉียงหันกลับมามองเฉียนซู "ลุงเฉียนเตือนข้าสองครั้งแล้ว! ข้าจะไม่ทำผิดพลาด!"
“งั้นก็ดีแล้วก็ดีแล้ว!” เฉียนซูเอนหลังลงบนเปลผ้าใบอีกครั้ง
...
หลังจากออกจากลานบ้านของเฉียนซู เอี้ยนลี่เฉียงก็เดินตรงไปที่ทางเข้าของย่านโรงตีเหล็กทันที ทหารที่ดูแลทางเข้าทักทายเขาอย่างอบอุ่น "อาจารย์เอี้ยนวางแผนที่จะออกไปข้างนอกหรือ?"
"ใช่! ข้าอยู่ที่นี่มานานเกินไปแล้วข้าวางแผนจะเดินเล่นรอบ ๆ เมืองสักหน่อย!"
“ถ้าเจ้าจะมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองโดยการเดินเท้าเจ้าจะต้องเดินเป็นเวลาสองก้านธูปเลยทีเดียว สถานที่แห่งนั้นมันค่อนข้างไกลทำไมอาจารย์เอี้ยนไม่ขึ้นรถแทน” ทหารคนหนึ่งกล่าวด้วยความเป็นห่วง
“พอดีว่าจะมีรถของโรงครัวเพื่อเข้าไปซื้อเกลือในเมืองอาจารย์เอี้ยนสามารถติดรถไปได้ ...”
" บังเอิญอะไรอย่างนี้! ข้าขอทราบได้ไหมว่าจะไปเมื่อไหร่? แต่ถ้ามันช้ามากนักข้าสามารถเดินไปเองได้!”
"อ๊ะ! ไม่ต้องรอ! ไม่ต้องรอดูสิอาจารย์เอี้ยนรถมาถึงแล้ว!" ทหารคนนั้นชี้ไปที่ด้านหลัง ขณะที่หยานลี่เฉียงหันกลับมาเขาก็เห็นรถม้าคันหนึ่ง
คนขับรถม้าเป็นคนรับใช้เก่าที่ทำงานในครัวของย่านโรงตีเหล็ก เป็นธรรมดาที่เขาจะจำเอี้ยนลี่เฉียงได้
คนรับใช้ขอให้เอี้ยนลี่เฉียงขึ้นมานั่งบนรถ ก่อนที่รถจะมุ่งหน้าเข้าสู่เมือง
รถม้าถูกใช้ในการรับสินค้าจึงไม่มีที่นั่งที่สะดวกสบาย มีกระดานไม้เพียงไม่กี่กระดาน แต่เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้พิถีพิถันอะไร ดังนั้นเขาจึงกระโดดเข้าไปในรถม้าทันที
คนรับใช้ที่ขับรถเห็นว่าเอี้ยนลี่เฉียงนั่งอยู่ด้านหลังรู้สึกไม่สบายใจจึงหันกลับไปพูดกับเขา “อาจารย์เอี้ยนรถคันนี้ใช้สำหรับรับสินค้าจึงนั่งข้างหลังไม่สะดวก ทำไมไม่มานั่งข้างหน้าข้าสามารถลงจากรถและเดินจูงม้าได้มันไม่ได้สร้างความลำบากให้ข้าแม้แต่น้อย!”
เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและโบกมือ "ฮ่าฮ่าฮ่าไม่ต้อง! ท่านไม่ต้องกังวลข้านั่งอยู่ตรงนี้ได้อย่างสบายมาก... "
คนรับใช้ถามอีกสองสามครั้งและหลังจากที่รู้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้รังเกียจ เขาก็ระบายลมหายใจอย่างโล่งอก
"ใช่แล้วท่านลุง! ท่านคุ้นเคยกับเมืองหวงหลงหรือเปล่า?"
“คุ้นเคยไหมแน่นอนข้าคุ้นเคยไม่มีอะไรที่ข้าไม่รู้ ข้าอาศัยอยู่ในเขตหวงหลงมาหลายสิบปีแล้ว!”
“แล้วท่านรู้หรือไม่ว่ามีสถานที่ใดที่น่าสนุกหรือน่าสนใจในมณฑลหวงหลง”
“มีเยอะ….”
เมื่อได้ยินคำถามของเอี้ยนลี่เฉียงรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของคนรับใช้