ตอนที่แล้วตอนที่ 26 หาทางแบบอัตโนมัติยังดีซะกว่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 28 โลกของ RPG ก็ไม่เท่าไหร่นี่

ตอนที่ 27 ไม่มีพลังก็เป็นได้แค่แรงงาน


            โธ่เอ๊ย ทั้งที่ผมยังคิดไม่ถึง สองคนนี้กลับคิดได้ก่อน ทำให้ผมสูญเสียของขวัญทางสายตาที่งดงามไป

            ช่วยไม่ได้ ใครให้ยัยสองคนนี้ปฏิกิริยารุนแรงนัก ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นเรื่องดีหรือเป็นปัญหากันแน่

“ชั้นนี้ธรรมดามาก”

มองรอบๆ ชั้นสี่ กำแพงที่สร้างจากก้อนอิฐ มีตะเกียงสนิมเขรอะ แล้วยังมีพื้นกระเบื้องแตกระแหง ดีเลย นับว่ามีความรู้สึกเหมือนเข้าสู่ดันเจี้ยนปกติซะที ถ้ามีอะไรเละตุ้มเป๊ะปรากฏขึ้นมาอีก ผมคงไม่รู้ว่าควรทำยังไง

“ข้าเห็นด้วย ความรู้สึกที่ชั้นล่างเหมือนกับไปอยู่อีกมิติเลย ถึงแม้อาจจะมีสมบัติอยู่ แต่ว่า ตอนนี้ทำภารกิจของผู้อำนวยการสถาบันให้เสร็จเร็วหน่อยคงจะดีกว่า พวกเราอยู่ข้างใต้นี้มาสามวันแล้ว”

ลาน่าพูดไปด้วย มองดูเสื้อคลุมยาวประหลาดบนตัวของเธอไปด้วย

ยัยนี่มีรูปร่างแบบโลลิอย่างชัดเจน กลับสวมเสื้อคลุมยาวรัดรูปดูประหลาดแบบนี้อีก เป็นการเปิดเผยรูปร่างอันเล็กกระจิดริดของตัวเองออกมาชัดๆ ถึงผมจะไม่ใช่โลลิคอน แต่พอเห็นรูปร่างแบบนี้ ก็ทำให้ผมเกิดความรู้สึกอยากปกป้องขึ้นมา

“นี่ๆ ถ้าเจ้าให้ราคาข้าดีหน่อย เสื้อผ้าชุดนี้ข้าไม่ซักก็ได้ ข้าจะขายให้เจ้าทันทีเลย”

ได้สติกลับมา ยัยนี่ก็มาโผล่อยู่ตรงหน้าผม พร้อมรอยยิ้มประหลาดบนใบหน้า

“ไม่ต้อง ฉันไม่ได้มีงานอดิเรกแบบนั้น”

“เอ๊ะๆ? งั้นเหรอ? เมื่อกี้เจ้ายังจ้องมันอยู่ชัดๆ”

“ก็แค่สงสัยเท่านั้น...”

“โรคจิต”

ยูบริลที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมจู่ๆ ก็พูดขึ้น

“เฮ้อ...”

            รู้สึกว่าอธิบายกับเธอไปคงไม่มีประโยชน์ ผมถอนหายใจแล้วมองทางฟาลัน

            ตอนนี้เรียกเธอว่าฟาลันไว้คงดีกว่า ถึงแม้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเวลาเห็นชื่อของเคห์ลานีอยู่บนศีรษะเธอ

            เรดลีฟนามสกุลนี้ก็ดูประหลาดมาก ถ้าอยากรู้เรื่องยัยนี่คงต้องสืบค้นทีหลัง

            ทันใดนั้น ข้างหลังกำแพงตรงหน้าก็ปรากฏชื่อสีแดง

ปีศาจหัวใจแดง เลเวล 20 9,000,000/9,000,000

            เฮ้ยๆๆ! HP ที่ไม่สมเหตุสมผลนั่นมันอะไรกัน? ทำไมถึงสูงกว่าหุ่นยนต์เลเวล 25 ตั้งหนึ่งล้านหน่วยล่ะ!

“ทางนั้นมีมอนสเตอร์ออกมา ชื่อว่าปีศาจหัวใจแดง”

“เอ๊ะ? ปีศาจหัวใจแดง? อยู่ที่ไหน?”

“อยู่ทางนั้นไง ข้างหลังกำแพงนั่น”

“ดอกบัวแดง คลื่นผันผวนสีแดง”

ทันทีที่ฟาลันยื่นมือ อนุภาคสีแดงก็รวมตัวบนมือเธอช้าๆ จากนั้น วงเวทสีแดงก็แผ่ออกจากปลายนิ้วของเธอ กลีบดอกไม้สีแดงนับไม่ถ้วนปลิวออกมาจากในวงเวท จากนั้นก็ลอยออกไปราวกับพายุหมุน

กำแพงตรงหน้าถูกบดขยี้ในพริบตา จากนั้นก็เห็นมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างหลัง

HP ของอีกฝ่ายลดไปเกินกว่าครึ่งทันที และในขณะเดียวกัน แสงสีขาวก็ไหลออกมาจากตัวยูบริลช้าๆ

“จักรพรรดิขาว รัศมีหนึ่งนิ้ว!”

            ได้ยินเพียงแค่เสียงดาบชักออกจากฝัก กำแพงตรงหน้ายูบริลก็เหมือนถูกวาดเส้นไว้เส้นหนึ่ง สว่างวาบจากฝั่งซ้ายไปขวา

            และมอนสเตอร์ที่อยู่หลังกำแพงก็...ถูกจัดการ

ปีศาจหัวใจแดงถูกจัดการ สมาชิกในทีมได้รับค่าประสบการณ์ 6,000 ได้รับไอเทม : หัวใจต้องสาป

            หัวใจต้องสาป (ใช้แล้วหมดไป) เพิ่ม HP สูงสุด 1,000 หน่วย ผลข้างเคียง : ไม่สามารถใช้ยาฟื้นฟู HP ได้ภายในเวลา 24 ชั่วโมง

            เป็นไอเทมที่ลึกลับจริงๆ ดูแล้วไม่เลวเลย ขอแค่อาศัยช่วงที่ปลอดภัยแล้วค่อยกิน หลอด HP ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างสบายๆ

ปีศาจหัวใจแดงเพิ่งจะล้มลง อีกตัวก็พุ่งเข้ามา

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า คราวนี้มีของดีอะไรบ้าง”

ไม่ต้องบอก ก็รู้ว่าเป็นลาน่าแน่นอน

ผมผ่านโพรงที่แตกนั้นมาถึงข้างศพของปีศาจหัวใจแดง ตอนนี้ ในที่สุดผมก็เข้าใจที่มาของชื่อเจ้าตัวนี้

รูปร่างเป็นหัวใจสีแดง...มอนสเตอร์ตัวนี้โตมาแบบไหนกัน กลายมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง?

“เจ้าทำได้ไม่เลว”

ยูบริลเดินเข้ามาจากข้างหลัง

“เจ้าตัวนี้มันเป็นปัญหามาก ถ้ามันพบพวกเราก่อน รอบตัวมันจะปรากฏโล่ป้องกัน จากนั้นจะทำการโจมตีอย่างไร้กฎเกณฑ์ แม้ว่าการโจมตีจะไม่แข็งแกร่ง แต่เมื่อถูกจับจ้องแล้วจะโจมตีไม่หยุด แล้วโล่นั้นก็สามารถต้านทานเวทมนตร์กับความเสียหายทางกายภาพได้ ต้องเสียเวลาเป็นอย่างมากถึงจะจัดการมันได้”

“อย่างนี้นี่เอง”

มิน่าล่ะ มอนสเตอร์รูปทรงหัวใจตัวนี้ถึงดูเหมือนไม่ได้ป้องกันใดๆ ทั้งสิ้น ที่แท้ก็ต้องพบศัตรูก่อนถึงจะเคลื่อนไหว

ทว่า...

มอนสเตอร์ตัวนี้ใช้อะไรเคลื่อนที่กันแน่? เป็นแค่รูปทรงหัวใจ ไม่มีแขนขาอะไรเลย

อ้อ และแน่นอน เพราะการโจมตีของยูบริลเมื่อกี้ มันจึงกลายเป็นสองส่วนที่ไม่ใช่รูปลักษณ์ของมัน

ทว่า ถ้าเป็นแบบนี้ เจ้าตัวนี้ก็ลอยมาตลอดเลยเหรอ? แหล่งพลังงานคืออะไร? เวทมนตร์เหรอ? แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจะต้องใช้โครงสร้างแบบไหนถึงสามารถประกอบเป็นอุปกรณ์การบินได้?

ถ้านำของแบบนั้นมาลอกเลียนแบบคงน่าสนใจทีเดียว! แบบนี้ก็ไม่ต้องเดินเท้า บินอย่างเดียวไปเลย! แล้วมันก็ดีกว่าขี่ม้าอีกด้วย!

ยังฟุ้งซ้านไม่จบ เสียงบ่นของลาน่าก็เริ่มดังขึ้นมา

“เอ๋? คราวนี้ไม่มีโล่ก็เข้าใจได้ เพราะไม่ได้อัญเชิญออกมา แต่ทำไมแม้แต่แก่นก็ไม่เห็นล่ะ?”

“แก่น?”

“อื้ม เป็นของรูปทรงหัวใจ ก่อนหน้านี้ยังมีอยู่แท้ๆ...”

รูปทรงหัวใจ? หรือว่าเป็นหัวใจต้องสาป? ผมมองดูของสิ่งนั้นในช่องเก็บของ มันเป็นรูปทรงหัวใจอย่างที่คิด

“บางทีบางตัวอาจจะไม่มีล่ะมั้ง?”

“เอ๋? กำจัดได้ยากแท้ๆ...”

ลาน่ามองศพบนพื้นด้วยความเสียดาย

“อ่า ช่างเถอะ”

แต่ครู่ต่อมาเธอก็กลับมาเป็นปกติ

“อย่างไรซะเมื่อเทียบกับเรื่องนี้แล้ว ข้าพบเรื่องที่น่าสนใจกว่ามาก”

“เอ๊ะ? อะไรเหรอ?”

“นั่นคือเรื่องที่เจ้ามองเห็นมอนสเตอร์ผ่านกำแพงหนาได้ไง”

“คือว่า...”

อันที่จริง...ถ้าไม่ใช่ว่ามองเห็นชื่อ ผมก็คงไม่รู้ว่าฝั่งตรงข้ามมีมอนสเตอร์

“แล้วเจ้ายังพูดชื่อของมอนสเตอร์ได้ไม่ผิดแม้แต่นิดเดียว เจ้าตัดสินยังไงกันแน่?”

“อ่า...ฉันก็ไม่แน่ใจ สรุปง่ายๆ ก็คือความรู้สึกน่ะ ความรู้สึก”

“ความรู้สึก...ช่างเป็นคำพูดที่พิกลจริงๆ”

ถึงแม้ยูบริลจะพูดแบบนี้ แต่ก็ยังพยักหน้า

“อย่างไรซะแค่ใช้ได้ก็พอแล้ว ลาน่า เอาเครื่องตรวจจับให้เขา ตั้งแต่นี้ไปให้เขานำหน้า เห็นศัตรูก็พูดออกมา”

“เอ๋?”

“อย่างไรซะพลังของนายก็ไม่พอนี่? แต่เป็นผู้ตรวจจับ นั่นก็พอแล้ว”

“...”

ถูกพวกเธอมองเป็นเหมือนเครื่องมือจนได้ ซวยจริงๆ เลย…ช่างเถอะ สิ่งที่เรียกว่าตัวถ่วงเป็นแบบนี้สินะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด