ตอนที่แล้วตอนที่ 19 : การพัฒนาของค่าเสน่ห์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 : พิมพ์เขียวชีวิตของพวกคุณเป็นแบบไหน?

ตอนที่ 20 : ช่วงเวลาสำคัญ


อาจารย์นั้นยืนอยู่หน้าห้องเรียนพร้อมสอนเลคเชอร์ครั้งสุดท้ายให้นักเรียนของเขา มันเป็นสัปดาห์ที่สนุกและมีประโยชน์อย่างมาก เบ็นเองก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน ตั้งแต่แซคลีไม่สร้างปัญหาให้กับเขา ไม่แม้กระทั่งจะแกล้งเรื่องป้ายชื่อ บางทีแซคลีอาจจะกลัวว่ามิยูกิจะปฎิเสธคำเดทระหว่างพวกเขา

อาจารย์ยิ้มอย่างพอใจ นักศึกษาทุกคนต่างพัฒนาความสามารถในการพูดขึ้นมาได้ในหลายระดับ เมื่อได้เฝ้ามองเหล่าลูกศิษย์เติบโตขึ้นนี่เป็นตอนที่มีความสุขที่สุดของเขาแล้ว ตอนนี้เขาจะได้รู้แล้วว่านักศึกษาทั้งหมดต่างเติบโตขึ้นมากขนาดไหน เขาเก็บของและตอนนี้มันถึงเวลาการพูดปราศัยของเหล่านักศึกษาแล้ว

นักเรียนแต่ละคนเลือกที่จะแต่งหรือนำบทความที่มีชื่อเสียงออกมาพูด หลังจากนั้นก็จะมีช่วงเวลาสั้นๆให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นออกมา

คนแรกคือมิยูกิและแซคลี ทุกคนต่างคาดหวังในตัวพวกเขาเนื่องจากพวกเขานั้นมีประสบการณ์มากที่สุด โดยการที่ให้พวกเราเริ่มพูดก่อน อาจารย์นั้นหวังไว้ว่าการปราศัยของพวกเขาจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักศึกษาคนอื่นๆ

มิยูกิกล่าวสุนทรพจน์ที่น่ารักโดยเน้นถึงความสวยงามของสวนญี่ปุ่น หัวข้อง่ายๆนี้แสดงให้เห็นว่าการพูดในที่สาธารณะเป็นทักษะเป็นเรื่องทั่วไปไม่ว่าใครก็สามารถนำมันไปปรับใช้กับหัวข้อไหนก็ได้ ขอแค่เข้าใจในหัวข้อนั้น คุณก็จะสามารถพูดมันออกมาได้

แซคนั้นเป็นคนต่อมา เขาเริ่มพูดเรื่องเกี่ยวกับความต้องการให้มีการตรวจตาประชาชนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีเหตุก่อการร้ายเพิ่มมากขึ้น

หัวข้อนี้ไม่ได้เป็นที่น่าสนใจสำหรับทุกคน ทว่าเบ็นเองก็ยังต้องชมว่าเขาเป็นคนที่พูดได้น่าดึงดูดมาก ‘ไอ้กากนี่ก็ทำได้เหมือนที่พูดนี่หว่า อารมณ์น่าจะคล้ายๆกับพวกเจ้าสำนักหัตถ์อสรพิษในตอนเริ่มแรก...’

อาจารย์กล่าวคำชมออกมา เขาคิดว่าแซคลีนั้นเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของเขาแล้วในด้านความสามารถของการสื่อสาร ถึงแม้ว่าระดับของแซคลีจะยังไม่ผ่านมาตราฐานของเขา แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมกว่านักศึกษาทั้งหมด

หลังจากนั้นนักศึกษาแต่ละคนก็เริ่มออกมาพูด บางคนก็แต่งเรื่องที่จะพูดขึ้นมาเอง บางคนก็นำมาจากบุคคลที่มีชื่อเสียง เบ็นนั้นอยู่ในแถวสุดท้าย จริงๆแล้วแซคลีเป็นคนจัดเรียงแบบนี้เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง

เขารู้ดีว่านักศึกษาคนอื่นๆต่างกังวลและต่างเพ่งสมาธิไปที่บทูดของตัวเอง ดังนั้นแซคลีเลยทำให้พวกเขาพูดจบและผ่อนคลายเสียก่อน ก่อนจะให้เบ็นออกมาพูด เพื่อทำให้คนอื่นๆจะได้เยาะเย้ยเบ็น

คิวพูดของเบ็นนั้นใกล้เข้ามาเลยๆ มิยูกิมองไปที่เขาพร้อมขบริมฝึปากออกมาอย่างเป็นกังวล เธอไม่ได้คาดหวังเลยแม้แต่น้อยว่าเขาจะชนะการแข่งขันนี้ เธอเพียงแค่ต้องการให้แซคลีปล่อยเขาไปเท่านั้นเพราะเขาทำเกินไป จะบอกก็ได้ว่าเธอนั้นบรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์ที่เบ็นจะออกไปพูดในสัมมนาครั้งนี้ซึ่งมันไม่ได้เครดิตหรือคะแนนใดๆ “เบนจามินซัง...” เธอูดขึ้นมาว่า “คุณไม่จำเป็นต้องออกไปพูดหรอก...ไม่เป็นไร”

เบ็นเห็นท่าทีที่เป็นกังวลใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เธอเป็นประเภทชอบคิดมากสินะ นอกจากนั้นทำไมเขาถึงต้องไม่ขึ้นไปพูดกันละ? เขาจำเป็นต้องทำ! “อย่ากังวลไปเลย ผมรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร  ผมกำลังรอเดทของพวกเราสองคนอยู่นะ”

เมื่อเห็นการตอบกลับที่แสนมั่นใจของเบ็น ในหัวของมิยูกิก็เต็มไปด้วยความสับสน เธอไม่เห็นว่าเบ็นจะสามารถพูดปราศัยได้ดีกว่าแซคลีได้ยังไง แซคลีเป็นนักพูดที่ดีที่สุดในที่ตรงนี้แล้ว รวมถึงเขาค่อนข้างเก่งกว่าเธอด้วย เห็นได้ชัดว่าเบ็นพึ่งเริ่มหัดพูดในที่สาธารณะเมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนนั้นเขาดูกังวลเป็นอย่างมาก และไม่สามารถพูดชื่อตัวเองออกมาได้ด้วยซ้ำ!

อย่างดีที่สุดเขาก็น่าจะสามารถพูดปราศัยจนจบได้โดยไม่กังวลจนเกินไป เธอเข้าใจว่าเบ็นนั้นพยายามทำให้เธอเครียดน้อยลง ‘เบนจามินซังเป็นพวกดื้อรั้นสินะ’ มิยูกิคิดอยู่ในใจถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันสิ้นหวัง แต่เบ็นก็ยังมุ่งหน้าเข้าสู่อันตรายราวกับซามูไรพุ่งเข้าไปในห่าฝนของกระสุน มิยูกิประเมินเบ็นเพิ่มขึ้นอีกระดับ ตอนนี้เธอนั้นกลายเป็นสงสัยครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวของเขาแล้ว

เบ็นเองก็ไม่พลาดที่จะสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงของมิยูกิ แน่นอนว่าระบบเป็นคนบอก

[ค่าแรงดึงดูดใจของเป้าหมายในปัจจุบัน: สงสัย]

นักศึกษาคนสุดท้ายก่อนหน้าเบ็นได้พูดจบแล้ว และตอนนี้มันถึงตาของเบ็นแล้ว

แซคลีบอกอาจารย์ของเขาเกี่ยวกับการแข่งขัน ในตอนแรกนั้นเขาก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะเขาว่ามันดูไม่ดีนักที่ผู้ช่วยอาจารย์จะไปแข่งกับนักศึกษา แต่แซคลีหลอกเขาไป แซคลีบอกถึงปัญหาของเบ็นการท้าทายนี้แม้จะยากลำบากแต่ก็เป็นแรงกระตุ้นอย่างดีที่จะทำให้เขาพยายามมากขึ้น ดังนั้นแซคลีเลยเลือกทำหน้าที่ของเขาในการช่วยเหลือนักศึกษา

นี่คือการใช้ทักษะการพูดของแซคลีในการหลอกลวงอาจารย์ของเขา เขาคิดด้วยซ้ำว่าอาจารย์อาจจะภูมิใจในตัวเขาด้วยซ้ำ

มิยูกิเองก็ยืนยันปัญหาของเบ็นและเล่าถึงการท้ายทายพร้อมขอให้อาจารย์นั้นเป็นคนตัดสิน เมื่อเบ็นเป็นคนท้าทายเพื่อกระตุ้นตัวเอง ดังนั้นอาจารย์จึงไม่ได้ปฎิเสธ แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่ามิยูกิจะออกเดทกับผู้ชนะ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ยอมให้ตัวเองกลายมาเป็นพ่อสื่อหรอก

อาจารย์ไม่ใช่เพียงคนเดียวที่รู้เกี่ยวกับการแข่งขันในครั้งนี้ แซคลีเองได้บอกนักศึกษาไปหลายคนพร้อมทั้งบอกให้พวกเขากระจายข่าวลือเกี่ยวกับการพนันของพวกเขาไปทั้งชั้นเรียน ในเมื่อเบ็นมีความกล้าพอที่จะท้าทายเขา แซคลีเองก็ต้องการให้เบ็นกลายเป็นตัวตลกและถูกล้อเลียนจนถึงขีดสุด

*ตึก**ตึก* เบ็นเดินไปยังหน้าชั้นเรียน มันถึงเวลาที่ต้องแสดงผลลัพท์ในความพยายามทั้งหมดของเขาแล้ว

เมื่อมิยูกิเห็นว่าเขาไม่มีเศษโน๊ตในมือ มีเพียงขวดน้ำเท่านั้น คิ้วของเธอก็กระตุกขึ้น มันไม่จำเป็นที่จะต้องจำมัน หากเป็นแบบนั้นมันจะยิ่งยากขึ้นไปอีก! นั่นทำให้ไม่มีใครทำมันเลย แม้กระทั่งเธอหรือแซคลีก็ตาม ทว่านี่เหมือนจะเป็นแผนของเบ็น? มิยูกิกัดเล็บของตัวเองด้วยความกังวลใจ

อาจารย์ก็ตาเป็นประกายทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมา

แซคลียิ้มกว้างออกมา ‘ไอ้โง่นี่แค่นี้ก็ทรมาณอยู่แล้ว ยังจะถามหาความตายด้วยตัวเองอีก! เยี่ยมจริงๆ!’

เบ็นรู้ดีว่าแซคลีกำลังดูถูกเขาอยู่ เขาสวมรอยยิ้มเย็นชาไว้บนใบหน้า ‘นายแค่ต้องรอ เพื่อที่จะรู้สึกเจ็บปวด...จากนั้นความเจ็บปวดของนายจะกลายมาเป็นเชื้อเพลิงแห่งความทะเยอะทะยานของฉัน...’

ทุกคนต่างมองมาที่เบ็นด้วยความประหลาดใจ เขาถูมือของเขาเข้าด้วยกันราวกับนักวิทยาศาสตร์ชั่วร้ายที่อยู่ในนิยายฆาตกรรม

เสียงภายในห้องกลายเป็นเงียบสงบ เบ็นกำลังพยายามอย่างหนัก ‘มันจะไม่เหมือนครั้งที่แล้ว ฉันพร้อมแล้ว’ เบ็นเลียริมฝีปากของตัวเองเพื่อเตรียมที่จะพูดพร้อมทั้งมองไปยังคนอื่นๆโดยรอบ

จากนั้น...เขาก็รู้สึกราวกับว่าการจ้องมองมาของแต่ละคนนั้นราวกับเข็มที่ทิ่มแทงมายังร่างกายของเขา...

*ตึก**ตึก*

มันเกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว อาการกังวลจนไม่สามารถทำอะไรได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด