Ep.681 - ถ้ารู้คงกระอักเลือด
1/5
Ep.681 - ถ้ารู้คงกระอักเลือด
ในทะเลนรก ถ้าไม่มีเรือดำน้ำ ต่อให้เป็นเลเวล B หากคิดหมายกลับฝั่ง ผลลัพธ์คือถ้าไม่ตายก็คงกลับมาในสภาพไม่ต่างจากถูกถลกหนัง ส่วนพวกเลเวล C คงตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ด้วยเหตุนี้ ฉินเฟิงเลยเอ่ยปากเรียกร้องค่าเช่าที่แพงลิ่ว คิดมอบบทเรียนให้แก่ไป่เว่ย
เมื่อฉินเฟิงปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ไป่เว่ยก็ไม่อาจทานทนได้อีกต่อไป
ไป่เว่ยขบฟัน และกล่าว “ก็ได้! ฉันยอมจ่าย!”
ฉินเฟิงแสดงเลขบัญชีบนอุปกรณ์สื่อสาร ไป่เว่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโอนเงินแสนล้านให้แก่ฉินเฟิง
“ไม่ทราบว่าคุณยังอยากเช่าเรือลำนี้ต่อรึเปล่า?”
ได้ยินแบบนี้ สีหน้าของไป่เว่ยดูน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม ให้เขาเช่าต่อ นั่นไม่เท่ากับต้องเสียเงินเพิ่มวันละแสนล้านหรือ?
อย่างไรก็ตาม เหมือนใบหน้าน่าเกลียดของไป่เว่ยจะชัดจนฉินเฟิงสังเกตเห็นได้ เขาเลยเอ่ยว่า “เป็นอะไรไป? หรือมิสเตอร์ไป่ไม่พอใจเรือดำน้ำเฟิงหลีของเรา?”
ฉินเฟิงชี้ไปทางส่วนด้านข้างของเรือดำน้ำ ณ ตำแหน่งโลโก้เฟิงหลี ไม่อยากเชื่อเลยว่าปัจจุบันถูกลบออกไปแล้ว ดูด่างพร้อย เห็นได้ชัดว่าตั้งใจขัดออกอย่างแรง!
ไป่เว่ยมิได้หันไปมองตาม แต่เขาทราบดีว่าอีกฝ่ายกำลังชี้ไปที่ใดและหมายถึงอะไร เพราะเขาเป็นคนเช็ดมันออกเอง!
ก็หลังขโมยของจากคนอื่น เป็นคุณ คุณจะปล่อยสัญลักษณ์ที่ระบุถึงเจ้าของคนเดิมไว้หรือ? แบบนั้นมันดูไม่เจริญหูเจริญตา อีกอย่างหากไป่เว่ยไปโผล่ผิวน้ำอีกครั้งแล้วมีคนจำได้ ในอนาคตเขายังจะสามารถอยู่กับพันธมิตรมนุษย์ได้หรือ? ความผิดนี้อาจถึงขั้นโดนตั้งค่าหัวเลยก็ได้
แต่เรื่องดังกล่าวพูดไปก็เท่านั้น เพราะตอนนี้เขาถูกฉินเฟิงจับได้แล้ว และข้างกายอีกฝ่าย ยังมีหยูหยางเต๋ากับเหอเจี๋ยเฝ้าดูอยู่
ใบหน้าของไป่เว่ยเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ นี่ช่างเป็นเรื่องน่าอับอาย เสียศักดิ์ศรียิ่งนัก
“เรื่องนี้ ประธานฉินเข้าใจผิดแล้ว ก็แค่เมื่อวันก่อนระหว่างสู้ ถูกพวกสัตว์ทะเลโจมตีจนโลโก้ถลอกไป”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง แต่ในเมื่อมีการเช่าเรือดำน้ำ ฉะนั้นก็ต้องมีค่ามัดจำ! เรือดำน้ำดัดแปลงลำนี้ มีมูลค่ามหาศาล เงินวางมัดจำมันสมควรมีราคาห้าแสนล้าน แต่เมื่อคุณทำให้มันเสียหายจนถลอกแบบนี้ ดังนั้นผมขอหักเงินมัดจำที่ว่า สรุปคือคุณยังติดหนี้ผมอยู่อีกห้าแสนล้าน!”
ดวงตาของไป่เว่ยเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน แทบอดใจไม่ไหวที่จะกระโจนไปฉีกทึ้งฉินเฟิง
กล้าดียังไงถึงหักเงินห้าแสนล้านกันหน้าด้านๆ? ทำกันขนาดนี้ทำไมไม่ปล้นกันซะเลยล่ะ
อย่างไรก็ตามคำพูดเหล่านี้ ไป่เว่ยกลืนมันกลับลงไปพร้อมเลือดที่เกือบกระอักออกมา
เขาโกรธแทบบ้า จนสมองรู้สึกวิงเวียน
เมื่อเรื่องราวดำเนินถึงจุดนี้ หยูหยางเต๋ากับเหอเจี๋ย ยังอดมองมายังฉินเฟิงด้วยความตื่นตาตื่นใจมิได้ พวกเขาทราบดีว่าฉินเฟิงโกรธ ปรารถนาสังหารไป่เว่ย แต่นึกไม่ถึงว่าทั้งๆที่จะเชือดทิ้งเลยก็ได้ แต่อีกฝ่ายกลับเลือกกดดันไป่เว่ยให้รู้สึกเหมือนกำลังเอาหัวโหม่งกำแพง
กดดันให้ไป่เว่ยรู้สึกสิ้นหวัง!
ไป่เว่ยย่อมสะกิดใจถึงเรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้น พยายามบังคับตนเองให้สงบลง เร่งกล่าวว่า “ประธานฉิน กลับไปฉันจะซ่อมมันให้คุณเอง ส่วนเรื่องเงินมัดจำ ขอให้แล้วกันไปเถอะ ลูกผู้ชายหากยังคงมุ่งมั่นก้าวเดินต่อไปข้างหน้า สักวันหนึ่งเส้นทางย่อมมาบรรจบกัน พวกเราอาจได้เจอกันอีกครั้ง!”
แม้ไป่เว่ยพยายามควบคุมตัวเองอย่างเต็มที่ แต่คำพูดสุดท้าย ฟังยังไงก็เป็นการเปล่งเสียงเล็ดลอดผ่านไรฟัน
ฟังจากน้ำเสียงแล้ว ไม่แตกต่างอะไรจากคำขู่เลย
“ซ่อมมันหรือ? สิ่งที่ถูกคนอื่นใช้แล้ว ผมไม่ชอบมันเอาซะเลย” ฉินเฟิงหัวเราะ “งั้นเอาอย่างนี้เป็นไง เรือดำน้ำทะเลลึกลำนี้ ผมจะขายมันให้คุณในราคา 2 ล้านล้าน ส่วนเงินมัดจำนั่นจะทำเป็นลืมมันไปก็ได้”
ไป่เว่ยพอได้ยินคำฉินเฟิง ก็เหลียวมองศัตรูตรงหน้าเขาด้วยความแปลกใจทันที บังเกิดความสงสัยว่าเหตุใดจู่ๆฉินเฟิงถึงใจดีขึ้นมาอยางกะทันหัน … เรือดำน้ำเฟิงหลีที่ทรงพลังถึงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะยอมขายมันจริงๆหรือ?
แต่เมื่อสายตาของไป่เว่ย มองข้ามไปยังเบื้องหลังของฉินเฟิง ก็ได้คำตอบและอดสะท้านในใจไม่ได้ เพราะนั่นมิใช่เกาะ แต่เป็นเครื่องจักร! ฉินเฟิงสามารถครอบครองอาวุธน่าพรั่นพรึงเช่นนี้ได้ ก็สมควรแล้วที่เขาจะไม่หันกลับมาเหลียวมองเรือดำน้ำเฟิงหลีอีก
‘บัดซบ ช่างน่าอิจฉานัก แต่พอลองคิดดูดีๆแล้ว ถ้าเรือดำน้ำเฟิงหลีกลายเป็นของฉัน ใช้เวลาแค่หนึ่งปีก็สามารถสร้างรายได้ 1 - 2 ล้านล้าน ได้แล้ว ดีไม่ดี ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปี ฉันอาจได้ทุนคืนจากเงินที่เสียไป แถมยังมีเรือดำน้ำเป็นของตัวเอง เมื่อโอกาสดีๆแบบนี้มากองตรงหน้า ฉันก็ไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไป!’
“ตกลง ฉันจะซื้อมัน!” ไป่เว่ยกัดฟันกล่าว เจ้าตัวกระทั่งรู้สึกว่าถูกเฉือนเนื้อ การซื้อขายนี้ผลาญทรัพย์สมบัติของเขาไปถึงหนึ่งส่วนสาม แต่เมื่อนึกถึงอนาคตยังนับว่าคุ้มค่า!
ไป่เว่ยโอนเงิน 1.5 ล้านล้านแก่ฉินเฟิงทันที ส่วนต่างที่เหลือเขาโยนอุปกรณ์รูนมิติออกไป ภายในมีเหรียญพลังงาน 5,000 ก้อนบรรจุอยู่
ฉินเฟิงพอตรวจสอบก็พยักหน้าด้วยความพอใจและกล่าว “ยอดเยี่ยม ตั้งแต่วันนี้ไป เรือดำน้ำลำนี้เป็นของคุณ คุณสามารถเรียกมันว่าอะไรก็ได้ตามต้องการ แต่หลังจากซ่อมแซมแล้ว อย่าเรียกมันว่าเฟิงหลีอีก!”
ไป่เว่ยก่นด่าในใจ ‘ฉันยังต้องให้แกเตือนเรื่องนี้หรือ!’
“ตกลง ฉันเข้าใจแล้ว เอ่อประธานฉิน งั้นเรื่องโซ่พวกนี้ …”
“คลายโซ่ได้!” ฉินเฟิงโบกมือส่งสัญญาณ โซ่ที่รัดพันเริ่มคลายตัวทันที และค่อยๆหดกลับไปทีละเส้น ทีละเส้น เห็นได้ชัดว่ามันเกิดจากการควบคุมโดยพลังสมาธิ
“ลาก่อนมิสเตอร์ไป่”
“ลาก่อน!” ไป่เว่ยเผยรอยยิ้มบนใบหน้าเขา แต่ในใจก่นด่าแม่ฉินเฟิง
ฉินเฟิงจากไปพร้อมผู้คนของเขา ผิวหนังตรงประตูทางออกของเขมือบฟ้าบิดกลับคืนสู่สภาพเดิม และร่างของฉินเฟิงกับคนอื่นๆ ก็หายไปจากสายตา
เขมือบฟ้าเริ่มขับเคลื่อนอย่างเงียบๆ ทว่าด้วยร่างกายอันใหญ่โต ยังก่อให้เกิดคลื่นมหึมา ไป่เว่ยซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 50 เมตรถูกคลื่นยักษ์ซัดเข้าใส่ทันที เลเวล C ที่ลอยคอถูกคลื่นหอบไปไกล ขณะที่เรือดำน้ำยังไม่ทราบชื่อ ถูกผลักไหลมาไกลถึง 100 เมตร
นี่แหละคือความแตกต่างระหว่างมดกับช้าง!
เป็นความแข็งแกร่งที่ไม่อาจต่อกร!
ช่วงเวลานี้ หยูหยางเต๋าในเขมือบฟ้าเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ประธาน คุณขายเรือดำน้ำดัดแปลงให้แบบนี้ นั่นไม่เท่ากับเป็นการช่วยเขาหรือ?”
แม้เรือดำน้ำเฟิงหลีจะไม่เลิศเลอเท่ากับเขมือบฟ้า แต่ยังถือว่าครอบครองประสิทธิภาพและทรงพลังยิ่ง ก่อนหน้านี้ในช่วงที่เข้าช่วยเหลือหยูหยางเต๋า ปืนใหญ่ของมันสามารถระเบิดเรือของกลุ่มไห่โม่ได้ในคราวเดียว
ฉินเฟิงกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าคุณรู้เรื่องธุรกิจลูกของกลุ่มเฟิงหลีเราแล้วหรอกหรือ? พวกเรากำลังคิดสร้างอู่ต่อเรือเป็นของตัวเอง เมื่อเป็นแบบนั้น คุณคิดว่าในอนาคตจากนี้ไป เรือดำน้ำทะเลลึกลำอื่นๆจะไม่มีประสิทธิภาพดีขึ้นหรือ?”
“เอ๊ะ?” เมื่อมีเขมือบฟ้า เลยเป็นธรรมดาที่หยูหยางเต๋าจะไม่สนใจเรือดำน้ำลำอื่น เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกมันย่อมไม่มีทางดีไปกว่าเขมือบฟ้าแน่นอน และเมื่อลองสังเกตคนอื่นๆ ดูเหมือนว่าโกวก๋วนกำลังวิ่งเต้นดำเนินการทำธุรกิจนี้อยู่จริงๆ
“หลังจากเรือดำน้ำถูกพัฒนาขึ้น แน่นอนมันย่อมมีคุณภาพดีกว่าเรือดำน้ำดัดแปลง ต่อให้ไห่หลิงจะเคยมีประสิทธิภาพมาก่อน แต่มันถูกปล่อยเช่ามานานหลายปี เป็นของเก่าไปแล้ว ฉะนั้นจะมาสู้กับเรือดำน้ำใหม่ เทคโนโลยีใหม่ที่ถูกสร้างโดยกลุ่มเฟิงหลีของพวกเรา ที่วางขายแค่ลำละ 1.5 ล้านล้าน และปล่อยเช่าวันละ 2 หมื่นล้านได้อย่างไร”
โกวก๋วนระเบิดเสียงหัวเราะและกล่าว “สรุปก็คือผู้คนสามารถเช่าเรือใหม่เอี่ยมในราคา 2 หมื่นล้าน แต่ไป่เว่ยยังต้องใช้สินค้ามือสองลำนั้น ใช้มันทุ่มเทออกหาเงินใช้หนี้เป็นเวลาอย่างน้อยหลายปี ถ้าเป็นฉัน พอรู้เรื่องนี้คงเจ็บปวดจนกระอักเลือด”
ฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย “ผมแค่อยากสอนให้เขารู้จักคำว่า ‘偷鸡不成蚀把米!’(ขโมยไก่ไม่สำเร็จ ยังเสียข้าวไปอีกหนึ่งกำมือ)”
เหอเจี๋ยกับหยูหยางเต๋าบังเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจไป่เว่ย
แน่นอน เหนือสิ่งอื่นใดคือรู้สึกหายใจได้ทั่วท้อง เพราะปัญหาจบลงด้วยดี
“เอาล่ะ เริ่มออกสำรวจต่อ วันนี้พวกเราจะมุ่งเข้าสู่อาณาเขตของเขมือบฟ้า”
“ขอรับท่านประธาน!”
“ผู้การฉิน ถ้าจำเป็นต้องใช้ฉัน สามารถเรียกหาได้ตลอดเวลา”
หลายคนโยนเรื่องของไป่เว่ยทิ้งไว้เบื้องหลัง เบนสมาธิไปจัดการภารกิจของตน และหลังจากเข้าสู่อาณาเขตเดิมของเขมือบฟ้าได้ไม่นาน
【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ตรวจพบสัตว์ทะเลปลาปากสว่านเลเวล B3! กำลังทำการนับจำนวน 】
【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด จำนวนทั้งสิ้น : 817 !】
ฉินเฟิงพอเห็นข้อมูลนี้ ก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมา
“ดูเหมือนภารกิจขอรับตรายกระดับจะจบลงเร็วกว่าที่คิด!”