Ep.674 - บุรุษทรงพลัง
4/4
Ep.674 - บุรุษทรงพลัง
ระหว่างทางกลับ มิได้ราบรื่นอย่างที่คิดไว้ สัตว์ร้ายจากทะเลนรกเป็นเพียงหนึ่งในหายนะที่ย่างกรายเข้ามา ยังมีวิกฤตอื่นๆ ที่พร้อมปรากฏขึ้นได้ตลอดเวลา
ระหว่างฉินเฟิงกำลังมุ่งตรงไปข้างหน้า สภาพแวดล้อมก็เริ่มมืดสลัวลง สายลมค่อยๆพัดแรงขึ้นท่ามกลางท้องทะเล ต่อมาฝนก็เริ่มตก
ปรากฏการณ์นี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือพายุ!
พายุร้ายพัดกระหน่ำ แม้ฉินเฟิงกับหยูหยางเต๋าจะเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในกะโหลกของเขมือบฟ้า พวกเขายังสัมผัสได้ถึงความรุนแรงสะท้านฟ้า สะเทือนปฐพี
ด้วยเหตุนี้ ฉินเฟิงเลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากดำลงไปใต้ทะเล เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เป็นผลให้เขาพบเข้ากับรอยแยกมิติในทะเล ทั้งยังเจอสัตว์ทะเลต่างมิติเลเวล A อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่สนใจทั้งสองที่กล่าวมา!
ฉินเฟิงไม่มีความคิดต่อสู้ เร่งสั่งการหุ่นเชิดเขมือบฟ้าว่ายหนีทันที!
…
นับจากวันที่ฉินเฟิงหายตัวไป หากไม่นับวันแรกที่เขาต่อสู้กับเขมือบฟ้าแล้ว อีกสองวันก็ได้ผ่านพ้นไป
ใช้เวลานานกว่า 48 ชั่วโมงเต็ม ฉินเฟิงกับหยูหยางเต๋าจึงสามารถออกจากอาณาเขตทะเลนรกมาได้
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!
อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงสามารถรับสัญญาณจากภาคพื้นดินได้ในที่สุด มีข้อความจำนวนมากส่งมาหาเขา แต่เกือบทั้งหมด พบว่าเป็นของเหอเจี๋ยอย่างไม่คาดฝัน
สมาชิกเฟิงหลีคนอื่นๆต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าฉินเฟิงยังไม่ตาย แต่ในเมื่อไม่มีวิธีใดในการพิสูจน์ เหอเจี๋ยเลยทำได้เพียงส่งข้อความหาเขาอย่างไม่ลดละ
แน่นอน ว่าข้อความเริ่มลดน้อยลงในวันที่สาม
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!
แต่ด้วยหัวใจที่ยังไม่ยอมแพ้ เหอเจี๋ยทดลองโทรหาหมายเลขสื่อสารของฉินเฟิงดูอีกครั้ง แต่เวลานี้ สัญญาณที่ส่งกลับมา กลับไม่ใช่เสียงตอบรับอัตโนมัติที่บอกว่าไม่สามารถติดต่อได้อีกต่อไป มันถูกแทนที่ด้วยเสียง ‘ปิ๊บ’ จากการกดรับสายแทน
สิ้นเสียงปิ๊บ เบื้องหน้าเหอเจี๋ย ผุดหน้าต่างเสมือนจริงขึ้น ร่างของฉินเฟิง ปรากฏสู่สายตาเธอ
“สวัสดีผู้ช่วยเหอ” ฉินเฟิงพยักหน้าให้เหอเจี๋ย
“อา! ผู้การฉิน คุณยังไม่ตาย!!” เหอเจี๋ยตื่นเต้นจนลืมตัว เกือบตะโกนออกมา
ฉินเฟิงพยักหน้าและกล่าว “ก็อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ”
“เอ๊ะ ไม่ใช่ๆ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันหมายถึง … ผู้การฉินยังมีชีวิตอยู่! นี่มันยอดไปเลย ว่าแต่คุณได้รับบาดเจ็บรึเปล่า? แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
เหอเจี๋ยยิงคำถามรัวๆ สักพักถึงค่อยสงบใจลงและเริ่มมองสำรวจฉินเฟิง หลังจากขาดการติดต่อกันไปสามวัน ดูเหมือนสีผิวของฉินเฟิงจะคล้ำลงเล็กน้อย มันกลายเป็นสีแทน แต่เสื้อผ้าบนกายเขายังดูสะอาดเรียบร้อย ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
แน่นอน เหอเจี๋ยไม่ทราบว่าเสื้อผ้าของฉินเฟิงน่ะจริงๆแล้วดัดแปลงมาจากเกราะศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นมันไม่มีทางได้รับความเสียหาย แต่ถ้าลองเพ่งมองบนผิวหนังตามตัว ก็ไม่พบว่าฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
“ตอนนี้ผมออกจากทะเลนรกแล้ว น่าจะได้กลับขึ้นฝั่งในเร็วๆนี้ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้คุณเคลียร์พื้นที่กว้างๆให้หน่อย และเตือนผู้ใช้พลังคนอื่นๆ ว่าไม่ต้องตกใจไป”
“หือ? ทำไมหรอ มันเกิดอะไรขึ้น?”
“พอดีผมเอาสินสงครามเล็กๆน้อยๆกลับมาด้วย เดี๋ยวคุณก็รู้เองว่ามันคืออะไร ตอนนี้ผมขอวางสายก่อน ผมหายหน้าไปสักพักแล้ว ต้องรีบบอกโทรหาลูกน้อง”
“ตกลง เกรงว่าหลังจากนี้ผู้การฉินคงยุ่งไปอีกสักพัก เดี๋ยวพวกเราค่อยติดต่อกันใหม่”
เหอเจี๋ยไม่มีเวลาได้เอ่ยถาม อีกฝ่ายก็วางสายสนทนาไป แต่ในเมื่อฉินเฟิงบอกจะกลับมา แสดงว่าต้องกลับมาจากทางทะเล ดังนั้นเหอเจี๋ยขับรถไปที่ท่าเรือทันที
ฉินเฟิงวางสายเหอเจี๋ย แล้วเริ่มติดต่อหาคนอื่นๆ
บนอุปกรณ์สื่อสาร ไป๋หลีกดรับสาย
“ที่รัก กลับมาแล้วหรอ ดูเหมือนจะไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นนะ”
“ทำไมล่ะ ฉันแค่อยากโทรหาเธอไม่ได้หรอ หรือว่าโทรหาได้เฉพาะตอนมีปัญหา?”
“ฮี่ฮี่ฮี่ ขอแค่ที่รักเรียกหา ฉันจะเทเลพอร์ตไปอยู่เคียงข้างคุณทันที แต่คุณโทรหาฉันแบบนี้ แสดงว่าคิดถึงฉันล่ะสิ? หลบสายตาทำไม ฮึ่ม! ฉันรู้นะว่าคุณคิดถึงฉัน!”
“อา อา ก็ได้ๆ ฉันคิดถึงเธอ” ฉินเฟิงยิ้มอย่างหมดหนทาง
“อื้ม! งั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันจะไปหาที่รักเลยก็แล้วกัน”
“เดี๋ยวก่อน ทางฉันมีผู้ใช้พลังอีกคนตามมาด้วย เอาไว้ตอนเย็นค่อยเจอกัน”
“โอเค แล้วฉันจะรอ”
ก็ไป๋หลีน่ารักซะขนาดนี้ แล้วฉินเฟิงจะไม่คิดถึงเธอได้อย่างไร!
…
“โจวฮ่าวไอ้เพื่อนยาก นี่ฉันเอง”
“ฉินเฟิงไอ้เพื่อนยาก กลับมาได้ซักทีนะ ฉันบอกแล้วว่านายยังไม่ตาย ตอนนี้นายชักจะติดนิสัยจู่ๆก็หายตัวไปทุกทีแล้วนะ”
“ฮ่าๆๆ ว่าแต่ช่วงนี้มีอะไรเกิดขึ้นในกลุ่มเฟิงหลีบ้างรึเปล่า?”
“ก็ไม่มากมายอะไรนักหรอก แค่มีมดไม่กี่ตัวจากองค์กรมืดได้ยินข่าวลือของนาย พวกมันบุกเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย สุดท้ายทุกคนถูกโค่นลงโดยมิสไป๋”
“เข้าใจแล้ว งั้นขอวางสายก่อนนะ ฉันอยากโทรตรวจสอบสถานการณ์กับคนอื่นๆ”
…
“ผู้การฉิน คุณกลับมาก็ดีแล้ว การพัฒนาอู่ต่อเรือในเมืองตงไห่ก่อนหน้านี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุณต้องการให้พวกเราเริ่มงานต่อเลยไหม?”
“เริ่มได้เลยครับ บอกโกวก๋วนให้พาลูกน้องเขาไปได้เลย จริงสิ นำเทคโนโลยีบางอย่างมาด้วย มันเรียกว่าอะไรนะ เจ้าเครื่องจักรที่พัฒนามาจากสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพก่อนหน้านี้น่ะ”
“รับทราบ ไม่มีปัญหา”
…
หลังจากทำการติดต่อไปหลายสาย ทางฝั่งฉินเฟิงค่อยผ่อนคลายลง แต่ด้านหยูหยางเต๋า เมื่อติดต่อหาลูกน้องของตน ใบหน้าของเขากลับกลายเป็นน่าเกลียด
ในช่วงหลายวันที่หายตัวไป กลุ่มของเขาได้สลายตัว ลูกน้องหลายคนหลบหนีพร้อมหอบเงินของเขาไป ผู้ใช้พลังบางคนที่เขาเคยมีปัญหา ถือโอกาสนี้ยึดอุตสาหกรรมทั้งหมดของเขา เรียกได้ว่าไม่เหลืออะไรเลย
แต่หลังจากการติดต่อจบลง หยูหยางเต๋าก็หันมามองฉินเฟิง และนึกถึงอุปกรณ์รูนมิติ กับวัตถุดิบของเขมือบฟ้า ความรู้สึกทุกข์ก็มลายหายไป!
เพราะมูลค่าของเลือดและเนื้อเหล่านี้ มันได้แซงหน้าอุตสาหกรรมของเขาไปแล้ว!
สำหรับรูปแบบการทำเงินของอุตสาหกรรม มันคือการสร้างเม็ดเงินในระยะยาว แต่การล่าสัตว์ร้ายระดับจักรพรรดิ สามารถสร้างความร่ำรวยได้ในชั่วข้ามคืน หยูหยางเต๋าเพิ่งเคยได้ลิ้มรสความหอมหวานเช่นนี้เป็นครั้งแรก!
เมื่อเห็นฉินเฟิงวางสาย หยูหยางเต๋าขบคิดถึงเรื่องนี้สักพัก คล้ายตัดสินใจบางอย่างได้เรียบร้อย
“ดูเหมือนว่าประธิานฉินต้องการต่อยอดธุรกิจในเมืองตงไห่ใช่หรือไม่?”
ฉินเฟิงหันมามองหยูหยางเต๋า เขาพอจะคาดเดาความคิดของอีกฝ่ายได้เจ็ดแปดส่วน ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ใช่ แต่เป็นแค่ธุรกิจลูกนะ แล้วตอนนี้ทางฝั่งคุณเป็นยังไงบ้าง มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?”
“ก็จะอะไรซะอีก ทุกคนพอได้ยินว่าฉันตายแล้ว ในเวลาแค่สามวัน อุตสาหกรรมที่ฉันสั่งสมมาตั้งนาน ก็ถูกกระจายทรัพย์สิน แบ่งออกไปหมดเลย ผู้หญิงหลายคนของฉันก็หนีไปแล้ว!”
โชคดีก็คือผู้ใช้พลังไม่ง่ายนักที่จะมีลูก มิฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูกของหยูหยางเต๋าที่มีสิทธิ์ได้รับมรดกต่อ คงถูกจับเชือดไม่มีเหลือ
ฉินเฟิงกล่าวว่า “คุณจะได้รับมันกลับมาอีกครั้ง ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่”
“นั่นก็จริง แต่ฉันอิจฉานายจริงๆ ที่เป็นเจ้าของกลุ่มที่สามัคคีกลมเกลียวกันขนาดนี้ อา!”
“ถ้ามิสเตอร์หยูอยากเข้าร่วม ผมเต็มใจต้อนรับด้วยความยินดี”
“ประธานฉินไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
“แน่นอน!”
“ฮ่าๆๆ สมัคร! ฉันขอสมัครเข้ากลุ่ม!”
“ด้วยความแข็งแกร่งของมิสเตอร์หยู ตำแหน่งผู้จัดการสาขาเมืองตงไห่คงต้องฝากไว้กับคุณแล้ว”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ประธานฉินโปรดวางใจ ฉันจะตั้งใจทำงานให้หนัก ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!”
ทั้งสองยื่นมือออกมาเชคแฮนด์กัน จะต่างก็ตรงใบหน้าของฉินเฟิงยังคงสงบเยือกเย็น ตรงกันข้ามกับหยูหยางเต๋าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความตื่นเต้น
ซึ่งนี่แตกต่างจากในกรณีของฟูเหวินจู , เหอเล่อหมิง และคนอื่นๆ ฉินเฟิงกับพวกเขายังมีความสัมพันธ์ในรูปแบบการร่วมมือ แต่หยูหยางเต๋า ได้กลายเป็นลูกน้องผู้ใช้พลังเลเวล B คนแรกของฉินเฟิง!
นอกจากนี้ ยังเป็นตัวแทนบ่งบอกว่า สถานะและความแข็งแกร่งของฉินเฟิงในปัจจุบัน ได้ก้าวขึ้นไปอีกระดับแล้ว!
…
ณ ท่าเรือเมืองตงไห่ ฮอลศึกของเหอเจี๋ยขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง
เธอกวาดสำรวจไปรอบๆ แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยใดๆของฉินเฟิงเลย เจ้าตัวถอนหายใจโล่งอก ดูเหมือนว่าฉินเฟิงยังมาไม่ถึง
แต่แล้วหัวใจของเหอเจี๋ยต้องรู้สึกกระวนกระวายอีกครั้ง เพราะไม่ทราบว่านายฉินเฟิงคนนี้ จะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนจึงจะมาถึง
และในเวลานั้นเอง สัญญาณเตือนภัยบนท่าเรือจู่ๆพลันดังลั่น
เสียงไซเรนหอนยาวดังฟังชัด
หวอ หวอ หวอออ!
บนอุปกรณ์สื่อสารของเหอเจี๋ย ปรากฏตัวอักษรสีหมึกดูน่าหวาดกลัวเด้งแจ้งเตือน
[ห่างออกไป 20 กิโลเมตร ปรากฏความผันผวนของสัตว์ทะเลระดับจักรพรรดิเลเวล A โปรดทำการอพยพโดยด่วน!】
