Ep.672 - หุ่นเชิด
2/4
Ep.672 - หุ่นเชิด
“รีบเก็บสินสงครามเร็ว ถึงเวลาถ้ามันจมลงทะเลไป พวกเราจะไม่ได้อะไรเลย!” ฉินเฟิงกล่าว
“อา! จริงด้วย” หยูหยางเต๋าพยักหน้า ตั้งสติอย่างรวดเร็ว เริ่มปลดปล่อยอบิลิตี้ลมออกมา พยายามหั่นแยกชั้นหนังของเขมือบฟ้า
แต่สิ่งนี้กลับทำให้ใบหน้าของหยูหยางเต๋ากลายเป็นแดงก่ำ นั่นเพราะอบิลิตี้ลมของเขา มันไม่แม้จะสามารถเฉือนหนังของสัตว์ร้ายที่ตายไปแล้วได้
หนังของเขมือบฟ้า ไม่ด้อยไปกว่าเกล็ดหรือหนังของพวกสัตว์ทะเลทรงพลังตัวอื่นๆอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหนังชนิดนี้ มิใช่สิ่งที่ผู้ใช้อบิลิตี้ลมเลเวล B อย่างหยูหยางเต๋าจะทำลายได้
เมื่อเป็นแบบนี้ หยูหยางเต๋าเลยต้องยอมแพ้ในการถลกหนังจากภายนอก จำใจมุดผ่านรูเดิม กลับเข้าไปในร่างของเขมือบฟ้า และค่อยๆเลาะชั้นเนื้อ เพื่อแยกหนังออกจากภายใน
ฉินเฟิงแน่นอนไม่อยู่เฉย ปลดปล่อยอบิลิตี้ดอกไม้แห่งการทำลายล้างอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็เร่งตรงไปยังตำแหน่งหัวของเขมือบฟ้า
ด้วยความเร็วของเขา วิ่งจากเบื้องหลังเขมือบฟ้า มายังหน้าสุดใช้เวลาเพียง 3 วินาทีเท่านั้น
เมื่อหยุดอยู่เหนือหัว ฉินเฟิงใช้มีดกษัตริย์ครามแทงทะลุผิวหนังของเขมือบฟ้าทันที เล็มเป็นวงกลม เลาะกะโหลกขนาดหนาเท่าบ้านเปิดออก
ภายในนั้นล้นไปด้วยของเหลวสีครีมอ่อนๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นสมอง ฉินเฟิงแหวกสมองมันออก มุดตัวลึกเข้าไปอีกราวๆ 50 เมตร ในที่สุดแก่นอบิลิตี้ขนาดยักษ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาลก็ปรากฏสู่สายตาเขา
แก่นอบิลิตี้เช่นนี้ ฉินเฟิงไม่เคยพบเจอมันมาก่อนเลย
ปรากฏว่ามันมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึงหนึ่งเมตร เหนือมันถูกปกคลุมไปด้วยอักษรรูนมืดและรูนน้ำ เพียงขยับเข้าไปใกล้ อำนาจที่แผ่ออกมาก็ทำให้อบิลิตี้มืดของฉินเฟิงเกิดความปั่นป่วน
ฉินเฟิงไม่มีเวลามัวสนใจ รีบเก็บกู้แก่นอบิลิตี้นี้เข้าไปในอุปกรณ์รูนมิติทันที
จากนั้น ฉินเฟิงก็รีบแหวกทาง ออกจากหัวของเขมือบฟ้า
ปัจจุบันอีแร้งสมุทรสายฟ้าได้ตายไปหมดแล้ว แต่สัตว์ทะเลที่อยู่รอบๆ ทั้งหมดกลับฉวยโอกาสนี้ ฉีกทึ้งศพของเขมือบฟ้าอย่างเมามัน
บ้างที่แทรกเข้ามาไม่ได้ก็อ้าปาก พยายามกลืนน้ำทะเลที่มีเลือดของเขมือบฟ้าผสมอยู่ลงคอ
ท่ามกลางฉากฉีกกัดชุลมุน พวกมันยังไม่สามารถใช้ฟันแหลมของตนกัดผ่านหนังหนาได้ อย่างน้อยก็ชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงน่ะสามารถทำได้!
มีดกษัตริย์ครามเหวี่ยงวูบ ปรากฏเสียงดังฟุบ! ชั้นผิวหนังของเขมือบฟ้าถูกแยกออกจากเนื้อส่วนใน จากนั้นฉินเฟิงก็เริ่มวิ่งเป็นเส้นตรงอย่างดุเดือด ไม่นานก็สามารถกลับมาถึงส่วนหลังของเขมือบฟ้า
มีดกษัตริย์ครามเฉือนผิวหนังจากแนวนอนเป็นทางยาว ช่วงหลังๆมีทั้งเนื้อทั้งไขมันก้อนใหญ่ติดมาด้วย แต่ฉินเฟิงไม่มีเวลาสนใจ ยัดทั้งหมดลงในอุปกรณ์รูนมิติโดยตรง
ส่วนหยูหยางเต๋า ในเวลานี้ตามตัวปกคลุมไปด้วยเลือด เนื่องจากฉินเฟิงได้เฉือนหนังของเขมือบฟ้า หยูหยางเต๋าเลยสามารถสูดเอาอากาศหายใจเข้าปอดได้อีกครั้ง แต่สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาเขาอีกครั้ง มิใช่มีแค่ฉินเฟิง แต่กลับเป็นสัตว์ทะเลมากมายที่คืบคลานขึ้นมาบนตัวของเขมือบฟ้า พยายามกัดกินเลือดเนื้อของมันอย่างบ้าคลั่ง
ช่วงเวลานี้ ความคิดเรื่องหนีเอาชีวิตรอดของหยูหยางเต๋ามลายสิ้น ดวงตาของเขาเริ่มกลายเป็นแดงก่ำด้วยความโกรธ หัวใจราวถูกกรีดเป็นแผล
หากเขามีความสามารถมากพอ ตนย่อมพุ่งเข้าไปสังหารสัตว์ทะเลพวกนี้ให้หมดแน่นอน เพราะเนื้อของเขมือบฟ้าที่พวกมันกำลังแย่งกันกิน ทั้งหมดล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า!
เพียงแต่ว่าเขมือบฟ้าตัวใหญ่เกินไป กระทั่งฉินเฟิงก็ยังไม่สามารถเก็บรวบรวมสมบัติมหึมาทั้งหมด ดังนั้นคิดใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด
สัตว์ทะเลตนใดที่กล้าเข้ามาปล้นชิงสมบัติของฉินเฟิง พวกมันจะถูกเขาลงมีด สังหารไม่มีเหลือ
ซ่า ซ่า …
คลื่นทะเลกระเพื่อมไหว ในที่สุดทั้งร่างของเขมือบฟ้าก็จมลงใต้ทะเล
ฉินเฟิงถึงจะแข็งแกร่ง แต่อย่างไรไม่กล้าพอสู้กับสัตว์ทะเลในถิ่นของมัน
หยูหยางเต๋าลอยตัวขึ้น ฉินเฟิงใช้งานปีกนกยูงเพลิงฟ้าลอยในอากาศ ก้มมองไปยังเขมือบฟ้าที่กำลังจมลงอย่างเงียบงัน
หยูหยางเต๋าถอนหายใจ “น่าเสียดายจริงๆ ที่สุดท้ายเนื้อเขมือบฟ้าต้องถูกสัตว์ทะเลกลุ่มนี้กัดกิน เกรงว่าหลังจากนี้ไปอีกสักปีหรือสองปี คงปรากฏสัตว์ทะเลระดับราชันย์กับจักรพรรดิขึ้นอีกหลายตัว”
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เลือดและเนื้อของเขมือบฟ้าถือเป็นยาชูกำลังชั้นดี!
แต่ว่านะ คนอย่างฉินเฟิงมีหรือจะยอมตัดชุดวิวาห์ให้ผู้อื่น เต็มใจมอบสมบัติที่ลงทุนลงแรงโดยไม่ปริปากใดๆ?
“งั้นก็ทำลายมันซะเลยสิ ในเมื่อพวกเราไม่ได้ พวกมันก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน!” ฉินเฟิงกล่าว
“ทำลายมันงั้นหรอ? ถ้าทำได้จริงก็ดีสิ” หยูหยางเต๋าส่ายหัว เขมือบฟ้าใหญ่โตซะขนาดนี้ ต้องใช้เวลามากถึงขนาดไหนกันเพื่อทำลายมัน!
ทันใดนั้นเอง ความคิดหนึ่งวาบผ่านเข้ามาในหัวเขา ในดวงตาบังเกิดประกายร้อนแรงลุกเป็นไฟ
“บ๊ะ! ฉันลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน!”
เมื่อคิดได้ ตามร่างกายของฉินเฟิงก็เริ่มผุดพรายไปด้วยรังสีทะมึนอันน่าหวาดกลัว รังสีทะมึนแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ
อักษรรูนมืดที่ฉินเฟิงปลดปล่อยออกมาจากทั้งตัว เสี้ยววินาทีแรกนับหลายพันหมื่นอักษร พริบตาเดียวทะลุออกมาเป็นล้าน!
หยูหยางเต๋ามองไปยังฉินเฟิงด้วยความตกใจ
ภายใต้การระดมรูนมืดอันน่าหวาดกลัวของฉินเฟิง เขาเผลอชักฝีเท้าถอยไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว แยกตัวห่างออกมานับร้อยเมตร มาถึงในจุดที่ผลพวงจากกลิ่นอายบีบคั้นหัวใจนี้ลดทอนลง จึงค่อยตั้งตัวได้
ระหว่างนั้นรูนมืดของฉินเฟิงยิ่งมายิ่งมากขึ้น พวกมันจมลงไปในทะเล ตกลงบนศีรษะของเขมือบฟ้า
จากนั้นแทรกซึมไหลไปตามกระดูกสันหลัง ลามยาวไปถึงหางยักษ์ของมัน
รังสีแสงกินรัศมีกว้างไกลถึงพันเมตร!
ทันใดนั้นเอง พลังงานประหลาดถูกเติมเต็ม ท่วมท้นไปทั้งร่างของเขมือบฟ้า
เพียงพริบตา เขมือบฟ้าที่เดิมจมลึกลงไปกว่า 10 เมตร หยุดกึกลงอย่างกะทันหัน หยูหยางเต๋าสังเกตได้ลางๆถึงฉากเบื้องล่าง แต่คิดว่าตนเองตาฝาดไปในตอนแรก
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เขากำลังเพ่งมองอย่างรอบคอบ กลิ่นอายที่ชวนให้หยุดหายใจพลันลุกฮือขึ้นสู่ฟากฟ้า!
ทันใดนั้น หัวปลายักษ์ก็เริ่มผุดขึ้นสู่ผิวน้ำอีกครั้ง
ในดวงตาของปลายักษ์ บัดนี้เจิ่งนองไปด้วยเลือด กะโหลกศีษะช่วงบนได้หายไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงหลุมขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งตายได้ไม่กี่ชั่วโมง แต่ภายใต้การปกคลุมของรังสีทะมึน กลับเปลี่ยนสภาพศพของมันเป็นเน่าเปื่อย ปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งความตายออกมา
“ฮู้มมมมมม!”
เขมือบฟ้าอ้าปากใหญ่ ร้องคำรามกราดเกรี้ยว
จากนั้น มันก็เริ่มสะบัดตัวและเหวี่ยงหางไปมา สลัดสิ่งมีชีวิตโดยรอบที่พยายามกัดกินตน และเริ่มอาละวาดใช้ขนาดตัวทั้งทุบทั้งเหวี่ยงพวกมันทีละหลายตัว
จากนั้นก็กัดร่างศัตรูด้วยฟันอันแหลมคมของมัน
เขมือบฟ้าที่ดุร้ายโหดเหี้ยม ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินเฟิงนำกะโหลกขนาดใหญ่ออกจากอุปกรณ์รูนมิติ โยนออกไป ให้กลับลงไปปิดส่วนหัวของเขมือบฟ้า พลางหดปีกเบื้องหลัง ร่อนลงมายืนหยัดเหนือมัน
ณ เวลานี้ ไม่มีสัตว์ทะเลเขมือบฟ้าอีกต่อไป เหลือเพียงหุ่นเชิดแห่งความตายที่ถูกควบคุมโดยฉินเฟิง!
ถูกต้อง! ฉินเฟิงใช้วิธีนี้ ได้รับกำลังรบอันแข็งแกร่งมาเป็นพรรคพวกของตน!
แน่นอน ว่าหากเขาทำเช่นนี้ นั่นหมายความว่าเลือดและเนื้อทั้งร่างของเขมือบฟ้า จะไม่สามารถเก็บรวบรวมได้อีกต่อไป พวกมันทั้งหมดจะถูกกัดกร่อนโดยรูนมืด เป็นพิษต่อมนุษย์ ไม่ใช่ของบริสุทธิ์ ยิ่งไปกว่านั้น หากปล่อยไว้นานเข้าจะผุพังเน่าเสีย
แต่ฉินเฟิงไม่สนใจ เพราะยังไงเขาก็เก็บกู้มันไม่ได้มากไปกว่านี้อยู่แล้ว
“จัดการพวกมันให้ฉัน!”
ภายใต้การควบคุมโดยพลังสมาธิของฉินเฟิง เขมือบฟ้าเริ่มสำแดงฤทธิ์อีกครั้ง ด้วยร่างอันใหญ่โตของมัน สัตว์ทะเลรอบๆราวกับกลายเป็นทารก แค่ถูกกัดด้วยฟันซี่เดียว ก็โดนบดขยี้โดยสมบูรณ์
ฉากนี้ดำเนินต่อไปแค่ไม่กี่อึดใจ ก็เปลี่ยนน้ำทะเลทั้งแถบกลายเป็นทะเลเลือด!
และกว่าเหตุการณ์จะสงบลง ก็ผ่านไปอีกกว่าสองชั่วโมงต่อมา หยูหยางเต๋าบนท้องฟ้า ค่อยมีความกล้าก้าวลงมายืนบนกระดูกสันหลังวาฬ ในหัวใจฟุ้งไปด้วยความเหลือเชื่อ
“เทคนิคควบคุมศพ : หุ่นเชิดแห่งความตาย ทำไมฉันไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย พูดตามตรงนะฉินเฟิง … ถ้าใช้เจ้าสิ่งนี้ ในอนาคต นายจะต้องสามารถครอบครองทะเลนรกได้แน่ๆ ฉันเชื่อสุดหัวใจเลย!” หยูหยางเต๋าไม่รู้จะอธิบายแก่ฉินเฟิงอย่างไรดี
“ไม่หรอก ร่างของเขมือบฟ้าใหญ่เกินไป ด้วยพลังสมาธิของผม มันยังไม่มากพอ ตอนนี้รีบระบุทิศทาง เร่งเดินทางกลับกันก่อนเถอะ” ฉินเฟิงกล่าว
“อา! เข้าใจแล้ว ไว้กลับถึงท่าเรือก่อนค่อยว่ากัน”
หยูหยางเต๋ารับคำ ตัวเขาน่ะอยู่กับท้องทะเลมาเป็นเวลานาน ดังนั้นอาศัยแค่เข็มของอุปกรณ์สื่อสาร ควบไปกับมองการดวงอาทิตย์ เขาก็สามารถระบุทิศทางได้ บอกกล่าวแก่ฉินเฟิง
ฉินเฟิงเชื่อใจฝีมืออีกฝ่าย เริ่มควบคุมศพเขมือบฟ้า ตรงไปยังทิศทางนั้นทันที