ตอนที่แล้วบทที่ 181 ปรบมือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 183 เรือเดินทะเลลำน้อย

บทที่ 182 เจ้ากำลังคิดแบบนั้นจริงด้วย!


ไม่มีอะไรให้พูดถึงอีกต่อไป

ผู้เล่นที่มาเพื่อสนับสนุนผู้เล่นใหม่ที่น่ารักเป็นพิเศษ ได้ระดมทักษะโจมตีใส่ทหารของโคโดบอสร่า

ฝนทักษะระดับสูงยังไม่ทันโปรยลงมาครบทหารเหล่านั้นก็ถูกส่งไปถึงซีเว่ยแล้ว ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงพบว่าศัตรูของพวกเขาอ่อนแอเกินไป พวกเขาเสียใจมากที่ไม่มีโอกาสได้แสดงความเก่งกาจให้พวกเด็ก ๆ เห็น และถึงกับคิดจะชุบชีวิตศัตรูที่ล้มเหลวเหล่านั้นขึ้นมาทุบตีอีกครั้ง

ช่างน่าเสียดายที่ทักษะชุบชีวิตมีผลกับผู้เล่นเท่านั้น...

ในเวลาเดียวกันขุนนางหญิงก็ตกตะลึง เธอเกิดมาในตระกูลผู้ดี นั่นทำให้เธอค่อนข้างมีความรู้เมื่อเทียบกับคนธรรมดาทั่วไป แต่เธอก็พึ่งเคยจะเห็นทักษะมากมายและผลกระทบของทักษะที่ตระการตา จนทำให้เป้าหมายที่โดนฝนทักษะเหล่านั้นเข้าไปตายได้ทันทีแบบนี้

เมื่อพูดถึงผลกระทบของทักษะเพียงอย่างเดียว แม้แต่การต่อสู้ที่น่ากลัวและโหดร้ายที่สุดที่กำลังขับเคี่ยวกันในมุมอื่น ๆ ของโลก เธอก็กลัวว่ามันไม่มีทางที่จะสุดยอดเท่าฉากที่คนเหล่านี้ต่อสู้กัน

“ลุง เราขอโทษ เราไม่สามารถส่งพวกเธอกลับไปยังโคโดบอสร่าได้อย่างปลอดภัย…” ซิมบ้ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่หดหู่เมื่อเขาพบมูฟาซาท่ามกลางฝูงชน “ครอบครัวเธอถูกกำจัดโดยลอร์ดแห่งโคโดบอสร่า”

“นั่นไม่ใช่ความผิดของเจ้า จริง ๆ แล้วสิ่งที่พวกเจ้าทำนั้นน่าประทับใจมาก” มูฟาซารู้เรื่องทั้งหมดแล้วจากโพสต์ของซิมบ้าในฟอรัมที่เด็กชายขอความช่วยเหลือ เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ตำหนิพวกเด็ก ๆ

เขาลูบหัวเด็กแต่ละคน “ไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่ประเมินความสามารถของเจ้าสูงเกินไป แต่เจ้ายังรู้จุดอ่อนของเจ้าดี และตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากพวกเรา มันเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมาก ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครยอมแพ้แม้พวกเจ้าจะเสียเปรียบ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าข้าคิดถูก”

ซิมบ้าดูเหมือนจะเสียใจอยู่นิด ๆ แต่ทั้งนาล่าและซาซูต่างก็ยิ้มแฉ่งให้กับคำชมของมูฟาซา

ในขณะเดียวกัน ขุนนางหญิงก็ลังเลเมื่อเธอเห็นมูฟาซาฆาตกรที่สังหารบารอนไนเจลาเนีย

แต่เมื่อเธอกำลังจะเข้าหาเขาและพูดอะไรบางอย่าง มาร์นี่ก็เข้าหาเธอก่อน

“สวัสดีมาดาม” มาร์นี่โค้งคำนับให้เธออย่างมีมารยาท

"เจ้ารู้จักข้ารึ?" ขุนนางหญิงตื่นตระหนกทันที เธอปิดบังตัวตนของเธอไว้ตลอดเวลาเพื่อปกป้องเกวนโดลิน ลูกสาวและทายาทเพียงคนเดียวของแลงคาสเตอร์

หากมีใครจำเธอได้ สถานการณ์ของเธอต้องเลวร้ายเป็นแน่

แม้สาวใช้ของเธอจะมีทักษะดาบ แต่เห็นได้ชัดว่าจะพวกเธอไม่สามารถรับการโจมตีจากเวทมนตร์และศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ท่วมท้นจนแม้แต่หนูก็ไม่มีโอกาสหลบหนีได้

“ชื่อของข้าคือมาร์นี่•วิลฟ์ มาดาม เราเคยพบกันครั้งหนึ่งในงานเลี้ยงที่แลงคาสเตอร์” มาร์นี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “แต่ท่านคงจำคนไม่สำคัญอย่างข้าไม่ได้”

“ข้าไม่คิดว่าใครก็ตามที่สามารถสั่งกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ได้เป็น 'คนไม่สำคัญ'” ขุนนางหญิงตอบ เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแสร้งทำเป็นใจเย็น...หรืออย่างน้อยก็อย่าให้ความกลัวของเธอถูกพวกเขาล่วงรู้

ความจริงในมุมมองของเธอ ผู้เล่นเป็นกองกำลังที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์และศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่กองกำลังธรรมดา

ไม่มีองค์กรทหารรับจ้างที่ทรงพลังขนาดนี้ในจักรวรรดิวัลลา และอุปกรณ์ที่หลากหลายของผู้เล่นก็ดูไม่เหมือนกองทัพส่วนตัวของขุนนางหรือกองทัพหลวงราชอาณาจักรอื่น ทำให้กองกำลังศักดิ์สิทธิ์เป็นคำตอบเดียวที่เป็นไปได้

แม้กองกำลังศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่จะมีชุดเครื่องแบบมาตรฐานเหมือนกองทัพหลวงของราชอาณาจักร แต่ก็มีศาสนจักรบางแห่งที่ส่งเสริมความเป็นตัวของตัวเองและความเป็นปัจเจกของผู้ศรัทธา (เช่นกรีมุนด์ เทพเจ้าแห่งการท่องเที่ยวและศิลปะ และเทพเจ้าผู้อุปถัมภ์กวีพเนจร) ซึ่งหมายความว่า กองกำลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไม่มีเครื่องแบบมาตรฐาน

แม้ว่าเธอจะไม่สามารถระบุลำดับชั้นของผู้เล่นได้ในทันที แต่มาร์นี่ที่สามารถพูดแทนคนอื่นได้ก็มีความสำคัญอย่างชัดเจนแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้บัญชาการก็ตาม

“กองกำลังศักดิ์สิทธิ์ ห๊ะ…”

เดิมมาร์นี่ต้องการปฏิเสธ แต่หลังจากคิดอีกทีสิ่งที่เธอพูดก็ไม่ถือว่าผิด

ผู้เล่นที่ต่อสู้อย่างหนักเพื่อเทพเจ้าแห่งเกมในทุกหนทุกแห่งสามารถถือเป็นกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีเครื่องแบบทหารหรือองค์กรที่ตายตัวก็ตาม

แต่มาร์นี่ก็ตัดสินใจเปลี่ยนบทสนทนาและข้ามคำถามนั้นไป

“อืม เรื่องนั้นไม่สำคัญ ทำไมท่านถึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังโคโดบอสร่าแทนที่จะเป็นแลงคาสเตอร์”

'เพราะข้ากลัวว่าพวกเจ้าจะเรียกค่าไถ่เรา ดังเช่นตอนนี้หลังจากที่เจ้ารู้ว่าเราเป็นใคร' ขุนนางหญิงคิด ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ควรพูดอะไรแบบนั้นออกไป

“ข้าแค่คิดถึงบ้านเกิดของข้านิดหน่อยเลยจะกลับไปเยี่ยมบ้าน ท่านมีปัญหาอะไรหรือไม่?”

“ไม่แน่นอน” มาร์นี่พยักหน้าแม้เขาจะไม่เชื่อข้อแก้ตัวของเธอ แล้วเขาก็พูดสั้น ๆ ว่า “แต่ถ้าท่านไม่รังเกียจ ขอให้เราได้พาท่านกลับไปยังแลงคาสเตอร์”

'เจ้ากำลังคิดแบบนั้นจริงด้วย!'

ขุนนางหญิงเกือบจะอุทานออกมา แต่ในที่สุดเธอก็อดกลั้นแรงกระตุ้นของเธอไว้

สถานการณ์ตอนนี้อันตรายอย่างแน่นอน และเธอก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะกลับไปถึงแลงคาสเตอร์ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคนเหล่านี้

ยิ่งไปกว่านั้นแม้เธอจะปฏิเสธ แต่พวกเขาคงไม่ยอมปล่อยให้เธอกลับไปเองอยู่ดี

ดังนั้นผู้เล่นจึงพาขุนนางหญิงและคณะกลับไปยังแลงคาสเตอร์

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาริเริ่มเปิดเผยตัวต่อหน้าขุนนางในเมือง

มันเป็นทางเลือกที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้เล่นรุ่นแรกได้พูดคุยตกลงกันแล้ว ความไม่สงบในแลงแคสเตอร์กำลังจะร้ายแรงขึ้น และยังไงผู้เล่นก็ต้องเปิดเผยตัวในสักวัน เพราะพวกเขาไม่สามารถซ่อนตัวอยู่ในท่อระบายน้ำได้ตลอดไป ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะใช้โอกาสนี้ อย่างน้อยตอนนี้ในฐานะ 'คนดีมีน้ำใจ' ที่ช่วยเหลือมาดามและทายาทเกวนโดลิน ทางนั้นคงรู้สึกดีต่อผู้เล่นในระดับหนึ่ง

และตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ริเริ่มเปิดเผยตัวว่าเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกม พวกเขาก็จะได้แสดงพลังบางส่วนเพื่อหารายได้พิเศษ ดังนั้นผู้เล่นจึงส่งมาร์นี่ที่มักจะไปเยี่ยมแลงคาสเตอร์ในฐานะพ่อค้าเร่ออกหน้าเจรจา

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ใครก็ตามที่ต้องการโจมตีมาร์นี่ คงต้องพิจารณาว่าพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการโต้กลับของเขาได้หรือไม่

ในขณะที่ขุนนางหญิงกำลังคิดว่าลอร์ดแห่งแลงคาสเตอร์ที่มีนิสัยแปลก ๆ จะสามารถหยุดกองกำลังศักดิ์สิทธิ์แปลก ๆ นี้ได้สัก 2-3 วันหรือไม่ สิ่งต่าง ๆ ก็ไม่เป็นไปอย่างที่เธอคิด เมื่อลอร์ดโครินซึ่งอยู่แต่ในห้องทำงานอย่างสันโดษมาตลอด ได้ออกมาพบพวกเขานอกเมืองเมื่อเขาได้รับจดหมายจากผู้เล่นที่ลอบเข้าไปพบเขาล่วงหน้า และนั่นก็ทำให้ขุนนางหญิงต้องตกตะลึง

เธอตระหนักแล้วว่าชายชราดูเหมือนจะสนใจกองกำลังศักดิ์สิทธิ์แปลก ๆ มากกว่าความปลอดภัยของตัวเธอเองและเกวนโดลิน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่หญิงสาวผมหางม้าสีบลอนด์ที่ถือเสาธงปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ สีหน้าของพ่อตาเธอก็ดูผิดปกติมากขึ้น  ใบหน้านั้นมีทั้งความสุข ความเสียใจ ความโกรธ ความรู้สึกผิด ความตื่นเต้น และความกังวล ทั้งที่ปกติแล้วเขามักจะทำหน้านิ่งอยู่เสมอ!

หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายพบกัน พ่อค้าที่เรียกตัวเองว่ามาร์นี่•วิลฟ์ สาวผมบลอนด์ผู้ถือธงที่ไม่ทราบชื่อ และลอร์ดโคริน ก็ได้ประชุมกันอย่างยาวนานในห้องทำงานส่วนตัวของโครินภายในคฤหาสน์เจ้าเมือง จากนั้นโครินก็เดินออกมาส่งทั้งสองคนกลับ เขายืนนิ่งอยู่ที่ประตูเฝ้าดูทั้งสองคนจากไปอยู่นานก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปในบ้าน

และผลของการประชุมนั้น ก็คือการแจ้งเตือนที่ผู้เล่นทุกคนได้เห็น

[ระบบชื่อเสียงของคฤหาสน์ลอร์ดแห่งแลงคาสเตอร์เปิดใช้งานแล้ว]

[ชื่อเสียงเริ่มต้นของผู้เล่น: 'เฉยเมย']

----------------------------------------------------------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด