Ep.669 - เดินหน้าสังหาร
4/5
Ep.669 - เดินหน้าสังหาร
ภายในพื้นที่คับแคบ ระหว่างการต่อสู้ เลือดเนื้อของเขมือบฟ้าถูกเผาผลาญอย่างต่อเนื่อง วงรัศมีในการต่อสู้กว้างอย่างน้อยเจ็ดถึงแปดเมตร สำหรับเขมือบฟ้าที่มีขนาดใหญ่ยักษ์นับพันเมตรแล้ว หากไม่ทำร้ายถึงขั้นหักกระดูกตัดเส้นเอ็น แม้เจ็บปวดแต่มันก็ยังพอฝืนทนได้
เวลาค่อยๆไหลผ่านไป เงาดำเริ่มปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ โผล่ออกมาไม่จบไม่สิ้น
หยูหยางเต๋าแม้สามารถฟื้นฟูกำลังได้บางส่วนแล้ว แต่สุดท้ายเวลานี้ก็ยืนหยัดต่อไปไม่ไหว
เพราะอย่างไรเสีย ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ที่เลเวล B1 เท่านั้น รูนก็มีจำกัด จำเป็นต้องได้รับการพักฟื้น!
พลังสมาธิของฉินเฟิงก็ถูกใช้ไปมากเช่นกัน แต่กำลังภายในยังเหลืออีกเยอะ ดังนั้นสามารถทนสู้ต่อได้
“ตาย!”
มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิงระเบิดเปลวเพลิงสีม่วงทะมึน ใบมีดอันทรงพลังกวาดเข้าทำลายรูนมืด
ในพริบตาเดียว เงาร่างสัตว์ทะเลที่อยู่ตรงหน้าเขาพลันกระจัดกระจาย เผยให้เห็นถึงผนังเนื้อของเขมือบฟ้าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังมันอีกครั้ง มีดกษัตริย์ครามโบกสะบัด ตัดแหวกชิ้นเนื้อที่คอยกีดขวางออก
“ฮู้มมม!”
เบื้องหลังฉินเฟิง เงาร่างสัตว์ทะเลกว่า 4 - 5 ตัวพุ่งเข้าใส่ หมายหยุดการเคลื่อนไหวของเขา ขณะเดียวกันบนกำแพงเนื้อ เริ่มปรากฏเงาร่างทะมึนผุดออกมาอีกตัว สกัดกั้นไม่ให้ฉินเฟิงก้าวต่อไปข้างหน้า
แต่คนอย่างฉินเฟิงจะยอมหยุดฝีเท้าได้อย่างไร?
“ระบำดอกไม้ไฟ!”
ฉินเฟิงหวดคมมีดด้วยหลังมือ สะท้อนเปลวเพลิงบดขยี้เงาร่างเหล่านี้ จากนั้นง้างมืออีกข้าง ฟาดออกไปอีกทาง ร่างเงาจากกระบวนท่ามังกรตะปบปรากฏขึ้น กำลังภายในเปลี่ยนรูปคล้ายกรงเล็บสีทองกวาดทำลายรูนมืดโดยรอบ
การโจมตีนี้ของฉินเฟิงสามารถขุดชิ้นเนื้อของเขมือบฟ้าได้อีกครั้ง
ฉินเฟิงอาละวาดไร้ทิศทาง เวลานี้หากรวมๆชิ้นเนื้อและศิลามิติที่เขารวบรวมมาได้ น่าจะมีน้ำหนักรวมๆกว่า 1,000 จินแล้ว แต่เนื่องจากการพยายามขับไล่เชื้อร้ายของเขมือบฟ้า ทำให้ฉินเฟิงต้องสู้ไม่ได้หยุดพัก ส่วนเขมือบฟ้าก็คอยฟื้นฟูตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกจากจังหวะแรกที่ฉินเฟิงใช้มีดเปิดรูตรงผนังกระเพาะของมันแล้ว ชิ้นเนื้อเมื่อถูกตัดออกก็ผสาน และผลิตใหม่อย่างรวดเร็ว
ฉากนี้คล้ายดั่งการชักเย่อ
ว่าจะเป็นฝ่ายฉินเฟิงสามารถตัดเฉือนหาทางออกได้สำเร็จ หรือเป็นความสามารถในการฟื้นฟูของเขมือบฟ้าที่ไวกว่า
“พวกเราไม่รู้ตำแหน่งอะไรเลย ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป คงไม่รอดแน่ๆ! การต่อสู้นี้สิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไป”
สามชั่วโมงได้ผ่านพ้น หยูหยางเต๋าก็ไม่อาจฝืนทนได้อีกต่อไป
ทั้งคนทั้งร่างของเขาคล้ายเกิดอาการอ่อนยวบ
สถานการณ์ในปัจจุบัน สำหรับหยูหยางเต๋าทุกวินาทีคือความทรมาน เพื่อต้านทานการสั่นสะเทือนของเขมือบฟ้า เทคนิคล่องนภามีความจำเป็นมาก ขณะเดียวกันก็รู้สึกแย่ที่ทำได้เพียงเฝ้ามองฉินเฟิงต่อสู้
ในชีวิตคนเรา มีอยู่หลายครั้งที่ยากจะทำใจยอมรับความพ่ายแพ้ แต่การยอมรับความพ่ายแพ้กลับยากยิ่งกว่า
“คุณออมแรงเอาไว้ ไม่ต้องใช้อบิลิตี้กับผมแล้ว แค่มุ่งพลังสมาธิไปรักษาเทคนิคล่องนภาของตัวเองก็พอ” ฉินเฟิงกล่าว
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก!” ว่าจบ หยูหยางเต๋าก็หยิบหลอดของเหลวสีเขียวออกมาจากอุปกรณ์รูน “ขอเวลาฉันซักครึ่งชั่วโมง!”
ฉินเฟิงชำเลืองมองวูบหนึ่ง ก็ทราบได้ทันทีว่านั่นคืออะไร
มันคือหลอดยาที่เมื่อฉีดแล้วจะช่วยฟื้นฟูผู้ใช้พลังธาตุลมอย่างรวดเร็ว!
อย่างไรก็ตาม เจ้าสิ่งนี้มีผลพวงร้ายแรง แม้มันช่วยฟื้นฟูรูนและพลังสมาธิได้ แต่หากใช้นานเข้า ร่างกายจะเกิดการดื้อยา ส่งผลกระทบต่อศักยภาพโดยตรง
แต่ ณ เวลานี้ช่างหัวศักยภาพเถอะ! ไม่ต้องสนใจเรื่องระยะยาวแล้ว ขอแค่รอดไปได้ก็พอ!
“อย่าฝืนไปหน่อยเลย แค่พยุงตัวเองเอาไว้ให้ได้ก็พอ” ฉินเฟิงกระจ่างแก่ใจ ว่าต่อให้เป็นตน หากคิดสังหารเขมือบฟ้า ไม่สามารถกำจัดมันได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้นยาฉีดของหยูหยางเต๋า ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง
“ฉันเข้าใจดี!” หยูหยางเต๋ากัดฟันและฉีดยาเข้าไปทันที
ฉินเฟิงไม่ให้ความสนใจกับหยูหยางเต๋ามากนัก แค่ระหว่างสนทนา เงาร่างสัตว์ทะเลยังคงปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ ได้แต่ทุ่มสมาธิไปกับการต่อสู้
การล่าสังหารดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง พลังสมาธิถูกใช้ออกเพื่อต่อต้านไม่มีหยุดพัก
กระบวนการเช่นนี้ ดำเนินต่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนสุดท้าย หยูหยางเต๋าไม่ปลดปล่อยพลังสมาธิเข้าต้านทานสัตว์ร้ายอีกต่อไป มุ่งความสนใจอยู่กับฉินเฟิงเพียงผู้เดียว
แน่นอน เขาไม่เอ่ยปากรบกวนการต่อสู้ของฉินเฟิง เพราะการต่อสู้นี้ ยิ่งมายิ่งชวนให้หวาดหวั่นน่าตกใจ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป!
สองชั่วโมงผ่านไป!!
จนกระทั่งสามชั่วโมงผ่านไป!!!
นับตั้งแต่ที่พวกเขาถูกกลืนลงมาในท้องของเขมือบฟ้า เวลาได้ผ่านพ้นไปกว่าเก้าชั่วโมงเต็มแล้ว ฉินเฟิงดูไม่เหนื่อยล้าแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม คล้ายยิ่งนานยิ่งเข้มแข็งห้าวหาญขึ้นเรื่อยๆ
หยูหยางเต๋าไม่เห็นแม้แต่จังหวะกลืนเม็ดยาของฉินเฟิง ในสายตามีเพียงหนึ่งคนหนึ่งมีด ไล่สังหารทั่วสิบทิศ
นั่นเพราะหยูหยางเต๋าไม่ทราบ ว่าการล่าสังหารของฉินเฟิงนั่นแหละ คือการฟื้นฟูตัวเองไม่ต่างจากการรับประทานเม็ดยา!
เงาร่างสัตว์ทะเลแม้น่าหวาดกลัว แต่แท้จริงแล้วมันคือสิ่งมีชีวิตที่สร้างขึ้นจากอักษรรูนและพลังสมาธิ ดังนั้นเมื่อฉินเฟิงสังหารพวกมัน ทุกตนล้วนถูกดูดกลืน พลังสมาธิฟื้นฟูกลับมา
ยังไม่พอ ตราบใดที่ชิ้นเนื้อของเขมือบฟ้าถูกตัดออก ฉินเฟิงยังสามารถกลืนกินมัน ช่วยฟื้นฟูความแข็งแกร่งทางกายภาพและกำลังภายในแก่ตนเองได้
เมื่อตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้ เลยทำให้ฉินเฟิงสามารถต่อสู้ได้อย่างไม่ต้องหยุดพัก!
เขมือบฟ้าเองย่อมไม่คิดนิ่งดูดายเฝ้ารอความตาย เมื่อมันทราบว่าตนไม่สามารถกลืนกินฉินเฟิงได้ มันก็เริ่มออกไล่ล่าสัตว์ร้ายในท้องทะเลทันที ใช้พลังงานจากศพเหล่านั้น ฟื้นฟูรักษาบาดแผลของตัวเอง
แน่นอน เพราะการกินมนุษย์ครั้งล่าสุด ทำให้มันบังเกิดความรำคาญสุดแสน ดังนั้นเขมือบฟ้าไม่กล้ากินมนุษย์อีกต่อไป
ผลลัพธ์นี้นำไปสู่สาเหตุที่ภายในทะเลนรก เรือดำน้ำมากมายสามารถหนีตายได้สำเร็จ และหลังจากการอาละวาดผ่านไปหลายชั่วโมง เรือดำน้ำทะเลลึกทั้งหมดก็กลับมา ไม่กล้าออกล่าอีกต่อไป
บนท่าเทียบเรือ เหอเจี๋ยเมื่อทราบข่าวจากผู้คน ในใจบังเกิดความงุนงงสงสัย ได้แต่กระพริบตาปริบๆ
“บางที … บางทีฉินเฟิงอาจยังไม่ตายจริงๆ? แต่นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
“แต่ถ้าให้คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็คงไม่น่าใช่ เพราะหลังจากฉินเฟิงถูกกลืนลงไป ไม่กี่ชั่วโมงจากนั้น ก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้นไม่หยุดหย่อน!”
“ถ้ายังรอดอยู่จริงๆ … ฉินเฟิงคนนี้เป็นตัวอะไรกันแน่?”
…
ภายในร่างของเขมือบฟ้า ฉินเฟิงดิ้นรนกำจัดรูนมืดต่อไป พื้นที่รอบตัวเขายิ่งนานยิ่งหดแคบลงเรื่อยๆ ฉินเฟิงก็ตระหนักเช่นกัน หากแต่ยังคงมุ่งสังหารต่อไป แม้นี่จะเป็นการสร้างความเสียหายแค่เพียงผิวเผินก็ตาม
เนื่องจากร่างของเขมือบฟ้าใหญ่เกินไป และเงาร่างสัตว์ร้ายที่ทำหน้าที่เสมือนเม็ดเลือดขาวคอยตรงเข้ามาขจัดไวรัสอย่างเขา ดาหน้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างเชื่องช้า แม้จะผ่านไปหลายชั่วโมง แต่ฉินเฟิงสามารถรับรองได้เลย ว่าตำแหน่งที่เขาเคลื่อนไหว ไปได้ไกลไม่เกิน 100 เมตร ตำแหน่งที่ใช้สู้กับเงาร่างของเขมือบฟ้าก็แทบไม่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา มันได้ล้มล้าง พลิกคว่ำความรู้ความเข้าใจของหยูหยางเต๋าไปโดยสิ้นเชิง
“ค่อยๆค้นหาไปเถอะ จะช้าจะเร็วต้องถึงที่หมายแน่ๆ เพราะถึงเขมือบฟ้าจะมีขนาดมหึมา แต่ตัวมันยาวสุดก็แค่ 1,000 เมตร เพราะงั้นนายต้องสู้!” หยูหยางเต๋าส่งแรงใจ มองไปยังฉินเฟิงด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความเคารพเทิดทูน
ไม่ทราบจริงๆ ว่าปีศาจร้ายเช่นเขาผุดมาจากนรกขุมไหนกัน
ฉินเฟิงพยักหน้ารับคำ เอ่ยในทำนองเดียวกันว่า “ท้องของเขมือบฟ้าน่าจะอยู่ส่วนล่าง และในเมื่อมันเป็นสัตว์ทะเลที่ใช้พลังสมาธิ ดังนั้นแก่นอบิลิตี้น่าจะอยู่บริเวณสมอง ไม่ใช่ตำแหน่งหัวใจ”
“ถึงอย่างนั้น ยังไงซะหัวใจย่อมเป็นจุดอ่อนร้ายแรงของมันแน่ๆ”
“งั้นก็ลองดู!”
พลังสมาธิของของฉินเฟิงในปัจจุบันไม่สามารถเชื่อมต่อกับภายนอกได้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบแน่ชัดว่าตนอยู่บริเวณจุดไหน แต่กระนั้น หากต้องการทำลายมัน วิธีการในตอนนี้ ถือว่าอ่อนโยนเกินไป!
ห้วงเวลาคล้ายหยุดนิ่ง มีดกษัตริย์ครามเคลื่อนไหวช้าลง ตระเตรียมพร้อมระเบิดพลังอันยิ่งใหญ่ที่สุดออกมา
วินาทีต่อมา คมมีดพลันเงื้องแทงขึ้นสู่เบื้องบน
“พลุไฟสงคราม!”
เปลวเพลิงสีม่วงทะมึน ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า!
อำนาจอันทรงพลานุภาพ แหวกเลือดฉีกเนื้อโดยรอบ เงาร่างทะมึนถูกแผดเผากลายเป็นขี้เถ้าบินว่อน!
เนื้อสดๆในระยะสิบเมตร ทั้งหมดถูกกวาดล้างออกไป จากนั้นใบมีดที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสิบเมตร ก็ยืดขยายออกเป็นร้อยเมตร!
หากเทียบเปรียบกับเขมือบฟ้าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง การโจมตีก่อนหน้านี้มากสุดคงทำให้มันแค่รู้สึกปวดท้อง อึดอัดไม่สบายตัว แต่กระบวนท่านี้ ไม่ต่างจากการใช้กริซสั้น แทงเข้าท้องของผู้ใหญ่อย่างโหดเหี้ยม!