Ep.663 - เข้าช่วยเหลือ
2/4
Ep.663 - เข้าช่วยเหลือ
เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ผู้นำกลุ่มไห่โม่บนภูเขาน้ำแข็ง ในที่สุดก็อดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป
“เฉินซา ฉันจะช่วยนายเอง!”
คลื่นน้ำเริ่มก่อตัว ผู้ใช้อบิลิตี้อีกคนเข้าสู่สนามรบ
หยูหยางเต๋าตระหนักถึงสถานการณ์ร้ายทันที
“พวกนายขับเรือดำน้ำหนีไปกันก่อน!”
ระหว่างกล่าว หยูหยางเต๋าปีนขึ้นไปยังประตูเรือดำน้ำ
“บอส!”
“บอส มันอันตรายเกินไป พวกเขามีถึงสามคน!”
“บอส ใคร่ครวญอีกครั้งเถอะ อย่าไปเลย”
ผู้ใช้บังคับบัญชาของหยูหยางเต๋าน่ะต่างจากลูกจ้างบนเรือของฉินเฟิง พวกเขาเป็นผูิ้ติดตามหยูหยางเต๋าอย่างแท้จริง เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกัน ในตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี เรียกได้ว่าใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่ด้วยกัน
ดังนั้นพวกเขาไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับหยูหยางเต๋า
“วันนี้ ที่จริงแล้วคือวันโชคร้ายของฉัน ถ้าไม่มีเขาคนนั้นยิงปืนใหญ่ช่วยเหลือ เกรงว่าพวกเราคงไม่รอดพ้นจากการโจมตีของกลุ่มไห่โม่ เพราะฉะนั้น ฉันไม่สามารถทิ้งผู้มีพระคุณเอาไว้เบื้องหลังได้ นี่เดิมเป็นชะตากรรมของฉัน ไม่สมควรให้คนอื่นแบกรับมัน ไม่งั้นจากนี้ไป มโนธรรมในใจฉันคงไม่หลงเหลืออีกต่อไป!”
ได้ยินแบบนี้ ผู้ใต้บังคับบัญชาของหยูหยางเต๋า ดวงตาเริ่มเปียกชื้น
พวกเขาไม่มีความคิดที่จะขัดขวางหยูหยางเต๋าอีก
หยูหยางเต๋าเริ่มปีนต่อ ขึ้นมาอยู่เหนือระดับน้ำทะเลได้สำเร็จ
แต่ในช่วงเวลานี้ การต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายได้มาถึงจุดเดือดพล่านแล้ว หยูหยางเต๋าเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญทรนง ระเบิดเสียงด้วยความโกรธว่า “เฉินซา , ไอ้ลูกเต่าหวังหยางหยิง คู่ต่อสู้ของพวกแกคือฉัน!”
บังเกิดสายลมกรรโชก ชักนำหยูหยางเต๋ามุ่งสู่ทิศทางสนามรบ
ฉินเฟิงเบนสายตา มองมายังหยูหยางเต๋าที่กำลังมุ่งตรงมาอย่างเร่งร้อน แล้วต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย สุดท้ายละความสนใจจากมัน
เนื่องจากต่อให้อีกฝ่ายมา ก็ไม่สามารถร่วมสู้กับเขาได้อยู่ดี
เพราะในเวลานี้ ในบรรดาผู้นำกลุ่มไห่โม่ ยังมีเลเวล B อยู่อีกคนหนึ่ง!
“ดูเหมือนแกจะไม่รักชีวิตจริงๆสินะ ทั้งๆที่มีเจ้าหนุ่มนั่นกระโจนมาเป็นเหยื่อแทน ส่วนแกแค่หนีออกไปจากที่นี่ก็พอแล้วแท้ๆ แต่ดันดื้นรั้นรั้งอยู่ต่อ ทั้งยังเสนอหน้าเข้ามา งั้นก็ดี! ฉันจะฆ่าแกแล้วชิงเรือนั่นมาชดใช้ซะเลย!”
หยางเฉียนกล่าว ขณะเดียวกันระดมกำลังภายในของเขา หลั่งไหลไปตามร่างกายตน ใช้ออกด้วยวิชาตัวเบา พุ่งเข้าสังหารหยูหยางเต๋า
สามต่อสอง เห็นได้ชัดว่าคนจากพันธมิตรองค์กรมืดได้เปรียบมากกว่า
แต่ด้วยการตัดสินใจมาเข้าร่วมการต่อสู้ของหยูหยางเต๋า ส่งผลให้สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์แบบสามต่อหนึ่งมาได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับฉินเฟิง ต่อให้เป็นแบบนั้นก็ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด
ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงโฉบกายหลบเลี่ยงการโจมตีของผู้ใช้อบิลิตี้ได้อีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ทิ้งระยะห่าง ลากทั้งสองออกมาจากฝั่งหยูหยางเต๋า
“ดูเหมือนว่าอบิลิตี้ไฟจะไม่เหมาะกับที่นี่จริงๆ”
แต่เดิม อบิลิตี้ที่แข็งแกร่งที่สุดของฉินเฟิง คือเทคนิคเพลิงบรรจบ ยังไงก็ตามที่นี่คือท้องทะเล ดังนั้นอานุภาพของเขตแดนเปลวเพลิงจึงอ่อนแอลงเป็นเท่าตัว
แม้ว่าพลังสมาธิของฉินเฟิงจะแข็งแกร่งมาก แต่อย่างไรมันอยู่แค่เลเวล C7 ปัจจุบันยังไม่ทรงพลังเท่ากำลังภายในของเขา ดังนั้นเมื่อต่อกรกับผู้ใช้อบิลิตี้ เลเวล B ผลลัพธ์เลยออกมาเสมอกัน
อย่างไรก็ตาม สามารถสร้างสถานการณ์ ‘เสมอ’ ได้นี่ก็ถือว่าน่าตกใจมากพอแล้ว!
เฉินซากับหวังหยางหยิงที่กำลังต่อสู้กับฉินเฟิง ยิ่งมายิ่งรู้สึกเหลือเชื่อ
แต่ในเมื่อเรื่องราวมันดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว อีกทั้งพวกเขายังไม่มีเรือดำน้ำ ดังนั้นเหลือตัวเลือกเดียวคือสังหารฉินเฟิงกับหยูหยางเต๋า แล้วชิงเรือดำน้ำมา เพราะท่ามกลางทะเลนรกอันแสนอันตราย อาศัยกายเนื้อเพียงอย่างเดียว กว่าจะกลับถึงฐาน คงตายซ้ำๆ ตายจนไม่รู้ว่าตายไปมากแค่ไหนแล้ว
ดังนั้น นิยามของการต่อสู้ในครั้งนี้ก็คือ ‘ไม่ข้าตายก็เจ้ารอด!’
“เทคนิคมังกรน้ำ!”
โฮกกกก!
เสียงหอนของมังกรน้ำสะท้อนขึ้นมาจากท้องทะเล เริ่มแหวกว่ายก่อกำเนิดคลื่นยักษ์ มิใช่เพียงแค่นั้น แต่เมื่อตัวแรกเผยโฉมออกมา ก็เริ่มปรากฏอีกตัวหนึ่งเผยโฉมตาม ทะยานออกมาจากท้องทะเลอีกกว่า 4 ตัว
นอกจากรูนน้ำแล้ว หวังหยางหยิงเองก็สามารถใช้น้ำทะเลได้เช่นกัน ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ส่งเสริมให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ในที่นี่ เกรงว่าอันตรายกว่าเฉินซาเสียอีก
“ห้ามังกรหน่วงฟ้า!”
ก๊าซซซซ!
มังกรยักษ์อันน่าสะพรึง ว่ายวนรอบกายฉินเฟิง
“ไหนลองแสดงให้ฉันดูหน่อยเถอะ ว่าแกจะหนียั--- อะไรกัน??”
ดวงตาของหวังหยางหยิงเบิกกว้าง สะท้อนให้เห็นถึงรังสีแสงสีดำจางๆ แล้วร่างของฉินเฟิงก็หายวับไปจากสถานที่เดิม
อาศัยประสบการณ์ของทั้งสอง ที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน ต้องอุทานขึ้นพร้อมกัน
“นี่มันรูนมืด!”
วินาทีถัดมา กระทั่งเฉินซาผู้ใช้รูนน้ำแข็ง ยังบังเกิดความรู้สึกเย็นสันหลังวาบ นี่คือกลิ่นอายสังหาร ที่มากพอให้ขนลุกชัน เม็ดเหงื่อผุดพราวทั้งกาย
“กระบวนท่าวรยุทธ : มังกรตะปบ!”
ฉินเฟิงฟาดฝ่ามือ!
แต่ในเวลานั้นเอง เฉินซากลับระเบิดอักษรรูนน้ำแข็งอันน่าสะพรึงกระจายไปรอบตัวอย่างไร้ซึ่งความลังเล เพียงพริบตาเดียว นอกกายเขาก่อตัวเป็นประติมากรรมน้ำแข็งขนาดใหญ่
ตูมมม!
ตามมาติดๆด้วยเสียงดังสนั่น
ประติมากรรรมน้ำแข็งถูกตบพังทลาย เศษน้ำแข็งบ้างปลิวละลิ่ว บ้างร่วงจ๋อมลงไปในทะเล
ครืนนนน!
ผลกระทบสร้างคลื่นปั่นป่วนใหญ่โต จนผู้คนสามารถตระหนักได้ ว่ากระบวนท่านี้รุนแรงถึงขนาดไหน
“ผู้ใช้วรยุทธโบราณ!” หวังหยางหยิงร้องอุทาน แต่เขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ไม่สิ บนตัวเขาตอนนี้ยังมีรูนมืดอยู่เหมือนกัน นี่มันหมายความว่ายังไงกัน? หรืออาจเป็นอุปกรณ์รูน? เกราะระดับเทวะ?”
ทำได้เพียงแค่คิด ไม่รอให้เขาได้เอ่ยปากถาม ฉินเฟิงก็เริ่มเคลื่อนไหว โฉบกายตรงเข้ามาสังหาร
ต้องทราบนะว่า ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ฉินเฟิงเพียงทดสอบดูว่ารูนไฟของเขามีพลังพอที่จะใช้งานในสถานการณ์เช่นนี้หรือไม่ แต่ตอนนี้เขาคร้านจะทดสอบมันแล้ว เมื่อถึงเวลานี้ คนเหล่านี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร?
อย่าลืมสิว่าในเมืองลาวาเดือด ฉินเฟิงสังหารเลเวล B ไม่ตั้งกี่คนในคราวเดียว ฉะนั้นตอนนี้คงไม่ต้องกล่าวถึงกระมัง?
“อ๊าาาา” หวังหยางหยิงกรีดร้อง ควบคุมน้ำทะเลเบื้องล่าง โถมเข้าโอบล้อมเขาไว้ทันที
ทว่าฉินเฟิงกลับแสยะยิ้มหยัน เลือกอาละวาดต่อไป
ตูมมมมม!
บังเกิดเสียงอึกทึกไม่ด้อยไปกว่าเสียงระเบิดลั่นเมื่อครู่ ฉินเฟิงดั่งระเบิดขนาดเท่าตัวมนุษย์ ทะลวงเข้าไปในคลื่นน้ำ ตรงเข้าสังหารหวังหยางหยิง
“เทคนิคคลื่นยักษ์กลืนสรรพสิ่ง!”
หวังหยางหยิงเองก็ตระหนักได้เช่นกัน ว่าน้ำทะเลไม่สามารถปกป้องเขาได้ จึงตัดสินใจขบฟัน เลือกทุ่มโจมตีเต็มกำลังเข้าหาฉินเฟิง
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงดันหายวับไปอีกครั้งอย่างน่าฉงน
เขาใช้รูนมืดอำพรางกาย ฉะนั้นย่อมไม่มีใครทราบว่าเขาอยู่ตรงไหน หรือไปที่ไหน!
“ไม่เข้าท่าแล้ว หยางเฉียนช่วยฉันด้วย!” หวังหยางเฉินหักเลี้ยว รีบวิ่งไปยังตำแหน่งของหยางเฉียน
หยางเฉียนตกใจไม่แพ้กัน เขาตัดสินใจปลีกตัวจากหยูหยางเต๋า วิ่งตรงมาทางหวังหยางหยิง เพื่อปกป้องสหายของตน
อย่างไรก็ตาม ก่อนทั้งสองจะร่วมกลุ่มกัน ฉินเฟิงกลับปรากฏกายขึ้นดั่งภูติผี เข้าขวางหยางเฉียนอย่างไม่ทันตั้งตัว
“สารเลว หลีกทางแก่บิดา!”
เห็นศัตรูเข้าขวาง สามง่ามในมือหยางเฉียนจ้วงออกทันใด ทิ่มแทงเข้าหาฉินเฟิง แสงสีทองบนอาวุธรูนสาดประกาย หลอมรวมเข้ากับกำลังภายในอันน่าสะพรึง ผลลัพธ์สามารถแยกร่างสัตว์ทะเลต่างมิติได้ในคราวเดียว
กระบวนท่านี้ คือกระบวนท่าลับของหยางเฉียน!
ช่วงเวลานั้นเอง ต่อให้ฉินเฟิงต้องการหลบเลี่ยง แต่เกรงว่าคงไม่มีเวลามากพอ
ทว่าถึงจะอธิบายมาเช่นนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉินเฟิงต้องการจะหลบซะหน่อย!!
ในมือของฉินเฟิง ปรากฏอาวุธรูนขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อาวุธชิ้นนี้เป็นเพียงอาวุธรูนธรรมดาที่สาดประกายสีทอง แต่ยามถูกอัดฉีดลงโดยกำลังภายในของฉินเฟิง มันกลับระเบิดอำนาจประหลาดจนถึงขั้นทำให้ห้วงอากาศบิดเบี้ยว
ตูม!
กำลังภายในของทั้งสองปะทะกันในคราเดียว
วินาทีต่อมา คล้ายกับอากาศที่ว่างเปล่าถูกฉีกกระชาก กำลังภายในที่คอยห่อหุ้มอาวุธทั้งสองจากภายนอกสลายหายไป ระยะห่างระหว่างทั้งสองย่นเข้าใกล้กันเรื่อยๆ มีดยาวในมือของฉินเฟิง ฟาดฟันถึงคมสามง่าม
แต๊งงงงง
สามง่ามแหลกเป็นเสี่ยงๆทันใด มีดยาวในมือฉินเฟิงสับลงบนโล่ปราณกำลังภายในของศัตรู
เพล้ง!
บังเกิดเสียงสะท้อนแผ่วเบา ปราณกำลังภายในที่ในสายตาคนอื่นๆดูแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ดันแตกเป็นเสี่ยงๆ จากนั้น มีดยาวในมือฉินเฟิงหักเหทิศทางเล็กน้อย--
--เบนแทงตรงหน้าอกหยางเฉียน!
ฉัวะ!!
เลือดไหลทะลัก สาดกระจายลงสู่ท้องทะเล