Ep.662 - เจ้าสัตว์ประหลาดนี่เป็นใครกัน?
1/4
Ep.662 - เจ้าสัตว์ประหลาดนี่เป็นใครกัน?
อย่างไรก็ตาม หยูหยางเต๋ายังลังเลใจ เพราะด้วยความแข็งแกร่งของเขา เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถสู้เฉินซาได้
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เกิดการระเบิดรุนแรง แต่เฉินซากลับสามารถรอดชีวิตมาได้ ยังไม่พอ เมื่อภูเขาน้ำแข็งผุดขึ้นบนผิวน้ำ ลอยตัวกลายเป็นแผ่นดินขนาดย่อม ยังปรากฏกลิ่นอายอันทรงพลังขึ้นอีกสองคน!
เป็นหวังหยางหยิงกับหยางเฉียน! ผู้นำกลุ่มไห่โม่อีกสองคนก็รอดเช่นกัน!
สามเลเวล B อยู่กันกันพร้อมหน้า!
เมื่อทั้งสามปรากฏตัว บนหน้าผากของหยูหยางเต๋าสัมผัสได้ถึงเหงื่อเม็ดเป้ง ขณะเดียวกัน บนเรือดำน้ำเฟิงหลี เสียงโห่ร้องยินดีของลูกเรือก็ค่อยๆหยุดลง มีกระทั่งบางคนร่างกายเริ่มสั่นเทิ้ม
แรงกดดันของเลเวล B ทำให้พวกเขาหวาดกลัว ส่งผลให้พลังสมาธิแทบไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป
“พวกเราจะทำยังไงดี?”
“เลเวล B ถึงสามคน แบบนี้พวกเราตายแน่ๆ”
“เรา … เราควรยิงปืนใหญ่อีกซักรอบดีไหม? บางทีอาจยังมีโอกาสรอดก็ได้ เพราะประสิทธิภาพเรือดำน้ำขอิงพวกเราสูงตั้งขนาดนี้”
ในหัวใจของเหล่ามือปืนเลเวล C บังเกิดความสับสนว้าวุ่น หวาดกลัวจนขุนลุกเกรียว
ทั้งหมดอดเหลียวหลังกลับมาเป็นทางเดียวไม่ได้ ทุกสายตา ทุกความหวัง เบนมายังตำแหน่งที่ฉินเฟิงยืนอยู่
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปยังตำแหน่งกัปตัน พวกเขากลับพบเพียงความว่างเปล่า
เหอเจี๋ยตะลึง อึ้งไปเช่นกันคราวนี้
“ผู้การฉินเล่า? คนหายไปไหนแล้ว?”
ระหว่างพวกเขากำลังตื่นตระหนก ฉินเฟิงดันหายไปอย่างกะทันหัน
หนึ่งในผู้ใช้พลังสะดุ้งเฮือก ร้องโวยวายออกมา “เขาไปไหนแล้ว? ไม่ใช่แอบหนีไปก่อนใช่ไหม? อย่าบอกนะว่าเขาจะทิ้งพวกเราไว้เป็นแพะรัปบาป!!”
“หุบปากซะ! ดูข้างนอกนั่นสิ!” ในตอนนั้นเอง ซุนเทียนหยวนตวาดขึ้นมา ทุกสายตาค่อยเบนออกไปยังด้านนอกของเรือดำน้ำเฟิงหลี และพบว่าภายนอก มีคนๆหนึ่งกำลังยืนหยัดเพียงลำพัง
--เป็นฉินเฟิง!
เขาออกไปข้างนอกอย่างกะทันหัน หมัดของเหล่าลูกเรือ อดกำแน่นไม่ได้ เฝ้ามองฉินเฟิง ไม่ทราบว่ากัปตันของพวกเขาคิดทำอะไร
“หรือว่าเขาคิดเผชิญหน้ากับเลเวล B ?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร? เขาเป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล C นะ”
“เปล่าประโยชน์ ทำไมพวกเราไม่ใช้โอกาสนี้หนีกันซะเลยล่ะ?”
ช่วงเวลานี้ ในแววตาของฝูงชนล้วนสั่นไหว มีเพียงเหอเจี๋ยเท่านั้นที่ดวงตากลับมามั่นคง
“ฉันเชื่อใจผู้การฉิน เขาเป็นชายที่ทรงพลัง ความสามารถไกลเกินกว่าที่พวกเราจะจินตนาการถึง!”
แต่คนอื่นๆ พอได้ฟังเห็นได้ชัดว่าไม่เห็นด้วย
“มีความสามารถเกินกว่าจินตนาการแล้วอย่างไร? ศัตรูคือผู้ใช้พลังเลเวล B !”
“บางทีท่านผู้ใหญ่ฉินอาจซ่อนความแข็งแกร่งของเขาเอาไว้ บางทีเขาอาจไม่ใช่เลเวล C ธรรมดาๆ แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น ก็ไม่มีทางรับมือกับคู่ต่อสู้เลเวล B พร้อมกันถึงสามคนได้ ไม่ต้องพูดถึงหนึ่งในนั้นคือเฉินซา!”
เฉินซาน่ะเป็นโจรสลัดที่ทรงพลัง สมญาปีศาจร้ายแห่งท้องทะเล
ตัวตนที่ฉินเฟิงกำลังจะเผชิญหน้าในตอนนี้ ไม่ต่างจากราชาประจำถิ่น!
ขณะนี้ คลื่นทะเลปั่นป่วน ทว่าฉินเฟิงที่ยืนหยัดอยู่บนเรือดำน้ำ และเฉินซาหยั่งเท้าอยู่บนพื้นน้ำแข็ง กลับนิ่งงันไม่ต่างจากไม้ใหญ่ที่หยั่งรากลึก
มีเพียงสายตาของทั้งสองที่ประสานกัน คล้ายต่างฝ่ายต่างสะท้อนถึงเจตนาฆ่า
“ไปเรียกเจ้านายของแกซะ เลเวล C อย่างแกเสนอหน้าออกมาทำไม อยากตายหรือ?” น้ำเสียงของเฉินซา ฟุ้งไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและกลิ่นอายสังหาร
เรือดำน้ำของฉินเฟิงทำลายเรือกลุ่มไห่โม่ของพวกเขา นี่ถือเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง เพราะเรือดำน้ำทะเลลึก ในแง่ของเงินมีมูลค่าอย่างน้อยนับล้านล้าน ในขณะที่เฉินซาอยู่กับไห่โม่มาตั้งแต่ต้น เคยฝ่าทะเลนรกมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาประสบกับความสูญเสียใหญ่หลวง
เฉินซาจึงให้สัตย์สาบานว่า เขาต้องสังหารคนที่ทำร้ายกลุ่มไห่โม่ จับมันมาสับเป็นหมื่นๆชิ้นให้จงได้!
ฉินเฟิง “ไม่มีเจ้านายหรืออะไรทั้งนั้น ฉันนี่แหละเจ้าของเรือดำน้ำลำนี้!”
ภายใต้การจับจ้องของเฉินซา เจตนาฆ่าลุกฮือไปถุึงท้องฟ้าเบื้องบนทันที
“ดี! ดีมาก! ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เลเวล C ตัวจ้อยมีความกล้าหาญเช่นนี้? แต่นั่นไม่สำคัญ ไม่ว่าคนที่คอยหนุนหลังแกอยู่จะเป็นใคร เอาไว้ฆ่าแกได้เมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้เอง!”
ขณะกล่าว เฉินซาระเบิดพลังสมาธิทันใด รูนสีขาวราวหิมะเริ่มพรั่งพรูออกมา
ทะเลที่กำลังปั่นป่วน ถูกแช่แข็งทันที
และพลังแช่แข็งนี้ยังคงลุกลามขยายวงกว้าง อีกไม่นานก็จะมาถึงหน้าเรือดำน้ำเฟิงหลี
ผู้ใช้พลังในเรือเฟิงหลี ทั้งหมดตื่นตระหนกหวาดกลัว พวกเขาทราบว่านี่คืออบิลิตี้เขตแดนของเฉินซา และหากตนไม่ถอยตั้งแต่ตอนนี้ รอให้ถูกแช่แข็ง ชะตากรรมคงไม่พ้นขึ้นเขียงถูกเชือด!
แต่พวกเขากลับไม่ได้รับคำสั่งใดๆจากฉินเฟิง เลยยังเกิดความลังเลอยู่บ้างหากคิดกระทำโดยพลการ
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่แสดงออกถึงท่าทีกังวลใดๆ เลือกที่จะระเบิดรูนอันน่าสะพรึงออกมาในทำนองเดียวกัน
และในที่นี้คือรูนไฟ!
อักษรรูนไฟสีแดงเข้มแพร่กระจายออกมาจากเหนือเรือดำน้ำ เปลี่ยนท้องทะเลให้เดือดพล่าน น้ำทะเลบริเวณรอบๆเริ่มกลายเป็นสีแดงเข้ม ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากลาวา
ช่วงเวลานี้ธารลาวากับธารน้ำแข็งของเฉินซาปะทะเข้าหากัน
ตูมมม!
สองพลังงานโถมเข้าใส่กัน ก่อกำเนิดเสียงและแรงระเบิดครั้งใหญ่
หมอกหนาพวยพุ่ง แต่ไม่ช้าก็ถูกลมลมทะเลพัดหายไปอย่างรวดเร็ว
ฉินเฟิงย่อตัวงอเข่า ย่ำเท้าลง กระโดดขึ้นทันที แรงกระทืบไม่ทราบเหมือนกันว่ารุนแรงแค่ไหน แต่ยามเขาผละออก เรือดำน้ำเฟิงหลีกคล้ายถูกหินกดทับ จมลึกลงไปจากเดิมถึง 100 เมตร
“ออกไปห่างๆซะ” เสียงของฉินเฟิงถูกถ่ายทอดผ่านพลังสมาธิในเวลาเดียวกัน
ผู้คนบนเรือดำน้ำเฟิงหลี เมื่อเห็นฉากแรกต่างตกใจ ไม่คาดคิดเลยว่าฉินเฟิงจะสามารถต้านทานการโจมตีของเฉินซาได้ แล้วพอหลังจากได้ยินคำสั่งของฉินเฟิง พวกเขาคล้ายนักโทษที่ได้รับการนิรโทษกรรม ทั้งหมดตื่นตัวเต็มที่ ลงมือปฏิบัติงานอย่างขยันขันแข็ง ปรับทิศทางของเรือดำน้ำ และหักเลี้ยวหลบหนีออกไป
เฉินซาย่อมตระหนักถึงฉากนี้ บังเกิดความโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันใด
ฉินเฟิงทำแบบนี้ เท่ากับว่าไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาอย่างสิ้นเชิง!
“คิดว่าอาศัยกำลังแค่ลำพัง แกจะสามารถถ่วงเวลาฉันได้งั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!”
เฉินซาปากตวาดลั่น ขณะเดียวกันเริ่มระดมพลังสมาธิอีกครั้ง
ในตัวผู้ใช้อบิลิตี้ทุกคน จะมีดาวเคราะห์เพชรเป็นของตัวเอง ซึ่งดาวเคราะห์นี้คือที่กักเก็บอักษรรูน ยามต้องการใช้งาน รูนเหล่านี้จะถูกปลดปล่อยออกมา เริ่มก่อตัวเป็นพลังสมาธิ และดูจากพลังของเฉินซา เห็นได้ชัดว่าอักษรรูนที่กักเก็บไว้ของเฉินซา มหาศาลจนอยู่ในระดับน่าหวาดกลัว
อีกทั้งสภาพแวดล้อมที่นี่ยังเต็มไปด้วยน้ำทะเล ไม่ว่าตำแหน่งใดก็สามารถแช่แข็งมันได้ทุกเวลา ดังนั้นอำนาจอบิลิตี้ของเฉินซา อาจพูดได้ว่าเพิ่มพูนขึ้นถึงสามส่วน
ในความคิดของเขา หากปรารถนาสังหารฉินเฟิง ย่อมง่ายดาย
เพียงพริบตา ผิวน้ำทะเลก็ถูกดแช่แข็ง ต่อมา บนผืนน้ำแข็งเริ่มผุดงอกหอกน้ำแข็ง มันลอยขึ้นมาในอากาศ ปริมาณมหาศาลชนิดสามารถท่วมทับผืนฟ้า ปลายแหลมของพวกมันพุ่งเข้าหาฉินเฟิง
หอกแหลมปกคลุมหนาแน่นจากทุกทิศทาง ไม่มีช่องโหว่ใดให้หลบหนีเลย
“ก็แค่ขยะอย่างหอกน้ำแข็ง!”
ฉินเฟิงแสยะยิ้มหยัน พลังสมาธิเริ่มกระตุ้นดาวเคราะห์เพชรของตนบ้าง อักษรรูนไฟลุกฮือขึ้นสู่ฟากฟ้า
สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ฉินเฟิงไม่ได้เปรียบ หรือใช้ประโยชน์จากมันได้ก็จริง ทว่ารูนของเขา มหาศาลยิ่งกว่าอีกฝ่ายอยู่หลายขุม!
รูนมหาศาลถูกระดมออกมา แปรเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นหอกที่ลุกไหม้ กระจายออกรอบทิศทาง ต้านทานหอกน้ำแข็งของเฉินซา
อบิลิตี้ของทั้งสองปะทะกันและกัน
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง
ตูม ตูม ตูม
หอกน้ำแข็งแตกเป็นเสี่ยงๆ ฝั่งหอกไฟระเบิดแตกตัว
สีหน้าของเฉินซากลายเป็นน่าเกลียด
เห็นได้ชัดว่าศัตรูเบื้องหน้าเขาเป็นเพียงผู้ใช้พลังเลเวล C ทว่าอีกฝ่ายกลับสามารถต้านทานการโจมตีของตนได้ สิ่งนี้ทำให้เฉินซารู้สึกขุ่นเคืองนัก
“งั้นลองดูนี่! เทคนิคมังกรน้ำแข็ง!”
ฉินเฟิงปฏิเสธที่จะแสดงความอ่อนแอ ใช้ออกในทำนองเดียวกัน
“เทคนิคมังกรไฟ!”
ก๊าซซซซ!
สองมังกรยักษ์ในรูปลักษณ์ที่แตกต่าง ถือกำเนิดจากรูนที่ต่างกัน โถมเข้ากลืนกินกันและกัน
และผลคืออำนาจทำลายล้างยังคงก้ำกึ่ง!
ทั้งสองยืนหยัดอยู่บนผิวทะเล ระเบิดอำนาจต่อสู้ครั้งใหญ่ ไม่มีใครยอมใคร
แต่ไม่นาน หลายคนก็เริ่มตระหนักว่า ฉินเฟิงยังไม่ได้ใช้ออกด้วยพลังเต็มที่
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์เช่นนี้ รูนไฟที่ปลดปล่อยออกมา ยิ่งนานยิ่งน่าสะพรึง สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายเฉินซาที่ถูกกดดันอย่างคาดไม่ถึง
ช่วงเวลานี้ ไม่ต้องกล่าวถึงสหายของเฉินซาที่กำลังตกตะลึง กระทั่งหยูหยางเต๋าที่เดิมต้องการเข้ามาช่วยเหลือ กลับพบว่าตนเองไม่ต้องเสนอหน้าอย่างกะทันหัน
“ซู้ดดดด …” หยูหยางเต๋าสูดลมหายใจลึก ลอบพึมพำ “เจ้าสัตว์ประหลาดนี่เป็นใครกันแน่?”
