ตอนที่ 102 ปลอมตัว
ตอนที่ 102 ปลอมตัว
ไนเรลมองไปที่ยักษ์เถื่อนไคผู้นั้นด้วยสายตาที่เป็นประกาย
ไคที่เห็นไนเรลมองมาที่ตนเองอย่างนั้น อยู่ ๆ ก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
“เฮ้ เจ้ามองแบบนั้นหมายความว่าอย่างไร? ข้าไม่ได้ชอบพวกเดียวกันหรอกนะ ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เจ้ารู้หรือไม่?” ไครีบจับกางเกงของตนเองไว้แน่นขณะที่กล่าวถามไนเรลอีกครั้งว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ไนเรลที่ได้ยินดังนั้นก็ไอแค่ก ๆ สองครั้ง และวิเคราะห์ถึงคำพูดของไค ดูเหมือนว่ายักษ์เถื่อนตนนี้จะไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“เกิดเรื่องมีต้นไม้ปีศาจขนาดใหญ่โจมตี ดังนั้นยักษ์ทุกตนจึง...” ไนเรลได้เหล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับไคฟัง ซึ่งแน่นอนเขาไม่ได้เล่าเรื่องจริงทั้งหมด เพียงแต่ใช้วิธีการเล่าเรื่องจริงและเรื่องโกหกรวม ๆ กัน เพื่อปกปิดที่มาของตนเอง ไนเรลที่เรื่องทั้งหมดนั้นก็รอลุ้นว่ายักษ์เถื่อนตนนี้จะเชื่อตนหรือไม่
แต่ดูเหมือนเขาจะคิดมากไป เพราะไคที่ตอนนี้รู้สึกสั่นกลัวตกใจตั้งแต่ที่ได้ยินว่ามียักษ์เถื่อนจำนวนมากตายไปและหลายตนที่หนีมาไม่รู้ว่าเป็นตายอย่างไรบ้างแล้ว
“เจ้า...เจ้าว่าทุกตนตายแล้วงั้นหรือ ถ้าเป็นแบบนี้เราต้องหนีออกไปข้างนอกต้องมีพวกทหารพร้อมอาวุธตรงมาที่นี่แล้วแน่นอน ไปขอให้พวกเขาช่วยกัน” ยักษ์เถื่อนไคที่ตอนนี้สั่นด้วยความกลัว ไนเรลเองที่เห็นท่าทีอย่างนั้นก็ต้องแปลกใจ ดูเหมือนว่าไม่ว่าเผ่าพันธุ์ไหนก็คงมีพวกขี้ขลาดอยู่ทั้งนั้น
แต่เมื่อเป็นแบบนี้ มันถือเป็นเรื่องดีมากขอไนเรลเพราะนั้นหมายความว่าเขาสามารถชักจูงอีกฝ่ายได้ง่ายมากขึ้น
“เจ้าตามข้ามาก็พอข้าสามารถปกป้องเจ้าได้ ถึงอย่างไรข้าก็หนีต้นไม้นั้นมาได้ อีกอย่างที่นี่ก็ไม่ปลอดภัยเพราะไม่รู้ว่าต้นไม้นั้นจะตามออกมาเมื่อไหร่” ไนเรลพูดออกมาด้วยท่าทีองอาจ
เมื่อไคได้ยินดังนั้นก็เหมือนกับว่าได้ที่พึ่งพาในทันที จึงรีบกล่าวขอบคุณไนเรลเป็นการยกใหญ่
ซึ่งไนเรลก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยหลังจากนั้นก็ถามถึงห้องเก็บของต่าง ๆ ที่นี่ โดยอ้างว่าตนนั้นจะไปช่วยย้ายของพวกนี้หนีต้นไม้นั้น
ซึ่งไคก็แปลกใจที่ไนเรลถามเรื่องนี้ แต่แน่นอนว่าไคก็เล่าไปว่าของที่เก็บอยู่ที่นี่มีแค่เสบียงที่พอกินในแต่ละครั้งที่มาส่งเท่านั้น ส่วนห้องเอกสารหรือของสำคัญไม่ได้อยู่ที่นี่ อีกอย่างแร่ทั้งหมดหลังจากที่เก็บมาได้ก็จะมียักษ์เถื่อนมาจนไปในทันที
ดังนั้นจึงไม่มีของสำคัญอะไรต้องห่วงสามารถหนีออกไปได้เลย
ไนเรลที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแปลก ๆ ดูเหมือนว่าพวกยักษ์เถื่อนนั้นจะเตรียมหนีจากเหมืองเหล่านี้ได้ตลอดเวลา ราวกับว่าที่นี่มันไม่มั่นคง
แต่เมื่อลองถามดูก็รู้ว่าปกติแล้วในเหมืองแร่ฝุ่นดาวนั้นมักจะเกิดถล่มลงมาบ่อย ๆ หรือไม่ก็เจอกับเส้นทางน้ำใต้พิภพ ซึ่งถือว่าอันตรายมากแม้แต่ยักษ์เถื่อนขั้น 4 เองก็ต้องตายถ้าเจอกับกระแสน้ำที่รุนแรงพวกนั้น
จากสิ่งที่ไคเล่ามาเหมืองแร่ฝุ่นดวงดาวนั้นจะไม่ได้มีแห่งเดียวแต่มันมีจำนวนมาก
หลังจากที่ไนเรลและไคที่วิ่งหนีออกมาด้วยความกลับ ไนเรลก็ให้เขารออยู่ตรงทางแยกหนึ่งจากนั้นเขาก็รีบแยกตัวไปรับพวกคิงและเด็กทั้งสาม ที่ซึ่งตอนนี้แอบอยู่
ทันทีที่เห็นยักษเถื่อนเข้ามาพวกเขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที แต่เมื่อรู้ว่าเป็นไนเรลทุกคนก็ดีใจ แต่ในขณะเดียวกันนั้นพวกเขาก็เคารพไนเรลมากขึ้น
ไนเรลพาพวกเขาเข้าไปซ่อนในเงาจากนั้นก็ย้อนกลับไปหาไคต่อ
และแล้วหลังจากที่ไครอไนเรลประมาณ 5 นาทีเขาก็กลับมาถึง ซึ่งหลังจากนั้นทั้งสองคนก็พากันออกไปที่ทางออกของเหมืองทมิฬแห่งนี้ โดยตลอดทางนั้นก็แน่นอนว่าไม่มีใครหรืออะไรโจมตีไคและไนเรลเพราะคนก่อเรื่องก็คือไนเรลอยู่แล้ว ดังนั้นมันจะมีใครมาโจมตีพวกเขาทั้งสองตนได้อีก
ซึ่งมันก็เป็นตามการคาดการของไนเรล เพราะด้านหน้านั้นมีทหารยักษ์ที่อาวุธครบมือตั้งหน้าเตรียมยิงทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวออกมาจากเหมืองแล้ว
ไคที่ทะเล่อทะล่าออกถึงกับโดนหนึ่งในเครื่องยิงธนูขนาดใหญ่ส่วนกลับมาในทันที
แต่ไคก็ยังโชคดี เพราะไนเรลนั้นดึงตัวของเขาหลบได้ทัน
“เฮ้! เดี๋ยวก่อนนี่พวกข้าเอง อย่ายิง อย่าพึ่งยิง” ไคที่หน้าซีดรีบตะโกนออกมาในทันที
“หยุดยิงนั้นพวกผู้คุม” ยักษ์เถื่อนพวกนั้นเมื่อเห็นว่าเป็นพวกผู้คุมของเหมืองก็สั่งให้หยุดยิงและให้คนไปพาไคและไนเรลมา
ไคที่เห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหายักษ์ทหารเหล่านั้นทันที ราวกับมีที่พึ่งชีวิตจากนั้นก็บอกกล่าวเรื่องที่เกิดขึ้นในเหมือง ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็ได้ยินมาจากไนเรล เพราะไคนั้นไม่ได้ไปเผชิญหน้าด้วยตนเอง
หลังจากที่ทหารยักษ์เถื่อนเหล่านั้นได้ยินเรื่องพวกนี้ก็ถึงกับขมวดคิ้วทันทีโดยเฉพาะหัวหน้าทหารยักษ์ตนนั้นที่ซักถามเรื่องทั้งหมด
ซึ่งไนเรลก็ช่วยเสริมบ้างเป็นบางครั้งแบบเนียน ๆ ไปเพื่อชักจูงพวกเขาไปในตัวด้วย
“ถ้าตามที่พวกเจ้าเล่ามาสัญญาณเตือนภัยที่ส่งมานั้นเป็นเพราะมีต้นไม้ประหลาดโจมตี ซึ่งดูเหมือนจะเป็นต้นไม้ที่เจอในเหมืองอย่างกาบหอยแครงปีศาจ หลังจากนั้นมันก็ฆ่าผู้คุมทุกตนสินะ” หัวหน้าทหารยักษ์ถามไคและไนเรลเพื่อยืนยันอีกครั้ง
หัวหน้ายักษ์เถื่อนรู้สึกว่าเรื่องที่ไนเรลเล่านั้นมันมีบางอย่างแปลก ๆ เพราะเรื่องของไนเรลนั้นกับพวกทาสหนีมาในตอนแรกนั้นไม่เหมือนกันในบางส่วน
ในขณะที่ไคและไนเรลนั้นก็ถูกส่งตัวออกไปด้านหลังส่วนพวกเขานั้นก็เข้าไปทางเหมืองเพื่อจัดการกับต้นไม้ปีศาจนั้น
ไนเรเรลที่เดินมาด้านหลังเขามองไปรอบ ๆ แล้วก็ต้องหรี่ตาลงมองทางกรง ๆ หนึ่งเพราะด้านในมีทาสมนุษย์บางส่วนที่โดนจับตัวไว้อยู่
ไนเรลรู้ว่าบางที่ยักษ์ทหารพวกนี้คงถามเรื่องที่เกิดกับพวกทาสเหล่านี้มาบ้าง แต่แน่นอนว่าต่อให้พวกนั้นรู้แล้วจะอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับเขาตอนนี้แล้ว เพราะตอนนี้เขาสถานะของเขาคือผู้คุมยักษ์เถื่อนที่หนีตายออกมา อย่างไรแค่สอบปากคำกับเรื่องที่เกิดขึ้นเล็กน้อยก็คงถูกปล่อยตัวไป
ส่วนยักษ์เถื่อนทหารพวกนั้นจะเข้าไปเจอกับอะไรด้านในหรือฆ่าต้นกาบหอยแครงปีศาจอย่างไรนั้นเขาก็ไม่สนใจ
แต่ไนเรลก็ยังคงรู้สึกเสียดายต้นกาบหอยแครงต้นนี้อยู่เหมือนกัน
เพราะถึงอย่างไรมันก็มีพลังมากเลยทีเดียว ถ้ามันได้กินยักษ์เถื่อน พร้อมกับที่ไนเรลใช้ความสามารถเร่งการเจริญเติบโตมันอีกละก็มันจะกลายเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานในระดับ 4 อย่างแน่นอน ซึ่งคงจะไม่โดนพวกยักษ์เถื่อนขั้น 4 รวมตัวกันตัดหนวดและกาบมันไปหลายอัน
ถึงแบบนั้นไนเรลก็ไม่ได้คิดมากนัก เพราะมันไม่สามรถเคลื่อนย้ายได้อีกอย่างมันก็สุดแค่ระดับ 4 เท่านั้นเพราะต้นกาบหอยแครงที่ไนเรลควบคุมได้นั้นไม่สามารถเกินระดับของตัวเขาได้ อีกอย่างจำนวนนั้นมันก็มีจำกัดเพราะถึงแม้มันจะกินพลังไม่มาก แต่ถ้าจำนวนมากพลังงานที่ให้ก็มหาศาลเหมือนกัน
หลังจากนั้นไนเรลและไคก็ถูกพาตัวออกมาจากเหมืองแห่งนั้น และเรียกตัวกับไปสอบยังสถานที่หนึ่ง จากนั้นก็ถูกปล่อยตัวออกมาแบบงงเช่นกัน
เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันเกินกว่าที่ยักษ์เถื่อนแบบพวกเขานั้นจะสามารถทำอะไรได้
ซึ่งภายหลังไนเรลก็ได้รู้ยักษ์ทหารที่เข้าไปจัดการกับต้นกาบหอยแครงนั้น มันก็เกิดการสู้อยู่สักพัก ในช่วงแรก ๆ พวกเขาก็คิดจะเผาต้นของมันแต่มันก็มีคุณสมบัติที่ทนไฟ ซึ่งก็ไม่เกินที่พวกเขาคาดการไว้
ดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีในการโจมตีกายภาพแทน ซึ่งไม่นานก็ตัดกาบหอยแครงที่เป็นเหมือนกับสมองสั่งการของมันทั้งหมดลงได้ แต่เพราะการต่อสู้ที่ผ่านมานั้นรุนแรงพอสมควรถ้ำบริเวณเหมืองนั้นจึงถล่มลงมาทำให้เหมืองแห่งนี้ถูกปิดชั่วคราว
ไคและไนเรลผู้ที่แอบอ้างเป็นยักษ์เถื่อน จึงถูกสั่งย้ายไปทำหน้าที่ผู้คุ้มกันที่คลังเก็บของขนาดใหญ่
หลังจากที่ไคยักษ์เถื่อนผู้ที่เกลียดการทำงานในเหมืองก็ดีใจพอสมควรที่ได้ย้ายไปทำหน้าที่อื่น เพราะที่ผ่านมาเขานั้นหาทางออกไปจากเหมืองมาตลอด
ระยะเวลาผ่านไปหนึ่งวัน ไคและไนเรลก็มาถึงที่คลังเก็บของขนาดใหญ่ที่ประจำอยู่ทางอุโมงค์หลักเลข 3 หนึ่งในสิบสองหลักแห่งนี้
ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ไนเรลพึ่งรู้ว่าอุโมงค์แหล่งนี้คือหมายเลข 3 ดูเหมือนว่าพวกยักษ์เถื่อนนั้นจะแบ่งอุโมงค์หลักพวกนี้ตามหมายเลขทั้ง 12 แต่ไม่รู้ว่ามันมีความสามารถพิเศษอะไร เขารู้แต่ว่าอุโมงค์หลักทั้ง 12 นั้นคือทางเชื่อมที่ลงไปสู้ชั้นนอกของโลกใต้พิภพ และชั้นถัดไปก็มีกำแพงกั้นไว้อยู่
ไนเรลตอนนี้กำลังเดินตามไคผู้ที่ไม่รู้ว่าถูกใจอะไรเขานัก เพราะตั้งแต่ที่ออกมาไคก็จะคุยและโมถึงเรื่องต่าง ๆ ตลอด
ซึ่งนั้นก็สร้างความลำบากให้ไนเรลมากพอสมควร เพราะเขาต้องแอบที่จะให้คิงและเด็กทั้งสามนั้นออกมาสูดอากาศเป็นบางช่วง ๆ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงอึดอัดตายในเงานั้น
อีกทั้งตลอดเวลาไนเรลนั้นก็ใส่ชุดเกราะอยู่ตลอดเวลาไม่ยอมถอด เพราะถ้าถอดออกมานั้นไคจะต้องรู้ว่าเขานั้นเป็นระดับ 4 จากเขาที่ศีรษะยักษ์เถื่อนของไนเรลอย่างแน่นอน
นั้นทำให้ไนเรลนั้นระวังตัวพอสมควร
“พวกเรารีบเข้ารายงานตัวกันเถอะ” ไคที่ตอนนี้ดูเหมือนจะรีบร้อนในการรับหน้าที่ใหม่นี้อย่างมาก ส่วนไนเรลนั้นก็เดินตามไปเช่นกัน
เหตุที่เขายังคงไม่แยกตัวหนีออกไปนั้นก็เป็นเพราะว่าเขามีแผนการที่จากรอยแผลไว้ให้กับพวกยักษ์เถื่อนเผ่าอัคคี และตอนนี้โอกาสของเขาก็มาถึงแล้ว
กับคลังเก็บของประจำอุโมงค์หลักที่ 3 แห่งนี้เป็นคลังเก็บของที่อยู่บริเวณชั้นนอกสุดของโลกใต้พิภพ เพียงแค่ฟังจากชื่อไนเรลก็รู้แล้วว่ามันคือสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ถ้าเขาทำให้มันหายไปจะต้องสร้างความเสียหายให้กับเผ่าอัคคีพวกนี้ได้มากอย่างแน่นอน
อีกอย่างไนเรลระหว่างที่ไนเรลและไคเดินมาเขาก็ทราบจากยักษ์เถื่อนไค เรื่องแร่ฝุ่นดวงดาวมันเป็นของที่ให้ในการช่วยทำลายกำแพงโดรม และทั้งหมดก็ถูกน้ำมาเก็บไว้ที่คลังแห่งนี้
ไนเรลและไคสองยักษเถื่อนที่ย้ายเข้ามาเป็นผู้คุ้มกันที่นี่ถูกสั่งให้ไปคอยควบคุมสิ่งของที่ส่งเข้ามา