บทที่ 179 นี่คือจุกบวก PVP!
“ทำไมท่านถึงยังยืนนิ่งอยู่อีกเล่า?!”
ซิมบ้าเป็นคนแรกที่ได้สติ เพราะเขามักจะถูกทหารไล่ล่าไปทั่วเมืองแลงคาสเตอร์หลังจากที่ขโมยของ
เขาหันไปหาผู้หญิงคนนั้นที่ไม่ได้พูดอะไรกับพวกเขามากนัก เธอมีสถานะสูงส่งแต่ไม่มีความเฉลียวฉลาดอะไรเลยอย่างที่ตาลุงมูฟาซาบอก
เขาได้แต่ขมวดคิ้วแล้วตะโกนว่า “วิ่ง!”
หญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะโยนปัญหาระหว่างซิมบ้ากับชายร่างผอมคนนั้นออกไป เธออุ้มเกวนโดลินขึ้นมาแล้ววิ่ง
“ซิมบ้า เอาไงดี” ซาซูถามอย่างกังวล เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของขุนนาง
“ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่จะหนี” ด้วยประสบการณ์การหลบหนีอย่างโชกโชนของเขา ซิมบ้าสังเกตความเร็วของทหารประจำเมืองและทำการคำนวณในใจก่อนจะได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว “เราจะต้องอยู่ที่นี่ คอยถ่วงพวกเขาไว้”
“จำเป็นไหม?” ซาซูถามอย่างอย่างสับสน “เราไม่ใช่เป้าหมายของพวกเขานี่”
“ซาซูดูดี ๆ” ซิมบ้าไม่ได้ตอบตรง ๆ
"อะไร?" ซาซูยังคงสับสนอยู่
“ชื่อของทหารโคโดบอสร่าเป็นสีแดง และมีแถบ HP อยู่ข้างล่าง”
ซิมบ้าชักดาบออกมาช้า ๆ และพูดอย่างสงบ “ตามที่ลุงมูฟาซาบอก พวกเขาเป็นศัตรู”
"แค่นั้นเหรอ? นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องสู้กับทหารเหรอ?”
ซาซูเอามือกุมหัวและมองซิมบ้าราวกับว่าเขาเป็นบ้าไปแล้ว
“มันไม่ใช่อย่างนั้น ข้าอยากจะทำตามสัญญาของลุงมูฟาซา” ซิมบ้าพูดอย่างจริงจัง
“สัญญา? โอ้ ปกป้องคนพวกนั้น…”
“พี่ชาย เกวนโดลินและแม่ของเธอ…พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ…” นาล่ากระซิบพลางกะตุกแขนเสื้อของซาซูเบา ๆ
แม้ว่าพวกเธอจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีมิตรภาพระหว่างเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสองที่อายุเท่า ๆ กันแล้ว
“อ๊าาาาา! ข้ารู้แล้ว รู้แล้ว!”
ซาซูดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาและตั้งท่าโจมตี
ซิมบ้าพยักหน้าอย่างโล่งอก ดวงตาของเขาคมขึ้น
แม้พวกเขาจะสามารถแสร้งทำตัวเป็นเด็กธรรมดา และพูดคุยกับทหารเพื่อถ่วงเวลาได้โดยไม่ต้องต่อสู้ แต่ทหารไม่ใช่ตำรวจที่เป็นมิตรกับผู้คน ความจริงพวกเขาแย่กว่าตำรวจอเมริกาเสียอีก เพราะพวกเขาสามารถยิงได้ทันทีโดยไม่ต้องพูดขั้นตอนปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ
(TL:ตำรวจอเมริกา จะต้องพูดประโยคหนึ่งก่อนถึงจะยิงได้ หากผู้ร้ายไม่หยุดหรือยอมจำนนหลังจากตำรวจพูดจบ พวกเขาสามารถยิงได้ทันที)
ยังไงซะการฆ่าเด็กที่น่ารำคาญไม่กี่คนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมาตั้งแต่ต้น
ดังนั้นการพยายามพูดคุยกับทหารจะทำให้สถานการณ์ของพวกแย่ลงกว่าเดิม
ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่เขากลายเป็นผู้ที่ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกม และได้รับพลังที่เขาไม่สามารถบรรลุได้ในอดีต ซิมบ้าก็ไม่ต้องการสัมผัสกับความรู้สึกที่ต้องวางชะตากรรมของตัวเองไว้ในมือคนอื่นอีกต่อไป
“อัลเวน เบธูน! จับไอ้เด็กเวรพวกนั้น ฆ่ามันหากพวกมันขัดขืน!” ทหารคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนสั่งอย่างไม่ลังเล “ส่วนที่เหลือมากับข้า เราจะไล่ตามผู้หญิงพวกนั้น!”
หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนได้รับมอบหมายภารกิจจากลอร์ดแห่งโคโดบอสร่า เขาได้นำกองทหารประจำเมืองที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา บุกเข้าไปในคฤหาสน์ของขุนนางหลายแห่ง
เขาไม่คิดว่าพวกซิมบ้าจะเป็นภัยคุกคามใด ๆ แม้ว่าเด็กเหล่านี้จะหยิบอาวุธออกมา และดูเหมือนลูกสิงโตที่พร้อมจะต่อสู้ แต่พวกเด็ก ๆ ก็ไม่ต่างอะไรจากเสือกระดาษในสายตาของทหาร
แม้พวกเขาอาจจะกลัวกองทัพส่วนตัวที่มีอุปกรณ์ครบครันของขุนนางบางคน แต่พวกเขาไม่มีทางสะดุ้งเมื่อเห็นเด็กเหล่านี้แน่
แต่ไม่นานพวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาคิดผิด
เด็กทั้ง 3 ไม่ได้เป็นเพียงก้อนกรวดที่ขวางทาง แต่เป็นกำแพงเหล็กที่แข็งแรง ในขณะที่พวกเขาพุ่งตรงเข้าหาพวกเด็ก ๆ หัวของพวกเขาก็แตกและกระอักเลือดออกมาด้วยความพ่ายแพ้!
เป็นเรื่องจริงที่เด็ก ๆ ในปัจจุบันอ่อนแอมาก แม้จะได้รับ EXP มาจากมนุษย์เงือกหนองน้ำและสัตว์ประหลาดปลาหน้ามนุษย์ แต่พวกเขาก็มีเลเวลเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 7-8 เท่านั้น
สมัยก่อนผู้เล่นที่เลเวลเท่านี้สามารถต่อสู้กับโครงกระดูกหรือก็อบลินได้เท่านั้น
แต่ผู้เล่นในปัจจุบันนั้นแตกต่างจากในอดีตมาก
ในอดีตแม้ผู้เล่นจะได้เรียนรู้ทักษะ แต่พวกเขาก็การขาดประสบการณ์ต่อสู้จริง ทำให้ผู้เล่นรุ่นแรก ๆ ได้แต่ต่อสู้อย่างเงอะงะ และไม่มีใครคิดเกี่ยวกับการคอมโบทักษะเลย
แต่เมื่อผู้เล่นเหล่านั้นศึกษาทักษะและรูปแบบการต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พวกเขาก็ได้เรียนรู้สิ่งที่พวกเขาขาด และได้เผยแพร่รายละเอียดเหล่านั้นลงในฟอรัม ดังนั้นผู้เล่นรุ่นใหม่เลยได้รับกลยุทธ์วิธีการเล่นเกมอย่างมีประสิทธิภาพล่วงหน้า ในขณะที่สถิติและทักษะของพวกเขาไม่ได้เหนือล้ำกว่าผู้เล่นรุ่นแรก ๆ แต่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของพวกเขาก็แซงหน้าผู้เล่นรุ่นแรก ๆ ไปไกลแล้ว
หากจะใช้ผู้เล่นวอร์ริเออร์เป็นตัวอย่าง ปฏิกิริยาแรกของผู้เล่นในการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดระดับต่ำกว่าคือการทิ้งอาวุธและรัดแขนรอบตัวสัตว์ประหลาด เพื่อใช้ทักษะพื้นฐานที่เรียกว่าซูเพล็กซ์ จากนั้นพวกเขาก็จะหยิบอาวุธขึ้นมาอีกครั้งเพื่อยิงทักษะอื่น ๆ ใส่เป้าหมาย
แต่การทำเช่นนั้นเป็นการทิ้งเวลาอันมีค่าที่ซูเพล็กซ์สร้างขึ้น
ตอนนี้ผู้เล่นทุกคนได้พัฒนารูปแบบการต่อสู้ที่ราบรื่นยิ่งขึ้นกว่าเก่า
ขั้นตอนแรก พวกเขาจะเริ่มต้นด้วย ‘พลิ้วไหว’ และตามด้วย ‘แอร์ลันช์’ และเมื่อสัตว์ประหลาดลอยอยู่บนอากาศ พวกเขาก็จะใช้ ‘เฉือนไว’ ส่งมันบินไปไกลกว่าเดิม
และเมื่อสัตว์ประหลาดลงสู่พื้น พวกเขาก็จะใช้ ‘ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ดาบผ่าปฐพี’ แทงอาวุธลงไปที่พื้น จากนั้นก็รีบวิ่งขึ้นไปใช้ซูเพล็กซ์ แล้วใช้สไลด์ไปหยิบอาวุธขึ้นมาจากพื้น จากนั้นพลิ้วไหวก็จะหมดเวลาคูลดาวน์พอดี...
ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารหลายสิบคน เด็กทั้ง 3 ก็อาศัยวิธีการต่อสู้ที่แปลกประหลาดนี้เพื่อยื้อเวลา พวกเขาเอาชนะทหารไปกว่าครึ่ง และทำให้เหล่าทหารล่าช้าไปเกือบ 20 นาทีก่อนจะตายภายใต้คมดาบของหัวหน้าหน่วยลาดตระเวน เพราะนาล่าเลเวลต่ำเกินที่จะเรียนรู้ทักษะชุบชีวิต
“หัวหน้า ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี” ทหารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนและกระซิบถามเสียงเบา
หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนมองไปที่ทหารที่กำลังนอนครวญครางอยู่บนพื้น ใบหน้าของเขาก็ดำเหมือนก้นหม้อ
คนเหล่านี้เป็นลูกน้องของเขา และเขาก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนเพียงคนเดียวของโคโดบอสร่า คนอย่างเขาต้องพึ่งพาทหารใต้บังคับบัญชา หากเขาต้องการที่จะก้าวหน้า
“รองหัวหน้า ไปนำแรดบลันด์ของข้าออกมา!” หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนกัดฟันพูดกับเหล่าทหาร “ข้าไม่เชื่อว่าพวกมันจะหนีจากเงื้อมมือของข้าไปได้!”
***
ในขณะเดียวกัน ร่างของเด็ก 3 คนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างไลฟ์สโตนของเมืองไร้ชื่อ
“อังก์*คืนชีพที่ลุงมูฟาซาซื้อมาให้เรามีประโยชน์จริง ๆ! ข้าคิดว่าข้าจะต้องถูกขังอยู่ในห้องมืดไปอีก 3 วันซะแล้ว…” ซาซูพูดขณะแตะหน้าอก เขายังจำได้เลยว่าเมื่อกี้เขาถูกดาบแทงเข้าที่หัวใจ “เราควรซื้อเพิ่มดีไหม?”
(TL:สัญลักษณ์ ANKH หรือ อังค์ เป็นเครื่องรางที่เก่าแก่และทรงอำนาจมากที่สุด ชาวอิยิปต์ถือว่าอังค์คือความเป็นอมตะ และชีวิตอันเป็นนิรันดร์ จึงนิยมพกไว้เป็นเครื่องรางประจำตัวเพื่อใช้ชีวิตมีความมั่นคง และมีสุขภาพแข็งแรง และอายุยืนยาว)
“มันราคา 3,000 เหรียญเกมต่อชิ้น และใช้ได้กับผู้เล่นหนึ่งคนต่อวันเท่านั้น” ซิมบ้ากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “นอกจากนี้พวกเจ้า 2 คนควรเตรียมพร้อมที่จะเทเลพอร์ตไปยังฐานที่มั่นลับในแลงคาสเตอร์ แล้วพยายามหาทางไปพบกับเกวนโดลินและคนอื่น ๆ โดยเร็วที่สุด ข้าคิดว่าทหารของเมืองโคโดบอสร่าไม่ยอมร่ามือง่าย ๆ แน่!”
------------------------------------------------------
เพจ FC-Translate