ตอนที่แล้วตอนที่ 26 คำเชิญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 28 สอบปากคำ

ตอนที่ 27 จับโจร


สิบวันต่อมา ไม่มีเงาของจั๋วฝานบนลานเล็กๆในศาลาเฉียนหลง ไม่ใช่แค่หลงขุ่ย สมาชิกตระกูลลั่วก็ยังไม่เห็นเขา

หลังคำพูดของเขาในวันนั้น จั๋วฝานก็เอาแต่ปิดประตูบ่มเพาะ เขาปล่อยให้ทารกโลหิตท่องในเวลากลางคืนเพื่อรวบรวมปราณ

เป้าหมายของเขาคือตระกูลไช่

เช่นนั้น ผู้นำตระกูลไช่จึงหดหู่ใจตลอดเวลา ทหารยามของเขาลดลงทุกวัน โดยปราศจากร่องรอยทิ้งไว้ สิ่งนี้ทำให้เขาสงสัยว่าตระกูลลั่วไปขอให้ศาลาเฉียนหลงมาจัดการกับตระกูลเขาหรือเปล่า

ในความคิดเขา มีแค่เจ็ดตระกูลใหญ่ถึงมีพลังน่ากลัวแบบนี้ เช่นนั้น หัวใจของไช่หรงจึงหนักอึ้ง จนถึงจุดที่ลูกชายของเขานอนขดตัวใต้ผ้าห่ม ตัวสั่นทั้งคืน กลัวว่าจะเป็นเป้าหมายต่อไป

สำหรับสิ่งมีชีวิต มันไม่ใช่ความตายที่น่ากลัว แต่เป็นการรอ พ่อลูกรู้สึกถึงความตายที่คืบคลาน

เขายังคิดขอความช่วยเหลือจากโหยวหมิงกู่ แต่นับตั้งแต่มันได้รับวิชายุทธ์ตระกูลเขาไป มันก็ตัดความสัมพันธ์ทั้งหมด

สิ่งนี้ทำให้ความเจ็บปวดของไช่หรงยิ่งบอบช้ำจนเขาตะโกนลั่นระบายความโกรธอย่างไม่พอใจในห้องเขา ไม่มีผู้บ่มเพาะปีศาจคนใดที่เชื่อใจได้ แต่ตอนนี้เขาถลำลึกเกินกว่าจะหันหลัง

จั่วฝานทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาพนี้

สำหรับตระกูลซุน เขาให้ทารกโลหิตไปเยือนบ้าง แต่ทว่า ผู้อาวุโสเจี้ยนอยู่นั่นด้วย จึงมีการติดต่อกันหลายครั้ง และเมื่อถึงช่วงเวลาสาย ผู้มีอำนาจมากมายจะอยู่นั่น จั๋วฝานจึงเลี่ยงการเข้าไป

เขาจึงปล่อยทารกโลหิตให้เฝ้าจับตาดูที่ประตูเท่านั้น

วันนี้ ตามปกติ ทารกโลหิตกินองครักษ์ตระกูลไช่สิบคน จากนั้นก็เฝ้าประตูตระกูลไช่สักพักก่อนกลับไปด้วยความยินดี

ขณะที่กำลังจะเข้าบ้านเขา ร่องรอยพลังงานก็จับตาเขา จั๋วฝานขมวดคิ้วในห้อง ขณะที่ทารกโลหิตปิดบังพลังมัน ไม่ช้า ตรงมุมลานเล็กๆ เงาก็สะท้อนในตาเขา

คนคนนั้นกำลังจับตาดูบ้านเขา

“ฮึ่ม ไม่มีใครกล้าย่างกรานเข้ามาในอาณาเขตของศาลาเฉียนหลง แต่คนกลุ่มนี้กล้า?เขาต้องมาจากภูเขาลมดำแน่”จั๋วฝานแสยะยิ้ม

เขานึกถึงผู้อาวุโสเจี้ยนที่บอกว่ามันไม่ใช่ตระกูลไช่หรือตระกูลซุนที่จะมาจัดการตระกูลลั่ว แต่เป็นบุคคลที่สามจากภูเขาลมดำ

ถ้าตระกูลลั่วล่ม โหยวหมิงกู่ก็จะพ้นความรับผิดชอบทั้งหมด แต่โจรกลุ่มนี้เข้ามาได้ยังไง?

[คิดว่านี่เป็นคฤหาสน์เมฆาหรือไร?]

จั๋วฝานเลิกคิ้ว ชักนำทารกโลหิตให้ตามหลังคนนั้นไป เพราะการปิดซ่อนพลังของทารกโลหิต มันจึงไม่ถูกพบ

หลังเก็บของรอบๆ โจรก็จากไป

ชั่วโมงต่อมา คนคนนั้นกระโดดผ่านหน้าต่างโรงเตี๊ยมและทารกโลหิตก็ลอยไปดูข้างใน จั๋วฝานเห็นผู้ชายเจ็ดคนกับเด็กสาวอายุ17 ปี พวกเขาต่างรอให้คนในชุดดำพูด

“คุณหนู สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”ก่อนคนในชุดดำจะพูด เด็กสาวก็รินชาและพูดด้วยความห่วงใย

จั๋วฝานผงะ“ผู้หญิง?”

เขาไม่คิดว่าหัวหน้ากลุ่มโจรภูเขาดำจะเป็นผู้หญิง พวกเขาดูถูกเพราะตระกูลลั่วมีสมาชิกแค่สี่คนงั้นเหรอ?

จั๋วฝานส่ายหัว

เขาเห็นคนในชุดดำถอดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นดวงตาสดใสคู่หนึ่ง ผมสีดำไหลลงมาที่เอวนาง ด้วยผิวที่เกลี้ยงเกลาไร้จุดตำหนิ

แม้กระทั่งผู้ชายก็อดกลืนน้ำลายและจ้องนางไม่ได้ แต่สายตาของนางก็ทำให้พวกเขาต้องลดหัว

“เสี่ยวซี เอาปากกากับกระดาษมาให้ข้า”

สาวงามวาดรายละเอียดอยู่ 15 นาที เนื้อหาทำให้จั๋วฝานตกใจ

นั่คือบ้านหลังน้อยของศาลาเฉียนหลง เขาต้องยอมรับว่า การทำแผนที่ดังกล่าวด้วยวการจ้องมองคืนหนึ่งทำให้เขาต้องยกนิ้ว

สมแล้วที่นางเป็นหัวหน้า

“ดูให้ดี นี่ นี่ และตรงนี้คือผู้คุ้มกัน ตรงมุมทั้งสี่มีผู้เชี่ยวชาญหลอมกระดูก..”

“คุณหนู นี่คือศาลาเฉียนหลง เราจะลงมือได้อย่างไร?ตามสถานการณ์แล้ว เราจะตายก่อนไปถึงประตูด้วยซ้ำ”ชายคนหนึ่งปาดเหงื่อด้วยความกลัว

ผู้หญิงไล่เขา“สบายใจได้ ศิษย์พี่ได้ติดต่อกับคนของโหยวหมิงกู่แล้วและบอกว่าพวกเขาจะเบี่ยงเบนความสนใจผู้คุ้มกัน เราแค่ต้องจับลั่วหยุนชางและฆ่าคนที่เหลือ”

[ว่าไงนะ?นางไม่ใช่ผู้ชาย แล้วจะจับคุณหนูไปทำไม?]จั๋วฝานงุนงง แต่ไม่กังวล แม้จะไร้ผู้คุ้มกัน เขาก็ยังมีค่ายกลเก้ามังกรขดสวรรค์

พวกนางไม่ต่างอะไรกับมด

แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือภูเขาลมดำและโหยวหมิงกู่มีสายสัมพันธ์กัน พวกเขาถูกเอารัดเอาเปรียบเหมือนตระกูลไช่ แต่อยู่ในระดับลึกซึ้งกว่า

“อืม คุณหนู มีบางอย่างที่ท่านอาจไม่อยากได้ยิน แต่มันเกี่ยวกับชีวิตเรา…”

“พูดมา!”นางโบกมือ

ชายคนนั้นลังเลก่อนพูด“คุณหนู นายน้อยกับโหยวหมิงกู่มีสายสัมพันธ์กันและจะฟังแค่เขา ต่อให้คนของโหยวหมิงกู่ช่วยเรา ศาลาเฉียนหลงก็ยังเป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่ การตอแยพวกเขาจะทำให้เราไร้ที่ซ่อน โหยวหมิงกู่จะเป็นที่พักพิงให้เรางั้นหรือ?ถ้าพวกเขาทิ้งเรา ความตายจะเป็นหนทางเดียวของเรา”

“ฮึ่ม นั่นเหมือนกับการบอกว่าเจ้ากลัวตาย!”

“เจ้าไม่คิดว่าเจ้ากำลังทำให้ท่านเจ้าภูเขาผิดหวังหรือ?เพื่อช่วยให้ท่านเจ้าหายดี เพื่อแก้แค้นให้เขา อย่างน้อยเราก็ต้องเดิมพันด้วยชีวิตเรา!”

คำพูดของนางทำให้พวกเขาอับอาย

จากนั้นนางก็จ้องมองพวกเขาและตะโกน“แยกย้าย!ทำตามแผนที่กำหนดไว้ ห้ามล้มเหลว”

“ครับ!”

พวกเขาประสานมือและตะโกนด้วยความเคารพ เมื่อพวกเขาออกไป พวกเขากลับจ้องความตายตรงหน้าอย่างแน่วแน่

“ไม่เลว!”

จั๋วฝานเลิกคิ้วขณะเดินออกห้อง

ตอนนี้มันถึงคราวของเขาแล้ว…

เมื่อทุกคนออกไป เด็กสาวก็ปรบมือด้วยความยินดี“คุณหนูน่าทึ่งมาก ช่างเหมือนท่านเจ้าภูเขาเสียจริง”

นางส่ายหัว“ถ้าพ่อบุญธรรมกลับมาหายดี เขาคงทำได้ดีกว่านี้ ไม่มีใครบนภูเขาลมดำที่จะกังขาต่อคำสั่งของเขา”

“อาจจะ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อมั่นในคุณหนู”

ผู้หญิงคนนั้นส่ายหัว“เสี่ยวซี อย่าปลอบข้าเลย ข้าแค่หวังจะรักษาพ่อบุญธรรมของข้าให้หายดีเมื่อเราได้รับฝ่ามือมังกรหวนกลับ”

“ด้วยความกตัญญู คุณหนูจะต้องทำสำเร็จแน่!”เด็กสาวหัวเราะคิกคัก

แต่ทว่า ตอนนี้เสียงถอนหายใจแผ่วเบากลับดังขึ้น“แม่หนู ความกตัญญูกับความสำเร็จนั้นต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้น ใครบอกเจ้าว่าฝ่ามือมังกรหวนกลับสามารถรักษาบาดแผลได้?”

“นั่นใคร?”

ผู้หญิงและเด็กสาวหันไป พบจั๋วฝานกำลังนั่งบนกรอบหน้าต่างด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ต้องตกใจ ข้าไม่มีเจตนาร้าย ข้าแค่มาเพื่อคุยและทำให้มันชัดเจน”จั๋วฝานทำท่าทางเป็นมิตร

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”

ผู้หญิงคนนั้นดึงเสี่ยวซีไปด้านหลังนาง นางไม่รู้ตัวเลยว่าจั๋วฝานกำลังสอดแนมพวกนาง ถ้าเขาอยากเอาชีวิตนาง นางคงตายไปแล้ว

“โอ้ ข้าลืมแนะนำตัว”จั๋วฝานโค้งตัว“ข้า พ่อบ้านตระกูลลั่ว จั๋วฝาน”

“ว่าไงนะ ตระกูลลั่ว?”

ผู้หญิงคนนั้นหรี่ตาและขบฟัน“งั้นก็ตายซะ”

นางแทงด้วยสองนิ้ว ประกายไฟฟ้าควบแน่นระหว่างนิ้วนางราวกับมันอยากระเบิดท้องฟ้า

จั๋วฝานตกใจเล็กน้อย“กลั่นลมปราณขั้นเก้า วิชายุทธ์ระดับจิตวิญญาณ?”

เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะแกร่งขนาดนี้และยังใช้วิชายุทธ์จิตวิญญาณได้ด้วย พลังของนางเกือบเทียบเคียงผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกแล้ว

น่าเสียดาย นางมาเจอกับจั๋วฝาน เขาเย้ยหยันทุกคนที่อยู่ต่ำกว่าหลอมกระดูก

เพราะเขามีทารกโลหิต!

ด้วยสัญญาณมือ แสงสีแดงส่องจากตัวเขาเข้าตัวนาง

นางตัวแข็ง แต่สายฟ้าก็ยังแล่บระหว่างนิ้วนาง

นางกลัว“เจ้าทำอะไรกับข้า?”

จั๋วฝานส่ายหัว“ไม่มีอะไร ข้าแค่ควบคุมร่างกายเจ้า”

และจากนั้นก็คว้าสองนิ้วของนาง“สลาย”

ในชั่วพริบตา สายฟ้าก็หายไป

ทารกโลหิตเกิดจากเลือด และการควบคุมเลือดก็จะชักนำทั้งร่างกาย มีแค่ผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งถึงต่อต้านมันได้

แต่นี่เพราะทารกโลหิตยังอ่อนแอ ถ้ามันอยู่ในระดับนักบุญ แม้กระทั่งจักรพรรดิก็ยังยากจะรับมือได้

“มากับข้า”

จั๋วฝานกอดเอวนาง นางไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากปล่อยให้คนแปลกหน้าโอบกอดนาง

“คุณหนู”เสี่ยวซีตะโกน

จั๋วฝานหันมาและนึกได้“โอ้ ลืมเจ้าไปเลย.”

เขาคว้าไหล่นางและดรุณีน้อยก็หมดสติไป เสี่ยวซีแค่ข้ารับใช้ที่ยังไม่เข้าสู่ระดับกลั่นลมปราณ

ดังนั้น ขณะที่แสงแรกแห่งวันได้ส่องลงบนพื้น จั๋วฝานก็เดินไปที่บ้านเขาโดยสวมกอดผู้หญิงคนหนึ่งกับเด็กสาวคนหนึ่งไว้...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด