สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 31
ตอนที่ 30 รถบรรทุกในมุมมืด และ AK ยิงถล่ม
รถบรรทุกงั้นรึ?
ลุคตัวสั่นสะท้านเมื่อรู้ว่าเป็นเช่นนั้น และพูดขึ้นอย่างกะทันหัน“เซลิน่า เร่งความเร็ว!”
ในระหว่างที่ลุคพูด เขาก็ใช้มือกดเข่าของเซลิน่าเพื่อให้เธอเหยียบคันเร่งแรงขึ้น
รถของพวกเขาเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ เป็นเพราะว่าในความคิดของเซลิน่ารถชนิดนี้ ขับง่ายกว่ารถแบบเกียร์กระปุกอย่างมาก ดังนั้นลุคจึงไม่ต้องทำอะไรมากนอกจากใช้มือกดไปที่เข่าของเซลิน่าเพื่อให้รถตำรวจเร่งความเร็วขึ้น
และเนื่องด้วยทั้งสองคนเป็นคู่หูกันมาสองเดือนแล้วและยังฝึกฝนทั้งยิงปืน ทักษะการต่อสู้ร่วมกันอยู่บ่อยๆ ดังนั้นทั้งสองคนจึงได้มีความเข้าขาและความเข้าใจในคู่หูกันในระดับหนึ่ง
ทำให้เซลิน่าตอบสนองอย่างรวดเร็วและเหยียบคันเร่งเนื่องจากเธอเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะที่ลุคใช้มือกดเข่าของเธอ
เครื่องยนต์ของฟอร์ด F150 คำรามขณะที่รถเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น
ในระหว่างที่รถพุ่งออกไป ลุคก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของรถบรรทุกคันใหญ่ที่เขาสังเกตุเห็นก่อนหน้านี้ ไฟหน้าของมันก็สว่างขึ้นพร้อมกับเครื่องยนต์คำรามดังก่อนที่จะพุ่งเข้ามาหารถของพวกเขาจากมุมถนน
ลุคหัวใจสั่นระรัวเมื่อได้เห็น
แสงไฟของรถบรรทุกทำให้พวกเขามองไม่เห็นไปชั่วขณะและหลังจากนั้นทั้งลุคและเซลิน่าแทบจะลืมไปว่าต้องจะทำอะไรต่อไป หลังจากที่รถบรรทุกพุ่งออกมามันก็ชนเข้ากับรถของพวกเขา อย่างรวดเร็ว
ชั่วขณะก่อนชนเพียงเสี้ยววิลุคตะโกน“เร็วเข้า! เร่งความเร็ว!”
ตูมม!!
ความรู้สึกของลุคขณะนั้นรู้สึกราวกับว่าโลกหมุนคว้างแผ่นดินกับผืนฟ้าพลิกกลับตาลปัตร นั้นเป็นเพราะว่ารถพวกเขากำลังหมุนควงอยู่กลางอากาศ
รถตำรวจหมุนกระแทกทะลุรั้วไม้แถวหนึ่งก่อนที่จะพุ่งเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้านที่อยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้นและหยุดลง
ความตื่นตัวของลุค และความเร็วในการตอบสนองรวมถึงความเข้าใจในซึ่งกันและกันของทั้งคู่ได้ช่วยชีวิตของพวกเขาไว้
รถบรรทุกนั้นต้องการที่จะพุ่งชนที่นั่งด้านหน้าแต่เนื่องจากเซลิน่าเร่งเครื่องกะทันหันรถบรรทุกจึงทำได้เพียงชนท้ายรถของพวกเขาเท่านั้น
ถ้าว่าเซลิน่ายังขับความเร็วเท่าเดิม หรือเร่งความเร็วช้าแม้แต่วินาทีหลังจากที่ลุคบอก พวกเขาอาจจะกลายเป็นเนื้อบดแบนติดอยู่กับพื้นไปแล้วในตอนนี้
หัวใจของลุคเต้นระรัวอย่างโกรธเกรี้ยว หลังจากที่เขาอยู่ใกล้หุบเหวแห่งความตาย
ห่างออกไปจากรถตำรวจมีดวงตาที่น่ากลัวคู่หนึ่งจ้องมองไปที่รถตำรวจที่ท้ายรถโพล่ออกมาจากพุ่มไม้ภายในบ้านข้างๆเจ้าของดวงตาคู่นั้นสั่งว่า“ฆ่ามัน!”
ปังปังปัง ปังปังปัง....
เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความแข็งแกร่งของลุคมีมากกว่าคนปกติเกือบสองเท่า ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกเจ็บหรืออะไรมากนักหลังจากที่รถถูกชน อย่างไรก็ตามเข็มขัดนิรภัยถูกรัดแน่นกับหน้าอกของเขาซึ่งทำให้เขารู้สึกหายใจไม่สะดวกนัก
แรงกระชากจากการชนนั้นค่อนข้างแรง
ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้นเขาก็หมอบลงและตะโกนว่า“ออกจากรถเดี๋ยวนี้!”
เซลิน่ายังคงมึนหัวจากการชน แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังเอื้อมมือออกไปเพื่อปลดล็อกแล้วดันเปิดประตู
แต่ทว่าประตูไม่ขยับ
เซลิน่าเริ่มกระวนกระวาย “ประตูของฉันติดเปิดไม่ออก”
ลุคเหลือบมองไปและพบว่าประตูของเธอสามารถเปิดได้กว้างประมาณห้าเซนติเมตรเท่านั้นเนื่องจากมีราวไม้ขวางทางอยู่
“บ้าเอ้ย!” เขาด่าในขณะที่เขาถอดเข็มขัดนิรภัยออกอย่างรวดเร็ว เขาปลดล็อคประตูของเขาก่อนที่จะเตะมันให้อ้ากว้างด้วยขาของเขา
โชคดีที่ฝั่งของเขาไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ
หลังจากนั้นเขาก็คว้าปืนกลที่อยู่ระหว่างเบาะที่นั่งออกมากและตะโกนว่า“คลานมานี่! เราจะออกจากรถจากฝั่งของฉัน”
พวกเขาต้องรีบยิ่งกว่านี้
ในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีเสียงปืนก็เข้าใกล้พวกเขามาขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
พุ่มไม้และต้นไม้รอบ ๆ รถของพวกเขาถูกกระสุนตัดขาดออกจากกันและกระสุนก็เริ่มพุ่งเข้าใส่ตัวรถ ศัตรูดูเหมือนตั้งใจจะยิงกราดไปทั่วทั้งบริเวณและเปลี่ยนพวกเขาทั้งคู่และรถของพวกเขาให้กลายเป็นรูพรุนราวกับรังแตน
ลุคใช้มือและขาของเขาในเวลาเดียวกันในการส่งตัวของเขาดีดถอยออกจากรถในท่าคล้ายๆ สปริง
และทันทีที่ลุคดีดตัวออกมาจากรถแล้วลงถึงพื้นลุคก็รู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่เอว ราวกับว่ามีใครมาแทงบริเวณชายโครงของเขา
ลุคมั่นใจว่าเขาไม่ได้โดนยิงแน่นอน แต่บาดแผลที่เกิดตอนนี้คงจะเป็นกระสุนที่ยิงโดนตัวรถแล้วกระเด็นมาโดนบริเวณชายโครงของลุคซึ่งไม่ได้มีแผ่นเหล็กของชุดเกราะป้องกัน
อันที่จริงแล้วดูเหมือนว่าเสื้อเกราะที่ใส่มาจะไม่ได้มีประโยชน์ใดๆเลย เมื่อจะต้องต่อสู้กับปืน AK ในระยะใกล้ๆ ในตอนนี้
แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ยังช่วยกันกระสุนได้บางส่วน อย่างน้อยที่สุดถ้าลุคไม่ได้โดนยิงอย่างจังๆ ซึ่งๆ หน้า แต่เป็นกระสุนที่ชิ่งหรือกระเด็นออกมาก็ไม่ได้ทำให้ลุคบาดเจ็บหนักมากถึงขนาดเลือดไหล แต่ถึงกระนั้นมันยังเจ็บปวดอย่างมากที่กระสุนโดนร่างกาย
ลุคคำรามด้วยความเจ็บปวด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหว เขาถือปืนด้วยแขนข้างเดียวและใช้แขนอีกข้างที่ว่างอยู่เอื้อมเข้าไปในรถเพื่อดึงเซลิน่าออกมา
จากนั้นทั้งสองก็รีบคลานไปกับพื้นและซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งของสนามหญ้า
แม้ว่าที่พวกเขาหลบอยู่ตอนนี้จะมีการป้องกันจากรั้ว พุ่มหญ้าและรถตำรวจ แต่ทว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้เป็นที่กำบังที่ดีมากนัก และถ้าพวกเขายังไม่หนีออกไปพวกเขาจะเป็นเป้าซ้อมยิงแน่ๆ
ทั้งสองยังคงหอบหายใจอย่างสิ้นหวังแม้ว่าเสียงปืนที่ดังอยู่นั้น อยู่ไกลจากพวกเขาก็ตาม
แม้ว่าเสียงปืนจะห่างออกไปแต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งสองสบายใจได้ เมื่อคิดได้จากระยะทางและทิศทางที่เสียงปืนดังทั้งสองคนได้หันมามองหน้ากัน และสีหน้าของพวกเขาก็ซีดขึ้นมาโดยทั้งทีและประกอบกับสิ่งที่พวกเขาเห็น ว่าเสียงปืนดังมาจากทิศทางบ้านของเซลิน่า
เซลิน่ากัดฟันแน่นก่อนจะพยายามวิ่งไปยังบ้านของเธอ
ลุคหยุดเธอแล้วลากเธอกลับที่ซ่อน “หยุด! อย่าทำอะไรโง่ๆ นะ” เป็นเพราะว่าอย่างน้อยๆ มีคนร้ายประมาณเจ็ดคนที่ยิงใส่พวกเขาที่ด้านนอกนั่น และตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญอยู่กับอาวุธหนัก
หากเซลิน่าพุ่งออกไปตอนนี้ มีแต่จะตายกับตายเท่านั้น
เซลิน่าร้องโหยหวน“ปล่อยฉัน! ฉันต้องช่วยแม่ พี่สาวและพี่ชายของฉัน…”
ลุคตบเซลิน่าเพื่อเรียกสติอย่างไม่ลังเลและพูดขึ้นว่า“มีมือปืนอยู่ที่นี่อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดคน คุณต้องการพาพวกเขาไปหาครอบครัวของคุณเพื่อฆ่าพวกเขาอย่างงั้นหรอ?”
นั่นทำให้เซลิน่าตะลึง
ระหว่างที่พูดลุคยังคงเคลื่อนไหวไปด้วย ลุคสวมเข็มขัดใส่กระสุนก่อนจะหยิบปืนลูกซองขึ้นมา จากนั้นเขาก็โยนเสื้อเกราะกันกระสุนให้กับเซลิน่าและพูดว่า“ใส่มันซะ มาฆ่าไอ้พวกชั่วนี่กันเถอะ”
ลุคไม่ลืมที่จะปลอบเซลิน่าว่า “เชื่อผมเถอะ โรเบิร์ตคงจะไม่ปล่อยให้ครอบครัวของคุณอยู่ที่บ้านโดยไร้ซึ่งการป้องกันหรอกในช่วงนี้”
ถึงแม้กระนั้นความลังเลก็ยังปรากฏอยู่ในดวงตาของเซลิน่า แต่เธอก็ยังตัดสินใจที่จะเชื่อในตัวลุคและโรเบิร์ต
ทั้งสองคนเป็นคนที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะโรเบิร์ตซึ่งเป็นทหารผ่านศึก
และอีกอย่างยังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองคนในชุดนอกเครื่องแบบซึ่งกำลังเฝ้าระวังในบริเวณใกล้เคียงกับบ้านครอบครัวของเธอตลอดเวลา ทั้งสองคนนั้นยังเคยเป็นทหารผ่านศึกและมีอาวุธปืนหนัก พวกเขาเป็นนายทหารที่มีประสบการณ์และฝีมือดีที่สุดรองจากโรเบิร์ตในเมืองนี้
และด้วยการเตรียมการขั้นสูงสุดนี้พวกเขาคงจะสามารถทำให้ครอบครัวของเธอปลอดภัยได้
ดังนั้นในตอนนี้ลุคและเซลิน่าจึงต้องให้ความสำคัญไปที่การจัดการกับมือปืนเหล่านี้ก่อนที่ เซลิน่าจะรีบกลับบ้านและตรวจสอบครอบครัวของเธอ
เซลิน่ารีบใส่เสื้อเกราะซึ่งมีแม็กกาซีน 5 แม็กอยู่ภายในเสื้อเกราะ หลักจากที่ลุคโยนมาให้เธอ และ หลังจากนั้นธฮคว้า M4A1 ขึ้นมา
เซลิน่าพูดขึ้นด้วยแววตาที่น่ากลัวว่า "เริ่มฆ่าไอ้พวกนี้กันเถอะ!"
ลุคถอนหายใจอย่างโล่งอก เขากลัวว่าเซลิน่าจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเธอได้และจะทำอะไรไม่ถูกจนวิ่งออกไปแล้วจะถูกฆ่าเท่านั้น
ลุคพาเซลิน่าล่าถอยออกจากพื้นที่นี้ไปเรื่อยๆ พร้อมกับพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า“อยู่ที่นี่และยิงล่อพวกมันอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แต่ก็ค่อยๆ ถอยไปด้วย ล่อให้พวกมันเข้ามาที่นี่”
เซลิน่าถามว่า "แล้วคุณล่ะ"
ลุคสะพายปืนลูกซองไว้ที่ไหล่ของเขาแล้วพูดว่า“ผมจะอ้อมไปที่บ้านของบิล พวกมันน่าจะไม่สังเกตุเห็น”
เซลิน่าเข้าใจแผนของเขาทันที
บ้านของบิลอยู่ตรงข้ามกับที่พวกเขาอยู่ ถ้าลุคไปถึงที่นั่นได้ทั้งสองคนก็จะประกบและยิงจากข้างหลังได้ ถ้าทำสำเร็จและศัตรูยังคงหันไปทิศทางเดียว ด้านหลังของพวกมันก็จะเปิดว่างพร้อมให้ลุคยิงได้เต็มที่!
“เข้าใจแล้ว” เธอพูดก่อนจะรีบวิ่งไปหามุมที่ปลอดภัยและเปิดฉากยิงใส่มือปืนที่กำลังบุกเข้ามา