ตอนที่ 19 : สถานีรถไฟใต้ดิน (7)
ลู่หมิงนั่งลงพักหายใจก่อนที่กำไลข้อมือของเขาจะมีสัญญาณเรียกเข้าจากจางเหว่ย
[ ลู่หมิงนายเป็นยังไงบ้าง !? ]
จางเหว่ยตะโกนถามออกมาด้วยความเป็นห่วง ลู่หมิงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ฉันสบายดี ทางนายล่ะ ?”
เมื่อจางเหว่ยได้ยินแบบนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดว่า
[ พวกเราสบายดี เมื่อกี้นี้จู่ๆพวกหมาป่าก็วิ่งหนีไป พวกเราเลยรอดมาได้นะ ]
ลู่หมิงได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะบอกกับจางเหว่ยว่า
“จางเหว่ย นายไปที่รถ แล้วเอากระเป๋าสีดำที่อยู่ด้านหลังรถมาให้ฉันหน่อย”
จางเหว่ยที่ได้ยินคำขอของลู่หมิงเขาก็งุนงงเล็กแต่ก็ยังคงทำตาม เขาเดินกลับไปที่รถและค้นด้านหลังสักพักก่อนจะเจอกระเป๋าหนังสีดำใบหนึ่งวางอยู่
จากนั้นจางเหว่ยก็นำกระเป๋าออกมาก่อนจะถามกับลู่หมิงว่า
[ ฉันเจอแล้ว จะให้เอาไปให้ที่ไหน ? ]
“ฉันอยู่ด้านล่าง พอดีบาดเจ็บนิดหน่อยเลยขยับตัวลำบาก”
จางเหว่ยที่ได้ยินแบบนั้นเขาก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า
[ เข้าใจแล้ว ฉันจะรีบไป ]
ไม่นานนักจางเหว่ยก็มาถึงยังจุดที่ที่ลู่หมิงนั่งพักอยู่ เมื่อจางเหว่ยและคนอื่นๆเห็นสภาพของพื้นที่โดยรอบค่อนข้างเละเทะพวกเขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะเดินมาหาลู่หมิงที่กำลังนั่งพิงศพคิงเรดวูฟอยู่
จางเหว่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
“เป็นยังไงบ้าง ?”
ลู่หมิงยิ้มเกร็งๆก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ซี่โครงหักนิดหน่อย นายเอากระเป๋ามาให้ฉันหน่อย”
จางเหว่ยยื่นกระเป๋าสีดำให้กับลู่หมิง เขาเปิดกระเป๋าออกเผยให้เห็นว่าด้านในนั้นเป็นชุดปฐมพยาบาลแบบง่ายที่เขาเคยซื้อเอาไว้และได้ลืมทิ้งไว้บนรถก่อนหน้านี้
ลู่หมิงหยิบปืนสเปย์ออกมาและพ่นเข้าไปที่เอวของเขา ในระหว่างนั้นลู่หมิงก็ได้พูดกับจางเหว่ยและคนอื่นๆว่า
“นายได้ของขวัญจากระบบมาหรือยัง ?”
ทุกคนหันมามองลู่หมิงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า จางเหว่ยจึงพูดขึ้นว่า
“เมื่อตอนที่ฉันได้ฆ่าก็อบลินตัวแรก ก็ได้มีหน้าต่างของระบบเด้งขึ้นมาและฉันก็ได้รับกำไลนี่ แต่จู่ๆมันก็ดันไปรวมเข้ากับกำไลอิเล็กทรอนิกส์เสียนี้”
จางเหว่ยยกแขนของเขาขึ้นมาและโชว์กำไลของระบบที่อยู่บนแขนของเขาให้กับลู่หมิงได้ดู ลู่หมิงมองเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ในเมื่อทุกคนได้รับกำไลของระบบมาแล้ว งั้นฉันจะสอนเกี่ยวกับวิธีเอาตัวรอดในโลกใบนี้ให้ก็แล้วกัน”
ทันทีที่จางเหว่ยและคนอื่นๆได้ยินคำพูดของลู่หมิงพวกเขาก็แสดงสีหน้างุนงงออกมา ลู่หมิงจึงยิ้มพร้อมกับอธิบายว่า
“ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว และโลกด้านนอกนั้นมีมอนสเตอร์อันตรายอยู่จำนวนมาก การที่พวกนายยังอ่อนแออยู่แบบนี้ ไม่ช้าพวกนายก็คงเอาตัวเองไม่รอด”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางอี้เฟยก็แย้งขึ้นมาว่า
“อีกไม่นานพวกเราก็ไปอยู่ในเมืองหลวงกันแล้ว ที่นั่นมีกองทัพอยู่พวกเราไม่จำเป็นจะต้องแข็งแกร่งขึ้นก็ได้”
ลู่หมิงได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า
“เธอเข้าใจผิดแล้ว โลกใบนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่เธอคาดไม่ถึง ไม่เพียงแต่จะมีมอนสเตอร์ปรากฏตัวขึ้นแต่ยังมีอณาจักรและผู้คนมากมายจากโลกอื่นอีกด้วย และพวกเขานั้นก็ไม่ใช่อะไรที่กองทัพของเมืองหลวงจะปะทะด้วยได้”
ทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับตกตะลึงออกมา จางเหว่ยอดไม่ได้ที่จะถาม
“จริงงั้นเหรอ ?”
ลู่หมิงพยักหน้าก่อนจะพูดต่อว่า
“แม้พวกเราจะมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แต่ฝ่ายตรงข้ามก็มีจอมเวทย์และกองทัพที่ทรงพลังอยู่ พวกเขาสามารถบดขยี้เมืองหลวงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ฉะนั้นในโลกที่เปลี่ยนไปแบบนี้สิ่งที่พึ่งพาได้มากที่สุดก็คือตัวของเราเองเท่านั้น”