ตอนที่ 8 บางครั้งการดำเนินเรื่องก็ไม่เป็นอย่างที่หวัง
อ่า โรงแรมนี้ไฟไหม้จริงๆ ด้วย ทำไมไม่ให้ผมมีประสบการณ์ในโรงแรมหรูก่อนค่อยไหม้ล่ะ?
ผมทอดถอนใจ แล้วลากญารินไปซ่อนตัวในเงาที่ตรอกด้านข้าง แอบมองสถานการณ์ทางด้านนั้น
“รีบหาเร็ว! สองคนนั้นที่เข้าไปในโรงแรมหนีไปแล้ว รีบตามหาเร็ว แล้วก็สองคนที่ถนนนั่นอีก อาริซ่าช้าเกินไปแล้วนะ”
คนที่ตะโกนอยู่หน้าโรงแรมที่ไฟไหม้น่าจะเป็นผู้บงการเรื่องราวใช่ไหม? พูดในที่สาธารณะแบบนี้ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ?
แต่การแต่งกายแบบนั้นคืออะไรกัน? มันดูคล้ายกับคนที่คุ้มกันเมือง...หรือว่า นี่ก็คือคนทรยศที่บอกต่อกันมา?
น่าสนใจนี่ ดูเหมือนความคืบหน้าของเรื่องราวจะไม่ได้เหนือไปกว่าความคาดหมายของผม...
“เอ๊ะ? นั่นมัน...”
ญารินชี้ไปที่ชายสวมชุดข้ารับใช้ขุนนางด้านข้างผู้บงการ ชื่อเหนือศีรษะยังเขียนไว้ว่า ‘ซีล วู้ด’
“หมอนั่น...หรือว่าเป็น...คนทรยศในหมู่คนทรยศ?”
“เอ๊ะ? เขาคือลูกพี่ลูกน้องของข้า”
“แน่ใจเหรอ? ฟังให้ดีนะ
ผมหมุนตัวไปพูดกับญาริน
“สถานการณ์แบบนี้ มีเพียงความเป็นไปได้เดียว นั่นก็คือลูกพี่ลูกน้องของเธอเผยข้อมูลของพวกเธอให้กับคนที่อยากชิงของของพวกเธอ แล้วเธอดูสิ คนที่มาปล้นต่างสวมชุดเกราะผู้คุ้มกัน ดูเป็นพวกเดียวกันกับพวกวางแผนจะขโมยของของพวกเธอ หลังจากนั้นก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้วสิ?”
“เอ๊ะ ลูกพี่ลูกน้องข้าเป็นคนแบบนั้นเหรอ? ข้ารู้สึกว่า...”
อย่างที่คิด เวลาแบบนี้มักจะเกิดสถานการณ์แบบนั้น คนทรยศพวกนั้นมักจะทิ้งความทรงจำที่แตกต่างกับตอนแรกไว้ให้คนอื่น แล้วให้ทำให้คนส่วนมากสับสน...และตอนนี้ ถ้าไม่ขวางไว้คงต้องเกิดปัญหาไม่รู้จบแน่นอน นี่คือหนึ่งในความขุ่นเคืองของผู้เล่นนับไม่ถ้วน แต่ปกติแล้วคนในเกมต่างก็ไร้เดียงสาเกินไป! และมักค้นพบความจริงในช่วงหลัง
แน่นอน ก็มีบางคนที่เปิดเผยความจริงตั้งแต่แรก แต่ปกติแล้วมักถูกผู้ร้ายตัวจริงจัดการ จนนำไปสู่จุดจบอันน่าเศร้า การแกล้งโง่แบบนี้จึงดีซะกว่า ตอนนี้เลยจำเป็นต้องระวังไว้ก่อน
“อืม ถึงดูเหมือนเป็นแบบนั้น พวกเราก็ยังต้องเข้าใจสถานการณ์แล้วค่อยตัดสินใจ ตอนนี้ถึงแม้จะถามเขา เขาก็คงไม่บอกความจริงพวกเราแน่นอน ถ้าอยากให้เขาบริสุทธิ์จริง พวกเราก็ต้องเข้าใจสถานการณ์ให้ชัดเจนด้วยตัวเอง”
“อืม ได้!”
เอาล่ะ เรื่องที่ต้องทำตอนนี้คือเปิดโปงเรื่องต่ำช้าของอีกฝ่ายต่อหน้ายัยนี่ และทำให้เธอเชื่อ
ยากอยู่แฮะ...เนื้อเรื่องเปิดแบบนี้ ความผันผวนคงมากเกินไป...
แต่เพื่อสาวน้อยแล้ว! แม้จะยากผมก็ต้องทำ! ไม่อย่างนั้น เกมที่ผมเล่นมาหลายปีคงสูญเปล่า!
“จะว่าไป เธอคิดว่าปู่เธอกับเอสหนีไปที่ไหน? ถึงเมื่อกี้จะได้ยินผู้บัญชาการคนนั้นบอกว่าพวกเขาหนีไปแล้ว แต่ถ้าสามารถติดต่อพวกเขาได้ พวกเราลองถามพวกเขาแล้วค่อยตัดสินใจก็ไม่สาย”
กองกำลังของอีกฝ่ายมีเลเวลสูงสุดแค่เลเวล 9 ถึงแม้เป็นคนที่เธอเรียกว่าลูกพี่ลูกน้องก็อยู่แค่เลเวล 7 แม้แต่คลอสก็คงหลับตาจัดการพวกเขาได้? เว้นแต่เขายังต้องการเสแสร้ง อย่างนั้นผมก็ไม่มีทางเลือก
“ไม่รู้สิ แต่ปู่เคยบอกว่า ถ้าพวกเราแยกกัน ก็ให้คิดหาทางไปยังเมืองหลวง”
“ตรงไปเลยเหรอ? เอาเถอะ บางทีมันคงเป็นหนึ่งในความเป็นไปได้”
ถ้าเป็นแบบนี้ ของที่ต้องส่งอาจอยู่กับตัวญาริน หรือแปลว่า ถ้าส่งเธอถึงเมืองหลวงได้ก็ถือว่าภารกิจสำเร็จ
“ขอโทษที่รบกวนทั้งสองท่าน แต่ว่า ข้ารู้สึกว่าท่านทั้งสองคือคนที่ข้าต้องจับตัว ขอเชิญทั้งสองท่านมากับพวกเราได้หรือไม่?”
เสียงแหลมเล็กดังขึ้นมาจากด้านหลังพวกเราอย่างไร้สัญญาณเตือน ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยา ผมก็รู้สึกว่าตัวผมลอยอยู่กลางอากาศ ร่างกายเหมือนถูกบางอย่างควบคุม
“แกเป็น...”
สภาพของญารินก็เป็นเหมือนผม และคนที่ควบคุมพวกเรา สวมเสื้อคลุมสีดำทั้งตัว มือทั้งสองข้างยื่นอยู่กลางอากาศ
หรือว่านี่ก็คือ...เวทมนตร์? อีกฝ่ายเป็นนักเวท?