ตอนที่ 7 โลกที่มีแต่นีทเข้าใจ
“ที่จริงร้านค้าของที่นี่ก็ไม่มีของดีอะไร มีแค่ประมาณนี้แหละ พวกเจ้านำของพวกนี้ส่งไปที่ที่อยู่นี้ในเมืองหลวง เข้าใจไหม?”
“ขอรับ คุณหนูวู้ด! ได้ขอรับ”
ดูเหมือนยัยนี่ยังถือว่ามีชื่อเสียงที่นี่ พนักงานของร้านค้าต่างก็ไม่กล้ามองเธอ
แล้วเมื่อกี้บอกว่าไม่อยากซื้ออะไรไม่ใช่เหรอ! งั้นของที่กองเป็นภูเขาตรงทางเข้านั่นคืออะไร!
แต่นี่เป็นเพราะว่าญารินซื้อของเดียวกันสามชิ้น ไม่รู้ว่าหมายความว่ายังไง
“ใช่แล้ว ของพวกนี้ข้าให้เจ้า”
พูดแล้ว เธอก็หยิบดาบอัศวินหนึ่งเล่มจากชั้นวางของ
“มีดสั้นของเจ้าแย่เกินไป จะอย่างไรก็ใช้อาวุธที่เหมาะสมเถอะ!”
“นี่...ราคามัน...”
1,500 เหรียญทอง พระเจ้า เงินที่สะสมก่อนหน้าก็มีแค่ 900 กว่าเอง จะพอได้ยังไงล่ะ
“เจ้าว่าอะไรนะ ของเช่นนี้ข้าย่อมให้เจ้าได้! เป็นเช่นนี้เจ้าจะได้ปกป้องข้าให้ดีได้ไม่ใช่เหรอ!”
“อ่า...ฮ่าๆๆ พูดแล้วก็ถูก...”
หลังจากรับอาวุธนั้น ผมไม่ได้รู้สึกหนักอย่างที่คิด บางทีคงเป็นเพราะว่าผมเลเวลสูงพอแล้ว
ดูเหมือนตัวดาบจะยาวหนึ่งเมตรกว่า ถึงแม้ไม่รู้คุณภาพวัสดุ แต่ดูแล้วคงแหลมคมมาก
เปิดแถบอุปกรณ์ ข้อมูลดาบก็ปรากฏออกมา
ดาบอัศวินอันสง่างาม ต้องการเลเวล 6 + พลังโจมตี 550 ภายใต้สภาพเพิ่มความเร็ว ทะลุการป้องกัน +10% ความทนทาน 0/300
อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับอัศวิน สามารถใช้ทำสงครามบนม้าตลอดจนพื้นราบ สามารถตีเหล็กเพื่ออัพเกรดใหม่ สามารถร่ายอาคมได้
โอ้ อาวุธระดับสูงมีคำอธิบายเขียนไว้ด้วย สะดวกจริงๆ แต่ว่าปกติแล้วก็น่าจะมีคำอธิบายแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
สรุปสั้นๆ คือได้อาวุธมาฟรีๆ ก็ไม่เลวแล้ว
“ไปเถอะ พวกเราไปห้องสมุดกัน!”
ญารินดูมีความสุขมาก เธอกระโดดออกไปทีละสองก้าวสามก้าว
“เฮ้อ เป็นผู้คุ้มกันของตระกูลร่ำรวยนี่ดีจริงๆ หยิบอาวุธแพงขนาดนี้ออกมาตามใจชอบได้ พี่ชาย ดาบท่านเป็นค่าแรงครึ่งปีของข้าเลยเชียวนะ”
เจ้าของร้านพูดไปด้วยพลางห่อของกองนั้นไปด้วย
“ฮ่าๆ...งั้นเหรอ...”
ผมกลายเป็นผู้คุ้มกันจริงๆ แล้วเหรอ...แต่อันที่จริงแล้วก็ถูก ผมแค่เผอิญกลายเป็นคู่หมั้นของตระกูลวู้ดก็เท่านั้น
แต่แบบนี้ก็ดี สถานะก็ไม่ต้องสั่นคลอนอีกแล้ว
ว่าไปแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้ก็มีบริการขนส่งด่วน? ช่างสะดวกจริงๆ ค่าส่งคิดเท่าไหร่กันนะ?
“ฟีล เลิกมองได้แล้ว! ไปถึงเมืองหลวงจะมีของดียิ่งกว่านี้อีก ถึงตอนนั้นจะให้เจ้ามองให้พอเลย!”
“ได้ มาแล้ว”
ผมรีบตามญารินไป พวกเราเดินเหยียบแผ่นหินที่วางเป็นระเบียบไปทางอาคารแปลกประหลาดแห่งนั้น
รอบด้านค่อยๆ เงียบสงัดลง คนที่เดินอยู่บนถนนก็ดูเหมือนมีเพียงแค่คนที่พักอาศัยบริเวณนั้น อาคารที่นี่สร้างมาจากแผ่นหินทั้งหมด ไม่รู้ว่าพวกเขารักษาความมั่นคงไว้ได้ยังไง
ยิ่งผ่านไปยิ่งเข้าใกล้ที่หมายเรื่อยๆ รูปแบบของอาคารก็ดูเหมือนมีความเปลี่ยนแปลง พื้นผิวของอาคารหินเหล่านั้นเปลี่ยนเรียบเนียนขึ้นมา ไม่ใช่การจงใจขัด แต่เกิดจากถูกบางสิ่งกัดกร่อนจนผิดปกติ
หอคอยนั้น...
“เจ้ามองอะไรอยู่? ถ้าเจ้ายังทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมแบบนี้ พอถึงเมืองหลวงจะทนไหวเหรอ?”
“ได้ พวกเรารีบเถอะ ฉันอยากเรียนจะแย่แล้ว”
“จริงเหรอ? ถ้าเจ้าสามารถเรียนรู้ทุกอย่างในห้องสมุดได้ เจ้าต้องถูกมองว่าเป็นมอนสเตอร์แน่”
“ก็จริงนะ...”
ครั้งนี้ถึงจะเรียนได้ก็คงไม่เรียนซี้ซั้วแล้ว ไม่งั้นคงถูกมองว่าเป็นมอนสเตอร์แน่
หางตาของผมปรากฏลูกศรสีแดงอย่างไร้สัญญาณเตือน ทิศทางคือด้านหลังทางขวา
เพราะการเห็นของที่คล้ายคลึงกันในเกมมานับครั้งไม่ถ้วนตลอดเวลาหลายปี ทำให้ผมหมุนตัวยกดาบขึ้นขวางทันที แรงปะทะและเสียงโลหะดังกังวานขึ้นมาจากทิศทางนั้น ถึงแม้จะป้องกันสำเร็จแต่กลับรู้สึกเหมือนแขนจะหัก!
“น่าสนใจนี่ นึกไม่ถึงว่าจะรับการลอบโจมตีของข้าได้ ดูเหมือนเจ้าจะแตกต่างจากพวกผู้คุ้มกันก่อนหน้าสินะ”
อีกฝ่ายเห็นการโจมตีถูกผมขวางไว้ได้ ก็ก้าวเท้าถอยหลังห่างออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงตั้งท่าอีกครั้ง
อาริซ่า เลเวล 6 เบอร์เซอร์เกอร์ (Berserker) ชั่วร้าย ผู้โหดเหี้ยม ผู้กดขี่
อ่า ระบบช่างเป็นมิตรจริงๆ เห็นข้อมูลชัดเจนตั้งแต่แวบแรกเลย ถึงแม้จะเป็นแค่ชื่อกับอาชีพ แต่ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย
ยิ่งกว่านั้น สัดส่วนรูปร่างของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนถูกคัดเลือกให้เป็นแชมป์นักเพาะกายทุกปี รวมถึงตะบองในมือที่ใหญ่กว่าต้นขาของผม มองยังไงก็ดูอันตรายสุดๆ !
ขอร้อง ผมไม่ได้เป็นเกย์นะ!
“นายเป็นใคร?”
“ฮะ? ข้าคืออาริซ่า! ชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในเมืองแรนดอล!”
ขณะที่หมอนี่พูดก็ยังคงแกว่งท่อนเหล็กในมือกลางอากาศอยู่สองสามรอบ ดูฮึกเหิมดีจริงๆ
“ได้ยินว่าเจ้าเล่นงานลูกสมุนสามคนของข้า แล้วยังทำให้หนึ่งคนเตรียมตัวนอนไปอีกหลายเดือน ความสามารถไม่น้อยเลยนี่?”
“อ๋อ ไอ้สามคนนั้นน่ะเหรอ...”
ที่แท้ไอ้หมอนี่คือหัวหน้าของสามคนนั้น มิน่าเลเวลถึงสูงกว่าเด็กน้อยพวกนั้นไม่น้อย
แล้วหมอนี่ก็มีทั้งอาชีพและฉายาที่ดูแล้วก็คงเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ไม่สิๆ ถึงแม้ไอ้เกย์นี่จะเป็นพวกชอบโชว์ อุปกรณ์ที่สวมบนร่างก็เป็นแค่เกราะผ้า ทว่า กล้ามเนื้อนั้นดูท่าจะมีพลังป้องกันสูงมาก
จะว่าไป หมอนี่ดูเหมือนเบอร์เซอร์เกอร์เหรอ?
แต่อาร์ย่าเคยบอกว่า ตอนเธอเลือกนักดาบคู่ การโจมตีและหลอด HP จะเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นเบอร์เซอร์เกอร์ล่ะ...สิ่งที่เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นพลังโจมตี พลังป้องกัน หลอด HP หรือความต้านทาน ไม่ต้องพูดถึงคุณสมบัติที่ซ่อนไว้แบบความต้านทาน ดูจากที่เขามั่นใจจนไม่สวมอุปกรณ์อะไรแบบนี้ ค่าที่เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นพลังโจมตีกับพลังป้องกันแน่
หึ ประสบการณ์การเล่นเกมที่คนโสดอย่างฉันสะสมมานานไม่ใช่สิ่งที่เกย์อย่างแกจะสั่นคลอนได้ ขอเพียงวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วน ถึงจะเป็นเกม RPG ที่ผมเชี่ยวชาญน้อยที่สุด ผมก็สามารถโค่นได้สบาย!
แต่ว่า ตอนนี้หาข้อสรุปได้ไม่ง่ายเลย ยังไงซะก็ไม่มีหนังสือกลยุทธ์หรือข้อมูลอ้างอิง คงทำได้เพียงวินิจฉัยตามประสบการณ์ในอดีตเท่านั้น
ทว่า ถ้าให้เขาตีดูสักครั้ง เพื่อดูจำนวนที่ลดลงของ HP และอย่างอื่น…ก็ดูเสี่ยงไปหน่อย ถ้าเขาแข็งแกร่ง แล้วผมถูกฆ่าในครู่เดียวจะทำยังไง? การโจมตีเมื่อกี้ของไอ้หมอนั่นก็สะเทือนจนผมเจ็บมือเชียว
“เฮ้ยๆ พวกเธอคุ้มกันอะไรกันอยู่ ทำไมคนแปลกๆ ขนาดนี้ถึงมาตามหากันหมด?”
ผมหมุนตัวถามญาริน
“ข้าก็ไม่รู้...ปู่แค่บอกว่ามีของสำคัญ ต้องการให้พวกเราติดตามไปด้วยเท่านั้น...”
“จริงๆ เลย แม้แต่ผู้พิทักษ์ก็ไม่ยอมพามา!”
“อันที่จริงพวกเรามีทั้งหมดสิบคน แต่ว่า...”
“สิบคน”
พระเจ้า ที่แท้ก่อนหน้านี้ก็มีสงครามล้างผลาญไปแล้วนี่เอง?
“พี่ชาย ฟังคำแนะนำข้าเถอะ แค่ออกไปก็พอ ไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่แน่นอน ฮ่าๆๆ!”
“ฮะ!?”
ได้ยินคำพูดนี้ ผมก็ดึงดาบอัศวินที่ได้มาเมื่อกี้ออกมาทันที
“ออกจากที่นี่? แกล้อฉันเล่นรึไง?”
“เอ๊ะ? เจ้านี่...”
อีกฝ่ายดูตกใจกับการตอบสนองของผมอย่างชัดเจน
“แกจะให้ฉันทอดทิ้งสาวน้อยไปงั้นเหรอ? แกล้อเล่นอะไรกัน! ฉันอยู่มานานขนาดนี้ เพิ่งได้ขี่ม้าตัวเดียวกับผู้หญิงเป็นครั้งแรก...ไม่สิ ขี่มังกร แล้วยังเป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงยินดีพูดกับฉันด้วยเสียงที่น่ารักขนาดนี้ แกจะบอกให้ฉันหนีก็หนีได้งั้นเหรอ?”
“เฮ้ยๆๆ แกพูดอะไรของแกน่ะ...”
“ฮ่าๆๆ แกไม่เข้าใจหรอก ว่าในจิตวิญญาณของฉันสะสมความเคียดแค้นไว้มากแค่ไหน”
“จิตวิญญาณ? ความเคียดแค้น? แกเป็นอะไรกันแน่?”
“เป็นอะไรน่ะเหรอ...ฮ่าๆๆๆๆ แกรู้รึเปล่า ความแค้นนับไม่ถ้วนใน Galgame1 เป็นเพราะตอนเริ่มแรกนางเอกมักถูกศัตรูชิงตัวไป จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมเป็นชุด! แค่เกมเดียวก็พอแล้ว แต่เกมนับไม่ถ้วนก็มักจะเดินเรื่องแบบนี้! คนคนเดียวเล่นเกมแบบนี้ก็พอแล้ว แล้วความแค้นของเพื่อนฝูงที่แลกเปลี่ยนกลยุทธ์ในเกมกับฉันพวกนั้น แกจะเข้าใจเหรอ! พวกเราจนปัญญากับเนื้อเรื่องที่กำหนดเอาไว้แล้ว เลยทำได้แค่เผชิญกับตอนจบอันโศกเศร้า...แต่ว่า!”
อัญเชิญดาบน้ำแข็ง!
หลังจากดาบอัศวินในมือของผมเปิดสกิล ตัวดาบก็ประกายแสงสีน้ำเงินเป็นวงออกมา ผลึกน้ำแข็งสีน้ำเงินชั้นหนึ่งปกคลุมตัวดาบ ความเย็นจากดาบได้กลับมาอยู่ที่ตัวของผมอีกครั้ง ความเย็นแบบนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของผม มันยังทำให้ผมรู้สึกว่าร่างกายแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย!
ดาบเวทมนตร์ประกอบด้วยอัญเชิญดาบน้ำแข็งอัศวินสีน้ำเงิน + ดาบอัศวิน(โมเดลเสริม) +โจมตี 900 ทำให้เกิดการแช่แข็ง 30% เพิ่มเกราะป้องกันธาตุน้ำแข็ง ความต้านทานทางกายภาพหรือการโจมตีด้วยเวท 10% เวลาอัญเชิญขึ้นอยู่กับค่าสีน้ำเงิน ใช้มานา 20 หน่วยต่อวินาที
โอ้โหๆๆ การโจมตีเบื้องต้นของเลเวล 7 คือ 640 บวกกับพลังโจมตีของดาบเวทสีน้ำเงินอีก 900 งั้นก็เป็นพลังการโจมตี 1,540 อีกฝ่ายอยู่เลเวล 6 พลังป้องกัน 320 ถึงคูณสองก็มีพลังแค่ 640 แบบนี้ก็ขวางผมไม่ได้แล้ว
ใช่แล้ว ยังมีการบวกของวันฮิทคีลต่อหนึ่งครั้งอีก พลังโจมตี 110% ก็จะกลายเป็น 1,694!
“ไม่ว่าตอนจบจะเป็นยังไง ในเมื่อฉันทำได้ ฉันก็จะจบความแค้นลงตรงนี้! มาสิ! มาสัมผัสพลังที่ฉันสะสมมาสิ!”
ความว่องไวเบื้องต้น 640 บวกพลังเสริม 500 แต้ม เป็นความว่องไว 1,140 เมื่ออยู่ต่อหน้าเบอร์เซอร์เกอร์ที่ไม่มีโบนัสความเร็วโดยสิ้นเชิง…ก็จะเป็นความเร็วสองเท่าของเขา!
สกิลลับ : เฉือนความแค้น!
เหตุการณ์ตรงหน้าเกิดความเปลี่ยนแปลงในชั่วพริบตา แล้วผมก็พุ่งตรงไปที่ด้านหลังของอีกฝ่าย
หันกลับไปมอง อีกฝ่ายกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งไปแล้ว บนใบหน้ายังคงแสดงออกถึงความเหลือเชื่อ
ผม...ชนะแล้ว?
“ฮ่าๆๆ...ฉันชนะแล้วเหรอ? ฮ่าๆๆ...”
อาริซ่าถูกจัดการ ช่วงชิงฉายา ชั่วร้าย ผู้โหดเหี้ยม ผู้กดขี่ เนื่องจากพฤติกรรมความยุติธรรม ความชั่วร้ายเปลี่ยนเป็นความดีโดยอัตโนมัติ เลเวล 2 เพิ่มพลังการโจมตี 100 แต้ม พลังโจมตีอาวุธหนักเพิ่ม 10%
ได้รับค่าประสบการณ์ 5,000 ได้รับเงิน 3,000
ได้รับอาวุธหนัก ตะบองผู้กดขี่ + พลังโจมตี 700 ความว่องไวลด 300
มองเห็นการแจ้งเตือนนี้ ผมจึงสังเกตว่าในมือไอ้หมอนี่ที่อยู่ในรูปปั้นน้ำแข็งไม่มีตะบองแล้ว
ฉายาพิเศษถูกสร้าง ผู้สรรค์สร้างความเคียดแค้น ในเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นสามารถเพิ่มพลังโจมตี ???%
เฮ้ยๆๆ นี่มันอะไร? มันคืออะไรกัน! ระบบโลกแกแขวะฉันเกินไปแล้ว!!! การตั้งค่าของแกคิดว่าฉันเป็นซูเปอร์ไซย่า เหรอ!
แต่ว่า จู่ๆ ก็เกิดเปลวไฟก็สว่างสูงขึ้นไปถึงท้องฟ้าอยู่แต่ไกล ดูจากแผนที่ที่บันทึกป้ายถนนเมื่อกี้ ตำแหน่ง...คือทางโรงแรมพอดิบพอดี...
เอาเถอะ ถึงผมจะเดาไว้แล้วว่าเรื่องราวคงเป็นแบบนี้ แต่ว่า จะยังไงก็รอผมเรียนสกิลได้สักหน่อยแล้วค่อยว่ากันก็ได้...แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับไม่มีเวลาให้ผมทำแบบนั้นเลย
“ญาริน พวกเรารีบกลับกันเถอะ! ปู่เธออยู่ที่นั่น...”
“อื้ม!”
1 หรือเรียกว่าเกมบิโชโจะ (bishōjo) เป็นเกมประเภทหนึ่ง แปลตรงตัวว่าเกมสาวน้อย จุดเด่นคือตัวละครหน้าตาน่ารัก บางเกมเป็นเกมจีบสาว
***ผู้แปลไม่มีเจตนาเหยียดเพศใดๆ เพียงแต่แปลตามผู้แต่งเท่านั้น หากทำให้ผู้อ่านไม่พอใจ ต้องขออภัยด้วยนะคะ***