Chapter 215 - 216: ยายกู้หนิงสร้างปัญหาอีกครั้ง II, หญิงชราถูกขับไล่
Chapter 215: ยายกู้หนิงสร้างปัญหาอีกครั้ง II
อะไรนะ ปรากฏว่าเป็นหญิงชราที่น่าไม่อายอย่างนั้นเหรอ?
ทุกคนต่างมองไปที่หญิงชราโดยมีความคิดเห็นไปอีกทาง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็มีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นที่รับสายจากคนน่ารังเกียจเช่นนี้
“แก!” หญิงชราโกรธจัดแต่ไม่รู้จะเถียงกลับอย่างไร
“ไม่ว่าคุณจะมีแผนอะไร แต่ร้านนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ มันเป็นของฉันและฉันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเหมือนกัน ดังนั้นคุณไม่มีสิทธิ์มากล่าวอ้างอะไรกับธุรกิจของฉัน” กู้หนิงกล่าว
“แกเป็นหลานฉัน แล้วจะไม่เกี่ยวกับฉันได้ยังไง?” หญิงชราเถียงกลับ เธอลืมไปแล้วว่าตัวเองไม่ยอมรับกู้หนิงเป็นหลาน พอมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง หญิงชราดันกลืนคำพูดตัวเองเต็มใจยอมรับว่ากู้หนิงเป็นหลานสาวซะอย่างนั้น
“น่าสนใจดีนี่!” กู้หนิงหัวเราะเสียงดัง “สิบแปดปีที่ผ่านมา คุณปฏิเสธไม่ยอมรับว่าฉันเป็นหลาน ในสายตาของคุณฉันมันก็แค่นังเด็กไม่มีพ่อคนหนึ่ง แล้วตอนนี้ อะไรนะ? กลับอยากให้ฉันเรียกคุณว่ายายเพราะว่าฉันรวยงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!”
กู้หนิงไม่แคร์ที่จะเปิดเผยความจริงที่โหดร้าย เพราะเธอไม่ต้องการให้หญิงแก่คนนี้ทำลายชื่อเสียงของแม่และป้า หากหญิงแก่คนนี้ทำสำเร็จคงโหดร้ายยิ่งกว่านี้
ตอนนี้ผู้คนเปลี่ยนเป้าหมายมาวิพากษ์วิจารณ์หญิงชรา
“ก็แม่แกมัน….”
อย่างไรก็ตามก่อนที่หญิงชราจะพูดจบประโยค เสียงเย็นๆของกู้หนิงก็ขัดขึ้นมาก่อนว่า “ฉันบอกคุณแล้วว่าถ้าพูดจาทำให้แม่ของฉันอับอายอีกครั้ง คุณต้องชดใช้ อย่าคิดท้าทายกับขีดจำกัดของฉัน มันไม่มีประโยชน์”
หญิงชราเบาเสียงลงทันที แต่ยังไม่ยอมแพ้ “แม่แกก็คือลูกสาวของฉัน และตัวแกก็มีหน้าที่ดูแลฉันตอนที่ฉันแก่เฒ่า ตอนนี้แกมีเงินแล้วก็ต้องแบ่งเงินนั่นมาเลี้ยงดูฉัน!”
“แหมๆ ลุงใหญ่ของฉันที่มีบริษัททรัพย์สินหลายสิบล้านหยวน หากความมั่งคั่งของเขาไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณมีชีวิตที่ดี ฉันจะไม่ห้ามแม่กับป้าให้เลี้ยงดูคุณเลยค่ะ” กู้หนิงตอบ หญิงชราคนนี้ละโมบโลภมากจริงๆ
อะไรนะ ลูกชายคนโตของหญิงชรามีบริษัทเป็นของตัวเองทั้งยังมีทรัพย์สินหลายสิบล้านหยวน แต่ตอนนี้กลับมาเรียกร้องเอาเงินจากลูกสาว? หรือเธอไม่ต้องการให้ลูกสาวตัวเองมีชีวิตที่ดี
ทุกคนต่างไม่ชอบใจและดูถูกหญิงชรา ไม่มีใครเห็นใจเธอเลยสักคนเดียว
กู้หนิงพูดต่อว่า “แม่กับป้าของฉันจะให้คุณแค่หนึ่งพันหยวนต่อเดือน รวมเป็นสองพันหยวน”
ถึงแม้กู้หนิงจะไม่ได้ห้ามให้กู้ม่านและกู้ชิงช่วยดูแลยายของเธอ แต่เธอต้องจำกัดจำนวนเงินช่วยเลี้ยงดู กู้หนิงทำแบบนี้เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งดีกับกู้ม่านและกู้ชิง หากกู้หนิงเป็นกู้ม่าน เธอจะไม่ให้แม้แต่สตางค์แดงเดียว
“อะไรนะ หนึ่งพันหยวน? ฉันไม่ใช่ขอทานนะ! กู้ม่านยังเป็นลูกสาวของฉัน แน่นอนว่าฉันมีสิทธิ์ในเงินของเธอ!” หญิงชราโกรธจัด เธออยากได้มากกว่าหนึ่งพันหยวนต่อเดือน
ทุกคนตะลึงกับความหน้าด้านของหญิงชรา แม้ว่ากู้ม่านจะไม่ได้แต่งงาน แต่เธอมีลูกสาวและได้ย้ายออกไปอยู่ตามลำพัง ลูกชายของหญิงชรารวยไม่ใช่เหรอ แต่เธอยังต้องการครอบครองเงินและทรัพย์สินของลูกสาวอีก หน้าด้านจริงๆ
เวลานี้กู้หนิงอดหัวเราะไม่ได้ “คุณน่ะเหรอจะเป็นคนดูแลทรัพย์สินของแม่ฉัน? ยายแก่บ้า เงินของแม่ฉันเป็นของฉัน เธอไม่ให้เงินคุณเลยก็ได้ ถ้าคุณยังมียางอายอยู่บ้างก็กลับไปตอนนี้เถอะ ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรเรียกตำรวจ”
“แก นังเด็กสารเลว!” หญิงชราไม่คิดว่ากู้หนิงจะกล้าใช้กำลังบังคับให้เธอกลับไป
“ยายคนนี้น่าไม่อายจริงๆ ไล่ลูกสาวกับหลานสาวออกจากบ้านและยังจะมาบังคับเอาเงินอีก เธอคิดว่าเธอเป็นใคร”
“น่าอายจริงๆที่มีแม่แบบนี้”
“ถ้าฉันเป็นลูกสาวเธอ ฉันคงจะไปให้ไกลๆและไม่กลับมาอีก”
ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์หญิงชรายกใหญ่
หญิงชราทนไม่ไหวแล้ว “กู้หนิง! แกมันนังเด็กสารเลวไม่มีพ่อ! แกคิดว่าใครเป็นคนเลี้ยงแกมา ห๊า! ไม่มีความเคารพยำเกรงต่อฉันไม่พอยังทำให้เซียวเซียวต้องย้ายโรงเรียนไปอยู่เมืองอื่น แกจะต้องตกนรกหมกไหม้!”
อะไรนะ! กู้หนิงเป็นคนทำให้เซียวเซียวต้องย้ายโรงเรียน?
กู้ชิงและกู้ม่านต่างก็ประหลาดใจ อย่างไรก็ตามพวกเธอเชื่อว่ากู้หนิงไม่ทำเช่นนั้นโดยไม่มีเหตุผล กู้เซียวเซียวต้องทำสิ่งที่น่ากลัวกับกู้หนิงและทำให้กู้หนิงทำอะไรบางอย่างเพื่อบังคับให้เธอย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอื่น
คนอื่นที่เหลือก็ไม่เชื่อคำพูดของหญิงชราเหมือนกัน
กู้หนิงไม่สบอารมณ์สุดๆ เธอเกือบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ อยากถลาไปตบหน้าหญิงแก่หน้าด้านคนนี้สักฉาด
สายตาเย็นชาที่มองมาทำเอาหญิงชราตัวสั่นด้วยความตกใจ “คุณนี่มันหน้าไม่อายจริงๆ ในเมื่อพูดขึ้นมาแล้ว ฉันก็ยินดีที่จะเล่าเรื่องจริงให้ฟัง”
“ถึงแม้ฉันจะไม่เชื่อว่าคุณไม่รู้ว่าทำไมกู้เซียวเซียวถึงต้องย้ายโรงเรียน ฉันจะบอกคุณอีกครั้งแล้วกัน เธอเป็นญาติแท้ๆของฉันแต่กลับพูดจาเยาะเย้ยแม่ของฉันในที่สาธารณะ ฉันก็เลยตบเธอ และเธอก็หันไปหาแก๊งฉิง เธอจ้างพวกนักเลงให้มาข่มขืนฉัน ถ้าฉันไม่ขัดขืนก็คงถูกพวกสารเลวนั่นทำลายไปแล้ว ฉันไม่ได้แจ้งตำรวจก็บุญแล้ว แต่คุณไม่ซาบซึ้งใจเลยสักนิด กลับมาโทษฉันซะงั้น การที่เธอถูกไล่ออกเป็นการตัดสินใจของทางโรงเรียน เพราะโรงเรียนไม่มีทางปล่อยให้เด็กนักเรียนที่ทำเรื่องเลวร้ายที่ผิดกฏหมายอยู่ในโรงเรียนได้”
กู้ม่านและกู้ชิงนิ่งอึ้งไปกับคำพูดของกู้หนิง ผู้คนต่างกลั้นลมหายใจ
เด็กสาวที่ชื่อกู้เซียวเซียวเป็นคนร้ายกาจที่จ้างนักเลงมาข่มขืนญาติตัวเอง!
กู้ม่านวิ่งไปหากู้หนิงโอบเธอไว้ในอ้อมแขนและร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด “หนิงหนิง ลูกสาวที่น่าสงสารของแม่ แม่ไม่รู้เลยว่ารู้เจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ เป็นความผิดแม่เอง ทั้งหมดแม่ผิดเอง”
Chapter 216: หญิงชราถูกขับไล่
กู้ม่านไม่สามารถจินตนาการถึงผลลัพธ์ได้ หากกู้หนิงไม่สู้กลับพวกนักเลงเหล่านั้น
“แม่ หนูไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องกังวลแล้วค่ะ” กู้หนิงพูดปลอบใจแม่ของเธอ ถ้าหญิงชราไม่พูดจาไม่มีเหตุผล เธอก็คงไม่เปิดเผยเรื่องนี้ในที่สาธารณะ เธอไม่อยากให้แม่กับป้ารู้เรื่องนี้ เพราะกลัวว่าจะเสียใจ
กู้ชิงก็อดร้องไห้ไม่นาน เธอตวาดเสียงดังใส่หญิงชราว่า “ทำไมแม่ถึงได้ใจร้ายแบบนี้! กลับไปเดี๋ยวนี้นะ! พวกฉันไม่มีแม่อย่างคุณ!”
ในเวลานั้นไม่มีใครคิดว่าพฤติกรรมของกู้ชิงไม่เหมาะสมแต่อย่างใด เพราะหญิงชราสมควรได้รับแล้วตอนนี้ทุกคนเห็นอกเห็นใจกู้ม่านและกู้ชิง
เมื่อเห็นว่าแม่ของตนไม่ขยับ กู้ชิงจึงสั่งผู้จัดการร้าน “ผู้จัดการเฉิน รบกวนพาผู้หญิงคนนี้ออกไปและให้รปภ.จัดการ ถ้าเธอกล้าก่อเรื่องอีกก็โทรหาตำรวจได้เลย”
“ได้ค่ะ” ผู้จัดการร้านที่อายุราวๆสามสิบปีพร้อมกับผู้ช่วยเดินไปกระชากหญิงชราให้ออกไปนอกร้าน
“กู้ชิง แกกล้าทำแบบนี้กับแม่ของแกได้ยังไง! ฉันเป็นแม่แกนะ!” หญิงชราไม่เคยถูกทำให้ขายหน้าแบบนี้มาก่อน เธอตัวสั่นเพราะความโกรธและตกใจ
นาทีที่ผู้จัดการเฉินและผู้ช่วยกระชากหญิงชราให้ออกจากร้าน รปภ.สองนายก็มาถึงพอดี ผู้จัดการส่งตัวหญิงชราให้รปภ.และบอกพวกเขาถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆ
หลังจากนั้น รปภ.ทั้งสองนายก็พาตัวหญิงชราออกไปโดยไม่ลังเลทันที
หญิงชราถูกไล่ออกไปจากนั้นฝูงชนก็สลายตัว ลูกค้าที่ยังอยู่ในร้านไม่ได้กลับออกไป พวกเธอกล่าวปลอบใจกู้ม่านและกู้ชิง
หญิงชราสบถด่าทอตลอดทางที่ออกจากห้างสรรพสินค้า รปภ.ทั้งสองนายไม่ปล่อยตัวเธอจนกว่าจะออกมานอกห้าง พวกเขายังไม่ยอมไปไหน สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของหญิงชราจนแน่ใจแล้วว่าเธอจะไม่กลับเข้าไปข้างในก่อเรื่องอีก
หญิงชราโกรธมาก แต่ไม่กล้าทำอะไรเพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่แถวนี้ เธอโทรหากู้ฉินเซียงและเล่าให้เขาฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
หญิงชราด่าทอกู้ชิง กู้ม่าน กู้หนิง และไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของตัวเองเลยแม่แต่น้อย
กู้ฉินเซียงตกใจกับพฤติกรรมโง่เขลาของผู้เป็นแม่ และสั่งให้เธอกลับบ้านทันที
อะไรทำให้แม่ของเขาทำเรื่องน่าละอายแบบนี้ ตอนนี้พวกกู้ม่านได้รับการสนับสนุนจากตระกูลฮ่าว ตระกูลกู้ของเขาเทียบไม่ได้กับตระกูลฮ่าวเลย
หญิงชราไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างแต่เชื่อฟังคำพูดของลูกชายคนโตมาก เมื่อเขาสั่งให้เธอกลับบ้าน เธอก็ตัดสินใจกลับบ้านทันที
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หลินหลี่หยวนก็เดาถูกว่าแม่สามีคงทำพลาด กระนั้นก็ยังถามออกไปว่า “แม่คะ เป็นไงบ้างคะ?”
เธออยากจะรู้ว่ากู้ม่านและกู้ชิงจัดการแม่ของตัวเองยังไง
“กู้หนิง นังเด็กสารเลวนั่นบอกว่าเงินของกู้ม่านไม่เกี่ยวอะไรกับแม่! ทั้งยังบอกกู้ม่านกับกู้ชิงให้เงินแม่เดือนละพันหยวน แม่ไม่ใช่ขอทานซะหน่อย!”
แม้ว่าหญิงชราจะมีชีวิตที่ดีอยู่แล้ว และยังมีเงินเก็บอยู่ราวๆแสนหยวน แต่ยังอยากได้เงินของกู้ม่านและกู้ชิง
“กู้หนิง?” ทันทีที่ได้ยินชื่อกู้หนิง หลินหลี่หยวนก็รู้สึกเหมือนมีไฟมาสุมอก หากไม่ใช่เพราะนังเด็กเปรตนั่น เซียวเซียวของเธอก็คงไม่ต้องย้ายไปเรียนที่อื่น การสอบเข้ามหาวิทยาลัยกำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว และการย้ายโรงเรียนกะทันหันอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนของลูกสาวเธอ
ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเหตุผลกับคนเห็นแก่ตัว เพราะคนที่เห็นแต่ตัวเองไม่เคยสนใจความรู้สึกของคนอื่น ทั้งที่เป็นความผิดตัวเองแต่ก็ยังโทษคนอื่น
หญิงชราไม่อาจทำใจให้เย็นลงได้ เธอกลับเข้าไปในห้องตัวเองโทรหากู้ฉินหยาง และเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง
“อะไรนะ ตอนนี้กู้ชิงกับกู้ม่านมีเงินแล้ว? และยังเป็นเจ้าของร้านเสริมความงาม พวกเธอไปเอาเงินมาจากไหน?”
กู้ฉินหยางยิ่งกว่าตกใจ เขารู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาทันที กู้ชิงและกู้ม่านเป็นคนจนที่สุดในครอบครัว แต่ตอนนี้พวกเธอเป็นเจ้าของร้านเสริมความงามและมีเงินหลายล้านหยวน ในขณะที่เขามีเงินแค่ไม่กี่แสนหยวน
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันเอาเงินมาจากไหน อยู่ๆก็รวยขึ้นมา ถึงว่าพากันออกจากงานและย้ายไปอยู่ที่อื่น และไม่รับสายพวกเราเลย ที่แท้พวกมันตั้งใจจะลืมพวกเรา!” หญิงชรายังคงด่าทอลูกสาว
กู้ฉินหยางรู้ดีว่าแม่ของพวกเขามีนิสัยเช่นไร เธอต้องพูดบางอย่างที่เลวร้ายและไล่กู้ชิงและกู้ม่านออกไป กระนั้นก็ยังหัวเสียใส่กู้ชิงและกู้ม่านที่ยังลืมเขาด้วยเหมือนกัน เขารู้สึกสูญเสียความเคารพจากพี่สาวน้องสาวทั้งสองคน
ดังนั้นเขาจึงโทรหากู้ชิงหลังจากที่วางสายจากแม่
กู้ชิงรู้ว่าทำไมกู้ฉินหยางถึงโทรหาเธอ ตอนแรกเธอไม่รับสาย แต่หากไม่รับเขาก็คงโทรมาไม่หยุดไม่หย่อน และเธอไม่อาจปิดโทรศัพท์ได้เพราะต้องใช้ทำงาน ท้ายที่สุดกู้ชิงจึงกดรับสาย
เมื่อเผชิญกับคำถามของกู้ฉินหยาง กู้ชิงเถียงกลับโดยใช้สิ่งที่กู้หนิงพูดกับแม่ของตน เธอยังถามกู้ฉินหยางว่าเขาจะยังเงียบอยู่หรือไม่หากแม่และครอบครัวของกู้ฉินเซียงทำให้พวกเขาอับอายเหมือนที่พวกเธอโดน
จุดประสงค์ของหญิงชราพุ่งเป้าไปที่กู้ม่านและกู้หนิง แต่เธอก็คอยด่าทอกู้ชิงไม่หยุดไม่หย่อน ดังนั้นกู้ชิงจึงไม่มีความรู้สึกดีๆให้แก่มารดา แต่ใกล้ชิดกับกู้ม่าน เป็นธรรมดาที่เธอจะอยู่ข้างกู้ม่านและกู้หนิง
กู้ฉินหยางไม่รู้จะกล่าวคำใด เพราะเขาเคยชินกับการเลือกปฏิบัติของมารดา โดยเฉพาะเมื่อกู้ชิงตัดสิใจแต่งงานกับเจียงซู่ที่จนกว่าและกู้ม่านที่ท้องโดยไม่มีพ่อ จึงทำให้กู้ฉินหยางดูถูกพวกเธอมากขึ้น อย่างไรก็ตามเขาได้แต่หัวเราะเยาะต่อโชคชะตาของกู้ชิงและกู้ม่าน แต่ไม่เคยทำร้ายพวกเธอ เป็นแม่ของพวกเขาที่ปฏิบัติต่อพวกเธออย่างไม่เป็นธรรม
กู้หนิงที่ยืนอยู่ข้างกู้ชิง เธอบอกให้กู้ชิงส่งโทรศัพท์มาให้เธอ
จากนั้นกู้หนิงก็กรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ว่า “ลุงคะ กู้หนิงเองค่ะ ที่หนูยังเรียกลุงว่าลุงเพราะว่าพวกเราไม่มีเรื่องให้ขุ่นเคืองใจกัน หนูขอบอกลุงว่านอกจากครอบครัวของป้ากู้ชิง หนูเกลียดทุกคนที่เหลือในตระกูลกู้ ตอนนี้พวกเรายังไม่ได้ตัดญาติกับครอบครัวของลุงแต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะไม่ตัด ลุงอาจคิดว่าหนูอวดดีเหลือเกิน แต่นั่นคือความจริงค่ะ ลุงควรยอมรับมันซะ ถ้าลุงยังคิดว่าแม่ของหนูกับป้ายังเป็นพี่สาวน้องสาว ก็หยุดสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของพวกเรา แต่ถ้าลุงมีแผนจะหาเรื่องพวกเราเหมือนครอบครัวของกู้ฉินเซียง ก็จงดูกู้เซียวเซียวเป็นตัวอย่าง!”