Ep.656 - งั้นก็ซื้อแม่ง
3/3
Ep.656 - งั้นก็ซื้อแม่ง
จริงอยู่ว่าในยุคโลกาวินาศ ผู้แข็งแกร่งย่อมมีอำนาจสูงสุด แต่อย่างไรผู้คนก็มักฝักใฝ่ในความเป็นธรรมอยู่เสมอ
ตราประจำตัวของฉินเฟิงเป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล C แต่กลับได้นั่งไห่หลิงเช่นนี้ เท่ากับว่าสามารถรับประกันชีวิตของเขาในท้องทะเล ดังนั้นผู้อื่นเลยรู้สึกว่านี่ไม่ยุติธรรม
ยิ่งไปกว่านั้น พวกรุ่นเยาว์ของตระกูลชั้นสูง มักเกิดมาพร้อมทรัพยากรมหาศาล เป็นธรรมดาที่จะสร้างความริษยาแก่ผู้คน
แม้ไป่เว่ยจะเป็นถึงเลเวล B แต่เขายังเลือกใช้วิธีตุกติกแบบนี้ สร้างความอัปยศแก่ฉินเฟิง อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงก็ไม่คิดอธิบาย
“ใช่รึเปล่า? ตอบมาสิว่าสถานะของแกคืออะไร?”
“คิดใช้สายสัมพันธ์ของตระกูลงั้นหรือ? เรือลำนี้ทุกคนสามารถเช่าได้ แต่แกกลับชิงมันไป ถ้าจะเอาเปรียบกันถึงขนาดนี้ แน่จริงก็ซื้อมันไปใช้เองเลยสิวะ!”
เห็นได้ชัดว่าไป่เว่ยกำลังสร้างสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแก่ฉินเฟิง
แต่ในตอนนั้นเอง ดั่งเสียงสวรรค์ทะลุเข้ามาในรูหู ดวงตาของฉินเฟิงเปล่งประกาย ปากเอ่ยทันที “งั้นก็ซื้อแม่ง!!”
“เหอะ! ฉันรู้หรอกว่าแกไม่มีปัญญาจ่า-- เดี๋ยวนะ เมื่อกี้แกว่าอะไร?”
ตอนนี้ไม่ต้องกล่าวถึงไป่เว่ย คนอื่นๆต่างมองมาทางฉินเฟิงอย่างตกตะลึง
ฉินเฟิงหันไปพูดกับเหอเจี๋ยที่กำลังอึ้งไม่แพ้กัน “เรือลำนี้ ผมขอซื้อมันได้ไหม?”
เหอเจี๋ยกะพริบตาปริบๆ สักพักส่งเสียงผ่านกำลังภายใน “ผู้การฉิน อย่าให้เขาหลอกคุณ เรือดำน้ำทะเลลึกไม่เหมือนกับยานพาหนะอื่นๆ ลำหนึ่งมีมูลค่ามากถึง 1 ล้านล้าน ต่อให้เป็นเลเวล B ก็ใช่ว่าจะยอมควักตังซื้อกันได้ง่ายๆ”
แม้เหอเจี๋ยจะเชี่ยวชาญกำลังภายใน แต่ความแข็งแกร่งของคนอื่นใช่อ่อนแอ พวกเขาย่อมตระหนักถึงข้อความลับที่เหอเจี๋ยส่งออกไป แม้ไม่ทราบเนื้อหา แต่ก็ยังพอเดาได้
ในเวลานี้ ฉินเฟิงต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง
ไป่เว่ยหัวเราะหยัน “เป็นไรไป? ทำเป็นพูดจาซะใหญ่โต อย่าบอกนะว่าไม่มีเงิน?”
ฉินเฟิงคร้านจะใส่ใจไป่เว่ย เอ่ยปากว่า “ถึงจะต่างจากที่คิดไว้เล็กน้อย แต่เพื่อรับประกันชีวิตผม ดังนั้นสมควรจะซื้อมัน อีกอย่างคุณภาพของเรือดำน้ำทะเลลึกลำนี้ ยังห่างไกลจากความต้องการของผม ผมกำลังคิดจะดัดแปลงมันอยู่พอดี ยิ่งไปกว่านั้นราคาก็ไม่ได้แพงอะไรมากมาย!”
ตอนนี้กลับเป็นเหอเจี๋ยที่อ้าปากค้าง ทั้งยังเริ่มรู้สึกโกรธเล็กน้อย
ต้องรู้นะว่าไห่หลิงเป็นหนึ่งในเรือดำน้ำที่ทันสมัยที่สุด เพื่อแสดงถึงความจริงใจ เมืองตงไห่จึงใช้สิ่งนี้อำนวยความสะดวกแก่ฉินเฟิง แต่ฉินเฟิงกลับบอกว่าไม่ชอบมัน!
แบบนี้ไม่เท่ากับเป็นการตบหน้าเมืองตงไห่หรอกหรือ?
“ผู้การฉิน หยุดพูดล้อเล่นได้แล้ว คุณกำลังจะบอกว่าเรือดำน้ำลำนี้ไม่มีคุณภาพมากพอสำหรับคุณงั้นหรือ?”
ครั้งนี้ เหอเจี๋ยมิได้ใช้กำลังภายในสื่อสารกับเขาอีกต่อไป
เห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงไม่กลัวว่าคนอื่นจะได้ยินหรือไม่
เขาพยักหน้าและกล่าว “ต้องทำยังไงถึงจะซื้อมันได้? ถ้าคิดดัดแปลงคงต้องซื้อมันก่อน”
เหอเจี๋ยยิ้มเหี้ยมเกรียม และกล่าว “ผู้การฉิน ถ้าคุณยืนยันที่จะซื้อมัน คุณสามารถโอนเงินให้ฉันได้เลย แล้วฉันจะติดต่อกับทางเบื้องบนให้เอง”
“ตกลง”
ฉินเฟิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย โอนเงิน 1 ล้านล้านเข้าบัญชาเหอเจี๋ยโดยตรง!
เงินจำนวนนี้ สำหรับฉินเฟิงในปัจจุบัน ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด
หากให้กล่าวถึงเรื่องทรัพย์สิน ตอนนี้เกรงว่าฉินเฟิงจะมีมากกว่าซางฮันเสียอีก
ในเวลานี้ เหอเจี๋ยได้รับข้อความส่งเข้ามา ว่ามีเงินถูกโอนเข้าบัญชีเธอ ก็ต้องอ้าปากตาค้าง เอ่ยอย่างคาดไม่ถึง
“ผู้การฉิน นี่คุณคิดซื้อมันจริงๆ?”
“ก็ทำไมจะไม่จริงล่ะ?” ฉินเฟิงเหลือบสายตามองเหอเจี๋ย จากนั้นเปิดอุปกรณ์สื่อสาร ติดต่อสมาชิกกลุ่มเฟิงหลี
อย่างไรก็ตาม ฉากสนทนาของทั้งสองคน ในสายตาของไป่เว่ยมันเป็นแค่การแสดงละคร บังเกิดร่องรอยเยาะหยันผุดขึ้นบนใบหน้าเขา
“นี่ทั้งคู่กำลังเล่นตลกกันอยู่หรือ? ปากพูดว่า 1 ล้านล้าน ก็มอบ 1 ล้านล้านให้ง่ายๆเนี่ยนะ? เหอเจี๋ย เธอคงไม่ได้คิดขายไห่หลิงให้แก่ไอ้เด็กหน้าขาวนี่จริงๆหรอกใช่ไหม สารภาพความจริงมาเถอะ” ไป่เว่ยกล่าว
ที่ไป่เว่ยรบเร้ามาตั้งนาน แท้จริงแล้วจุดประสงค์นั้นง่ายมาก นั่นคือการได้รับสิทธิ์ในการใช้งานไห่หลิง ส่วนการแสดงอื่นๆที่เหลือเป็นเรื่องรองลงมา
เหอเจี๋ยไม่มีอารมณ์ที่จะคุยกับไป่เว่ย ได้แต่พูดว่า “ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ ขอให้ติดต่อไปถามเอาความกับท่านจ้าวพรมแดน เพราะผู้การฉินได้โอนเงิน 1 ล้านล้านเข้าบัญชีฉันแล้ว”
จากนั้น เหอเจี๋ยก็หันมามองฉินเฟิง ปรากฏร่องรอยความสับสนในดวงตาเธอ ‘หนุ่มน้อยผู้ใช้พลังคนนี้ ครอบครองอำนาจถึงขนาดไหนกัน? ทำไมเขาถึงยอมทิ้งเงิน 1 ล้านล้านอย่างง่ายดายเพื่อซื้อเรือดำน้ำทะเลลึก?’
“ผู้การฉิน คุณคิดจะดัดแปลงไห่หลิงอย่างไร? ต้องการให้ฉันช่วยจัดหาช่างเทคนิคให้รึเปล่า?” เหอเจี๋ยเอ่ยถาม
“ไม่จำเป็น เพราะคนของผมกำลังจะมาที่นี่แล้ว!”
“เอ๋?” เหอเจี๋ยบังเกิดความสับสนเล็กน้อย แต่ไม่นาน ผู้คนในที่เกิดเหตุก็เริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆรอบตัวพวกเขา
บนท้องฟ้า จู่ๆก็ปรากฏรังสีแสงสีเงินขึ้น!
รังสีแสงนี้ ช่างคุณตาผู้คน เพราะมันคืออักษรรูนมิติ!
สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนกลับกลาย แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ ดันไม่พบการแจ้งเตือนใดๆจากอุปกรณ์สื่อสาร และในจังหวะนั้นเอง อักษรรูนสีเงินก็แหวกอากาศที่ว่างเปล่า ทว่านี่มิใช่รอยแยกมิติ หากแต่เป็นช่องว่างมิติ
จากนั้น ช่องว่างก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น ตามมาติดๆด้วยหัวเครื่องจักรกลทรงวงรีผลุบออกมา เมื่อโผล่มาครึ่งลำผู้คนถึงตระหนักได้ว่ามันคือเรือเหาะ!
มีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสีเงิน รูปทรงเลียบรื่น ขนาดใหญ่โต จักรกลดังกล่าวค่อยๆโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า ให้ความรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างท่วมท้น
สุดท้าย เมื่อเรือเหาะทั้งลำออกมาจากความว่างเปล่า ช่องว่างมิติก็เริ่มปิดตัวลง และอีกสิ่งหนึ่งก็ปรากฏสู่สายตาฝูงชน เป็นอักษรสองตัวที่สลักไว้อย่างวิจิตรงดงาม ไม่ต่างจากหงษ์ร่อนมังกรรำ
เฟิงหลี!
ติ๊ดๆๆ
อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงดังขึ้น เขากดรับ หน้าของโกวก๋วนปรากฏขึ้นบนปลายสาย
“ลูกพี่ ฉันได้พาช่างเทคนิคกว่าร้อยคนมาแล้ว ไม่ทราบว่าพอรึเปล่า?”
“พอแล้ว! เพราะแค่ดัดแปลงไม่ถึงกับสร้างใหม่ รีบลงมาเถอะ”
“รับทราบ จะไปเดี๋ยวนี้”
ไม่นาน ประตูเรือเหาะก็ถูกเปิดออก คนกลุ่มหนึ่งกรูกันออกมาจากข้างใน มีทั้งผู้ใช้พลัง ทั้งคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นช่างเทคนิคชั้นยอด
จากนั้น ทุกคนก็เข้าไปในไห่หลิง และเริ่มทำการตรวจสอบ
เหตุการณ์เมื่อดำเนินมาถึงจุดนี้ ย่อมดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบด้าน ไม่ว่าฉินเฟิงจะซื้อไห่หลิงจริงๆหรือว่าเป็นแค่การแสดง พวกเขาก็ต้องการจะดู ว่าฉินเฟิงสามารถดัดแปลงไห่หลิงได้จริงๆหรือไม่
ชั่วเวลานี้ บางคนก็เริ่มตระหนักถึงที่มาของเรือเหาะ
“นั่นน่าจะเป็นเรือเหาะของกลุ่มเฟิงหลี!”
“ไม่ผิดแล้ว ว่ากันว่ามีเฉพาะเรือเหาะจากกลุ่มเฟิงหลีเท่านั้นที่สามารถจั๊มป์ผ่านช่องว่างมิติ เคลื่อนย้ายในระยะไกลได้”
“มันทรงประสิทธิภาพขนาดนั้นเชียว? เรือเหาะลำนี้มีราคาเท่าไหร่กัน?”
“ฉันเองก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีใช้แค่ภายในกลุ่มรึเปล่า พวกเขายังมีเทคโนโลยีอีกมากที่ไม่ได้รับการเปิดเผย!”
“ชักคันไม้คันมือขึ้นมาซะแล้ว เจ้าเรือเหาะลำนี้ ฉันจะซื้อมันมาให้ได้!”
ฝูงชนส่งเสียงฮือฮา แล้วก็มีคนเดินเข้ามาสอบถามราคาของเรือเหาะกับฉินเฟิงจริงๆ
“อยากจะซื้อเรือเหาะแบบนี้งั้นหรอ? ถ้าเป็นเรือเหาะที่สามารถจั๊มป์ผ่านช่องว่างมิติได้ จะมีราคาประมาณ 1 ล้านล้าน ส่วนเทคโนโลยีในด้านอาวุธและระบบป้องกันของทางเรา รับรองว่าล้ำหน้ากว่าไห่หลิงอยู่หลายขุม!”
ฉินเฟิงฉวยจังหวะโฆษณาอยู่ด้านข้าง สำหรับราคานั้น จริงๆแล้วเขาถือโอกาสเพิ่มมันขึ้นมากว่าสองเท่า
หากเป็นเรือเหาะรุ่นเริ่มต้น จะมีราคาแค่ลำละ 1 แสนล้านเท่านั้น แต่เมื่อติดตั้งระบบจั๊มมิติ ราคาจะเพิ่มเป็น 5 แสนล้าน
อย่างไรก็ตาม ผู้คนในที่นี้กลับไม่รู้สึกว่ามันแพงเลย ตรงกันข้าม กลับมีคนสอบถามเพิ่มเติม ว่าถ้าเป็นเรือดำน้ำล่ะมีขายบ้างไหม
ในระหว่างนั้นเอง ช่างเทคนิคของฉินเฟิง ได้ทำการตรวจสอบหลิงไห่จนเสร็จสิ้น
“ท่านปะรธาน พวกเราตรวจสอบเสร็จแล้ว การเคลือบผิวและวัสดุชั้นนอกของเรือดำน้ำลำนี้ล้าหลังพวกเราอยู่หลายเท่า ผมขอแนะนำให้เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด!”
“ระบบโล่พลังงานเองก็ล้าหลัง แนะนำให้เปลี่ยนใหม่”
“ระบบพลังงานจลน์ยิ่งแล้วใหญ่ แนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นผลิตภัณฑ์ของพวกเรา!”
“ระบบอาวุธอาจเรียกว่าถึงขั้นโบราณ ต้องหาอะไหล่ใหม่มาทดแทน!”