ตอนที่ 199 ขอร้อง
คำกล่าวของฮูหยินใหญ่เป็นเหมือนสายฟ้าฟาดมากระทบกับจิวหยินเหนียงด้วยความรุนแรง โดยมันทำให้หญิงสาวรู้สึกตกใจมากจนทำให้ตัวแข็งทื่อและไม่สามารถขยับตัวได้
ใบหน้าของนางดูเหมือนถูกกระแสน้ำเย็นตกลงมาใส่ โดยมันเปลี่ยนเป็นขาวซีดในทันทีด้วยความตื่นตระหนก
ฮูหยินใหญ่เห็นหญิงสาวนั่งนิ่งและรู้ว่าคำกล่าวของตนเองใช้ได้ผล จึงกล่าวอย่างเย็นชาอีกว่า
“ข้าเชื่อว่าเจ้าเป็นผู้ที่เข้าใจและรู้ดีอยู่แล้วว่าควรทำอย่างไร
หากเจ้ามีสมองก็ควรรู้ว่าผู้ใดที่สามารถช่วยเจ้าได้! และจากนี้ไปเจ้าควรเชื่อฟังผู้ใด! "
คำกล่าวนี้ทำให้จิวหยินเหนียงตกตะลึงเป็นที่สุด
_____
เมื่อหลี่เว่ยหยางเดินผ่านทางเดินมาและสังเกตเห็นจิวหยินเหนียงนั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะหินที่เต็มไปด้วยกลีบดอกไม้ ขณะที่ใบหน้าอันบอบบางเหมือนดอกไม้ของนางกำลังเคร่งเครียด
สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างเตือนว่า
"จิวหยินเหนียง เซียนจูมาแล้ว"
ทันทีที่จิวหยินเหนียงเงยหน้าขึ้นก็เห็นหลี่เว่ยหยาง และในตอนนั้นนางถึงกับแสดงความหวาดกลัวขณะที่รีบโค้งคำนับ
“คารวะเซียนจู!”
“เมื่อเจ้าแต่งงานกับท่านพ่อแล้ว เจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา ดังนั้นมิจำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้”
หลี่เว่ยหยางกล่าวพร้อมกับกำลังชั่งน้ำหนักการแสดงออกของหญิงสาวตรงหน้า
หลังจากได้ฟังสิ่งนี้ จิวหยินเหนียงไม่เพียงแต่จะดูไม่มีความสุขเท่านั้น เเต่ใบหน้าของนางยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอีกด้วย
หลี่เว่ยหยางเห็นว่านางดูผิดปกติและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจจึงเอ่ยถามว่า
"ข้าสังเกตเห็นว่าจิวหยินเหนียงขมวดคิ้วราวกับว่ากำลังมีเรื่องกังวลใจ"
"ไม่ ... ไม่ ... "
จิวหยินเหนียงตกใจเล็กน้อยและกล่าวว่า
"เมื่อเห็นลมพัดและดอกไม้ที่ร่วงหล่นไปทั่วทำให้ข้ารู้สึกเศร้าอยู่ภายในใจ"
หลี่เว่ยหยางสังเกตเห็นใบหน้าที่เศร้าหมองของจิวหยินเหนียงแสดงถึงความกลัดกลุ้มที่มีอยู่ในห้วใจของนาง ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้เป็นเพียงความเศร้าที่ผุดขึ้นมาจากสภาพแวดล้อมตรงหน้า
หลังจากที่จิวหยินเหนียงกล่าวคำเหล่านั้นแล้วก็จ้องไปที่ดวงตาของหลี่เว่ยหยางด้วยความกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่เชื่อ เพราะเซียนจูแสดงท่าทางสงสัยอย่างเห็นได้ชัด
ในความเป็นจริงความเศร้าโศกนับพันในหัวใจของนางทั้งหมดเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เพราะคำที่ฮูหยินใหญ่กล่าวในวันนี้นั้นยังคงค้างคาอยู่ในหัวใจของนาง
จนมาถึงตอนนี้นางก็ยังมีความรู้สึกว่าตนเองอาจจะหลบหนีออกไปจากที่อยู่อาศัยเเห่งนี้ แต่ก็รู้ซึ้งดีว่าตนเองไม่สามารถหนีไปไหนได้เลย
ดังนั้นจึงรู้สึกขัดแย้งและกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานแทบทุกลมหายใจเข้าออก
ที่สำคัญไปกว่านั้นเมื่อหลี่เสี่ยวหรันชื่นชอบนางตอนนี้ก็ถือว่าดีไป แต่หากในวันหนึ่งตนเองไม่ได้รับความโปรดปรานอีกต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะต้องเสียใจมากสักเพียงใด
หลี่เว่ยหยางเห็นว่าการแสดงออกของจิวหยินเหนียงนั้นมีอย่างผิดปกติ จึงสั่งให้ไป๋จื่อหยิบถ้วยน้ำชามารินน้ำชาส่งให้จิวหยินเหนียงพลางยิ้มและกล่าวว่า
"จิวหยินเหนียงชาใหม่ยังมาไม่ถึง และนี่เป็นชาเฉินของปีที่แล้ว ท่านลองชิมดูสิ"
จิวหยินเหนียงได้ลิ้มรสชาที่เรียกว่า'คุณภาพดี' และมันดีกว่าชาที่นางมีมาก จึงเหลือบมองไปยังหลี่เว่ยหยางอย่างระมัดระวัง
ทุกสิ่งที่หลี่เว่ยหยางสวมใส่และดื่มกินอยู่ในปัจจุบันนี้นั้นเหนือกว่าทุกคนในครัวเรือนนี้
บุตรสาวของนางสนมผู้หนึ่งมีชีวิตที่ดีเช่นนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮูหยินใหญ่โกรธเกลียดหลี่เว่ยหยางมากจนถึงขั้นที่บังคับให้ตนเองทำลาย ...
จิวหยินเหนียงคิดถึงความรุนแรงในคำกล่าวของฮูหยินใหญ่ในเวลานั้น ทำให้นางไม่สามารถขัดขืนได้ และตอนนี้นางทำได้แค่เพียงก้มหน้ามองต่ำ แต่ทันใดนั้นหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้น
"เซียนจู ข้ามีบางอย่างจะขอความช่วยเหลือจากท่าน!"
หลี่เว่ยหยางมองไปที่นางและเลิกคิ้วโดยไม่ได้ตั้งใจ:
"หากจิวหยินเหนียงมีสิ่งใดจะกล่าว ท่านสามารถบอกกล่าวกับข้าได้โดยตรง"
จิวหยินเหนียงกล่าวอย่างจริงจังว่า
"ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่สะดวกนัก เราสามารถเปลี่ยนไปที่อื่นได้หรือไม่?"
หลี่เว่ยหยางยิ้มและตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า
"มิจำเป็น มิมีอันใดต้องซ่อนจากผู้อื่น ข้าเชื่อว่าจิวหยินเหนียงมิมีอันใดเลวร้ายที่จะกล่าว"
จิวหยินเหนียงไม่คิดว่าเซียนจูจะปฏิเสธเร็วเช่นนี้ ทำให้ไม่ทราบว่าจะกล่าวอันใดดีก่อนที่นางจะกล่าวว่า
"มีคนกล่าวว่าเซียนจูเป็นผู้ที่มีจิตใจดีและชอบช่วยเหลือผู้อื่นแล้วเหตุใดจึงมิฟังคำขอร้องของข้าบ้าง?"
หลี่เว่ยหยางหัวเราะชอบใจ จิวหยินเหนียงผู้นี้แม้จะเทียบไม่ได้กับชั้นเชิงของซือหยินเหนียง แต่นางก็สามารถเรียนรู้ได้ค่อนข้างเร็ว
จิวหยินเหนียงเห็นหลี่เว่ยหยางหัวเราะจึงคิดว่าน่าจะขอร้องนางได้จึงรีบกล่าวว่า
"ข้ามีเรื่องเร่งด่วนที่จะขอร้อง หากท่านเต็มใจช่วย ข้าจะยอมเป็นทาสและตายแทนท่าน..."
หลี่เว่ยหยางขมวดคิ้ว ขณะที่จิวหยินเหนียงจับมือนางทันที
"เซียนจู! ตอนนี้ชีวิตของข้าเปรียบเสมือนอยู่บนเส้นด้าย ได้โปรดเมตตาช่วยข้าสักครั้ง!"
เซียนจูผู้นี้ไม่ใช่ผู้ที่จะช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล! หลี่เว่ยหยางยืนนิ่งและกล่าวว่า
"จิวหยินเหนียง ตอนนี้ท่านย่ากำลังรอช้าอยู่ ข้าคงต้องรีบไป"
จิวหยินเหนียงเริ่มกังวลและกล่าวอย่างยุ่งยากใจว่า
"เซียนจู ได้โปรดอยู่ก่อน ข้าจะรีบกล่าวเพื่อมิให้เสียเวลาท่าน ข้าอยากจะขอร้องให้ท่านปล่อยข้าไป"
หลี่เว่ยหยางมีความประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวว่า
"เจ้ากล่าวอันใด?!?"
จิวหยินเหนียงกัดฟันและกล่าวว่า
"ข้าขอร้องให้ปล่อยข้าไป!"
ตอนนี้นางเดินเข้ามาใกล้เซียนจูมากขึ้น ทำให้นอกจากสาวใช้ส่วนตัวของหลี่เว่ยหยางแล้วไม่มีผู้ใดได้ยินบทสนทนาของพวกนาง
แต่จังหวะนั้นหลี่เว่ยหยางเอียงศีรษะและเห็นเด็กสาวสองสามคนเดินผ่านทางเดินมาพอดี
แม้ว่าพวกนางจะไม่ได้ยิน แต่ก็สามารถมองเห็นจิวหลินเหนียง และการเดินเตร่ของหญิงสาวเหล่านี้มีความหมายว่าอย่างไรกันแน่?