ตอนที่ 219 ทำไมต้องปิดบังด้วยล่ะครับพี่สาว
พวกเขาอาจมีการหย่าร้างกันในอนาคต
หลังจากถามเสร็จแล้ว เฉียวเฉินก็รอคำตอบจากเหมาเยซื่ออย่างประหม่า
“งานแต่งงานเหรอ?” เหมาเยซื่อพูดซ้ำคำพูดของเขา ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นและเขาก็หันไปมองเฉียวเมียนเมียน
“น้องชายของคุณถามเราว่า เราจะจัดงานแต่งงานเมื่อไหร่ คุณคิดว่ายังไง”
“เอ่อ..”
“ผมคิดเหมือนกันนะ ว่าเราควรจัดงานแต่งงานเร็ว ๆ นี้ เราจดทะเบียนกันแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่จัดงานแต่งงาน”
ไม่มีเสียงตอบรับ
“คุณคิดเรื่องนี้แล้วมาบอกผมด้วย ผมจะจัดการให้ทุกเมื่อ”
ไม่มีเสียงตอบรับ
เฉียวเมียนเมียนกำลังร้อนใจที่จะหาคำตอบ
พวกเขาได้กล่าวถึงงานแต่งงานอีกครั้ง
เธอไม่ได้เตรียมตัวมา
“แค่ก ๆ มาคุยกันเรื่องนี้เมื่อเรากลับดีกว่า”
เฉียวเมียนเมียนเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว เธอเอื้อมมือไปตบไหล่เฉียวเฉิน และพูดด้วยรอยยิ้ม
“เฉินเฉิน เพื่อเป็นการฉลองการออกจากโรงพยาบาล เราจะทานอาหารมื้อใหญ่กันเย็นนี้”
“พี่เขยของเธอ เขาบอกว่าจะปฏิบัติต่อเราอย่างดีล่ะ แค่บอกเขา ว่าเธออยากทานอะไร”
เฉียวเฉินพูดไม่ออก
ตอนนี้เขาบอกได้แล้วว่าไม่ใช่พี่เขยของเขาที่ไม่ต้องการจัดงานแต่งงาน
คนที่ไม่อยากจัดงานแต่งงานคือพี่สาวของเขา
เฉียวเฉินไม่เข้าใจพี่สาวของเขาเลย
พี่เขยของเขาทั้งหล่อและรวยมาก มีค่าพอที่จะอวดได้ทุกเมื่อ
แล้วทำไมพี่สาวของเขาถึงต้องไม่อยากเปิดเผยด้วย
เป็นไปได้ไหมว่า...พี่สาวของเขายังคงอาลัยอาวรณ์ซูเจ๋อคนเลวคนนั้นอยู่? ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธที่จะจัดงานแต่งงานกับพี่เขยคนนี้?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เฉียวเฉินรู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้ทั้งหมด
ไม่ว่าเฉียวเมียนเมียนจะแสดงออกว่าไม่แยแสเพียงใด เธอก็รู้จักกับซูเจ๋อมาหลายปีแล้ว
เธอจะไม่สนใจเขาเลยได้อย่างไร?
บางทีสาเหตุที่เธอมองหาคนที่จะแต่งงานในทันที ไม่ใช่เพราะเขาป่วย แต่เป็นเพราะซูเจ๋อ
การทรยศของซูเจ๋อ ทำให้เธอเจ็บปวดและกระตุ้นเธอ...
แต่ถ้าเป็นเช่นนี้ มันก็ไม่ยุติธรรมเกินไปสำหรับพี่เขยของเขาน่ะสิ
เฉียวเฉินตัดสินใจทันที ที่จะยื่นมือและช่วยพี่เขยของเขาเอาชนะใจพี่สาวโดยเร็วที่สุด
................
นอกโรงพยาบาล
ลุงหลี่ยืนอยู่ข้างรถโรลส์รอยซ์สีดำ
เมื่อเห็นเหมาเยซื่อและคนที่เหลือเดินออกไปเข้าก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีและทักทายด้วยความเคารพ
“นายน้อย คุณผู้หญิง”
จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่ชายหนุ่มที่ยื่นอยู่ข้างหลังเฉียวเมียนเมียน
เด็กผู้ชายตัวสูงและเรียวคิ้วที่บอบบางและสวยงาม เขาก้มตัวลงอย่างเคารพและทักทาย
“สวัสดีครับคุณเฉียว”
เฉียวเฉินรู้สึกตกใจเมื่อได้รับการก้มศีรษะจากคนที่ดูแก่กว่าเขามาก
เขารีบถอยหลังทันทีและหันกลับไปมองเฉียวเมียนเมียนด้วยความงุนงง
“นี่คือลุงหลี่” เฉียวเมียนเมียนแนะนำเขา
เธอสามารถเข้าใจปฏิกิริยาของเฉียวเฉินได้
เธอรู้สึกอึดอัดมากในตอนแรกและตอนนี้ก็ยังไม่ชิน
เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ถูกเรียกผู้คุณผู้หญิง
“สวัสดีครับลุงหลี่” เฉียวเฉินทักทายอย่างสุภาพ
ลุงหลี่มองไปที่เขาอีกครั้งและรู้สึกเป็นมิตรต่อเขา
น้องชายของคุณผู้หญิงก็คล้ายกับเธอ และมีบุคลิกน่ารัก
ทั้งสองคนดูเป็นคนดี
เฉียวเฉินผอมลงเล็กน้อย แต่ก็ไร้ที่ติในด้านอื่น ๆ
ลุงหลี่รู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาดีกว่าดาราชายหลายคนในทีวีเสียอีก
แม้ว่าเขาจะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่เขาก็อารมณ์ดีและมีภาพลักษณ์ของเด็กผู้ชายที่สะอาดและสดชื่นแจ่มใส
เขามั่นใจว่าจะเป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ วัยเรียนเป็นแน่
แต่น้องชายของคุณผู้หญิงดูไม่เหมือนเธอเลย ลุงหลี่เดาว่าเธอคล้ายแม่ของพวกเขา ในขณะที่เขาคล้ายกับพ่อของเขา