Chapter 211 - 212: เจ้าของร้าน, ครอบครัวกู้ (ฟรี)
Chapter 211: เจ้าของร้าน
ไม่ใช่เพราะกู้หนิงคุ้นเคยกับผู้หญิง แต่เป็นเพราะความสามารถในการจดจำที่โดดเด่นของเธอ เมื่อเธอสนใจสิ่งใดเป็นพิเศษเธอสามารถจดจำมันใส่สมองได้อย่างรวดเร็ว
ภายในไม่กี่วินาทีผู้หญิงสวยสง่าสองคนก็เดินเข้ามาข้างในร้าน หนึ่งในนั้นคือแม่ของฮ่าวหรัน คุณนายฮ่าวซึ่งเคยพบกับกู้หนิงครั้งหนึ่งในงานเลี้ยงวันเกิดของนายท่านฉิน ส่วนเสียงผู้หญิงอีกคนคือคุณนายลู
ผู้หญิงที่อยู่ข้างคุณนายฮ่าวกู้หนิงเคยเห็นที่งานวันเกิดนายท่านฉินเช่นเดียวกัน แต่พวกเธอไม่ได้พูดคุยกัน
“ยินดีต้อนรับค่ะคุณนายฮ่าว คุณนายลู!” กู้ชิงและกู้ม่านกล่าวทักทายด้วยความยินดี
หลินหลี่หยวนนิ่งไปทันใดที่ได้ยินว่ากู้ชิงและกู้ม่านเป็นเจ้าของร้าน เป็นไปได้ยังไง! หลินหลี่หยวนไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
แต่อย่างไรก็ตามคุณนายฮ่าวและคุณนายลูต่างเป็นเศรษฐี หลินหลี่หยวนจึงทักทายพวกเธอแกมประจบประแจง “โอ้ คุณนายฮ่าว คุณนายลู! เป็นเกียรติของฉันมากเลยค่ะที่ได้พบพวกคุณที่นี่ แหม พวกคุณช่างดูดีมากเลยนะคะ ยังไม่แก่เลยสักนิด!”
“นี่ไม่ใช่คุณนายกู้หรอกรึ? ทำไมถึงวิจารณ์คนอื่นในที่สาธารณะแบบนี้?” คุณคุณนายฮ่าวถามอย่างเหน็บแหนม
คุณนายฮ่าวไม่ใช่คนถือตัวและเธอเป็นคนที่เข้าข้างเพื่อน คุณนายฮ่าวและคุณนายลูมาที่กาเม่ยบิวตี้สองครั้งแล้วหลังจากที่กู้ชิงและกู้ม่านเป็นเจ้าของร้าน พวกเธอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันจนกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
หลินหลี่หยวนสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจากคุณนายฮ่าวและรู้สึกขายหน้าเป็นอย่างมาก แต่เธออธิบายอย่างอดทนว่า “คุณนายฮ่าวอย่าเข้าใจฉันผิดสิคะ พวกเราเป็นญาติกันค่ะ ฉันรู้ว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและแทบไม่มีเงินจ่ายค่าเรียนหนังสือของลูกของพวกเธอ แล้วยังออกจากงานอีก อยู่ๆก็มีเงินมาดูแลตัวเอง ฉันเลยถามพวกเธอด้วยความห่วงใย เรื่องก็มีเท่านี้ค่ะ”
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงสองคนตรงหน้า หลินหลี่หยวนไม่กล้าขึ้นเสียงใส่เพราะครอบครัวของพวกเธอนั้นรวยมาก และช่วงนี้ธุรกิจสามีของเธอก็มีปัญหา ดังนั้นเธอจึงต้องการสร้างความประทับใจเข้าไว้
“พวกคุณเป็นญาติกันงั้นเหรอ?” คุณนายลูประหลาดใจ
“ใช่ค่ะ!” หลินหลี่หยวนตอบ
“ในเมื่อเป็นญาติกันทำไมคุณถึงไม่ช่วยเรื่องเรียนของลูกๆพวกเธอ? ฉันก็เข้าใจนะว่าไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่ต้องทำแบบนั้น บางทีอาจเป็นเพราะว่าฉันให้ความสำคัญกับญาติตัวเองมาก ไม่ว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลืออะไร ฉันเต็มใจเสมอ” คุณนายลูวิจารณ์ออกมาตรงๆ หลินหลี่หยวนคนนี้เป็นคนใจจืดใจดำ
โดยปกติพวกเธอจะไม่วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นในที่สาธารณะ แต่สิ่งที่หลินหลี่หยวนกำลังทำนั้นไร้ความปรานีและเลวทราม เธอปฏิเสธที่จะช่วยเหลือญาติของเธอและเกลียดชังที่เห็นพวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น
แม้ว่าคุณนายฮ่าวและคุณนายลูจะไม่รู้จักครอบครัวของกู้ชิงและกู้ม่านมากนัก แต่พวกเธอก็ได้พูดคุยกับกู้ชิงและกู้ม่านบ้าง ทั้งคู่ทราบดีว่ากู้ชิงและกู้ม่านทำงานในโรงงานและมีเงินอยู่จำกัด กู้ม่านเคยถูกครอบครัวของเธอดูหมิ่นด้วยซ้ำเพราะเธอท้องก่อนแต่ง แต่คุณนายฮ่าวและคุณนายลูไม่สนใจเรื่องนี้เลย พวกเธอชอบความซื่อสัตย์และความมีน้ำใจของกู้ชิงและกู้ม่าน และพวกเธอก็คุยกันถูกคอ
ในฐานะสุภาสตรีชั้นสูง พวกเธอมีสิ่งที่เรียกว่าเพื่อนมากมายที่คอยประจบสอพลอหรือไม่ก็แข่งขันกันเองซึ่งพวกเธอไม่ชอบแบบนั้น พวกเธอสนทนาด้วยเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น
ได้ยินคำวิจารณ์ของคุณนายลู หลินหลี่หยวนก็ยิ่งรู้สึกขายหน้า คุณนายลูทำแบบนี้เป็นการตั้งใจฉีกหน้าเธอชัดๆ
เธอเกลียดกู้ชิงและกู้ม่านเพราะพวกเธอไม่ยอมช่วยสามีของเธอ อย่างไรก็ตามตอนนี้คุณนายฮ่าวและคุณนายลูอยู่ที่นี่ เธอจึงไม่กล้าด่ากู้ชิงและกู้ม่านต่อหน้า
คุณนายฮ่าวและคุณนายลูไม่สนใจหลินหลี่หยวนอีก พวกเธอพูดกับกู้ชิงและกู้ม่านว่า “ทำไมพวกเราไม่นวดหน้ากันก่อนแล้วค่อยไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันล่ะคะ?”
“ความคิดมากค่ะ!” กู้ชิงตอบทันที ถึงแม้พวกเธอจะรู้จักกันได้ไม่นานแต่ก็เข้าขากันได้ดีราวกับว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่
หลินหลี่หยวนตะลึงที่คุณนายฮ่าวและคุณนายลูชวนกู้ชิงและกู้ม่านไปกินข้าวด้วยกัน ได้ไง? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
“คุณกู้ คุณต้องช่วยเหลือตัวเองแล้วล่ะค่ะ และขอโทษด้วยตอนนี้พวกเราไม่ว่างต้อนรับคุณ” กู้ชิงพูดกับหลินหลี่หยวนด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉือย จากนั้นก็พาคุณนายทั้งสองไปยังห้องรับรองส่วนตัวกับกู้ม่าน
หลินหลี่หยวนโกรธจัดแต่ไม่กล้าเข้าไปขวาง
เมื่อพวกกู้ชิงเดินจากไป หลินหลี่หยวนก็หันมาถามพนักงานต้อนรับตรงเค้าเตอร์ “กู้ชิงกับกู้ม่านก็เป็นสมาชิกวีไอพีที่นี่ด้วยเหรอ?”
“ไม่เชิงค่ะ คุณกู้ชิงและคุณกู้ม่านเป็นจ้าของที่นี่ค่ะ” พนักงานต้อนรับกล่าวตอบอย่างสุภาพ เธอเป็นพยานถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นและรู้ว่าหลินหลี่หยวนเป็นคนถือตัวและไม่ไว้หน้าใคร ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้านายถึงไม่อยากให้ญาติของเธอรู้ว่าเธอรวย”
“อะไรนะ!!” หลินหลี่หยวนตาโตด้วยความตกใจ “ยูนาไม่ใช่เจ้าของที่นี่เหรอ?”
“คุณยูย้ายไปอยู่ต่างประเทศแล้วค่ะ และตอนนี้คุณกู้เป็นเจ้าของที่นี่ค่ะ” พนักงานตอนรับกล่าวตอบอีกครั้ง
“เป็นไปไม่ได้! พวกเธอไม่มีเงินซื้อร้านนี้หรอก! ร้านนี้อย่างน้อยก็หลายล้านหยวน!” หลินหลี่หยวนยังคงไม่ยอมรับความจริง เธอไม่เชื่อว่ากู้ชิงและกู้ม่านจะมีปัญญาซื้อร้านนี้ได้
พนักงานต้อนรับอดกรอกตามองบนไม่ได้ คนรวยก็เคยจนมาก่อนยกเว้นพวกทายาทรุ่นสองที่เกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่อย่างไรก็ยังต้องรักษาความมั่งคั่งร่ำรวยของตระกูลเอาไว้ ไม่อย่างนั้นสักวันหนึ่งก็อาจกลับมายากจนได้อีก
กู้ชิงและกู้ม่านเป็นเจ้านายที่ดีและเอาชนะใจลูกน้องได้ พนักงานร้านทุกคนต่างชื่นชมพวกเธอเป็นเสียงเดียวกันและย่อมปกป้องพวกเธอเป็นธรรมดา
“นั่นเป็นไปไม่ได้! ฉันต้องไปถามพวกเธอเอง!” หลินหลี่หยวนพูดแล้วก็วิ่งไป
“เซียวเซียว รีบไปดูเร็ว อย่าให้เธอก่อปัญหาในร้าน!” พนักงานต้อนรับพูดกับผู้ช่วยช่างเสริมสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ
ผู้ช่วยช่างเสริมสวยรีบวิ่งตามหลังหลินหลี่หยวนไป
Chapter 212: ครอบครัวกู้
กู้ชิงและกู้ม่านยังไม่ทันได้เข้าไปยังห้องรับรองส่วนตัว หลินหลี่หยวนก็เข้ามาขวางไว้ก่อน “กู้ชิง กู้ม่าน ฉันมีเรื่องจะพูดกับพวกเธอเดี๋ยวนี้”
“หลินหลี่หยวน ฉันไม่คิดว่าพวกเราต้องมีเรื่องคุยอะไรกันนะ ถ้าเธออยากดูแลผิวก็ไปหาช่างเสริมสวย” กู้ชิงบอกปัดโต้งๆ ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องฟังหลินหลี่หยวนแล้ว
“เธอ!” ถ้าหากว่าคุณนายฮ่าวและคุณนายลูไม่อยู่ที่นี่ หลินหลี่หยวนคงตะคอกใส่กู้ชิงแล้ว หลินหลี่หยวนได้แต่กลืนคำพูดลงคอข่มความโกรธที่พุ่งปรี๊ดไว้อย่างยากลำบาก เธอยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่สักพักแล้วค่อยหมุนตัวเดินจากไป
เธอโทรหากู้ฉินเซียงเมื่อเดินออกมานอกร้าน
“มีอะไร?” กู้ฉินเซียงรับสายภรรยา
“ที่รัก ฉันเพิ่งเจอกู้ชิงกับกู้ม่านที่ร้านเสริมความงาม คุณต้องไม่เชื่อแน่ พวกเธอเป็นเจ้าของร้าน! คนอย่างพวกเธอเนี่ยนะ! ร้านนี้อย่างน้อยก็หลายล้านหยวน!” หลินหลี่หยวนพูดด้วยความโกรธปนความอิจฉาริษยา....
“อะไรนะ? พวกเธอมีเงินมากขนาดนี้เลยเหรอ?” กู้ฉินเซียงตกใจไม่แพ้ภรรยา เขาไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
“ใช่ค่ะ! ถึงว่าทำไมพวกเธอถึงลาออกจากงานและย้ายบ้าน ตอนนี้พวกเธอรวยแล้วนี่เลยไม่อยากติดต่อกับพวกเรา!” หลินหลี่หยวนพูด
“พวกเธอรวยได้ยังไง?” กู้ฉินเสียงสับสน
“ฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ ฉันก็อยากถามพวกเธอเหมือนกันแต่กู้ชิงไม่ยอมพูดกับฉัน คุณนายฮ่าวกับคุณนายลูก็อยู่ข้างพวกเธอ ฉันกลัวจะทำให้พวกเขารำคาญเลยออกมา” เมื่อคิดว่าคุณนายฮ่าวและคุณนายลูสนิทกับกู้ชิงและกู้ม่าน หลินหลี่หยวนก็โมโหจนอยากร้องกรี๊ด
“อะไรนะ? คุณหมายถึงคุณนายฮ่าวจากตระกูลที่รวยเป็นอันดับเก้าและคุณนายลูจากแฮปปี้โฮม บริษัทขายเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้านงั้นเหรอ?” กู้ฉินเซียงอึ้ง
“ใช่ค่ะ”
“เอาล่ะ ผมจะหาคำตอบเอง” จากนั้นเขาก็วางสายไป ความรู้สึกหลากหลายประดังประเดเข้ามา
เขากำลังจะใช้โทรศัพท์ส่วนตัวโทรหากู้ชิงแต่คิดอีกทีใช้โทรศัทพ์ที่ทำงานโทรไปดีกว่า เพราะกู้ชิงรู้เบอร์ส่วนตัวของเขาและเธอคงไม่รับสายเขาแน่
กู้ชิงไม่รู้เบอร์ที่ทำงานของกู้ฉินเซียง ดังนั้นเธอจึงรับสายเขา “สวัสดีค่ะ”
กู้ฉินเซียงไม่เสียเวลาทักทายเธอ เขาถามตรงๆว่า “กู้ชิง นี่พี่ใหญ่นะ ฉันได้ยินมาว่าเธอกับกู้ม่านซื้อร้านเสริมความงามเหรอ ไปเอาเงินมาจากไหน?”
เขาถามเธอตรงๆ น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าเขาไม่เชื่อว่ากู้ชิงกับกู้ม่านจะมีเงิน
กู้ชิงเกือบหัวเราะเยาะออกมาเพราะน้ำเสียงของพี่ชาย เธอแน่ใจว่ากู้ฉินเซียงไม่พอใจที่เห็นพวกเธอมีชีวิตที่ดีกว่าเขา “ทำไมพี่ถึงมาถามฉันตอนนี้ล่ะ? การที่พวกฉันรวยนี่ผิดกฏหมายหรอ? อย่าลืมว่าพี่ก็เคยจนมาก่อนนะ”
“กู้ชิง!” กู้ฉินเซียงหงุดหงิด
กู้ชิงไม่ได้หลบไปคุย กู้ม่าน คุณนายฮ่าวและคุณนายลูได้ยินทุกอย่างชัดเจนกู้ม่านหน้าเปลี่ยนสีและดูเจ็บปวด ถึงแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวเธอเป็นอย่างไรแต่ก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้ที่ถูกตั้งคำถามแบบนี้
คุณนายฮ่าวไม่พอใจขึ้นมา เธอคว้ามือถือจากกู้ชิงและกรอกเสียงลงไปว่า “คุณกู้ ดิฉันภรรยาของฮ่าวจงหลงนะคะ ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงถามว่ากู้ม่านกับกู้ชิงได้เงินมาจากไหน ให้ฉันบอกคุณอย่างนะคะ ฉันเป็นคนให้พวกเธอยืมเงินเองและคุณไม่มีสิทธ์มาตั้งคำถามประเภทนี้กับพวกเธอ!”
จากนั้นคุณนายฮ่าวก็กดวางสาย มองกู้ชิงและกู้ม่าน “ฉันต้องขอโทษด้วยที่เสียมารยาท อย่าถือสาฉันเลยนะคะ”
กู้ชิงและกู้ม่านสบตากันจากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะ “ไม่แน่นอนค่ะ! พวกเราคิดว่าคุณทำได้ดีมากเลยต่างหากล่ะคะ”
“อืม แต่ว่าเงินของพวกคุณถูกฏหมายใช่ไหมคะ?” คุณนายฮ่าวเผลอถามออกไปไม่รู้ตัว เธอไม่น่าพูดออกไปเลย “ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้มีเจตนา...”
ไม่เป็นไรหรอกไม่ว่าคุณนายฮ่าวมีเจตนาและไม่มีเจตนา กู้ชิงและกู้ม่านไม่โกรธเธอ กู้ม่านเป็นคนอธิบายว่า “เงินของพวกเราได้มาอย่างถูกกฎหมายค่ะ ลูกสาวของฉันได้ช่วยชีวิตคนๆหนึ่งโดยบังเอิญ ผู้ชายคนนั้นเลยให้หยกเป็นการตอบแทนค่ะ ลูกสาวฉันเลยเอาหยกไปขาย ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหยกจักรพรรดิซึ่งมีมูลค่าสิบล้านหยวน! พวกเราไม่ต้องการเก็บหยกไว้เลยขายเอาเงินมาทำธุรกิจค่ะ”
กู้ม่านไม่ปิดบังความจริง เพราะมันไม่ใช่เรื่องน่าอาย และเธอก็เต็มใจที่จะเล่าให้คุณนายฮ่าวและคุณนายลูฟัง
“อะไรนะคะ หยกจักพรรดิหรอคะ? มูลค่าของมันแทบประเมินค่าไม่ได้เลยนะคะ”
ผู้หญิงส่วนใหญ่ชื่นชอบอัญมณี บางคนชอบทองและเงิน บางคนชอบเพชร ในขณะที่บางคนชอบหยก คุณนายฮ่าวและคุณนายลูเป็นคนประเภทสุดท้าย
อย่างคำคนโบราณว่า หยกหล่อเลี้ยงมนุษย์และยังเสริมความสง่างามของผู้คน
คุณนายทั้งสองไม่สงสัยในคำอธิบายของกู้ม่านเพราะพวกเธอเชื่อว่ากู้ม่านและกู้ชิงไม่มีทางโกหกพวกเธอ
ในขณะเดียวกันกู้ฉินเซียงนั่งอึ้งหลังจากถูกตัดสาย
คุณนายฮ่าวให้น้องสาวเขายืมเงิน? เขาไม่แน่ใจว่าควรเชื่อดีรึเปล่า เขาค่อนข้างแปลกใจเลยทีเดียว
กู้หนิงลงจากเครื่องบินและออกจากสนามบินตามลำพังแทนที่จะไปกับอ้ายกวงเหยาและคนอื่นๆ เธอเปิดโทรศัพท์โทรหากู้ม่าน เมื่อได้ยินว่ากู้ม่านและกู้ชิงอยู่ที่ร้านเสริมสวย เธอจึงตัดสินใจไปพบแม่กับป้าที่นั่น
หลังจากคุยกับกู้หนิง กู้ม่านก็หันมาพูดกับคุณนายทั้งสองว่า “เอ่อ ลูกสาวของฉันกำลังมาที่นี่ค่ะ ให้ลูกสาวฉันมาทานข้าวด้วย พวกคุณจะว่าอะไรไหมคะ?”
แววตาคุณนายฮ่าวและคุณนายลูเป็นประกาย คุณนายฮ่าวยิ้มแย้ม “ได้สิคะ พวกเราก็อยากพบลูกสาวคุณอีกครั้งค่ะ”
“โอ้ ให้ลูกชายฉันมากินข้าวด้วยกันดีไหมคะ เขาอาจจะรู้จักลูกสาวคุณกู้เพราะอยู่โรงเรียนเดียวกัน ถึงแม้ลูกชายของฉันจะเรียนไม่ค่อยเก่งแต่นิสัยดีมากเลยค่ะ” คุณนายฮ่าวพูดถึงลูกชาย
“ได้สิคะ” กู้ม่านตอบ
คุณนายฮ่าวส่งข้อความหาลูกชายทันที