บทที่ 42 เซียนที่หลบซ่อน
บทที่ 42 เซียนที่หลบซ่อน
ยุ่นหลิงยืนอยู่นอกถ้ำในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ร่างอันทรงพลังของราชาภูเขาโกลิอัทที่ตายแล้วซึ่งยืนอยู่ในระยะไกล เขายังคงไม่สามารถสรุปได้ว่าสิ่งมีชีวิตดังกล่าวตายโดยไม่สามารถตอบโต้กลับได้เลยเมื่อเขาจากสภาพภายรอบ หากมีการต่อสู้ระหว่างมันกับสิ่งที่ทำให้มันตายได้การต่อสู้ระหว่างพวกมันจะเหมือนกับทำลายพื้นที่บริเวณรอบๆไปหลายพันไมล์ เมื่อไม่มีสภาพการต่อสู้โดยรอบจึงทำให้คิดได้ว่าคู่ต่อสู้ของ ราชาภูเขาโกลิอัทนั้นเหนือกว่า
ขณะที่ยุ่นหลิงกำลังมองไปที่ราชาภูเขาโกลิอัทเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆของจิ้งจอกดังออกมาจากถ้ำขณะที่มันมุ่งหน้ามาหาเขา
“ลูกชายของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”? ยุ่นหลิงถาม
“เขาหลับไปในขณะที่ข้าดูแลเขา” จิ้งจอกพูดขณะที่มันเข้ามาข้างๆยุ่นหลิง “ข้าตรวจดูแล้วอาการของเขาตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ภายในวันพรุ่งนี้เขาอาจจะฟื้นสภาพร่างกายได้เต็มที่แล้ว”
"ดีแล้วล่ะ" ยุ่นหลิงพยักหน้า
"ขอบคุณมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าลูกชายของข้าคงจะ…” จิ้งจอกไม่พูดต่อเพราะมันไม่ต้องการใช้คำพูดเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับลูกชายของเขาถ้าเป็นไปได้
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า ข้าไม่ได้ทำเพราะอยากช่วย ข้าทำตามข้อตกลงของเรา” ยุ่นหลิงบอกมัน
“ไม่ว่าเจ้าจะมีเหตุผลแบบไหนความจริงก็คือเจ้าเป็นคนที่ช่วยลูกชายของข้า นั่นคือทุกสิ่งที่สำคัญสำหรับข้า” จิ้งจอกพูดขณะที่มองไปที่ยุ่นหลิงอย่างจริงจัง
ยุ่นหลิงไม่พูดอะไรอีกต่อไป แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาช่วยจิ้งจอกเพียงเพราะข้อตกลงของมัน แต่มันก็คงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดถ้ายุ่นหลิงบอกว่านั่นคือเหตุผล เหตุผลจริงๆที่ยุ่นหลิงช่วยจิ้งจอกก็คือมันรักษาลูกมันเองไม่ได้ ยุ่นหลิงจึงให้ความช่วยเหลือโดยนึกถึงเพียงว่า เขาเองก็ไม่อยากให้ลูกของเขาเป็นแบบนั้น
ในความคิดของเขา เขาไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะคิดว่าวันหนึ่งหากมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับยุ่นเซี่ยและเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ...
แม้ว่าจะต้องคลานอยู่บนพื้นก็ตาม…
แม้ว่าเขาจะเปลื้องผ้าในที่สาธารณะก็ตาม…
แม้ว่าเขาจะต้องทำสิ่งที่น่าอับอายมากมายก็ตาม…
แม้ว่าคนอื่นจะล้อเลียนเขา และถุยน้ำลายใส่เขา ...
แม้ว่าเขาจะต้องทิ้งความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีทั้งหมดก็ตาม…
ยุ่นหลิงจะยอมรับมันทั้งหมด
ทำไมหรือ?
เพราะยุ่นเซี่ยเป็นลูกสาวของเขาและเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอง คนที่เขาจะรักโดยไม่มีเงื่อนไขจนกว่าจะตายจากกัน บางคนอาจคิดว่ายุ่นหลิงติดเธอมากเกินไป ยุ่นเซี่ยอาจเป็นลูกสาวของเขา แต่พวกเขาไม่ได้เจอกันมานาน เป็นที่เข้าใจได้ว่าคนอื่นๆอาจเห็นว่าการกระทำของเขาไม่สมเหตุสมผล แต่พวกเขาไม่ได้เป็นยุ่นหลิง ทันทีที่เขาเห็นยุ่นเซี่ยเขารู้สึกได้ว่ามีความผูกพันระหว่างพวกเขาซึ่งเป็นด้ายที่มองไม่เห็นเชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกัน มันแปลกมากๆ แม้แต่เขาเองก็ยังอธิบายไม่ถูก บางทีสิ่งที่เขารู้สึกอาจเหมือนกันกับพ่อแม่ที่ตกหลุมรักลูกทันทีที่เห็นพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นเขาถูกเลี้ยงดูมาเพื่อให้คุณค่ากับครอบครัวของเขาตั้งแต่เขาจำความได้นั่นก็เป็นเหตุผลหลักเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ยุ่นหลิงจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัยและมีความสุขดี
อย่างไรก็ตามหากคนเหล่านั้นปฏิเสธที่จะช่วยเขาไม่ว่าเขาจะขอร้องพวกเขามากแค่ไหนหากพวกเขาจะสามารถที่จะช่วยยุ่นหลิงได้ ยุ่นหลิงก็จะทำทุกอย่างแม้จะไม่รู้ว่าคนๆนั้นต้องการอะไรเป็นการตอบแทน และถ้าหากว่าถึงจะอ้อนวอนแค่ไหนก็ไม่มีใครหรือคนที่ช่วยเขาได้
เขาอาจจะสติแตกและคลุ้มคลั่ง
ยุ่นหลิงไม่อยากคิดเรื่องนี้อีกต่อไป เขาลบความคิดเหล่านั้นออกจากจิตใจของเขาในขณะที่เขานั่งสงบสติอารมณ์อยู่
“มีสิ่งหนึ่งที่ข้าลืมบอกเจ้าไป” จิ้งจอกพูดให้ยุ่นหลิงเกิดควาสงสัยในตัวมัน
ยุ่นหลิงเลิกคิ้วใส่มัน
"มันคืออะไร?" เขาถาม
จิ้งจอกถอนหายใจขณะที่มันพูด “แม้ว่าข้าจะบอกเจ้าว่าเจ้าสามารถทำตามที่เจ้าต้องการหลังจากที่เจ้าช่วยลูกชายของข้า แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
ยุ่นหลิงมองไปที่มัน
“ข้ากำลังจะตาย” จิ้งจอกพูดด้วยน้ำเสียงอันเหนื่อยล้า
“เจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน?” ยุ่นหลิงถาม
จิ้งจอกครุ่นคิดสักครู่ก่อนที่จะตอบว่า “ข้าคงยังอยู่ต่อไปได้อีกไม่เกินสามวัน”
“อืม…”
ใบหน้าของจิ้งจอกแสดงถึงความลังเลเล็กน้อย ขณะที่มันพูดว่า “ข้ารู้ว่านี่เป็นเรื่องที่มากไปสำหรับข้าหลังจากที่เจ้าทำเพื่อเรามาทั้งหมด แต่ข้ามีคำขอสุดท้ายจากเจ้าหนึ่งข้อ”
ยุ่นหลิงยังคงเงียบรอให้จิ้งจอกพูดต่อ
“ได้โปรดพาลูกชายของข้าไปด้วยเมื่อเจ้าออกไปจากที่นี่ ข้ากลัวว่าจะปกป้องเขาไม่ได้อีกต่อไป เขาไม่สามารถอยู่รอดในสถานที่นี้ได้ด้วยตัวเองโดยเฉพาะในตอนนี้” จิ้งจอกพูดอย่างเศร้าๆ
“เป็นเพราะสิ่งที่ทำให้อสูรหายากหลายตัวที่ตายไปในที่นี้และรวมถึงราชาภูเขาโกลิอัทด้วยหรือไม่”
“นั่นแหละ” จิ้งจอกพยักหน้า
“หืม?”
“สิ่งมีชีวิตตนนั้นทรงพลังมาก แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ ทันทีที่ข้าเห็นสิ่งนั้นข้ารีบพาลูกชายไปกับข้าและวิ่งด้วยกำลังทั้งหมดที่มี น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ลูกชายของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสในขณะที่ข้าเองก็อยู่ในสภาพแบบนี้” ที่จิ้งจอกกล่าวมาบ่งบอกถึงร่างกายที่ขาดสารอาหารของมัน
“มันมีรูปร่างแบบไหน?” ยุ่นหลิงถามขมวดคิ้ว
“มันคือต้นไม้ ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านบนภูเขา สิ่งมีชีวิตนั้นเรียกว่าต้นไม้เซียนวิลโลว์” จิ้งจอกระงับตัวสั่นในร่างกายของเขาขณะที่มันนึกถึงต้นไม้ที่น่ากลัว
แววตาของยุ่นหลิงถึงกับค้าง
“เซียน?”
ยุ่นหลิงไม่เคยเห็นเซียนมาก่อน เท่าที่ยุ่นหลิงรู้ไม่ควรมีใครเป็นเซียนในโลกพสุธา เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเซียนอยู่ที่นี่ หลังที่ก้าวข้ามขอบเขตการฝึกตนทั้งหมดแล้ว โลกจะไม่อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตนั้นอยู่ที่นี่อีกต่อไปและจะส่งสิ่งมีชีวตินั้นไปยังดินแดนที่สูงขึ้นแทน เมื่อคิดว่ามีสิ่งที่เป็นเซียนซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาพันภูเขายุ่นหลิงก็ถึงกับหายใจไม่ออก
"เจ้าเป็นอะไรมากไหม?" จิ้งจอกถามเขาด้วยความกังวลที่ปรากฏชัดในน้ำเสียงของมัน
“ข้าไม่เป็นไร” ยุ่นหลิงพยายามตั้งสติของตัวเขาเอง “ข้ารู้สึกหนักใจนิดหน่อยแค่นั้นเอง”
"ถ้าเจ้าพูดแบบนั้นล่ะก็…"
“ไม่ว่ายังไงหากสิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริงเราต้องรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” ยุ่นหลิงกล่าว คราวนี้เขาวางแผนที่จะออกไปอย่างจริงจัง
“พวกเรา?”
ยุ่นหลิงโยนผลไม้อายุยืนให้กับจิ้งจอกตัวนั้นซึ่งจิ้งจอกคาบไว้ได้อย่างรวดเร็ว
จิ้งจอกมองไปที่ยุ่นหลิงอย่างสงสัย เขาให้ผลไม้อายุยืนแก่ยุ่นหลิงไปแล้วหลังจากที่เขาช่วยลูกชายของเขาก่อนหน้านี้แล้วทำไมเขาถึงให้มันกลับคืนมา?
“สิ่งนั้นจำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่ต่อไปของเจ้าใช่ไหม” ยุ่นหลิงถาม “เจ้ากำลังจะตายเพราะขาดพลัง แต่ผลไม้อายุยืนเป็นผลไม้ที่สามารถให้พลังแก่ผู้ที่กินมันได้”
“เจ้ากำลังให้สิ่งนี้กับข้าใช่ไหม” จิ้งจอกถามอย่างไม่แน่ใจ
“ตอนนี้มันเป็นของเจ้าแล้ว”