เล่ม1 : บทที่ 73 – สถานะของเหลว
กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 73 – สถานะของเหลว
ยาธรณีมีความสามารถในการช่วยให้ผู้ฝึกตนข้ามขั้นสถานะต่าง ๆ ในตันเถียน แต่ทั้งนี้ผู้ใช้จำเป็นต้องไปถึงขั้นสูงสุดในสถานะนั้น ๆ ให้ได้เสียก่อน
‘แม้จะมีเวลาให้ฝึกแค่ช่วงกลางคืน แต่ด้วยเพราะมีปราณในร่างกายจึงทำให้ฉันเข้าใกล้ขีดจำกัดสูงสุดของสถานะแก๊สแล้ว ต่อจากนี้ก็จะฝึกฝนได้อย่างอิสระตามต้องการและในที่สุดก็สำเร็จได้ในหนึ่งอาทิตย์!’
โนอาน์ทุ่มกำลังและเวลาทั้งหมดให้กับเคล็ดการฝึกตนตลอดระยะเวลาแปดวันโดยไม่พักผ่อนเลยและจะหยุดทำสมาธิจากการกินเท่านั้น
ในช่วงกลางคืนในระหว่างแปดวันนี้ ในที่สุดตันเถียนของเขาก็ไม่สามารถขยายใหญ่ไปได้มากกว่านี้แล้ว
‘ขั้นสูงสุดของสถานะแก๊สแล้วสินะ!’
จากนั้นเขาก็ผล็อยหลับไปบนพื้นเนื่องจากเรี่ยวแรงไม่หลงเหลืออยู่แล้วจากการโหมฝึกอย่างหนัก เขาใช้เวลาถึงหนึ่งปีครึ่งเพื่อไปให้ถึงสถานะนี้และมุมานะให้กับเคล็ดการฝึกเพียงเท่านั้นเพื่อทำให้มันสำเร็จ
ทั้งนี้ปราณในร่างกายช่วยเขาได้มากในทุก ๆ ขั้นตอน เช่น การที่มันช่วยให้เขาก้าวข้ามความอ่อนแอไปได้เนื่องด้วยว่าเคล็ดวิชาของเขายังอยู่เพียงแค่อันดับหนึ่ง
หากเขาไม่สามารถทำให้เคล็ดวิชาเข้ากับธาตุที่มีได้ เขาเพียงต้องใช้ปราณเพิ่ม! ช่างน่าเสียดายที่วิธีนี้ทำให้เขาได้เรียบเพียงบางส่วนเท่านั้นในสถานะแก๊สเนื่องจากปราณที่อยู่ในร่างกายนั้นมีรูปแบบเดียวกัน
เขาตื่นขึ้นมาหลังในช่วงกลางคืนของวันที่เก้าหลังจากหลับมาตลอดทั้งวัน เขากินเพื่อให้มั่นใจว่าสภาพร่างกายจะพร้อมจากนั้นก็นำกล่องเล็ก ๆ กล่องหนึ่งออกมาจากแหวนปริภูมิ
ภายในกล่องมียาธรณีที่เขาขโมยมาจากกลุ่มเงาสีเทา เขาถือยาไว้บนมือและเก็บกล่องกลับเข้าไปในแหวน
‘ได้เวลาเริ่ม’
เขากินยาและกลืนมันทันที จากนั้นก็หลับตาเพื่อเพ่งสมาธิไปยังตันเถียน ยาถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและสร้างทรงกลมล้อมรอบและเริ่มกดอัดตันเถียนไว้!
โนอาห์ควบคุมปราณข้างในตันเถียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการควบแน่น แต่ปราณก็ดูจะไม่หดตัวลงเลยและพยายามต่อต้านแรงผลัก แต่อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกัน ทรงกลมเองก็เพิ่มแรงผลักที่มากขึ้น บังคับให้ปราณสะสมอยู่ในพื้นที่ที่ถูกจำกัดไว้
โนอาห์ยอมแพ้ต่อการที่ปราณถูกบังคับให้อยู่กับที่และควบคุมตันเถียนเพื่อช่วยให้ทรงกลมเลื่อนไป ขนาดของตันเถียนเล็กลงเรื่อย ๆ และปราณข้างในก็ดูเหมือนจะคงที่มากขึ้น จากนั้นแรงผลักอีกรอบจากทรงกลมก็บังคับให้ตันเถียนมีขนาดที่เล็กลงมาก ๆ
ปราณในสถานะแก๊สเริ่มเกิดความปั่นป่วนแต่ทรงกลมไม่เคลื่อนไหวดังนั้นผนังของตันเถียนจึงหยุดนิ่งและต้านทานต่อแรงกดดันภายใน
หลังจากผ่านไปไม่นานในสถานะดังกล่าว ปราณก็เริ่มเปลี่ยนรูปแบบและจากการกดอัดแก๊สทั้งหมดก็ปรากฏเป็นหยดน้ำสีดำออกมา
ทรงกลมสลายไปและโนอาห์ลืมตาขึ้นและใช้แขนยันพื้นเพื่อไม่ให้ตัวเองล้ม เขาหายใจหอบหืดและใบหน้าซีดเทา เหงื่อไหลท่วมร่างกาย
‘เหนื่อยแทบตาย!’
กระบวนการดูจะราบรื่นแต่เกินครึ่งของพลังงานจิตถูกใช้ไปเพื่อช่วยสนับสนุนผลจากยาธรณี
‘นี่ถ้าไม่มียาชนิดอื่น ไม่ใช่ว่าฉันต้องใช้พลังงานจิตทุกครั้งเลยเหรอ?’
เขาสงบสติอารมณ์และคงจังหวะการหายใจให้คงที่ขณะที่ความคิดกำลังวิเคราะห์ถึงขั้นตอนต่าง ๆ ที่เขาเพิ่งผ่านมา
‘แปลกมาก ราวกับปราณไม่อยากถูกกดอัด นั่นหมายความว่าสวรรค์กับโลกไม่อยากให้ผู้ฝึกตนแข็งแกร่งขึ้นงั้นเหรอ? เคยอ่านเจอว่าการฝึกตนเป็นการกระทำที่ต่อต้านโลกแต่ลองคิด ๆ ดูแล้ว มันอาจจะส่งผลต่อปราณในตันเถียนด้วย’
เขาตรวจสอบตันเถียนอันเล็กและปราณใหม่ภายใน หยดน้ำสีดำที่ดูเหมือนจะมีพลังงานมหาศาล น่าจะมากกว่าปราณสถานะแก๊สทั้งหมดที่มีในร่างกาย
‘ก็เข้าใจได้ ยังไงซะ หยดน้ำนี่คือผลจากการควบแน่นของปราณทั้งหมดที่อยู่ในตันเถียนซึ่งมีปริมาณที่มากกว่าที่อยู่ในร่างกายถึงสามเท่า’
ในกลางดึกของคืนวันนั้น เขาไม่รู้สึกว่าร่างกายจำเป็นต้องพักผ่อนดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะฝึกตนต่อ เขาใช้กระบวนการดูดซับเช่นเดิมร่วมกับปราณในร่างกายแต่ผลลัพธ์กลับน่าผิดหวัง
เขาหยุดทุกอย่างในช่วงเที่ยงวันของอีกวันหนึ่งแต่ตันเถียนของเขากลับขยายใหญ่ขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
‘โครตช้าเลย! คงต้องใช้เวลาสักสามถึงห้าปีกว่าจะได้ขนาดเท่าเมื่อวานและต้องได้ฝึกฝนอย่างไม่มีอะไรมาขวางกันด้วย อยากได้เคล็ดการฝึกตนที่ดีกว่านี้’
เขาอยากหนีไปแต่ก็ข่มความรู้สึกนั้นไว้และชักดาบออกมา เขาซ้อมท่วงท่าเดียวกันกับที่เคยทำอยู่หลังห้องตัวเองในตึกแขกและอดที่จะแสดงความเยือกเย็นออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงช่วงชีวิตที่เคยอยู่ที่นั่น
‘อีกไม่นานเกินรอหรอกพวกขุนนางที่รัก’
เขาฝึกจนรู้สึกว่าการโจมตีของเขานั้นกลับคืนสู่จุดสูงสุดเช่นก่อนหน้านี้ ซึ่งนั่นก็กินเวลาไปจนดึกดื่น
‘เหลือเวลาในการฝึกอีกประมาณยี่สิบวันเพื่อให้คุ้ยเคยกับสถานะใหม่และขยายขนาดตัวเถียนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะว่าออกไปจากคฤหาสน์ทั้ง ๆ ที่มีเพียงแค่กระบวนเดียวติดตัวไปไม่ได้’
เขาถอดเสื้อออกและคิดถึงชื่อที่เขาไม่ได้เรียกมาเป็นเวลานานพอสมควร
‘อัสซี’
งูหัวใหญ่ตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากร่างกายเขา โนอาห์สวมแหวนและนำข้าวของทั้งหมดที่อยู่ในห้องไปไว้ในแหวน ทั้งห้องว่างเปล่าในพริบตา
‘สู้กับฉัน ห้ามโดนกำแพง’
สหายเลือดไม่ลังเลและพุ่งตรงใส่เขาทันทีแต่กลับพบคลื่นกระแทกสีดำที่เกือบจะตัดหัวของมันให้ขาดครึ่ง
ความเจ็บปวดเล่นงานโนอาห์เนื่องจากการโจมตีของอัสซีแต่เขาก็ไม่ได้สนใจและหลบการโจมตีจากงู เขาใช้เวลาอยู่หลายวันก่อนงานการต่อสู้ที่ดินมรดกพร้อมกับสหายเลือดของเขาและการฝึกตน ส่วนเวลาว่างที่เหลือจะใช้ไปกับการนั่งมองอักษรรูนชิ้นที่สอง
บางครั้งก็มีเสียงโลหะดังมาจากห้องของเขา แต่เนื่องจากเขามีนัดหมายตามภารกิจสำคัญจึงไม่มีผู้ใดที่กล้าเข้าไปขัดเขา
ในท้ายที่สุด เดือนแห่งการเก็บตัวก็สิ้นสุดลงและงานที่ดินมรดกก็ได้เริ่มต้นขึ้น