ตอนที่ 19 ตาเทพ หลงจิ่ว
“สองหมื่น ฮ่าๆๆ..”
จั๋วฝานลูบคาง ส่ายหัวขณะยื่นมือออกไป“ในเมื่อคุณหนูไม่ซื่อสัตย์ ก็คงไม่ต้องคุยกันต่อ”
นางรีบถอยกลับ กอดม้วนหนังไว้ กลัวว่าจั๋วฝานอาจเอามันไป
“คุณชายจั๋ว สองหมื่นไม่น้อยเลยสำหรับค่ายกลระดับหนึ่ง นี่ยังเป็นแค่ภาพวาดแทนชิ้นหยก ราคาถือว่ายุติธรรมแล้ว”
“ฮ่าๆๆ คุณหนูหลง ข้าอาจไม่มีความรู้นัก แต่ข้ารู้ว่าท่านพยายามโกงข้า ส่งมันกลับมาให้ข้า”จั๋วฝานยื่นมือออกไป แต่ไม่เร่งรีบ เขากลับจ้องนาง
นางจับภาพวาดไว้แน่น หลงขุ่ยกัดปากและตะโกน“ถือว่าข้ายอมขาดทุน สามหมื่น”
“คุณหนูหลงยังไม่ซื่อสัตย์พอ”จั๋วฝานส่ายหัวด้วยความผิดหวัง และโน้มตัวไปคว้าม้วนหนัง
หลงขุ่ยขดตัวไปด้านหลัง อยากหลบเงื้อมมือมารของจั๋วฝาน
ภาพวาดนี้เป็นค่ายกลระดับหนึ่งจริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางเห็น ราคาเดิมของมันยุติธรรมและเริ่มด้วยสองหมื่นเพราะนางรู้ว่านางไม่สามารถต่อรองกับจั๋วฝานได้
ถึงกระนั้น ด้วยค่ายกลมากมายที่นี่ นางกลับไม่รู้จักมันเลย ตระกูลผู้ประเมินอันดับหนึ่งในจักรวรรดิมีค่ายกลมากมายเก็บไว้ แต่นี่ก็เป็นอันหายากที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน
เช่นนั้น ต่อให้นางต้องขาดทุน นางก็จะทำเพื่อให้ได้รับมัน
น่าเสียดายที่จั๋วฝานยืนขวางทางนาง ไม่เต็มใจถอยสักก้าว เช่นนั้น นางจึงหันไปหาคุณหนูตระกูลลั่ว“คุณหนูลั่ว ภาพวาดนี้มีราคามากสุดแค่สามหมื่น มีแค่ศาลาเฉียนหลงเราถึงซื้อภาพวาดเช่นนี้ได้ในจักรวรรดิ ท่านจะไม่ได้รับราคาที่ดีแบบนี้แล้ว”
“อืม…”นางลังเล เหลือบมองจั๋วฝาน
หลงขุ่ยรู้ว่านางหนีมาได้ ผลักกดดันต่อ“คุณหนูลั่ว ท่านกับศาลาเฉียนหลงกำลังทำการค้าครั้งใหญ่และจะเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของเรา ประตูเราจะเปิดต้อนรับท่านตลอดเวลา”
แขกผู้ทรงเกียรติ?
ลั่วหยุนชางพึมพำ“นี่เป็นการได้รับผู้สนับสนุนสินะ?”
หัวใจของนางโดนยึดครองด้วยความยินดีและหันไปหาจั๋วฝาน“แล้วถ้า…”
“ไม่!”จั๋วฝานคำราม ตวัดสายตาจ้องนาง
หญิงโง่คนนี้คล้อยตามทันที ศาลาเฉียนหลงมีดีแค่หลอกแขกโง่ๆ?เพื่อให้ได้รับอำนาจ เพื่อปกป้องพวกเขา พวกเขาต้องได้รับผ่านการค้าที่เท่าเทียมเท่านั้น
“คุณหนูหลง ข้าคือพ่อบ้านตระกูลลั่ว ข้ารับผิดชอบดูแลทุกเรื่อง โปรดส่งภาพวาดกลับคืนให้ข้า”รอยยิ้มของจั๋วฝานถูกแทนด้วยใบหน้าเย็นชา
หลงขุ่ยมึนงง จากนั้นก็จ้องลั่วหยุนชาง
คำพูดเขาเป็นจริง?ตั้งแต่เมื่อไรที่อำนาจของพ่อบ้านมีเหนือเจ้านาย?
[แต่ดูแล้ว คุณหนูของตระกูลลั่วคงไม่สามารถเถียงพ่อบ้านคนนี้ได้]
นางถอนหายใจ ส่งม้วนหนังกลับไปแบบไม่เต็มใจ“น่าเสียดาย คุณชายจั๋ว คำขอท่านสูงไปและข้าก็ไม่อาจเติมเต็ม แต่ข้าเต็มใจรับประกันด้วยวชื่อเสียงของศาลาเฉียนหลงเรา ว่าค่ายกลระดับหนึ่งนี้มีค่าไม่เกินสามหมื่น”
ด้วยม้วนในมือ จั๋วฝานลุกขึ้น โน้มตัวไปใกล้หลงขุ่ย เดินผ่านนางไป
ก่อนนางจะได้พูดอะไร เขาก็พูด“ขอโทษด้วย มันดูเหมือนข้าจะมองคุณหนูไว้สูงเกินไป ท่านไม่เข้าใจอะไรเลย สถานที่นี้มีผู้ประเมินคนอื่นไหม?”
“วะ-ว่าไงนะ ข้าไม่เข้าใจ?”
แก้มของหลงขุ่ยแดงด้วยความโกรธ
ไม่มีขอชิ้นใดที่ผ่านมือนางแล้วประเมินผิดๆมาก่อน ความจริงที่นางสามารถชี้หยกดำปลอมได้ แต่ไม่สามารถอธิบายว่าทำไมคือพรสวรรค์นาง มันเพราะนางเกิดมาเป็นผู้ประเมิน
กล่าวได้ว่า นางคือผู้เชี่ยวชาญ!
แต่ จั๋วฝานกลับเยาะเย้ยพรสวรรค์นาง ปฏิเสธทักษะนางในการประเมิน มันเลวร้ายยิ่งกว่าการตบตีนางเสียอีก นี่เป็นการดูถูกศักดิ์ศรีนาง
“คุณชายจั๋ว สายตาท่านดี แต่ก็ไม่ควรทำเกินไป”หลงขุ่ยแสดงรอยยิ้มที่เกินกว่าแค่ความโกรธ
จั๋วฝานแค่ยิ้ม“ที่นี่มีผู้ประเมินคนอื่นไหม?”
หลงขุ่ยจ้องเขา“ได้ รอที่นี่”
และนางก็จากไป ลั่วหยุนชางกังวลถึงความโกรธที่หลงขุ่ยแสดง“เราไปทำให้ศาลาเฉียนหลงโกรธเข้าหรือเปล่า?”
จั๋วฝานส่ายหัว
อึดใจต่อมา หลงขุ่ยก็ปรากฏตัวใหม่ แต่ครั้งนี้ มีชายชราด้านข้างนาง
“ตาเทพ หลงจิ่ว?”
ลั่วหยุนชางตะโกนด้วยความตกใจและหันไปหาจั๋วฝาน“เขาคือผู้ดูแลศาลาเฉียนหลงในเมืองเนตรสายลม หัวหน้าผู้ประเมิน ตาเทพหลงจิ่ว”
“อ่า คุณหนูตระกูลลั่วนี่่เอง”
แม้กระทั่งจากร้อยก้าว เสียงของหลงจิ่วก็ฟังชัดในหูพวกเขา“ข้าเคยพบพ่อท่านยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นเขายังหนุ่มแน่นเต็มไปด้วยความกล้า ไม่คิดเลยว่าตระกูลท่านจะต้องมาขายสมบัติ”
หัวใจของจั๋วฝานสั่นสะท้าน คิ้วเขาขมวดเป็นปม
พลังของชายคนนี้เหนือกว่าไช่หรง จนถึงจุดที่จั๋วฝานมองไม่ออก มันไม่ใช่ว่าสายตาเขาไม่ดี หรือตาแก่นี่ปิดบังพลังไว้ มันคือความแตกต่างระหว่างพวกเขาที่ห่างชั้นกันมากเกินไป
[ศาลาเฉียนหลงมียอดฝีมือเช่นนี้นี่เอง]
ไม่ช้า หลงจิ่วที่หลงขุ่ยพยุงก็มาถึงตรงหน้าพวกเขา ลั่วหยุนชางก้มหัว
“ท่านลุงจิ่ว’ และคนอื่นก็รีบทำตาม แต่จั๋วฝานกลับยืนนิ่ง
หลงจิ่วสำรวจเขาด้วยสายตาพร่ามัว“เจ้าคือพ่อบ้านตระกูลลั่วงั้นหรือ?”
“ถูกต้อง!’
“อืม ไม่ว่าใครก็ดีกว่าเฒ่าซุนนั่น”หลงจิ่วมองพวกเขาอย่างมีความหมาย จากนั้นก็นั่งลง“ข้าได้ยินว่าเจ้ากังขาฝีมือของเสี่ยวขุ่ย”
“ใช่”จั๋วฝานไม่ถนอมน้ำใจเลย แถมยังเหลือบมองนางจากหางตา
“ฮ่าๆๆ เสี่ยวขุ่ยอาจใหม่ในธุรกิจนี้ แต่สายตานางก็ดี นางต้องประเมินไม่ผิดแน่ แต่ในเมื่อเจ้ากังขานาง ตาแก่คนนี้ก็จะดูเอง”
“เชิญ”
จั๋วฝานส่งม้วนหนังไป และรอยยิ้มของหลงจิ่วก็สลายหายไปทันทีที่เขาเปิดเนื้อหาอ่าน
“ท่านลุงจิ่ว ข้าพูดถูกใช่ไหม?”หลงขุ่ยแสยะยิ้มและตะโกน“ค่ายกลระดับหนึ่ง หินปราณสามหมื่นก้อน”
หลงจิ่วจ้องภาพวาดนิ่ง ๆ และหลังจากนั้นถึงพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม“ไม่คิดเลยว่าตระกูลลั่วจะซ่อนของแบบนี้ไว้ เจ้าหนู 1.8 ล้านเป็นไง?”
ว่าไงนะ?
พวกเขาอ้าปากค้าง โดยเฉพาะหลงขุ่ย นางไม่เคยคิดฝันว่าจะมีวันได้เห็น ผู้ดูแลศาลาเฉียนหลง หลงจิ่วเสนอตัวเลขที่มากมหาศาลเช่นนั้น...