Ep.639 - บูชายัญมนุษย์
5/5
Ep.639 - บูชายัญมนุษย์
แผนเดิมในใจของฉินเฟิง แน่นอนว่าเป็นการได้ครอบครองที่แห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว แต่หากคิดจะทำแบบนั้น มันยังไม่ใช่ตอนนี้
ดังนั้นฉินเฟิงจึงกล่าวว่า “ต้นไม้เพลิงในดินแดนลาวาน่าประหลาดมาก มันสามารถกลืนกินอะไรลงไปก็ได้ โดยเฉพาะหลังดูดซับซากศพมนุษย์ จะให้กำเนิดลูกโทรลเป็นเท่าทวีคูณ ผมคิดว่า … สถานการณ์ในตอนนี้ ควรกำจัดพวกมันโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นพวกเราคงต้องสู้กับมันตลอดไป”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทั้งสามค่อยผ่อนคลายลง เพราะนี่เท่ากับเป็นคำอนุญาตกลายๆจากฉินเฟิง หมายความว่าการเดินทางในครั้งนี้ของพวกเขา ไม่มาเสียเที่ยวแล้ว
เหอเล่อหมิงกล่าว “ถ้าเรื่องนั้นน้องฉินวางใจได้ แต่ตอนนี้ฉันกลัวว่าจะมีคนอีกมากเข้ามา ปรารถนาตัดแบ่งชิ้นส่วนเค้กไป”
ฉินเฟิงพยักหน้าว่าเข้าใจ เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ ผมก็แค่หวังว่าจะกำจัดอันตรายที่นี่ให้หมดไปโดยเร็วที่สุด ไม่มีเจตนาอื่นอีก!”
ทั้งสามสนทนากันอีกสักพัก บางทีอาจเป็นเพราะสมบัติที่นี่ล่อต่อล่อใจมากเกินไป ดังนั้นทุกคนเลยอยากรีบออกไปดู ไม่อยู่คุยนาน จบธุระก็พาขอตัวแยกจากไป
ฉินเฟิงยืนอยู่บนชั้นสองของวิลล่า สีหน้าแม้ยังคงสงบนิ่ง หากแต่ในหัวใจเต้นครึกโครมราวกลองชุด
“ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบลื่นมันจะดีมาก จะกลัวก็แต่ว่าพวกเขาคงไม่ทันคิดเหมือนกันว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปถึง ‘จุดนั้น’”
ข้อเท็จจริงนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว ว่าทั้งสามคนคิดง่ายเกินไป
ที่ใดมีผู้คน ที่นั่นย่อมมีแม่น้ำและทะเลสาบ ความหมายก็คือ สถานที่ใดมีผลประโยชน์ ย่อมนำมาซึ่งการต่อสู้ฆ่าฟัน
ในวันแรก เหอเล่อหมิงและคนอื่นๆล่าได้ไม่เลว แม้พวกเขาไม่ทรงพลังเท่าฉินเฟิง แต่ทุกคนสามารถสังหารปีศาจโทรลลาวาเดือดเลเวล C ได้มากกว่า 200 ตัว ทั้งยังเป็นไปอย่างง่ายดาย
รับทรัพย์เป็นเงินกว่า 6 ล้านล้านในวันเดียว นี่เทียบเท่ากับเงินก้นครัวของคงโบะ ตอนงัดออกมาซื้อวัตถุดิบระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล B เลย
ยิ่งไปกว่านั้น นี่แค่วันแรก วันถัดมา ปรากฏผู้ใช้พลังเลเวล B อีก 5 คนมาเยือน
วันที่สามเพิ่มมาอีก 9 คน
วันที่สี่เพิ่มมาอีก 13 คน
ในระยะเวลสั้นๆแค่ 4 วัน ปรากฏเลเวล B กว่า 30 คนบุกเข้าไปในดินแดนปีศาจโทรล นี่ถือว่าเป็นจำนวนที่มากจนน่าหวาดกลัว
เพราะขนาดในลุ่มน้ำตู่ซาน เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง เข้าถึงฤดูแมลงแตกรัง กระจายไปทุกหนแห่ง เกรงว่าจะมีผู้ใช้พลังเลเวล B มารวมตัวกันแค่ไม่เกิน 10 คนเท่านั้น!
ในขณะที่ปีศาจโทรลลาวาเดือด แม้พวกมันแต่ละตัวมีมูลค่ามหาศาล แต่จำนวนโดยรวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 10,000 ตัวเท่านั้น
แล้วเช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?
เหล่าเลเวล B ตัดสินใจร่วมกันอย่างรวดเร็ว โดยการแบ่งพื้นที่เป็นซีกเป็นซีกคนละ 3 กิโลเมตร แล้วแยกย้ายกันไปล่าสังหารในพื้นที่ของตัวเอง
ส่วนเลเวล B ที่ตามมาสมทบภายหลัง คงได้แต่ไปช่วงชิงพื้นที่จากอีกฝ่ายมา
ถูกต้อง ใช่ว่าเลเวล B ทุกคนจะอยู่ฝ่ายเดียวกันซะทีไหน
จากทั้งหมด 30 คน มีเลเวล B จากพันธมิตรองค์กรมืด 16 คน และ 14 คนจากพันธมิตรมนุษย์ สำหรับผู้มาใหม่ คงได้แต่ต้องบุกไปยังดินแดนของฝ่ายตรงข้าม ช่วงชิงดินแดนกัน เกิดการต่อสู้ท้าทาย
สถานการณ์ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย มีหลายคนช่วงชิงดินแดนกันอย่างรุนแรง ถึงแม้พวกเขาจะรู้แพ้รู้ชนะ สู้ไม่ได้ก็ถอยออกมาก็ตาม ถึงกระนั้น ก็ยังมีผู้เสียชีวิตไปสองคน
ในวันที่สี่ อาณาเขตของโทรลที่จากเดิมขยับขยายมาหลายกิโลเมตร ค่อยๆถูกตีวงแคบ แคบลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายเหลือเพียงพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้เพลิง ส่วนพวกปีศาจโทรลลาวาเดือดถูกสังหารจนเกือบหมด
พื้นดินโดยรอบยุบตัวลง ถูกเติมเต็มไปด้วยสระลาวา ฉากนี้ไม่ต่างจากหายนะ ยามมองชวนให้อดรู้สึกรังเกียจไม่ได้
สำหรับเลเวล B ที่มาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ย่อมได้รับผลประโยชน์มหาศาล ส่วนที่เหลือซึ่งมาทีหลัง ก็ได้แต่กินผลึกไฟจากแอ่งลาวาพวกนั้นไป
ณ เวลานี้ ภายในเมืองลาวาเดือด ในห้องส่วนตัวชั้นบนของโรงแรมที่หรูหราที่สุดคนกลุ่มหนึ่งได้มารวมตัวกัน โดยแบ่งเป็นเลเวล B ทั้งสิ้น 14 คน แต่ช่างน่าแปลกที่ดันมีเลเวล C ที่เหลืออีกสองคนนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ
มิใช่ใครอื่น เป็นฉินเฟิงกับไป๋หลี
“ทุกท่าน ตอนนี้ปีศาจโทรลลาวาเดือดได้ตายไปเกือบหมดแล้ว เหลือแต่ต้นไม้เพลิง และเนื่องจากตอนนี้ต้นไม้เพลิงมีขนาดใหญ่มาก มันสูงกว่า 300 เมตร ผมเลยเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปมันอาจอยู่เหนือการควบคุม ฉะนั้นทำไมพวกเราไม่ร่วมมือกัน กำจัดต้นไม้เพลิงเล่า!” ฉินเฟิงยื่นข้อเสนอ
บางคนก็เห็นด้วยกับเขา แต่บางคนแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
นั่นเพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่าหากต้นไม้เพลิงถูกกำจัดไปแล้ว ตนจะสามารถได้รับผลประโยชน์อะไรอีกหรือไม่ ดังนั้นข้อเสนอนี้ ชัดเจนว่ามีหลายคนไม่พอใจ
“ข้อเสนอของผู้การฉินฟังดูมีเหตุผล ครั้งนี้พวกเขาสามารถต่อกรกับองค์กรมืดได้ ต้องขอบคุณท่านผู้การฉินและมิสไป๋ แต่ยังไงก็ตาม สำหรับต้นไม้เพลิงแม้มันเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด แต่ถือว่ายังสามารถทำผลกำไรได้อยู่!”
“ใช่แล้ว ต้นไม้เพลิงสามารถให้กำเนิดลูกโทรลได้โดยการบูชายัญ ทั้งยังบูชายัญได้ทุกอย่างโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ บางทีถ้าพวกเราไปขุดก้อนหินหรือตัดต้นไม้ โยนให้แก่มัน ต้นไม้เพลิงอาจสามารถให้กำเนิดลูกโทรลได้อีกจำนวนมาก!”
เมื่อประโยคนี้จบลง ดวงตาของหลายคนในห้องประชุมพลันสว่างวาบ ขณะที่บางคนถึงขั้นหัวใจเต้นแรง
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงกลับแสยะยิ้มเย็นออกมา และกล่าวว่า “นี่คุณจริงจังหรือ? คุณคงยังไม่สังเกตเห็นใช่ไหม ว่าอุณหภูมิล่าสุดของที่นี่ ไม่นานมานี้มันพุ่งสูงกว่าเดิมมาก”
“โอ? มีเรื่องแบบนั้นด้วยหรือ นายรู้สึกรึเปล่า?”
“ไม่น่า ผู้การฉินคงคิดไปเองแล้ว บางทีนี่อาจเป็นเพราะสภาพอากาศกำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ!”
ปัจจุบันเพิ่งย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ โดยปกติแล้วช่วงเวลานี้ของรัฐทะเลเหนือ ต้องยังมีอุณหภูมิอยู่ที่ -10ถึง-20 องศา ยังถือว่าเย็นอยู่ และอาจมีหิมะตกด้วยซ้ำ แต่ปัจจุบันอุณหภูมิกลับพุ่งสูงขึ้นมาอยู่ที่ 10 องศาแล้ว ในขณะที่ผู้ใช้พลังมีภูมิคุ้มกันสภาพอากาศทั้งร้อนเย็น เลยเป็นธรรมดาที่จะไม่รู้สึกถึงมัน
แต่สำหรับผู้คนทั่วไป พวกเขาเปลี่ยนไปสวมเสื้อฤดูกาลใหม่แล้ว ไป๋หลีเองก็ถือโอกาสนี้เปลี่ยนไปสวมชุดเดรสยาวที่ถักทอขึ้นจากปีกจักรพรรดิผีเสื้อผงหอม แต่ปัจจุบันกลับไม่มีเลเวล B คนใดสังเกตเห็น และที่สำคัญก็คือพวกเขาไม่รู้ว่าเลเวล B ทั้งสองที่เสียชีวิตไป แท้จริงแล้วตกตายด้วยน้ำมือของไป๋หลี
ฉินเฟิงกล่าว “อันที่จริง การทำลายต้นไม้เพลิงถือเป็นความคิดที่ดี ทุกท่านน่าจะทราบถึงพลังของแฟนผม เธอมีความสามารถด้านพลังมิติ ถึงไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะเพียงพอให้พวกเราสามารถแกะหาร่องรอยของรอยแยกมิติที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ หลังจากทำการเปิดช่องว่างมิติ พวกเราจะเข้าไปสำรวจมิติอื่น และถ้าสิ่งมีชีวิตข้างในเต็มไปด้วยพวกโทรลแล้วล่ะก็ …. ”
เมื่อถึงเวลานั้น อยากจะฆ่าเท่าไหร่ ก็ฆ่าได้เต็มที่เลย
พอได้ฟัง เหล่าผู้ใช้พลังเลเวล B เริ่มเกิดความหวั่นไหวคล้อยตาม
แต่ในตอนนั้นเอง อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงส่งเสียงเตือนขึ้นทันใด
“ฉินเฟิง แย่แล้วล่ะ มีปัญหาแล้ว!” เสียงของโจวฮ่าวตะโกนลอดออกมา
ฉินเฟิงผงะตกใจ ไม่รอให้เขาทันได้เอ่ยถามสถานการณ์ โจวฮ่าวก็พูดออกมาจนหมดเปลือก
“กลุ่มพันธมิตรองค์กรมืดจู่ๆก็ขับยานบินขนาดใหญ่อย่างน้อยห้าลำเข้ามา อีกทั้งข้างในยังเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้พวกมันกำลังโยนคนลงไปในต้นไม้!”
สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนกลับกลาย
“เข้าใจแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
ฉินเฟิงไม่ได้สนทนาเป็นการส่วนตัว ดังนั้นทุกคนต่างก็ได้ยินข่าวนี้พร้อมกัน บังเกิดความตื่นตระหนกไปชั่วขณะ
เพราะพวกเขามีความคิดแค่จะโยนหินหรือต้นไม้ลงไปเท่านั้น แต่ไม่คาดคิดเลยว่าพวกองค์กรมืดกลับเลือดเย็น ตัดสินใจโยนคนลงไป!
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าการโยนเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาเป็นอาหาร สำหรับต้นไม้เพลิงแล้ว นั่นถือเป็นอาหารบำรุงชั้นยอด สามารถให้กำเนิดเป็นทวีคูณ!
“ไป๋หลี ไปเถอะ!”
ฉินเฟิงไม่สนใจผู้คนรอบข้างที่กำลังแสดงสีหน้าแตกต่างกันไป เขาไม่คิดขออนุญาตหรือถามความเห็นจากคนพวกนี้ เมื่อเรียกไป๋หลี ก็ใช้ออกด้วยเทเลพอร์ตทันที
วูซซซ!
ฉินเฟิงกับไป๋หลีหายวับไปจากโรงแรม วิสัยทัศน์โดยรอบกลายเป็นมืดมิด ปรากฏกายขึ้นอีกทีในทุ่งล่า
ท่ามกลางความมืดมิด ในระยะไกลออกไป ปรากฏแสงไฟสว่างจ้า หากมองจากที่ไกลๆ คุณจะสามารถเห็นพุ่มไม้ใหญ่แตกกิ่งก้านเป็นโดม
วูซซซซ!
ชั่วพริบตาเดียว ฉินเฟิงก็เข้าใกล้สถานที่นั้นยิ่งกว่าเดิม
บนท้องฟ้า ปัจจุบันปรากฏยานบินขนาดใหญ่กว่า 5 ลำ ยานบินที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศนี้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับรถไฟล่องเวหา ยานบินแต่ละลำสามารถบรรทุกผู้คนอย่างน้อยร้อยชีวิต
ในตอนนั้นเอง ประตูห้องโดยสารถูกเปิดออก หลายร่างเริ่มถูกโยนเข้าไปในต้นไม้เพลิง
“กรี๊ดดดดดด”
“อ๊าาา ไม่!”
เสียงกรีดร้องสยองขวัญ สะท้อนไปทั่วผืนฟ้ายามค่ำคืน
**พรุ่งนี้งดประจำสัปดาห์ครับ