ตอนที่แล้วChapter 8: พี่ชายของฉันดีเกินไปแล้ว! (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน

Chapter 9: พี่ชายของฉันดีเกินไปแล้ว! (ฟรี)


โฮวอู่ไม่รู้ว่าทำไมแต่เมื่อเธอได้ยินโฮวอูเสิ่นปลอบโยนเธอด้วยการบอกเธอว่า "อย่ากลัว" ความรู้สึกไม่สบายใจของเธอก็พลันสงบลง

เธอกระพริบดวงตาสีองุ่นเข้มมองโฮวอูเสิ่น เธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “พี่ชาย พี่อยู่กับอาอู่ได้ไหม?”

นี่เป็นครั้งแรกที่โฮวอูเสิ่นเห็นน้องสาวของเขาทำตัวน่ารักและเชื่อฟัง

เขาต้องบอกว่าเขาชอบน้องสาวคนปัจจุบันมากกว่าน้องสาวที่อวดดีและหยิ่งผยองในอดีต

เธอเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา โฮวอูเสิ่นจึงตอบเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไม่ต่างกัน “ได้สิ”

แม่บ้านจางเดินเข้ามาพร้อมกับยาลดไข้ในมือของเธอ

“คุณชาย ยานี้ได้ผลดีมาก ให้คุณหนูกินยานี้ พรุ่งนี้เช้าไข้ก็ไม่มีแล้วค่ะ ให้ดิฉันป้อนยาคุณหนู” ป้าจางกล่าวอย่างกระตือรือร้น

โฮวอูเสิ่นเหม่อมองโฮวอู่โดยไม่รู้ตัว

โฮวอู่ไม่แม้แต่จะหันไปมองแม่บ้านจาง ดวงตาที่คลุมไปด้วยหมอกขนาดใหญ่ของเธอมองไปที่โฮวอูเสิ่นตลอดเวลา

ดูเหมือนเธออยากจะร้องขออะไรบางอย่าง

แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรโฮวอูเสิ่นก็เข้าใจสายตาของเธอ

เมื่อมีคนป่วยหรืออยู่ในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุด พวกเขาต้องการให้สมาชิกในครอบครัวดูแลพวกเขามากกว่าคนนอก

โฮวอูเสิ่นรับยาจากแม่บ้านจางด้วยมือที่ยังว่างอยู่ จากนั้นก็พูดเบาๆว่า “ไม่จำเป็น”

ดูเหมือนว่าเขาจะป้อนยาโฮวอู่ด้วยตัวเอง

แม่บ้านจางอ้าปากค้างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดปฏิเสธของเขา

ลูกชายคนโตของบ้านมีนิสัยเย็นชา ลืมไปได้เลยเรื่องการป้อนยาคนอื่น แม้แต่ประสบการณ์ดูแลคนอื่นเขาก็ยังไม่มี

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเต็มใจดูแลคนอื่น

แต่แม่บ้านจางก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่าโฮวอู่เป็นน้องสาวของโฮวอูเสิ่น

ถึงแม้คุณชายจะทำตัวเย็นชาและห่างเหินกับคนภายนอก ความจริงแล้วเขาก็มีมุมอ่อนโยนกับครอบครัวของตัวเอง

เธอดีใจที่เห็นพี่ชายกับน้องสาวสนิทกัน  เธอไม่อยากรบกวนพวกเขาจึงถอยออกมาจากห้องด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

โฮวอูเสิ่นดึงมือออกจากมือโฮวอู่ และวางมือของเธอลงอย่างแผ่วเบา เขาใช้มือซ้ายยกเธอขึ้นมาให้พิงตัวเขา

ร่างของโฮวอู่พิงอกโฮวอูเสิ่นอย่างคนไม่มีแรง น้ำหนักของเธอกดทับตัวเขาเบาๆ

หน้าผากของโฮวอู่อยู่ระดับคางของโฮวอูเสิ่น

เธอสัมผัสถึงลมหายใจของเขา

ลมหายใจแผ่วเบาและอบอุ่น

โฮวอูเสิ่นหยิบยาจากซองถือไว้ในมือ “อ้าปาก”

โฮวอู่ทำตัวดีมากเมื่อเธอป่วย เธอกลืนยาพร้อมจิบน้ำอย่างเชื่อฟัง หลังจากที่เธอกินยาเสร็จ โฮวอูเสิ่นก็เอนตัวเธอนอนลงบนเตียง

โฮวอูเสิ่นยืนขึ้นทำท่าจะจากไปหลังจากป้อนยาเสร็จ โฮวอู่รีบยื่นมือออกไปจับแขนเสื้อเขาเอาไว้

“พี่ชาย....” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย และสูงมากกว่าเดิมอย่างกับเสียงลูกแมวที่กำลังงัวเงีย

โฮวอู่เสิ่นหยุดเคลื่อนไหวและหันกลับมามองโฮวอู่ที่นอนอยู่บนเตียง เขาถามว่า “เธอ...อยากกินอะไรไหม?”

โฮวอู่ไม่มีความอยากอาหาร เธอไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น ดังนั้นเธอจึงส่ายหน้าเป็นการตอบ

โฮวอูเสิ่นขมวดคิ้วกับคำตอบของเธอ เธอจำเป็นต้องกินสักหน่อย

“อยากได้โจ๊กเปล่าๆสักถ้วยไหม? ยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ?”

โฮวอู่กินข้าวเช้ากับโฮวอูเสิ่นและโฮวหยวน ตอนบ่ายเธอแค่ดื่มกาแฟไปหนึ่งแก้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย

แต่ตอนนี้เธอไม่หิวสักนิด เธอไม่สามารถกลืนอะไรได้จริง ๆ หัวของเธอยังคงปวดตุบๆและเธออาจอาเจียนทุกอย่างที่กินเข้าไป

“อาอู่ไม่อยากกิน” โฮวอู่ทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจในขณะที่กระพริบตาปริบๆใส่เขา

โฮวอูเสิ่นปวดหัวขณะที่เขาบีบดั้งจมูก

ในช่วง 25 ปีที่เขามีชีวิตอยู่ เขารู้สึกว่าเขาไม่เคยเผชิญกับอะไรที่ยากเท่าสถานการณ์ปัจจุบันนี้มาก่อน

โฮวอูเสิ่นยอมรับว่าเขาพ่ายแพ้ให้กับดวงตาลูกสุนัขของเธอ เขาถอนหายใจแผ่วเบาและทรุดนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง “พี่ไม่ไปแล้ว”

โฮวอู่ผ่อนคลายขึ้นหลังจากที่โฮวอูเสิ่นบอกว่าไม่ไป

เธอยังกำแขนเสื้อเขาไว้แน่น

เธอรู้สึกว่าตราบใดที่เธอจับเขาไว้ เธอไม่ต้องกลัวอะไร

ตอนนี้ร่างกายของโฮวอู่อ่อนแอมาก เธอนอนลงบนเตียงนุ่มเหมือนปุยฝ้ายและหลับไปอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นไม่นาน

บางทีอาจเป็นเพราะเธอรู้ว่าโฮวอูเสิ่นยังนั่งอยู่ข้างเธอ ครั้งนี้เธอจึงไม่ฝันร้าย

กลับกัน ภายในฝันของเธอสงบสุขอย่างน่าประหลาด

เธอฝันถึงช่วงเวลาความสุขที่สุดในชีวิต

พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปนานแล้ว เธออาศัยอยู่กับย่าในชนบท

ชีวิตในชนบทนั้นเรียบง่ายและสภาพแวดล้อมก็สวยงาม ผู้คนที่อาศัยอยู่ในชนบทมีความซื่อสัตย์และขยันขันแข็ง

เมื่อไม่ได้ไปเรียน เธอก็ออกไปวิ่งเล่นข้างนอก เล่นว่าวหรือไม่ก็จับปลากับเพื่อน

มีกิจกรรมสนุก ๆให้ทำตลอดทั้งสี่ฤดูกาล

ช่วงเวลานั้นในชีวิตของเธอมีความสุขที่สุดที่เธอเคยมีมาในช่วงเวลา 24 ปีสั้นๆ ที่เธอมีชีวิตอยู่

เป็นเพราะคุณย่าของเธอยังมีชีวิตอยู่ และเธอก็มีเพื่อนที่ดีมากมาย

ความฝันอันอ่อนหวาน

ความฝันของเธอเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะที่ไร้กังวลและมีความสุขท่ามกลางผองพื่อน

โฮวอูเสิ่นค่อยๆดึงมือของเขาออกจากมือของโฮวอู่เมื่อเธอหลับไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ

หลังจากปิดประตู เขาก็หยิบมือถือออกมาโทรหาผู้ช่วย “ฉันต้องการรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของฉันก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เธอเกิดจนถึงตอนนี้ ฉันต้องการให้นายสืบทุกอย่างให้ละเอียด ได้ข้อมูลแล้วเอามาให้ฉันที่ออฟฟิศ”

คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์รีบตอบว่า “ครับ คุณชาย”

โฮวอูเสิ่นเปลี่ยนเป็นเย็นชาหลังจากคุยโทรศัพท์

แม้ว่าตระกูลโฮวจะมีอำนาจมากจนไม่หวั่นต่อการสั่นคลอน แต่ตระกูลที่ทรงงอำนาจย่อมดึงดูดศัตรูอยู่เนืองๆ

ไม่ทราบว่ามีกี่คนที่จับตาดูตระกูลโฮวและพยายามวางแผนสร้างความหายนะให้พวกเขา

ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่เขากลับมาที่จีน หลายคนเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว

โฮวอูเสิ่นครุ่นคิดถึงการแสดงออกที่ผิดปกติของโฮวอู่เมื่อเร็ว ๆ นี้ และอดไม่ได้ที่จะคิดว่ามีใครบางคนกำลังสร้างปัญหาให้กับเธอ

คิดได้เช่นนั้นเขาก็โทรหาคนผู้หนึ่ง

ครั้งนี้เขารอสายนานกว่าสายแรก มีหลายแง่มุมที่เขาจำเป็นต้องพิจารณา

หลังจากที่เขาให้คำแนะนำเสร็จแล้ว พายุที่โหมกระหน่ำภายใต้ดวงตาของโฮวอูเสิ่นก็สงบลงและกลับมาเป็นปกติ

เมื่อโฮวอู่ตื่น โฮวอู่เสิ่นก็นั่งอยู่ข้างเตียงเธอพร้อมแล็ปท็อปในมือ

ไม่มีไฟในห้องดังนั้นห้องจึงมืดเล็กน้อย แสงสลัวส่องบนแล็ปท็อปสีเงินซึ่งสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่คมคายของโฮวอูเสิ่น การสะท้อนของแสงสีเงินจากแล็ปท็อปทำให้เขาดูอ่อนโยนขึ้นหลายส่วนและให้ความรู้สึกคลุมเครือ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด