บทที่ 168 ปลาหน้ามนุษย์
วันที่ 5 ที่มนุษย์เงือกหนองน้ำอาละวาด
ความแข็งแกร่งของผู้เล่นนั้นไม่ต้องสงสัยเลย โดยเฉพาะหลังจากที่กิจกรรมเกาะมนุษย์เงือกสิ้นสุดลง ผู้เล่นเกือบทุกคนมีประสบการณ์และรู้วิธีสังหารมนุษย์เงือกอย่างมีประสิทธิภาพ
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่ามนุษย์เงือกหนองน้ำก็เป็นเผ่าพันธุ์ย่อยของมนุษย์เงือก คล้ายกับการความสัมพันธ์ระหว่างไฮเอลฟ์กับเอลฟ์ป่า เมื่อมองจากภายนอกรูปลักษณ์ของพวกเขาแทบจะเหมือนกัน
ดังนั้นผู้เล่นจึงไม่เพียงแต่จะไล่ฆ่าฝูงมนุษย์เงือกหนองน้ำที่โจมตีท่อระบายน้ำของแลงแคสเตอร์อยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น พวกเขายังไล่กำจัดสัตว์ร้ายในท่อระบายน้ำไปจำนวนมากระหว่างการกวาดล้างด้วย และรังของหนูท่อที่กำลังฟื้นตัวก็ถูกพวกเขาถล่มอีกครั้ง
ถึงกระนั้นก็ยังมีมนุษย์เงือกหนองน้ำจำนวนมากอยู่ด้านนอก แม้ว่าพวกที่อยู่ในท่อระบายน้ำจะถูกกำจัดออกไปมันก็จะมีเข้ามาเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ
ปกติแล้วผู้เล่นต้องตื่นเต้นกับ EXP นับแสนที่รออยู่ข้างนอก
แต่ปัญหาก็คือทหารภายใต้คำสั่งของลอร์ดแห่งแลงคาสเตอร์ และกองกำลังของศาสนจักรที่ลอร์ดบังคับให้ศาสนจักรต่าง ๆ ส่งไปนั้นกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ด้านนอก และยังคงสังหารมนุษย์เงือกหนองน้ำอย่างไร้ประสิทธิภาพจนเทียบไม่ได้กับผู้เล่น
ขณะนี้ศาสนจักรแห่งเกมยังไม่อาจถูกเปิดเผยได้ แม้ว่าผู้เล่นจะออกไปฆ่ามนุษย์เงือกและสามารถหลอกลวงเหล่าทหารเหล่านั้นได้ แต่หากพวกเขาถูกพบโดยกองกำลังของศาสนจักรอื่น เกรงว่าการต่อสู้เพื่อแย่งฆ่ามนุษย์เงือกในครั้งนี้คงกลายเป็นสงครามศาสนาแน่
ดังนั้นทั้งผู้เฒ่าแวนเค่อและผู้เล่นที่มีสติ จึงเตือนผู้เล่นคนอื่น ๆ ซ้ำ ๆ ว่าอย่าฟาร์มสัตว์ประหลาดในป่า
แม้ว่าพวกเขาจะมีเจตนาดี แต่พวกเขาก็ไม่ขาดแคลนพวกที่ชอบสร้างปัญหาเช่นกัน
“ถ้าเราไม่สามารถทำฟาร์มมนุษย์เงือกในป่าได้ เราควรมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้นทางที่มนุษย์เงือกหนองน้ำโผล่มา และกำจัดลาสบอสที่นั่น” มาร์นี่แนะนำอย่างน้ำลายไหลเมื่อนึกถึง EXP มากมายที่จะได้รับจากที่นั่น
ในฐานะผู้เล่นอันดับต้น ๆ ที่ครอบครองฉายาระดับสูงอย่าง 'วีรบุรุษผู้กล้าที่ต่อสู้กับมหาสมุทร' และ 'นักสำรวจเจ็ดทะเล' พร้อมกัน มาร์นี่ก็มีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ผู้เล่น ซึ่งเป็นเหตุที่ข้อเสนอของเขามีผู้สนับสนุนจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามครั้งนี้เนื่องจากเอ็ดเวิร์ดกำลังยุ่งอยู่กับเควสที่เขารับมาจากเลดี้คินลีย์ นักเล่นแร่แปรธาตุเพียงคนเดียวในเมือง และกำลังหมกหมุ่นอยู่กับการค้นหาสมุนไพร เมื่อพวกเขาไม่พบมันในบริเวณใกล้เคียง เขาจึงตะโกนว่า 'ไม่มีเควสใดที่ข้าทำไมสำเร็จ' และพาสมาชิกในปาร์ตี้ไปยังป่าทริเนีย
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมกำจัดมนุษย์เงือกหนองน้ำครั้งนี้
แน่นอนว่าเมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นพบสิ่งที่พวกเขาสนใจ พวกเขาก็จะมีแรงผลักดันและความหลงใหลจนไม่อาจจินตนาการได้ในการทำมันให้สำเร็จ
มาร์นี่หยิบแผนที่ที่มีค่าของเขาออกมา เรนเจอร์บางคนได้ทำเครื่องหมายเบาะแสของมนุษย์เงือกหนองน้ำในแผนที่ของระบบแล้ว หลังจากพวกเขาพูดคุยและเปรียบเทียบแผนที่ทั้ง 2 ในไม่ช้า พวกเขาก็พบว่าบึงเซร่าเป็นศูนย์กลางของการแพร่กระจายมนุษย์เงือกหนองน้ำ
“เราจะต้องใช้ทางอ้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการวิ่งเข้าไปในพื้นที่ที่ทหารและกองกำลังของศาสนจักรกำลังกระจายตัวกันอยู่ เราจะเคลื่อนพลไปทางเขตแลงคาสเตอร์ที่อยู่ใกล้กับโคโดบอสร่า…” มาร์นี่กล่าวขณะที่เขากำหนดเส้นทางเคลื่อนพลสำหรับผู้เล่น “หากเจอทหารหรือกองกำลังศาสนจักรระหว่างทาง อย่าพยายามต่อสู้ หาข้ออ้างหลบพวกเขาออกมา แม้ว่าพวกเจ้าจะถูกจับได้ ก็ให้จัดลำดับความสำคัญไปที่การหลบหนีเป็นอันดับแรก”
“แต่ถ้าจำเป็นต้องสู้จริง ๆ เราก็ต้องกำจัดพวกเขาทั้งหมดอย่างรวดเร็ว พยายามอย่าหยิบไอเทมดรอปกลับมา บางศาสนจักรสามารถติดตามอุปกรณ์ของพวกเขาได้ และอย่าลืมวางไอเทมดรอปของมนุษย์เงือกไว้ที่นั่น ให้พวกมันเป็นแพะรับบาปแทน”
ตอนนั้นเองมาร์นี่ก็สังเกตเห็นว่าผู้เล่นคนหนึ่งยกมือขึ้น “เจ้ามีคำถามอะไร?”
“วงกลมที่วงไว้ใกล้ ‘โคโดบอสร่า’ คืออะไร” ผู้เล่นชี้ไปที่พื้นที่วงรีบนแผนที่อย่างสงสัย
“นั่นคือพื้นที่ล่าสัตว์ของขุนนาง ทหารมักจะลาดตระเวนรอบ ๆ บริเวณนี้ แต่เราจะไม่เป็นไรตราบใดที่เราไม่เข้าใกล้ที่นั่นมากเกินไป” มาร์นี่ตอบ “ใครที่ไม่รู้ทางจริง ๆ ก็ตามข้ามา เราสามารถออกเดินทางได้ทันทีที่ทุกคนพร้อม แต่บอสมาก่อนได้ก่อน ดังนั้นอย่าแย่งกัน!”
ผู้เล่นพึมพำตอบกลับว่า 'รู้แล้ว' 'เร็วเข้าเร็วเข้า' หรือ 'เราไม่สามารถใช้แผนที่ของระบบแทนแผนที่วาดมือได้รึ' โดยไม่มีความกลมกลืนใด ๆ
แต่เมื่อได้กำหนดขั้นตอนคร่าว ๆ แล้ว ผู้เล่นก็เริ่มแยกย้ายกันไปเป็นปาร์ตี้
***
“แย่จริง” มูฟาซาปิดแผนที่และพึมพำด้วยความหงุดหงิด “ดูเหมือนว่าพวกเรา จะเข้ามาในพื้นที่ล่าสัตว์ของขุนนางที่เราไม่ควรเข้ามาซะแล้ว”
“พื้นที่ล่าสัตว์คืออะไร” ซาซูถามอย่างงง ๆ ในที่สุดเขาก็กลายเป็นผู้เล่นเมื่อ 2 วันก่อน และถูกมูฟาซาลากมาช่วยฆ่ามนุษย์เงือกทันที
“เจ้าไม่ได้ยินที่มิสเตอร์วิลฟ์พูดเหรอซาซู” ซิมบ้าถามอย่างช่วยไม่ได้ เขาสะพายดาบไว้บนหลังเหมือนมูฟาซา แม้ว่าดาบของเขาจะมีขนาดเล็กกว่าก็ตาม
“ข้ากำลังเล่นเทียร์ร่าบล็อคอยู่ ไม่ได้ฟังเลย…” ซาซูที่เก็บไม้กายสิทธิ์ไว้ที่เข็มขัดข้างเอวตอบอย่างเฉื่อยฉา “แต่คะแนนของข้าจะสูงกว่าคะแนนของมิสเตอร์วิลฟ์เร็ว ๆ นี้!”
“มิสเตอร์วิลฟ์บอกว่า ที่นี่มีทหารคอยลาดตระเวนอยู่…ถ้าทำเสียงดังเราจะถูกพวกเขาพบ” นาล่ากระซิบเตือนคนอื่น ๆ เธอถือไม้กางเขนเล็ก ๆ ไว้ในเมือ
“เราควรจะถูกจับได้ตั้งแต่ที่เข้ามาในนี้แล้ว พวกทหารไม่น่าจะหละหลวมขนาดนี้…แต่เรากลับไม่พบพวกเขาเลยแม้แต่คนเดียว” มูฟาซากล่าวอย่างใจเย็น “จากประสบการณ์ของข้า เมื่อสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยนหายไป และพวกมันไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเพื่อวางแผนปิดล้อมเรา เรื่องเลวร้ายยิ่งกว่านั้นจะเกิดขึ้น”
“เรื่องเลวร้ายยิ่งกว่าเหรอ” ซิมบ้าผงะ
ซิมบ้าเคยเป็นหัวขโมยในแลงคาสเตอร์มาระยะหนึ่ง เขาเลยนึกไม่ออกว่าจะมีปัญหาอะไรเลวร้ายกว่าการที่ทหารออกค้นหาและตามล่าพวกเขาอีก
แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้ว่ามูฟาซากำลังพูดถึงอะไร
เมื่อเดินหน้าต่อไป พวกเขาก็เริ่มพบซากศพของมนุษย์ จากรูปลักษณ์และชุดเกราะสั่งทำที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ศพทั้งหมดเป็นทหารรวมถึงเหล่าชนชั้นสูงด้วย
แต่ไม่ใช่ว่าทหารทุกคนจะมีสิทธิ์สวมชุดเกราะ!
“พวกเขาถูกสัตว์ประหลาดซุ่มโจมตีเหรอ” นาล่าถามตัวสั่น ความจริงเธอเกือบจะเป็นลม เธอเพิ่งจะกลายเป็นผู้เล่นและจิตใจเธอยังไม่เข้มแข็งพอ “หรือมีอะไรบางอย่างในพื้นที่ล่าสัตว์ ดึงดูดสัตว์ประหลาดมาที่นี่?”
“ข้าไม่รู้ แต่ข้าเดาว่าเราจะได้รู้เมื่อพบตัวการ”
ในฐานะผู้เล่นที่คุ้นเคยกับการวิ่งไปตาย มูฟาซาจึงไม่ลังเลเลยที่จะเดินหน้าต่อไปยังใจกลางของพื้นที่ล่าสัตว์
ในไม่ช้าร่างขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา
ตอนแรกมูฟาซาสันนิษฐานว่ามันเป็นกิ้งก่าตัวมหึมาที่ไม่มีปีก แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้ว่าเขาคิดผิด
มันเป็นปลาที่มีแขนขาและฟันเหมือนมนุษย์ มันมีความยาวมากกว่า 8 เมตร และมันกำลังเคี้ยวอะไรบางอย่างอยู่
ในเวลาถัดมา แขนของมนุษย์ข้างหนึ่งก็หลุดออกมาจากปากปลากลายพันธุ์ขนาดมหึมา น้ำลายสีขาวของมันยืดออกเหมือนด้ายเส้นเล็ก ๆ เมื่อแขนข้างนั้นตกลงไปบนพื้น มันก็ส่งเสียงดังเหมือนกำลังเหยียบโคลน
จากนั้นปลาก็เห็นมูฟาซาและเด็ก ๆ
“ข้าเข้าใจแล้ว ไม่ใช่ว่ามีอะไรบางอย่างดึงดูดมันเข้ามาในพื้นที่ล่าสัตว์” มูฟาซาชักดาบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
แม้ซิมบ้าและเด็กอีก 2 คนจะหวาดกลัวกับฉากตรงหน้า แต่พวกเขาก็ทำตามมูฟาซาและชักอาวุธออกมา
ทันใดนั้นรอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของปลา มันเริ่มขยับแขนขาอย่างไม่ชำนาญ พยุงร่างขึ้น และพุ่งเข้าหาพวกเขาทั้งสี่
“สิ่งที่ดึงดูดมันคือการมีอยู่ของอาหารที่เรียกว่ามนุษย์!” มูฟาซาคำราม
ทันใดนั้นลางสังหรณ์บางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจเขา
สาเหตุที่มนุษย์เงือกหนองน้ำอาละวาด อาจเป็นเพราะสัตว์ประหลาดตัวนี้ไล่พวกมันออกจากบึงเซร่า ไม่ใช่เพราะการแพร่พันธุ์ที่ผิดปกติและอาหารไม่เพียงพอ
---------------------------------------------------------
เพจ FC-Translate