บทที่ 38 น่าขนลุก (2)
บทที่ 38 น่าขนลุก (2)
ยุ่นหลิงติดอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เวลาผ่านไปห้าวันแล้ว แต่ภารกิจของเขาก็ไม่มีความคืบหน้ามากนัก เค้าไม่พบเบาะแสใดๆ ที่เกี่ยวกับงูยักษ์สามหัวเขายังไม่เคยเห็นอสูรหายากในสถานที่ซึ่งควรจะเป็นที่อยู่อาศัยของพวกมันทั้งหลายชนิด
เขาได้เข้าลึกไปในหุบเขาพันภูเขาแล้ว แต่สถานการณ์ที่นั่นดูเหมือนจะไม่แตกต่างจากข้างนอกมากนัก ยังไม่มีร่องรอยของชีวิตไม่มีร่องรอยของพลังวิญญาณ ยุ่นหลิงไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากความรกร้างว่างเปล่าทุกหนทุกแห่ง หากเป็นเช่นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะล้มเหลวในภารกิจของเขา
ยุ่นหลิงขมวดคิ้ว เขาควรจะกลับไปที่จักรวรรดิจิ๋นและละทิ้งภารกิจทั้งหมดหรือควรจะเดินหน้าต่อไปด้วยความหวังที่จะค้นหาเบาะแสเพิ่มเติมของงูยักษ์สามหัวนี้ดี? แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตัดสินใจอะไร แต่อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เขาจะอยู่ต่อไปหากเขาไม่พบแม้แต่ร่องรอยของเป้าหมาย เขาอยู่ที่นี่เป็นเวลาห้าวันแล้ว แต่เขาก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในขณะเดียวกันยุ่นหลิงก็คิดว่าบางทีอสูรหายากตัวนี้ย้ายถิ่นฐานเข้าไปในหุบเขาพันภูเขาที่ลึกมากขึ้น
แต่อันที่จริงแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่อสูรหายากตนนี้จะหายไปจากที่โดยไร้ร่องรอย หากพวกมันออกจากหุบเขาพันภูเขาไป ก็จะดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาไม่ได้ยินข่าวใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยุ่นหลิงจึงตัดความเป็นไปได้นั้นออกไป
ในท้ายที่สุดยุ่นหลิงก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อ เขาอยู่ที่นั่นแล้วดังนั้นเขาต้องมองไปทุกที่เพื่อให้แน่ใจ
ยุ่นหลิงหยิบดาบออกมาจากแหวนเก็บของซึ่งใหญ่และกว้างกว่าดาบทั่วไปมาก อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะมันไม่ใช่ดาบธรรมดา แต่เป็นดาบบิน ดาบที่ลอยอยู่กลางอากาศยุ่นหลิงกระโดดขึ้นไปบนส่วนแบนของดาบนั้น จากนั้นเขาก็ขี่ดาบบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ความเร็วของดาบนั้นทำให้เกิดคลื่นกระแทกที่ทำลายได้แม้กระทั่งกำแพงหนาๆ
…
หลายชั่วโมงต่อมาในที่สุดยุ่นหลิงก็ได้พบกับอสูรตัวแรกของในหุบเขาพันภูเขา มันไม่ใช่อสูรหายาก ถ้าให้ถูกต้องคืออสูรที่หาได้ทั่วไป
"อะไรของมัน?" ยุ่นหลิงพึมพำอย่างเงียบ ๆ
ทุกที่ที่เขามองไปมีซากศพของอสูรมากมายเกลื่อนกลาด อสูรที่ตายบางตัวมีขนาดใหญ่พอที่จะตั้งตระหง่านอยู่เหนือบ้านหลังเล็กๆ ในขณะที่บางตัวมีขนาดที่เล็กกว่า โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกมันทั้งหมดตายไปแล้ว
ยุ่นหลิงก้มลงที่หน้าศพที่ใกล้เขาที่สุดและตรวจดู ศพพวกมันดูแข็งและเหี่ยวเฉาราวกับถูกดูดเลือดเนื้อจนแห้งไป ไม่ใช่แค่ศพนี้เท่านั้นพวกมันทั้งหมดอยู่ในสภาพเดียวกันไม่ต่างกันมาก มือของยุ่นหลิงหน้าบึ้งเอื้อมมือไปที่ซากศพและคิดที่จะตรวจสภาพอย่างละเอียดเพื่อหาสิ่งแปลกปลอมอื่นๆที่เขาอาจพบ ทันทีที่มือของเขาสัมผัสศพมันก็แยกแตกออกจากกัน
ยุ่นหลิงสูดลมหายใจลึกๆ มันอาจเกี่ยวกับความแปลกประหลาดของสถานที่ แต่หลังจากได้เห็นสิ่งนี้ในที่สุดเขาก็แน่ใจในสิ่งหนึ่ง
มีบางอย่างที่เป็นเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในหุบเขาพันภูเขาแห่งนี้
อสูรที่อยู่รอบตัวเขาทั้งหมดตายอย่างลึกลับ ถ้าเขาไม่ระวังเขาอาจเป็นอย่างพวกมันได้ เขาคุ้นเคยกับอสูรเหล่านี้และรู้ว่าพวกมันมีพลังมากแค่ไหน เป็นเพราะเหตุนี้เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหวาดหวั่นเล็กน้อยที่อสูรเหล่านี้ตายไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถบอกได้จากการตัดสินว่าพวกมันเป็นอสูรชนิดใด
ตัวอย่างเช่นหนอนกินคนเป็นอสูรที่อยู่ต่ำกว่าในขอบเขตการก่อตัวหลัก ในขอบเขตการสถาปนามันจะถูกเรียกว่าหนอนยักษ์และในขอบเขตการกระตุ้นจิตวิญญาณนั้นมันจะกลายเป็นหนอนกินซากศพ
หรืออีกตัวอย่างคืออสูรค้างคาวพวกเขารู้จักกันในชื่อปีศาจค้างคาวในขอบเขตการสถาปนา ในขอบเขตการกระตุ้นจิตวิญญาณพวกเขาจะรู้จักกันในชื่ออสูรจิตค้างคาวในขอบเขตการฝึกตนระดับแก่นกลาง พวกมันจะกลายเป็นอสูรค้างคาว ถ้าอสูรค้างคาว
สามารถไปถึงขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่ได้พวกมันก็จะกลายร่างเป็นจอมมารค้างคาว ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวและมีรูปร่างคล้ายมนุษย์
ในเวลาอันสั้นนี้เพียงแค่รู้ว่ามันเป็นอสูรประเภทใด ก็จะสามารถรับมือต้านทานกับมันได้
ยุ่นหลิงขึ้นไปยืนบนดาบบินของเขาขณะที่เขาเดินไปข้างหน้าขณะมองไปรอบๆ เขาสามารถจดจำอสูรบางตัวที่เขาเห็นจากการลอยผ่านมาได้
อสูรไส้เดือนหกขา ขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่
อสูรลิงคลุ้มคลั่ง ขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่
อสูรยักษ์มรณะ ขอบเขตมหันต์ราชันย์
อสูแรดเขาอัคคี ขอบเขตราชันต์เทวลิขิต
นอกจากนั้น…
ดวงตาของยุ่นหลิงเบิกกว้างเมื่อเห็นอสูรตัวหนึ่งยืนอยู่อย่างแข็งแกร่งในระยะไกล มันมีขนาดมหึมาตั้งตระหง่านเหนือทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณใกล้เคียง หากไม่มองดีๆเขาอาจเข้าใจผิดว่าเป็นภูเขา
อสูรตนนั้นเป็นตนอื่นไม่ได้นอกจากราชาช้างเขย่าภูผาหรือที่รู้จักกันในชื่อ ราชาภูเขาโกลิอัท มันเป็นอสูรที่ทรงพลังมากในขอบเขตราชันย์ศักดิ์สิทธิ์
การปรากฏตัวของอสูรที่ทรงพลังเช่นนี้ทำให้ยุ่นหลิงตกใจมาก อสูรที่ทรงพลังอย่างราชาภูเขาโกลิอัท ควรพบได้ในส่วนที่ลึกที่สุดของหุบเขาพันภูเขาเท่านั้น ยุ่นหลิงยังเข้ามาไม่ถึงครึ่งทาง แต่เขาก็ได้พบแล้ว!
สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือราชาภูเขาโกลิอัทเป็นแบบเดียวกับอสูรตัวอื่นๆที่เขาเคยเห็นมันตายไปแล้ว
หัวใจของเขาเต้นตึกตั้ก ในขณะนั้นยุ่นหลิงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะกลับไปที่จักรวรรดิจิ๋น
แล้วภารกิจของเขาล่ะ? ตลกมากภารกิจเพียงแค่นี้จะมาเทียบกับชีวิตของเขาได้อย่างไร? เขาเป็นเพียงแค่มดเมื่ออยู่ต่อหน้าราชาภูเขาโกลิอัท แต่ถึงแม้จะแข็งแกร่งขนาดนี้ก็ยังตายด้วยวิธีที่เขาเองก็ยังไม่รู้ ยุ่นหลิงไม่โง่พอที่จะคิดว่าเขาสามารถหลบหนีจากสิ่งที่ฆ่าราชาภูเขาโกลิอัทได้
ขณะที่ยุ่นหลิงกำลังจะกลับออกไปเขาก็มองไปที่ถ้ำที่อยู่ห่างออกไปเพียงเล็กน้อย เขารู้สึกได้ถึงพลังที่อ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อที่มาจากที่นั่น
ความอยากรู้อยากเห็นของเขากำลังบอกให้เขาไปสำรวจภายใน แต่ความคิดของเขากำลังบอกให้เขารีบออกไปทันที
ยุ่นหลิงไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากว่าจะเลือกอะไร
เขาเลือกที่จะรีบออกไปจากที่นี่