ตอนที่ 17 ศาลาเฉียนหลง
ความจริงถ้าให้ตรงตามจีนเป๊ะต้องอ่านว่าลั่วอวิ๋นชางนะครับ อวิ๋นที่แปลว่าเมฆ แต่ผมขออนุญาตให้หยุนเพราะเรียกง่าย ติดหูกว่าครับ
......
ขณะที่ทั้งสามออกคฤหาสน์ไช่ หัวหน้าผาง ลั่วหยุนชางก็ตัวสั่น ถึงกับมองย้อนกลับไป กลัวว่าไช่หรงจะเปลี่ยนใจ มีแค่จั๋วฝานถึงสงบ แต่ความโกรธก็ยังแผดเผาในหัวใจ
"คุณหนู มีที่ไหนให้เราไปอีกไหม?"จั๋วฝานถามด้วยเสียงเย็น
ดวงตาของนางขุ่นมัวขณะส่ายหัว หัวหน้าผางเองก็ถอนหายใจ
จั๋วฝานสูดหายใจลึก กัดฟันแน่น สัญญากับตัวเองว่าจะบดขยี้ตระกูลไช่
เขาเพิ่งอยู่ห่างจากการเป็นอิสระแค่เอื้อม แต่ตระกูลไช่กลับทำลายมัน
ถ้าวันนั้นมาถึง วันที่ตระกูลไช่โดนทำลายเพราะมาตอแยจั๋วฝาน ไช่หรงจะต้องเสียใจ
แต่นั่นคืออนาคต ตอนนี้ จั๋วฝานโกรธ ความหวังของเขาพังทลาย เขาต้องเสียเวลาดูแลสองพี่น้องมากขึ้น
จั๋วฝานพึมพำ"คุณหนู ท่านรู้ไหมว่าตระกูลใหญ่ทั้งเจ็ดคืออะไร?"
"อะไรนะ!จะ-เจ้าไปได้ยินเรื่องนี้จากไหน?"
ลั่วหยุนชางตื่นตระหนก มันราวกับเขารู้ความลับจากสวรรค์ แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางก็ผ่อนคลาย
หัวหน้าผางมองลั่วหยุนชางแปลก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้
นางเม้มปากอยู่นาน และในที่สุดลั่วหยุนชางก็พูด"เนื่องจากเราอาศัยในคฤหาสน์เมฆและไม่เคยติดต่อกับพวกเขา การไม่รู้จึงเป็นปกติ แต่เนื่องจากตอนนี้เราอยู่ด้านนอก ถ้าเจ้าพบใครบางคนจากเจ็ดตระกูลใหญ่ เจ้าต้องเลี่ยง ต่อให้มันจะเป็นสุนัขก็ตาม"
หัวหน้าผางตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นลั่วหยุนชางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแบบนี้ ราวกับนางกำลังพูดถึงตัวตนที่น่ากลัว แต่เด็กสาวที่ภาคภูมิใจเช่นนาง ต่อให้ตระกูลจะล่มสลาย นางก็ยังไม่พูดแบบนี้กับตระกูลไช่
คำเตือนดูเหมือนจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาจั๋วฝาน
"ไม่ว่ามันจะเป็นตระกูลลั่วหรือตระกูลไช่ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็เป็นได้แค่ตระกูลสามัญชน แต่ในจักรวรรดิเทียนอวี่ มีเจ็ดตระกูลที่ได้รับการอนุมัติจากราชวงศ์และสามารถยืนเคียงข้างจักรพรรดิได้ อำนาจและอาณาเขตของพวกเขาอยู่เหนือตระกูลสามัญชนทั้งหมด การสู้กับพวกเขาก็เหมือนการต่อต้านจักรวรรดิ"
"ว่าไงนะ?โลกนี้มีตระกูลที่สามารถยืนอยู่ข้างราชวงศ์ได้?"ใบหน้าของหัวหน้าผางบิดเบี้ยวด้วยความกลัว
ลั่วหยุนชางพยักหน้าอย่างจริงจัง"ทุกตระกูลรู้ดีว่าเจ็ดตระกูลเหล่านี้ไม่อาจแตะต้องได้ ข้าบอกเรื่องนี้กับเจ้าเพื่อให้พวกเจ้าทุกคนระวัง!"
"ตระกูลซุนคือหนึ่งในนั้นหรือไม่?"จั๋วฝานพูดแทรก
ลั่วหยุนชางส่ายหัวหลังตกตะลึงไปสักพัก"ทำไมเจ้าถึงถาม?"
"ใช่ น้องชายจั๋ว ถ้านางเป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่ งั้นคุณหนูคงหยุดไม่ให้เจ้าตีนางไปแล้ว"หัวหน้าผางพูดขึ้น
ราวกับนางถูกมองออก ลั่วหยุนชางจึงหน้าแดง จ้องเขาเงียบ ๆ
ในความเป็นจริง การได้เห็นซุนยู่เฟยโดนตบทำให้ลั่วหยุนชางรู้สึกดีมาก ถ้าหัวหน้าผางบอกได้ว่านางดีใจ แล้วจั๋วฝานจะไม่หรือไง?แต่วิสัยทัศน์ของจั๋วฝานไปไกลกว่านั้นมาก ต่อให้พวกเขาจะล้มล้างตระกูลซุนอยู่แล้ว เขาก็ต้องทำความเข้าใจภูมิหลังอีกฝ่าย
"งั้นตระกูลซุนก็เป็นส่วนหนึ่งของเจ็ดตระกูลใหญ่?"
"อะไรทำให้เจ้าคิดแบบนั้น?"ลั่วหยุนชางรู้สึกประหม่า
ความหวังเดียวของนางตอนนี้คือจั๋วฝานกำลังพูดเล่นเพื่อขู่นาง แต่คำพูดต่อไปของเขาก็ทำให้นางตกตะลึง"เด็กสาวคนนั้นโวยวายว่าจะให้เราได้เห็นถึงพลังของเจ็ดตระกูลใหญ่"
"ปะ-เป็นไปได้ยังไง?เราทำให้คนของเจ็ดตระกูลใหญ่ขุ่นเคือง?"
ลั่วหยุนชางหน้าซีด ความคิดของนางขาวโพลน มองจั๋วฝานด้วยสายตาว่างเปล่า หัวหน้าผางยิ่งแย่ หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น
ตอนนี้ โลกดูเหมือนจะเงียบสงัด....
"จั๋วฝาน เราต้องไปขอโทษคุณหนูซุน"
ลั่วหยุนชางดึงเขาไปคฤหาสน์ไช่ แต่จั๋วฝานกลับยืนนิ่งแข็งเหมือนหิน
"ถ้าเราไป เราจะตาย"จั๋วฝานพูดอย่างเย็นชา
ลั่วหยุนชางทำอะไรไม่ถูก คำพูดของจั๋วฝานนั้นเสียดหู แต่พวกเขาต่างรู้ถึงความเป็นจริงอันโหดร้าย ถ้าการตอแยเจ็ดตระกูลใหญ่ยุติได้ง่ายๆ คงไม่มีใครกลัวพวกเขา
"พี่ชายจั๋ว เราจะทำยังไงกันดี?"
พวกเขาล้วนประหลาดใจที่พบว่าลั่วหยุนไห่พูดขึ้นขณะจ้องจั๋วฝานด้วยความเชื่อที่ไม่สั่นคลอน
แม้กระทั่งจั๋วฝานก็คาดไม่ถึง เด็กที่ทุกคนมองข้ามตอนนี้กำลังจ้องเขาด้วยดวงตากลมโต ไร้เดียงสา
"ข้าเป็นทาสตัวเหม็นไม่ใช่หรือ?"จั๋วฝานเหล่ตามอง
"พี่ใหญ่จั๋ว เราสองพี่น้องรู้สึกขอบคุณโอกาสใหม่ในชีวิตนี้มาก ท่านคือผู้มีพระคุณของเรา เป็นพี่ชายของข้า พี่เขยได้โปรดช่วยเราอีกครั้ง"
"หยุนไห่ หยุดพูดจาไร้สาระ"ลั่วหยุนชางจ้องด้วยใบหน้าแดงก่ำ แต่สายตานางอดเหลือบมองจั๋วฝานไม่ได้
การที่พวกนางยังมีชีวิตอยู่ได้ต้องขอบคุณเขา แม้เขาจะดูต่ำต้อย ความสามารถของจั๋วฝานก็ทำให้คนอื่นมีมุมมองต่อโลกในระดับใหม่ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงแต่งตั้งเขาเป็นพ่อบ้าน
สำหรับการสร้างตระกูลขึ้นใหม่ มันจำต้องมีคนอย่างเขา
จั๋วฝานเห็นสายตาของลั่วหยุนไห่และหัวเราะข้างใน
[เด็กนี่คือว่าที่ผู้นำตระกูล แม้จะอวดดีไปบ้าง แต่ก็ยังฉลาดและกล้าหาญ น่ารักมากยิ่งไปกว่านั้น การช่วยตระกูลลั่วยังเป็นหน้าที่ของเขา]"เมืองเนตรสายลมมีคนจากเจ็ดตระกูลใหญ่ไหม?"
"มี มันคือศาลาเฉียนหลง(มังกรซ่อน) พวกเขาเป็นตระกูลที่ร่ำรวยสุดท่ามกลางเจ็ดตระกูลใหญ่ ความมั่งคั่งของมันไร้ขอบเขต"
"งั้นก็กลับไปโรงเตี๊ยมกัน พรุ่งนี้เราจะไปศาลาเฉียนหลง"จั๋วฝานขยี้หัวลั่วหยุนไห่
"เพื่ออะไร?"ลั่วหยุนชางรีบถาม
"พันธมิตร!"จั๋วฝานตอบกลับสั้นๆ
คนอื่นตกตะลึง
ทำไมหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่ ศาลาเฉียนหลงถึงต้องเป็นพันธมิตรกับตระกูลชั้นต่ำอย่างเราด้วย...นั่นเป็นความปรารถนาที่สิ้นหวังของผู้แพ้ชัดๆ...