ตอนที่ 11 : เรียกร้องความสนใจ
16 วันที่เหลืออยู่
มันเป็นเวลาที่เขาต้องไปพบเบลูก้าและอันโตนิโออีกครั้ง เบ็นนั่งอยู่ตรงม้านั่งในสวนสาธารณะใจกลางเมืองเพื่อรอคนที่เหลือมาถึง มันเป็นยามบ่ายที่งดงาม มีคนมากมายกำลังเดิน, ออกกำลังกาย หรือนั่งอยู่บนหญ้า มีผู้หญิงมากมายทั้งอยู่คนเดียวและอยู่กันเป็นกลุ่ม
เบลูก้านั่นมาจากทางอีกฝั่งที่เบ็นกำลังนั่งอยู่ทำให้เบ็นนั้นมองไปไม่เห็นเขา เมื่อเขาเข้ามาใกล้เบ็นจึงแสดงอาการตกใจเล็กน้อย
เบลูก้าเองก็ตกใจที่เห็นเบ็นเช่นกัน ทว่าเป็นเพราะอีกเหตุผลหนึ่ง เบ็นนั้นผอมลงมาก! เบลูก้าแทบจะจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ เบลูก้ามองลงไปที่พุงห่วงยางของเขาจากนั้นก็มองไปที่เบ็น ทว่าท่าทางของเขานั้นตรงกันข้ามกับคนธรรมดา เขารู้สึกแย่สำหรับเบ็น!
ในหัวของเบลูก้านั้น ความใหญ่โตคือความงดงาม ถ้าหากเบลูก้าลดน้ำหนักละก็บางทีคนอื่นๆอาจจะไม่เรียกเขาว่าเบลูก้าอีกต่อไป บางทีคนอื่นๆอาจจะเรียกเขาว่าไอ้กุ้ง เขาไม่สามารถรับความเสี่ยงนั่นได้
เบ็นนั้นสูญเสียความได้เปรียบของเขาไปแล้ว แต่เบลูก้านั้นก็ไม่ได้ทาเกลือลงบนแผลของเขา “พวก?” เบลูก้าทักทายเขาและนั่งลงข้างๆเบ็น
เบ็นมองไปสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเบลูก้า เขานั้นยังคงสวมหมวกสีม่วงและแว่นกัดแดดอยู่ ทว่าครั้งนี้แทนที่จะเป็นชุดคลุมเขากลับชุดวิ่งออกกำลังกายสีม่วงลายสีขาวแทน ‘เจ้านี่คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าไดโนเสาร์บาร์นี่รึไง? ทำไมหมอนี่ถึงเอาแต่ใส่สีม่วง?’ เบ็นนั้นสงสัย
“เฮ้ ฉันขอถามอะไรเสียมารยาทหน่อยนะ ฉันเห็นว่าเสื้อผ้านายมันแหวกแนวเกินไปแล้ว นี่เพื่ออะไรกัน?” เบ็นถามออกมา
เบลูก้าหันไปหาเบ็นพร้อมอ้าปากค้างเล็กน้อย เขาเลื่อนนิ้วของเขาไปสัมผัสปีกหมวกพร้อมกระดกมันขึ้นเบาๆ “นายหมายถึงอุปกรณ์ที่สมบูรณ์แบบนี้งั้นเหรอ?”
‘อย่าตบมุขไอ้เกรียนนี่เด็ดขาด’ เบ็นเตือนตัวเองและมองไปอย่างเงียบๆ
“นี่คือการเรียกร้องความสนใจ” เบลูก้ากล่าวออกมา
“เรียกร้องความสนใจ?”
“ใช่นายเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนกยูงไหม? นกพวกนั้นต่างหาคู่ด้วยขนที่เต็มไปด้วยสีสัน นกตัวใดก็ตามที่มีสีที่เป็นประกายที่สุดจะได้ผู้หญิงมากที่สุด ในการจีบสาวมันก็คล้ายกัน เสื้อผ้าสีสดใสนั้นจะเรียกความสนใจจากผู้หญิงได้ดีกว่า หลายคนต่างจะจ้องมองมาที่นายเมื่อนายมีภาพลักษณ์ที่ดี หรืออย่างน้อยที่สุดนายก็จะมีหัวข้อสนทนาเพิ่มเติมเมื่อพวกเธอถามนายเกี่ยวกับเสื้อผ้า”
เบ็นไตร่ตรองคำพูดนี้ ‘น่าสนใจ บางทีฉันควรจะลองมันบ้าง’ จากนั้นเขาก็มองไปที่อันโตนิโอที่กำลังเข้ามาใกล้พวกเขา เขาเองก็เรียกร้องความสนใจอยู่เช่นกัน
อันโตนิโอสวมปีกสีเขียวขนาดใหญ่ไว้ที่ไหล่ของเขา มันกระทั่งใหญ่กว่าหัวของเขาเสียด้วยซ้ำ พวกมันนั้นยืดจนมาถึงบริเวณข้อศอกของเขาตัดกับแจ๊คเก็ตสีฟ้าลายจุด การเรียกร้องความสนใจนี้อยู่เหนือไปอีกระดับ
เบ็นกลืนน้ำลาย ‘ฉันควรยึดอยู่กับการแต่งตัวแบบดั้งเดิมดีกว่า ฉันไม่สามารถเดินทางผิดไปกับเจ้าพวกนี้ได้’
เมื่ออันโตนิโอมาถึง เบลูก้าก็มองไปที่ชุดของเขาและพยักหน้า ผู้คนโดยรอบสวนสาธารณะต่างมองมาที่พวกเขาทั้งสองนั้นมีท่าทีภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก นี่คือความสนใจที่พวกเขาควรจะได้รับ
มันไม่สำคัญต่อให้ทั้งหมดจะมองมาทางพวกเขาอย่างรังเกียจก็ตาม
ความงดงามนั้นขึ้นอยู่กับสายตาของแต่ละคน
เบ็นพยายามที่จะทำหน้านิ่งๆเมื่อมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
อันโตนิโอนั้นไม่ได้ตกใจกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเบ็นนักเพราะเบ็นได้เตือนเขาไว้ก่อนแล้ว หลังจากเริ่มคุยกันแบบเบาๆ มันก็ถึงเวลาเข้าสู่เนื้อหาหลักสักที
เบลูก้าหันไปพูดกับเบ็น “เอาละ อาทิตย์ที่แล้วก็แค่การอุ่นเครื่องเท่านั้น ประโยคที่นายเคยใช้? นั่นก็แค่ประโยคบ้าๆที่ฉันบอกนายไปเพื่อให้นายขจัดความกลัวที่จะถูกปฎิเสธทิ้งไปก็เท่านั้นเอง นั่นเป็นขั้นตอนแรก นายจำเป็นต้องเข้าหาผู้หญิงด้วยท่าทางนิ่งสุขุมโดยปราศจากความวิตกกังวล การพูดเรื่องบ้าๆจะช่วยในเรื่องนั้น เมื่อนายคุ้นเคยกับประโยคที่หยาบโลนนั่นแล้ว คราวนี้มันก็จะง่ายขึ้นหากนายใช้คำพูดปกติใช่ไหมล่ะ?”
ดวงตาของเบ็นเปิดกว้างขึ้นด้วยความเข้าใจ ‘เข้าใจแล้วนี่มันก็สมเหตุสมผลจริงๆการพูดถึงหัวนมของพวกเธอนั้นอาจจะไม่ใช่ประโยคเปิดที่ดีที่สุด’
เบ็นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆในทุกๆวัน
เบลูก้าพูดต่อว่า “ปัจจัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการพูดเปิดไม่ใช่นายพูดอะไร แต่เป็นนายพูดยังไงต่างหาก น้ำเสียงยังไงและใช้ภาษาร่างกายแบบไหน นายนั้นต้องสงบ, มั่นใจ และทำตามกฎ เมื่อนายดีมากพอ นายจะสามารถใช้ประโยคเปิดอะไรก็ได้ขอเพียงแค่ไม่ใช่คำหยาบคายก็พอแล้ว แบบง่ายๆก็ ‘เป็นอย่างไรบ้าง’ มันสามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์”
เบ็นรับฟังด้วยความสนใจ
“เราจะมาคุยแบบละเอียดกันภายหลัง ตอนนี้มาแสดงตัวอย่างให้เห็นกันก่อน อันโตนิโอ้เปิดตัว 2-เซ็ต แสดงให้ลูกพี่ลูกน้องนายเห็นหน่อยว่ามันเป็นยังไง” เบลูก้าอธิบายออกมา
“2-เซ็ต?” เบ็นตั้งคำถาม
“เซ็ตนั้นหมายถึงกลุ่ม ส่วนตัวเลขนั้นหมายถึงจำนวนคนภายในนั้น” อันโตนิโอตอบกลับมา ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยความมุ่งมั่น เขานั้นมองไปรอบๆและหยุดสายตาไปที่หญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่บนผ้าขนหนูบริเวณพื้นหญ้า ปราศจากความลังเล เขาเดินเข้าไปหาพวกเธอ เบ็นนั้นดูวิธีที่อันโตนิโอเปิดตัวกับคนแปลกหน้าทั้งสอง เขานั้นใช้การประโยคเปิดตัวที่เบ็นไม่ได้ยินทว่ามันดูไปได้ด้วยดี
ในตอนแรกนั้นใบหน้าของหญิงสาวดูตกใจ แต่หลังจากสนทนากันเล็กน้อย พวกเธอก็ผ่อนคลายลงกระทั่งถามคำถามอันโตนิโอด้วยซ้ำ หนึ่งนาทีผ่านไป เขานั่งอยู่บนผ้าขนหนูของพวกเธอและหัวเราะไปพร้อมกับพวกเธอ
“นายเห็นมันไหม?” เบลูก้าถาม
เบ็นอ้าปากค้าง ลูกพี่ลูกน้องของเขาที่เป็นเด็กเนิร์ดเหมือนเขามาโดยตลอด เขาไม่รู้เลยว่าลูกพี่ลูกน้องของเขานั้นมีของในตัว! มันยอดมาก! เขาเดินไปหาผู้หญิงสองคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนและตอนนี้เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแล้ว! พวกผู้หญิงต่างจับไปที่ไหล่ของอันโตนิโอ้และสัมผัสกับขนนก พร้อมลูบว่ามันนุ่มขนาดไหน ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี!
“นี่คือสิ่งที่นายต้องทำ จำและนำไปใช้ซะ” เบลูก้าพูดพร้อมรอยยิ้มที่มั่นใจในตัวของอันโตนิโอ
เบ็นพยักหน้า ดูเหมือนเขาจะได้เรียนรู้มากมายเลยทีเดียวจากลูกพี่ลูกน้องของเขา
*แกว๊ก!*
เสียงนกดังขึ้นกลางสวนสาธารณะ เบ็นและทุกคนที่อยู่ใกล้ต่างมองไปยังทิศทางที่เกิดเสียง
เบ็นนั้นเห็นอันโตนีโอ้กำลังกระพรือแขนของเขาเหมือนกับเหยี่ยวพร้อมหัวเราะออกมา *แกว๊ก!* เขาร้องออกมาราวกับเขากำลังเล่นมุขเพื่อสร้างความประทับใจ หญิงสาวทั้งสองถอยห่างด้วยความหวาดกลัว พวกเธอรีบเก็บของและวิ่งหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เบ็นมองไปที่เบลูก้าที่มีรอยยิ้มมั่นใจกำลังหน้าแข็งค้างอยู่ เบ็นไม่สามารถมองเห็นดวงตาของเขาได้แต่เขาพอที่จะจินตนาการได้ว่าดวงตาคู่นั่นของเขาคงมีประกายบ่งบอกว่าอยากตาย
หลังจากเงียบอยู่นาน เบลูก้าก็พูดว่า “เขานั้นยังต้องเรียนรู้อีกเยอะหลังจากส่วนของการเปิดตัว”
อันโตนิโอถอนหายใจแต่ก็ไม่ใส่ใจนักเขากลับมาเบลูก้าและเบ็น เมื่อเดินเข้ามาใกล้ เขาก็แสดงสีหน้าภาคภูมิใจต่อหน้าเบ็นและถามว่า “นายเห็นมันไหม?”
เบ็นมองไปที่เขา ‘ฉันไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี’
***
ไดโนเสาร์บาร์นี่ = Barney the dinosaur เป็นรายการทีวีเก่าแล้วครับว่าด้วยเจ้าไดโนเสาร์ตัวสีม่วง ตอนนี้มันกลับมาเป็นมีม มีมีมอยู่เยอะมากลองหาดูกันได้ครับ