Ep.628 - ปีศาจโทรลลาวาเดือด
3/5
Ep.628 - ปีศาจโทรลลาวาเดือด
ชั้นอากาศบนผืนฟ้าเกิดการล่มสลาย
ฝูงชนเฝ้ามอง ต่างเบิกตากว้างทำอะไรไม่ถูก รอยแยกขนาดใหญ่อีกแปดแห่งปรากฏขึ้น ตามมาติดๆด้วยวัตถุทรงกลมที่ลุกไหม้ ร่วงหล่นลงจากฟ้า ตกสู่พื้นดิน
ตึง ตึง ตึงงง!
วัตถุทรงกลมเกิดการระเบิดออก ปีศาจโทรลที่อยู่ข้างในทยอยผุดลุกขึ้น ก้าวเดินออกมา
พริบตาเดียวจำนวนปีศาจโทรลลาวาเดือดก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!
ทั้งหมดรับชม อ้าปากค้าไม่กล้าเปล่งคำใด
จนสุดท้าย เป็นเสียงอันคมชัดของหลิวซูที่แทรกเข้ามาในรูหูของผู้คน เรียกสติกลับมา “เตรียมซ่อมแซมมิติ รักษาเสถียรภาพของมันให้กลับมาคงเดิม”
วังเฉินที่รับผิดชอบเครื่องจักร บนหน้าผากเริ่มปรากฏเม็ดเหงื่อผุดพราย
“ต้องใช้เวลาเตรียมการ 5 นาทีถึงจะสามารถกลับไปรักษาระดับความเสถียรของมิติได้”
“เร็วเข้า! เร่งมือหน่อย!” โกวก๋วน กัปตันประจำเรือเหาะเฟิงหลี ตะโกนด้วยความวิตก
ถึงจะแค่ 5 นาที แต่เวลาน่ะไม่เคยรอใคร
ห่างออกไปกว่า 30 กิโลเมตร มองจากระยะไกลคล้าย ผืนฟ้าคล้ายถูกวางไว้ด้วยตะแกรงลวด หลังจากวัตถุทรงกลมทั้งหมดร่วงหล่- ไม่สิ หลังจากวัตถุทรงกลมทั้งแปดลงจอดแล้ว มันก็ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ ยังคงมีวัตถุทรงเดียวกับมุดฝ่ารอยแยกมิติตามมาอีกรอบ
ในหัวใจของผู้คนบังเกิดความรู้สึกหนักอึ้ง
แต่ในตอนนั้นเอง สายตาของบางคน บังเอิญกวาดไปเห็นฉินเฟิงบนเนินเขาสูง
“รอก่อน นั่นท่านประธาน .. ท่านประธานกับรองประธานอยู่ที่นั่น!”
สายตาของฝูงชนเลื่อนไปบนหน้าจอหนึ่งเป็นทางเดียว และพบว่าฉินเฟิงกับไป๋หลี กำลังยืนหยันอย่างสงบ คล้ายกำลังเพลิดเพลินไปกับการรับชมฝนดาวตกนี้ ทั้งสองเอ่ยสนทนาเกี่ยวกับมัน โดยไม่มีท่าทีวิตกกังวลเลย
และไม่ทราบเพราะเหตุใด ผู้คนที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ เมื่อเห็นฉากนี้ คล้ายกับว่ามีบางสิ่งที่มองไม่เห็น กวาดความรู้สึกนี้สลายหายไป
“ท่านประธานสามารถทำลายรังแมลงได้เพียงลำพัง ว่ากันว่าสัตว์ร้ายในรังแมลงมีอย่างน้อยก็หลายหมื่นตัว อีกทั้งแม่แมลงเจ้าถิ่นยังเป็นระดับจักรพรรดิ ถ้าเทียบกับในครั้งนี้ พวกสิ่งมีชีวิตตรงหน้า คงไม่คณามือเขา” ชายคนหนึ่งเอ่ยออกมาอย่างไม่มั่นใจ
อย่างไรก็ตาม ชั่วเวลานี้ การแสดงออกของโจวฮ่าวค่อยๆสงบลง
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าประธานฉินอยู่ที่นี่ ทุกปัญหาย่อมได้รับการแก้ไข คุณเชื่อรึเปล่า ว่าในโลกใบนี้ มันมีอยู่จริงๆนะ ใครบางคนที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เสมอน่ะ!”
จากนั้น โจวฮ่าวก็ยกอุปกรณ์สื่อสาร ส่งข้อความหาฉินเฟิง สอบถามว่าต้องการให้ปิดรอยแยกมิติหรือไม่
ไม่นาน ฉินเฟิงก็ตอบกลับอีกฝ่าย โจวฮ่าวพอได้อ่านข้อความก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น ตะโกนสั่งการ “ทุกคน ยกเลิกการปรับความเสถียรของมิติ และเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ขอให้เร่งถอนทหารรักษาการณ์ห่างออกมา 20 กิโลเมตร ปิดตายเมือง มือปืนทั้งหมด จะได้รับการแจกจ่ายอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของกลุ่ม เตรียมพร้อมเข้าสู่สงคราม”
ช่วงเวลานี้ เมื่อเสียงของโจวฮ่าวดังก้อง ฝูงชนก็ไม่แสดงออกถึงร่องรอยของความสงสัยอีกต่อไป ทุกคนขานรับเสียงดัง
“รับทราบ!”
เหล่าบุคลากรระดับสูงลงมือปฏิบัติงานอย่างรวดเร็ว
มือปืนแต่ละคน คว้าจับอาวุธของพวกเขา ก้าวขึ้นไปประจำการบนกำแพงเมือง เตรียมรับมือเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา พร้อมสู้ทุกเมื่อ
ขณะเดียวกัน ห่างออกไป 30 กิโลเมตร ฉินเฟิงเฝ้ามองไปยังชั้นอากาศที่กำลังล่มสลาย วัตถุทรงกลมที่ลุกไหม้ แหวกมิติออกมาได้นับร้อยชิ้นแล้ว
กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ณ ที่นี้ ปรากฏปีศาจโทรลลาวาเดือดนับหมื่นตัว
สิ่งที่โชคดีก็คือ วัตถุทรงกลมที่ลุกไหม้เหล่านั้น ดูเหมือนจะหยุดการรุกรานแล้ว บนผืนฟ้าก็ค่อยๆสงบลง
บนท้องฟ้า รอยแยกมิติค่อยๆเกิดการซ่อมแซมตัวเอง ทว่าอาศัยความเร็วแค่นี้ คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าหลายเดือน
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ชั้นอากาศที่ล่มสลายนี้ หากเทียบกับผืนฟ้าเป็นร่างกายมนุษย์ บัดนี้ช่วงลำตัวมนุษย์ได้ถูกแทงลึกเป็นแผลเหวอะใหญ่
ยังไม่พอ เนื่องจากความไม่เสถียรของที่แห่งนี้ มีโอกาสค่อยๆแตกแขนง ชักนำไปสู่การเกิดรอยแยกมิติขึ้นในที่อื่นๆ ถึงเวลานั้น บริเวณนี้คงปรากฏสิ่งมีชีวิตต่างมิติมากมายมาเยือน
‘อ้างอิงจากข้อมูลในความทรงจำของฉัน นี่คือปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน’
ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมฉินเฟิงถึงไม่สร้างเมืองที่นี่ตั้งแต่แรก นั่นเพราะเขาไม่ได้มีข้อมูลที่ละเอียดอะไรขนาดนั้นตั้งแต่แรก เลยจำเป็นต้องกะตำแหน่งให้มันแม่นยำ ในขณะที่ชีวิตก่อน มันไม่มีรายละเอียดช่วงเริ่มต้น เพราะกว่าข้อมูลจะเผยแพร่ออกมา ฝูงปีศาจโทรลลาวาเดือดก็แผ่อาณาเขต เข้าคุกคามเมืองใกล้เคียง กลืนกินทุกสิ่งแล้ว
“ไป๋หลี ปิดรอยแยกมิติได้”
“น้อมรับคำสั่ง”
ไป๋หลีวาดมือออก รังสีแสงนับไม่ถ้วนค่อยๆเปล่งประกายออกมา ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
ขณะนี้ บนชั้นอากาศที่บิดเบี้ยว และเต็มไปด้วยรอยแยกสีทะมึน ภายใต้แสงสีเงิน พวกมันค่อยๆหุบเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ขนาดเองก็เล็กลงเรื่อยๆ จนในที่สุด ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีครามดังเดิมอีกครั้ง ราวกับว่าฉากอันน่าหวาดกลัว อย่างวัตถุยักษ์ที่ลุกไหม้หล่นจากฟ้าก่อนหน้านี้ ไม่เคยเกิดขึ้น
ฝูงปีศาจโทรลรวมตัวกัน ย่อมสังเกตเห็นถึงการดำรงอยู่ของฉินเฟิงและไป๋หลี
บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันรู้สึกว่าทั้งสองไม่ง่ายที่จะตอแย ดังนั้นฝูงปีศาจโทรลเลยส่งตัวแทนของพวกมันมาสิบตน หนึ่งในนั้นเป็นโทรลลาวาเลเวล B1
ตึง ตึง ตึงงง!
เนื่องจากพวกปีศาจโทรลมีร่างอันใหญ่โต ดังนั้นเลยเชื่องช้า ต้องใช้เวลานานกว่า 5 นาที พวกมันถึงสามารถเดินมาถึงเชิงเขาที่ฉินเฟิงกับไป๋หลียืนอยู่
ในเวลานั้นเอง ฉินเฟิงถึงค่อยเห็นเต็มสองตา ว่าพวกโทรลที่รวมตัวกัน กำลังเสาะหาต้นไม้ใหญ่ โทรลเลเวล B ในฝูง ใช้สองมือที่ลุกไหม้ ทาบลงบนต้นไม้ใหญ่
ต้นไม้ใหญ่ถูกเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า แต่ที่น่าแปลกก็คือ เปลวไฟที่ใช้เผาต้นไม้นั่น กลับยังคงอยู่ ลุกไหม้แทนที่ตำแหน่งของต้นไม้ต้นเดิม
จากนั้น ปีศาจโทรลตัวอื่นๆก็เริ่มค้นหาสิ่งของรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นใบหญ้า ก้อนหิน ทั้งหมดถูกโยนไปยังต้นไม้ที่ลุกไหม้
เปลวเพลิงที่ลุกไหม้บนต้นไม้ เมื่อถูกโยนสิ่งของลงไป ก็เริ่มเติบโต ชั่วพริบตาเดียว จากต้นไม้สูงประมาณสิบเมตร ขยับขยาย จนสูงกว่า 20 เมตร
ยังไม่พอ เมื่อถูกป้อนสิ่งต่างๆเข้าไปมากขึ้น กระทั่งสัตว์ร้ายในละแวกก็ไม่ทันได้หลบหนี ถูกโยนเข้าไปในต้นไม้ใหญ่ โดนแผดเผา
สะเก็ดไฟบนต้นไหม้ใหญ่ ยิ่งมายิ่งลุกลาม สักพักแตกดอกออกผล เปลี่ยนเป็นลูกผลไม้ขนาดหนึ่งเมตร กลิ้งตกลงกับพื้น
จากนั้น ปีศาจโทรลตัวเล็กจ้อยก็เริ่มเหยียดแข้งเหยียดขาจากผลไม้นั่น --เป็นโทรลตัวเล็กถือกำเนิดขึ้น!
เมื่อเห็นฉากนี้ ฝูงโทรลก็ส่งเสียงโห่ร้องไชโย และเริ่มขุดหิน ขุดดิน โยนเข้าไปในต้นไม้เพลิงอีกครั้ง สร้างให้มันมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
“ต้นไม้เพลิง ออกดอกออกผลเป็นลูกหลานปีศาจโทรล ช่างเป็นเผ่าพันธุ์ที่แปลกประหลาดซะจริง”
ฉินเฟิงถอนหายใจ ในเวลานั้นเอง กลุ่มปีศาจโทรลที่บุกเข้ามาในตอนแรก ในที่สุดก็มาถึงเบื้องหน้าฉินเฟิง
ฉินเฟิงถอนสายตาของเขา เบนมายังร่างของปีศาจโทรลเหล่านี้ เขาพบว่าบนใบหน้าของมันเต็มไปด้วยรอยปริร้าว ทั้งยังเผยอยิ้ม ทำหน้าตาเฉกเช่นเดียวกับปีศาจโทรลลาวาเดือดตนอื่นๆ คาดว่าคงมองเขาไม่ต่างจากสารอาหารที่ใช้โยนใส่ต้นไม้เพลิง
โทรลเลเวล B1 ยกมือขึ้นชี้ กลุ่มปีศาจโทรลที่ตัวเล็กกว่า ทั้งหมดกรีดร้องคำหนึ่ง กระโจนเข้ามา หมายคว้าจับตัวฉินเฟิง
ฉินเฟิงยืนนิ่งไม่ไหวติง เหยียดหนึ่งมือ คว้าอากาศที่ว่างเปล่า เรียกอาวุธรูนที่สาดแสงสีทองออกมา
แน่นอน ว่านี่คือสิ่งที่ฉินเฟิงขอให้หลิวเซินซานผลิต เป็นอาวุธสำรองของเขา
ส่วนมีดกษัตริย์คราม ถือเป็นไพ่ตายในมือ จากนี้มันจะไม่ถูกนำออกมาง่ายๆ
ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงไม่ได้ใช้ออกด้วยกระบวนท่ามีดเปลวเพลิง หากแต่อัดฉีดกำลังภายในเพียวๆเข้าไปอยู่ในอุปกรณ์รูน กลิ่นอายอันแข็งแกร่งฟุ้งกระจายในบัดดล
คมมีดสาดไสว สะท้อนแสงไปทั่วบริเวณ
กึ้งงงงงง
ดั่งเสียงใบมีดกรีดตัดลงบนหินผา จากนั้นปีศาจโทรลลาวาเดือด ทยอยกันร่วงล้มลงกับพื้น
ปรากฏว่าช่วงต้นขาของปีศาจโทรลเหล่านั้นถูกตัดสะบั้น เหลือเพียงร่างที่ยังคงอยู่
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวด ยังคงใช้สองแขนยกตัว พุ่งเข้าหาฉินเฟิง ในขณะที่โทรลบางตัว ปลดปล่อยอบิลิตี้ไฟออกมา