บทที่ 21 โซเนีย อควาริด (1)
เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่พวกเขาเข้าไปในเทือกเขาที่โง่เขลานั้น
ลอเรนซ์สมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างโครงกระดูกขวานคิดถึงเบียร์เย็นๆ ยาสูบและร่างกายที่น่าทึ่งของเอมมี้
‘ไอ้บ้าเอ่ยโซเนียนางตัวร้ายเมื่อไหร่จะมา? '
หากไม่ได้รับค่าตอบแทนที่สูงเขาคงจะยกเลิกงานนี้ไปแล้ว
มันโอเคด้วยซ้ำถ้าหากมันจะอันตราย มันจะใช่เวลาวันหรือสองวันแต่นั้น
แต่งานที่น่าเบื่อเช่นนี้เป็นงานที่พวกเขาทนไม่ได้มากที่สุด
ในฐานะทหารรับจ้างสมาชิกของโครงกระดูกขวานทุกคนค่อนข้างอดทนและกล้าหาญเมื่อรอเป้าหมายของพวกเขา
แต่ในป่าที่ไม่มีแอลกอฮอล์หรือผู้หญิง มันทรมานมากที่ต้องอยู่ที่นั่นตลอดทั้งเดือน
ทำให้พวกเขาเล่นเกมเพื่อผ่านเวลา
“ฮ่าฮ่า! ฮวนแกแพ้แล้ว!”
“หุบปากแล้วรอหน่อยน่าวิคเตอร์! ฉันจะต้องปาไปที่ไหนเพื่อที่จะชนะ? ลูกกระเดือก? หัวใจ? หรือควรเล็งตรงช่องว่างระหว่างฟันหน้า”
"หน้าผาก ถ้ามันตายทันทีแกจะได้รับ 10 คะแนนและแกจะชนะ”
ลอเรนซ์เดาะลิ้นของเขาขณะที่เขาจ้องมองไปที่เป้าของเขา
"ปาเป้ามนุษย์" ที่พวกเขากำลังเล่นเป็นเกมที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อให้เวลาผ่านพ้นไปได้ไว
มันเป็นเกมง่ายๆ มีคนถูกแขวนลงมาจากต้นไม้และพวกทหารรับจ้างก็จะผลัดกันขว้างมีดใส่พวกเขา
ยิ่งใกล้เป้าหมายมากเท่าไหร่คะแนนก็จะยิ่งสูงขึ้น
พวกเขาจับคนแปลกหน้าจากภูเขามาเป็นเป้าหมาย
และถ้าพวกเขาสามารถหาผู้หญิงมาใช้เป็นของเล่นได้พวกเขาจะใช้เธอสองสามครั้งก่อนที่จะปล่อยเธอไปบนภูเขาและพวกสัตว์ประหลาดจะดูแลเธอแทนพวกเขาหลังจากนั้น
ฮวนเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ชอบเล่นสิ่งนี้เป็นพิเศษ
"อยู่เฉยๆ…"
เขาแสยะยิ้มอย่างมุ่งร้ายและเล็งกริชของเขา
ชายที่ถูกมัดติดกับต้นไม้เลือดอาบแล้ว เขาอยู่ในสภาพแย่มากจนเขาอาจจะตายจากการสัมผัสเพียงเล็กน้อย
“เมื่อฉันกดมีดลงหน้าผากมัน ฉันจะได้ 10 คะแนน? ค่อยดูฉันขึ้นนำ”
“มาดูกันว่าแกจะทำได้ไหม”
ชวิค!
กริชบินอย่างรวดเร็วและถ้ามันบินต่อไปตามเส้นทางการบิน มันจะพุ่งเข้าใส่ชายคนนั้นตรงกลางหน้าผากของเขา
ขณะที่ฮวนกำลังจะโห่ร้องด้วยความดีใจศีรษะของชายคนนั้นก็เสียหลักล้มลง
ปัก!
กริชจบลงด้วยการเกาะอยู่บนต้นไม้เหนือศีรษะของชายคนนั้น
“ปูฮาฮา! ฮวนแกดูดวงของแกสิ!”
“อะไรกันเนี่ย? เขาตายก่อนใช่ไหม? คูฮา!”
" กูชนะ! จ่ายมาเลยคนละ 10 เหรียญฮ่าฮ่า!” (Editor Note : ไม่มีเราชนะบ้างหรือ!คนแปลอดได้นะนี้)
ขณะที่คู่หูของเขาต่างพากันหัวเราะใบหน้าของฮวนก็กลายเป็นสีแดงด้วยความโกรธและแก้มของเขาก็สั่น
“ไอ้บ้านี่กำลังก้มหัวให้ใคร?”
ฮวนเข้าหาชายที่ถูกมัดกับต้นไม้แล้วสับคอ
กระหน่ำ
ศีรษะเด้งไปมาสองสามครั้งก่อนที่มันจะหยุดกลิ้ง ใบหน้าของชายที่ถูกมัดอยู่ในการแสดงออกของความเจ็บปวดและความกลัว
“นี้นายต้องไปลงกับคนตายเลยหรือว่ะ?”
“ปล่อยมันไปเถอะ มันแพ้มา5ตาติดแล้ว ไม่แปลกที่มันต้องระบายออกไปบ้าง”
“เอาๆพวกเราไปจากที่นี่กัน ตอนนี่ฉันเป็นรองกัปตันฟังกันหน่อย”
"นายพูดถูก"
เมื่อหุ้นส่วนคนอื่นๆ ของเขาแสดงความตั้งใจที่จะกลับ ฮวนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามพวกเขา
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะจากไปเขาแน่ใจว่าได้ถ่มน้ำลายลงบนใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว
“ไอ้บ้า”
เมื่อเขาพูดเช่นนั้นและหันกลับไปฮวนก็ประหลาดใจ
“ห๊ะ - ฮึก!”
ตอนนี้มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา
อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์ของผู้ชายนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด
ชายคนนั้นผอมแห้งและศีรษะของเขาก็ดูยุ่งเหยิง
เขามีหนวดเคราที่ยาวพันกันและใบหน้าของเขาดูเหมือนถูกล้างหลายครั้งด้วยโคลน
แม้แต่ฆาตกรเลือดเย็นที่ผ่านประสบการณ์การต่อสู้ทั้งชีวิตและความตายมามากมายก็อดไม่ได้ที่จะพบว่ารูปลักษณ์ของเขาน่ากลัว
“เจ้ามัน! แกเป็นบ้าอะไรเนี่ย…!”
ฮวนดึงมีดออกมาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามการจ้องมองของชายคนนั้นยังคงอยู่บนร่างโดยไม่ได้แม้แต่จะเหลือบมองฮวนที่ยืนอยู่ตรงนั้น
‘ผะะะ ผี? ไม่มันต้องมีคำอธิบาย… ’
กลิ่นเน่า…กลิ่นเน่า?
‘พวกอันเดด?’ อันเดด ปรากฏในเทือกเขาอิสปาเนียด้วยหรือ?
ฮวนมองไปที่ใบหน้าของร่างนั้นด้วยสีหน้าไม่สบายใจจนในที่สุดร่างนั้นก็อ้าปากค้าง
“ฉันมาช้าไป”
"ฮะ…? แกพูดว่าอะไรนะ?”
ชิก
นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ฮวนจะได้พูด
ในเวลานั้นเคียวสีขาวปรากฏขึ้นข้างหลังเขาและถอดหัวออกจากไหล่ของเขาด้วยการกวาดนิ้วเพียงครั้งเดียว
ฮวนเสียชีวิตโดยไม่รู้ว่าเขาถูกฟันโดยเคียวแสงเวทย์มนต์ระดับ 5 ดาว
ศีรษะของเขากลิ้งไปที่ร่างของชายที่ยังผูกติดกับต้นไม้ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้าเขาไม่กี่อึดใจ
ชายร่างผอมเฟรย์เอาแต่มองลงไปที่ร่างกาย
ชายคนนี้เสียชีวิตเพราะถูกทหารรับจ้างเล่นงานทั้งหมดไม่ใช่แค่ฮวน
“…”
จากนั้นเขาก็มองกลับไป
ในความมืดของค่ำคืนดวงตาของเฟรย์ยังคงมองเห็นกลุ่มทหารรับจ้างที่เหลือที่กำลังมุ่งหน้ากลับไปที่ค่ายของพวกเขาอย่างช้าๆและสงบในขณะที่ยังอยู่ในอารมณ์ที่ล้อเล่นกันเอง
รูม่านตาของเฟรย์เริ่มสว่างไสวเหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน
* * *
“เราขาดการติดต่อกับรองกัปตัน”
คาร์ลส์หัวหน้ากลุ่มรับจ้างโครงกระดูกขวานขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
วันนี้เขาเครียดมาก
“มีผู้รอดชีวิตหรือไม่”
"มีแค่ฉัน"
“มันเป็นสัตว์ประหลาดชนิดไหนกัน?”
“นั่น…มันเป็นผี”
คาร์ลส์ทำสีหน้าแปลก ๆ ขณะที่ลูกน้องของเขาพูดคำเหล่านั้น
"ผี? แน่ใจหรือ? รู้มั้ยว่าพวกเราอยู่ที่ไหน?"
“แน่นอนสิ พวกเราอยู่ที่นี่มาเดือนกว่าแล้วนะ ฉันจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่ไหน”
“แกบอกว่าแกรู้ แต่แกกำลังพูดราวกับว่าแกได้โดนก้อนหินฟาดเข้าที่หัว”
คาร์ลส์จ้องมองลูกน้องของเขาด้วยสายตาที่ดุร้ายก่อนจะมองไปรอบ ๆ
ป่าอันกว้างใหญ่ที่มีต้นไม้นับหมื่นต้นที่สูงตระหง่านเหนือศีรษะเช่นเดียวกับภูเขาที่ทอดตัวขึ้นไปบนเมฆ
นี่คือสวรรค์ของเหล่าสัตว์ประหลาดเทือกเขาอิสปาเนีย
ทหารรับจ้างที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เรียกมันว่าภูเขานรก
มันเป็นหนึ่งในสามเขตอันตรายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปทั้งทวีปที่แม้แต่ทหารรับจ้างคลาส B อย่างพวกเขาเองก็ยังไม่กล้าไปไกลกว่าเขตชานเมือง
มีอะไรในสถานที่นี้? พวกผีหรือ?
“ฉันละอยากเห็นผีจริง ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันได้เห็นแต่ใบหน้าของพวกโทรลล์และฉันก็เบื่อพวกมันจริงๆ”
ผู้ใต้บังคับบัญชาของคาร์ลส์หัวเราะอย่างร้ายกาจ
“เป็นผีผู้หญิงหรือเปล่า? ถ้าอย่างนั้นก็ยินดีต้อนรับนะน้องสาว”
“ไม่ใช่เรื่องตลก นี่เป็นเรื่องร้ายแรง สมาชิกสิบห้าคนในกลุ่มของเรารวมถึงรองกัปตันถูกฆ่าโดยสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักนี้”
หากพวกเขาสูญเสียกลุ่มของพวกเขาไปมากกว่านี้มันจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นสำหรับพวกเขาที่จะเผชิญหน้ากับอัศวินที่แข็งแกร่งของตระกูลอควาริด
เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“และไม่มีร่องรอยของพวกเขา เหมือนพวกมันระเหยไปหมด ฉันรู้ พวกนายแค่พูดเล่นๆเพื่อช่วยให้พวกนายผ่อนคลาย”
คาร์ลส์สงสัยเรื่องราวของพวกเขา หากพวกเขาถูกกินโดยสัตว์ประหลาดจริงๆก็จะมีร่องรอยเหลืออยู่เพราะมอนสเตอร์นั้นไม่ได้มีมารยาทที่ดีนักในการกิน
แม้ว่ามันจะกินเข้าไปทั้งตัว แต่มันจะกินเกราะและอาวุธด้วยหรือ?
“หน้าตามันเป็นอย่างไร?”
“เขาเป็นผู้ชาย ผมยาวกระจัดกระจาย…อืมแล้วก็มีกลิ่นเหม็นมาก”
“กลิ่นเน่า?”
"ใช่ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ปรากฏขึ้นและหายไปเหมือนผีแม้ว่ามันจะเป็นตอนกลางวันก็ตาม”
“อืม”
คาร์ลส์หลับตาลงครู่หนึ่ง
จากนั้นเขาก็ค่อยๆเปิดมันอีกครั้ง
“มันเป็นพ่อมด”
“เขาน่าจะมีฝีมือมากและมีความสามารถในการร่ายมนต์แบบเบิ้ลด้วย”
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมรองกัปตันและคนที่เหลือจึงแพ้ง่ายนัก นักรบเวทย์มนต์?”
"อาจจะ ท้ายที่สุดมันน่าเชื่อมากกว่าผีที่กลับมาจากความตายเพื่อฆ่าเรา”
เขาถอนหายใจ
นักเวทย์นั้นยุ่งยากที่จะจัดการ เขาสามารถต่อสู้ได้ดีบนภูเขาเช่นเดียวกับการร่ายสองครั้งและยังสามารถต่อสู้ด้วยมือเปล่า
‘พวกเขาทำหน้าที่เป็นทหารรับจ้างมากี่ปีแล้ว?’
ถ้าเป็นเช่นนั้นมันจะเป็นศัตรูที่จัดการได้ยากที่สุด
“เสริมการเฝ้าระวัง เจ้าผีตัวนั้น…ถ้าใครเห็นผีตัวนั้นให้ฆ่ามันทันที อาจเป็นพ่อมดที่ตระกูลอควาริดส่งมา”
“เอาล่ะ แต่มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ? ยากที่จะเชื่อว่าตระกูลอัศวินระดับสูงนั้นะจ้าพ่อมดมาจริงๆ”
“มันไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ในครั้งนี่มันคือการเดินทางของลูกสาวคนเดียวของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาอาจจะยอมก้มหัวในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเราต้องมุ่งเน้นไปที่ภารกิจของเราเท่านั้นดังนั้นจงตื่นตัวอยู่เสมอ”
ในขณะที่คาร์ลส์กำลังจะหันกลับมาจู่ๆเขาก็นึกถึงบางอย่างและอ้าปาก
"อา นายบอกเมื่อวานนี้ว่านายเจอผู้ชายห้าคนอยู่แถวนี้ นายไปทำอะไรกับพวกเขา? ฉันรู้สึกเหมือนพวกเขาจะตายถ้าเราปล่อยพวกเขาไปดังนั้นเราเลยเล่นกับพวกมันแทน”
“นายหมายถึงคนไหน?”
“ผู้หญิงที่มาหาสมุนไพรและทหารรับจ้างที่คอยคุ้มกันพวกเขา”
ผู้ใต้บังคับบัญชาของคาร์ลส์หัวเราะ
“ฉันไม่รู้หรอกแต่ใครก็ตามที่มาหาสมุนไพรมักไม่เคยทำให้ฉันเบื่อหน่ายและฉันยังอยากทำต่อไปเรือยๆ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะแบ่งปันสิ่งดีๆกับเพื่อนของนายไม่ใช่เหรอ?”
“ในเมือพวกเขาอยากจะตายเร็วๆ เราต้องช่วยพวกเขาสิ”
“คุคุ แล้วนายทำอะไรกับพวกเขา?”
“เราใช้ผู้หญิงเพื่อปลดปล่อยความปรารถนาของเราและใช้ทหารรับจ้างที่ตามมาเป็นเป้าหมาย อาพวกมันเสียชีวิตในเวลารุ่งสาง หมาป่ากินพวกมันทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่พวกมันนอนหลับ หนึ่งในนั้นถูกเอาไปเป็นของเล่นโดยรองกัปตันเมื่อวานนี้”
คราวนี้คาร์ลส์เป็นคนที่หัวเราะและเขาก็หัวเราะเป็นเวลานาน
“เลิกเล่นได้แล้ว ตามข้อมูลแล้วลูกสาวของอควาริดจะมาถึงที่นี่ในวันพรุ่งนี้ โยนศพให้กับพวกมอนสเตอร์ซะ อย่าปล่อยไว้ใกล้เมืองเหมือนครั้งที่แล้วจะได้ไหม? เรากำลังจะออกจากสถานที่นี้ในเร็วๆ นี้ อย่างทำให้เรื่องมันยุ่งยาก”
“ช่วยฉันหน่อยเถอะขอร้อง…”
ได้ยินเสียงเงียบ
คาร์ลส์หันไปและจ้องไปที่เสียง มีชายคนหนึ่งที่ห้อยลงมาจากเชือกเลือดทั่วร่างกาย
เสื้อผ้าแทบจะไม่ปกปิดของลับของเขาและมีมีดสั้นแทงอยู่ในผิวหนังของเขาเยอะไปหมด
“ฉัน..ฉันขอร้อง…สิ่งที่ฉันเห็นที่นี่…ฉันจะไม่บอกใคร”
ชายคนนั้นดูน่าสงสาร
คาร์ลส์มองไปที่เขาครู่หนึ่งก่อนจะหันมา
“ทีออนฉันพูดว่าอะไรนะ”
"อืม"
ทีออนยิ้มและดึงดาบออกมา
“คุณบอกว่าให้กำจัดทิ้ง”