ตอนที่ 6 : พวกเรานั้นติดอยู่ในร่างของมนุษย์ถ้ำ
เบลูก้านั้นเริ่มบรรยายถึงบทเรียกแรกของเบ็น “เบนจามิน ฉันจะบอกไว้ก่อนศิลปะการล่อลวงสาวระดับเซียนนั้นมีมาอย่างยาวนาน ทว่ามันไม่ยากเท่าที่นายคิด เอาล่ะมาเริ่มกันเถอะ บทเรียนแรกยืนขึ้นและพูดตามฉัน ‘ฉันนั้นหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาที่สุดที่นายเคยเห็น’”
เบ็นนั้นดูลังเลเล็กน้อยแต่ก็เลือกที่จะทำตามคำสอนของเขา “ฉันนั้นหล่อเห...”
“ไม่! พูดใส่ฉันสิ...” เบลูก้าพูดขัด
...
เบ็นพยายามอีกครั้ง “...นาย...หล่อเหลาและมีเสน่ห์มาที่สุดที่ฉันเคยเห็น?”
เบลูก้านั้นมองเข้าไปในกระจกที่แขวนอยู่ด้านข้าง “ฉันรู้ เอาละนายนี้มีพรสวรรค์ที่ดีนะ”
...
เบ็นนั้นเอนตัวไปหาอันโตนิโอ้พร้อมกระซิบถามว่า “บางอย่างที่หมอนี่พูดมันน่าสนใจก็จริงแต่เอาจริงดิหมอนี่เนี่ยนะ ไม่ใช่ว่าเจ้านี่แค่พูดออกมาเพื่อหวังคำชมแค่นั้นเองเหรอ?”
อันโตนิโอตอบกลับอย่างมั่นใจ “เชื่อฉันมันไม่ใช่มุขตลกหรอก เขานั้นเป็นตำนานในชุมชนของพวกเรา ในฟอรั่มนั้นเขาก็อยู่ระดับแนวหน้า”
คิ้วของเบ็นยกขึ้น ‘เขาบอกว่าฟอรั่มงั้นเหรอ? นี่ว่าจะเป็นโทรล 4chan ในตำนานกัน? เขาไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่มันก็ไม่ได้ดูน่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย’
เมื่อเบลูก้าชื่นชมเงาสะท้อนของตัวเองเสร็จ “เบนจามินแม้ว่าพวกเราจะดูขี้เล่นแต่นายนั้นไม่สามารถแค่เดินเข้ามาแล้วขอเป็นลูกศิษย์ฉันได้หรอกนะ นายจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองก่อน มีเพียงชายที่กล้าหาญเท่านั้นที่จะสามารถกลายมาเป็นนักตกสาวที่แท้จริงได้ ฉันต้องการให้นายแสดงถึงความตั้งใจที่แม้ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตามออกมา”
เบนจามินจ้องมองไปที่เขา “แค่ใส่กางเกงในออกศึกนี่ยังไม่พออีกเหรอ?”
เบลูก้าตอบกลับมา “ไม่นั้นเป็นของขวัญสำหรับฉันที่มอบให้นายเท่านั้น มันเป็นเพียงแค่ทิปเท่านั้น ต่อจากนี้จะเป็นการสอบที่แท้จริงในสนาม”
เบ็นคิดอยู่ในใจของเขาว่า ‘ครั้งหน้าแกเก็บของขวัญของแกไว้เองเถอะ!...หมอนี่จะให้เขาใส่กางเกงในออกศึกในที่สาธารณะงั้นเหรอ? เบ็นนั้นไม่ได้ตื่นเต้นกับการทดสอบนี้เท่าไหร่แต่เขาก็เลือกที่จะเห็นข้อเสนอของเบลูก้าก่อน’
***
พวกเขาทั้งสามนั้นไปยังห้างที่อยู่ใกล้ๆ ในช่วงตอนกลางวัน มันเต็มไปด้วยคนจำนวนมาก พวกเขานั้นอยู่ใกล้กับบริเวณร้านอาหารซึ่งมีคาเฟ่และมีคนมากมายต่างนั่งทานอาหารกันอยู่ เบ็นมองไปรอบๆมีผู้หญิงหลายคนอยู่โดยรอบ
เมื่อมีคนเดินผ่านพวกเขา ก็มีบางคนชี้มาที่เบลูก้า แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหมอนี่ไม่ยอมเปลี่ยนอะไรเลย มันยังใส่หมวกสีม่วงกับชุดคลุมอาบน้ำอยู่อย่างภาคภูมิใจ
เบ็นนั้นต้องการวิ่งหนีออกไปให้ไกลจากเจ้านี่ ทว่าเขาเองก็ใส่กางเกงในออกศึกอยู่ด้านในเช่นกัน ดังนั้นเขาก็ไม่ได้ต่างจากหมอนี่นัก
เบลูก้าวางมือไว้บนไหล่ของเบ็น “โอเคที่นี่แหละที่เราจะทำการทดสอบกัน เห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นไหม? เดินเข้าไปใกล้พวกเธอและพูดว่า...” เขานั้นบอกเบ็นถึงประโยคตกสาวระดับเทพของเขา
ดวงตาของเบ็นเบิกกว้างขึ้นด้วยอาการตกตะลึง “นายเอาจริงดิ?”
เบลูต้ามองมาที่ดวงตาของเขา “ฉันไม่เคยเล่นมุขมาก่อนเลยในชีวิต”
...
เบ็นสะอึกไป เขามองไปที่ผู้หญิงที่เบลูก้าบอกให้เขาเข้าใกล้ด้วยอาการใจเต้นแรงขึ้นมือของเขาเริ่มสั่น ประโยคนั่นไม่ได้ทำให้เขากังวล สิ่งที่ทำให้เขากังวลคือการเข้าใกล้ผู้หญิงพวกนั้นต่างหาก...
“นายกังวลใช่ไหม? กลัวงั้นเหรอ?” เบลูก้าถามออกมา
เบ็นนั้นมีอาการลังเลแต่ก็พยักหน้าออกมา
เบลูก้าพูดออกมาว่า “ดูสิพวกลองคิดแบบนี้นะ อะไรคือสิ่งเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น? ถ้านายพูดไปแล้วเธอปฎิเสธนาย มันก็เหมือนกับที่นายเป็นอยู่ตอนนี้นั่นแหละ มันไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่านี้อีกแล้วใช่ไหมล่ะ? ทำไมนายต้องสนใจมันด้วยล่ะ? ทำไมถึงปล่อยให้มันมาฉุดรั้งนายไว้?”
เบ็นกระพริบตาหลายครั้งเพื่อย่อยข้อมูลที่เขาได้รับมา “แต่ว่า...”
เบลูก้าขัดเขาทันที “ไม่มีแต่ นายรู้ไหมว่าทำไมนายถึงกลัว? เพราะร่างกายของนายยังกำหนดให้นายเป็นมนุษย์ถ้ำเหมือนเดินอยู่ไงละ สังคมมนุษย์นั้นก้าวหน้าแต่ร่างกายของพวกเรานั้นล้าหลัง มันเรื่องที่น่าตกใจที่เราต้องใช้เวลาหลายพันหรือหลายแสนปีถึงจะเกิดการวิวัฒนาการขึ้น ในสมัยมนุษย์ถ้ำน้ำถ้าหากต้องการจะเข้าใกล้สาว นายอาจจะต้องสู้กับชายคนอื่นจนตายเพื่อใช้มันเป็นโอกาสครองคู่กับเธอ แต่ตอนนี้ละ? ไม่มีเรื่องแบบนั้นอีกต่อไป ไม่มีการฆ่าฟันแก่งแย่งกันอีกแล้ว...”
เบลูก้าพูดต่อว่า “พวกเรานั้นอยู่ในประเทศที่เต็มไปด้วยตำรวจขนาดแค่ทะเลาะกันนายก็สามารถถูกส่งเข้าคุกและถูกฟ้องได้ มันไม่จำเป็นต้องกลัวเลย ทว่าร่างกายของนายนั้นยังคงกังวลเกี่ยวกับการจับคู่ประลองเป็นตายของมนุษย์ถ้ำอยู่ นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมต่อให้นายรู้ว่าไม่มีอะไรจะเสีย แต่ร่างกายของนายก็ยังฝืนมันเอาไว้”
คำพูดพวกนี้ทำให้เบ็นตกตะลึง ‘จริงงั้นเหรอ?...ทำไมฉันถึงกังวลขนาดนี้กันนะ’ เขานั้นยืนอยู่ต่ออีกนาทีหนึ่งขณะลองนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาเข้าไปใกล้พวกนั้นแล้วเขาเกิดพลาด ต่อมาเขาก็ตระหนักได้ว่า...มันไม่ได้มีอะไรเลวร้ายสักหน่อย! อย่างมากก็แค่ถูกปฎิเสธก็แค่นั้น
‘หมอนี่พูดถูก’ เบ็นนั้นเข้าใจความจริงแล้วว่าความกังวลของเขานั้นมันเล็กนิดเดียว เขานั้นมองลงไปที่พื้นพร้อมกำหมัดแน่น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอปฎิเสธเขา? ไม่ใช่ว่าเขาก็โดนปฎิเสธมาทั้งชีวิตอยู่แล้วเหรอ?
*ถอนหายใจ*
เบ็นนั้นมองตรง นัยน์ตาของเขานั้นเปลี่ยนไปแล้ว มันเต็มไปด้วยความแน่วแน่ เขานั้นสูดลมหายใจเข้าลึกและมองไปที่ผู้หญิงเหล่านั้นพร้อมเดินไปหาพวกเธอ
“คือขอโทษนะคุณผู้หญิง...”
หญิงสาวนั้นรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่มีวัยรุ่นชายแปลกหน้าเดินเข้ามาพูดกับเธอ ทว่าเธอนั้นก็ตอบกลับไปอย่างเป็นมิตร “คะ?”
เบ็นนึกถึงประโยคที่เบลูก้ามอบให้เขา เขาไม่รุ้ว่ามันใช้ได้จริงไหม แต่อันโตนิโอบอกเขาว่าเบลูก้านั้นเป็นเซียนในตำนาน เขาเลือกที่จะเชื่อหมอนั่นในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะยังกังวลและตัวเขาจะสั่นเขาก็พยายามทำตัวให้ใจเย็นลง ‘นายทำได้ นึกให้ออกสิ ว่านายไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว สิ่งที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นงั้นเหรอ? เธอก็แค่พูดว่าไม่แล้วนายก็เดินออกมาแค่นั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย’
หญิงสาวนั้นจ้องมองมาทางเบ็น เขาเป็นเด็กชายนิสัยดีที่มีใบหน้าอันแสนซื่อสัตย์ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นที่พึ่งพาได้และเป็นอนาคตของอเมริกา
เขานั้นมีท่าทีที่จริงจัง เบ็นมองไปที่หญิงสาวคนนั้นด้วยดวงตาที่เปล่งประกายและหัวใจที่บริสุทธิ์ จากนั้นเขาก็ปล่อยประโยคเด็ดของเขาออกไปทันที
“ผมรักหัวนมของคุณ”
...
เบ็นเดินกลับมาหาเบลูก้าพร้อมรอยแดงจากฝ่ามือบนใบหน้าของเขา